หฤโหดโคตรนักเวทย์ (Mage are too Op) - ตอนที่ 152
ตอนที่ 152 : การเมืองที่แสนสกปรก
เมื่อมองไปยังท่าทางสิ้นหวังของโรแลนด์ ขุนนางอีกฝั่งก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา
มันไม่ได้ทําให้ท่าทีของพวกเขาที่มีต่อโรแลนด์นั้นเปลี่ยนแปลงไป บุตรทองคําคนอื่นๆแม้จะดูสุขุมแต่ด้วยในฐานะของนักรบและนักบวชซึ่งอุทิศตนแก่พระเจ้า พวกเขาไม่ได้ฉลาดมากนักแต่นั่นก็เป็นเรื่องธรรมดาไม่ใช่ เหรอ?
เพราะถึงอย่างไรคนที่พวกเขาให้คุณค่าและหวั่นเกรงมากที่สุดก็ยังคงเป็นโรแลนด์อยู่ดี
นักเวทย์หนุ่มคนนี้ดูเหมือนเป็นเพียงนักเวทย์ชั้นแนวหน้าเท่านั้น ทว่าในความเป็นจริงแล้วเขาอาจจะเป็นอาร์คเมจ
หญิงชรานามว่าแคโรน มองไปยังโรแลนด์พร้อมพูดด้วยน้ําเสียงยานๆราวกับเป็นลักษณะเฉพาะตัวของคนสูงวัย ใช่แล้ว พวกข้านั้นเป็นญาติห่างๆของตระกูลจอห์น พวกคุณคิดว่ายังไงกันบ้างละคุณผู้สูงศักดิ์ทั้งหลาย?
ถ้าหากพวกคุณนั้นเกี่ยวดองกัน ฉันสงสัยว่าทําไมคุณถึงสามารถนั่งลงและสนทนากับพวกเราอย่างสงบสุขแทนที่จะวางแผนแก้แค้นให้เจ้าเมืองกันล่ะ?
ไม่เพียงแค่โรแลนด์เท่านั้นที่สงสัยในเรื่องนี้ คนอื่นๆเองก็สงสัยเช่นกัน
เพราะจอห์นเป็นคนเปิดศึก ทั้งพวกคุณยังไม่ฆ่าล้างตระกูลพวกเขา ตระกุลจอห์นยังคงเป็นเจ้าเมืองนี้เฉกเช่นเดิมพวกเขาแค่เสียคนและผลประโยชน์ไปบางส่วนเท่านั้น
อย่างนั้นเองสินะ…ตราบใดที่ผู้สืบสายเลือดของตระกูลจอห์นยังไม่ตกอยู่ในอันตรายก็ยังคงสามารถเจรจากันได้
ในความเป็นจริงแล้ว นี่เองก็เป็นเหตุผลว่าทําไมเรื่องที่เกิดขึ้นภายในเมืองมอลลี่ถึงไม่ได้ทําให้ขุนนางเคลื่อนไหวกันมากนัก
มือของทุกคนไม่ได้ขาวสะอาด ไม่ต้องพูดถึงความจริงที่ว่าเบทเทลเจ้าเมืองมอลลี่เป็นชายชั่วที่ล่อลวงบุตรีทองคําและโยนเธอให้พบกับความตายหลังจากเขาใช้งานเธอเสร็จแล้ว!
ไม่ว่าใครที่มีอํานาจต่างก็จะไม่ปล่อยเขาไปโดยง่าย
และเผอิญว่าบุตรทองคํามีอํานาจมากพอ
พวกเขาสังหารจอห์นและทหารของเขาเกือบทั้งหมด ทว่าพวกเขาไม่ได้สังหารสายเลือดของจอห์น
ถึงจะเกิดเรื่องทั้งหมดนี้ขึ้น…สถานะของเจ้าเมืองตอนนี้ก็ตกอยู่ในมือของตระกูลจอห์นอยู่ดี
การยับยั้งชั่งใจเช่นนี้เปรียบได้ดั่งกับลักษณะนิสัยของขุนนางที่จะไม่สู้กันจนแตกหัก
ทุกคนสามารถต่อสู้เพื่อผลประโยชนน์ของตนได้และแม้ว่าจะมีใครในตระกูลตายลงไปแต่พวกเขาห้ามทําเกินขอบเขตโดยการทําลายเชื้อสายของอีกฝ่ายทิ้งโดยเด็ดขาด
ถ้าหากมีใครกล้าทําเช่นนั้น เขาจะโดนดูถูกโดยเหล่าขุนนางตระกูลอื่นๆ และจากนั้นตระกูลของเขาต้องถูกฆ่าทิ้งทั้งชั่วโคตรและจะไม่มีใครเข้าข้างเขาแม้แต่คนเดียว
เมื่อเห็นท่าทางของโรแลนด์ที่เข้าใจคําพูดของเธอ หญิงชราก็ยิ้มและพูดว่า ต่อจากนี้พวกเรามาเริ่มพูดถึง เรื่องที่น่าสนใจอย่างเช่น…เหมืองบางแห่งนอกเมืองว่าคุณต้องการจะทําอะไรกับพวกมัน?ถ้าหากคุณไม่สะดวก ที่จะดูแลมัน พวกเราตระกูลกาเวียนสามารถจัดการให้คุณได้ตราบใดที่คุณจ่ายค่าดําเนินการให้แก่พวกเรา
โรแลนด์หัวเราะออกมาเบาๆ ไม่ต้องรีบร้อนนักหรอก เรามาพูดสิ่งที่สําคัญกว่านั้นกันดีกว่า
เหล่าขุนนางต่างแสดงท่าที่ตกตะลึงออกมา หญิงชราเองก็ดูสงสัยเล็กน้อยเช่นกันและกล่าวว่า โปรดพูดมาเถอะ
มอบตําแหน่งนายท่าให้พวกเราเป็นไง? โรแลนด์ยิ้มและกล่าวว่า ฉันไม่สนว่าใครจะทําหน้าที่อยู่ในตอนนี้แต่ตําแหน่งนั้นต้องเป็นของพวกเราบุตรทองคํา
ทําไมล่ะ? หญิงชราส่ายหน้า ท่าทางของเธอดูสับสนเป็นอย่างมาก พวกเรามีเหตุผลเป็นของตัวเองซึ่งไม่สามารถพูดออกมาได้
ขุนนางทั้งห้าเริ่มคิดเกี่ยวกับข้อตกลงและมองไปยังคนอื่นๆ
โรแลนด์รีบเติมพื้นเข้าไปในกองเพลิงทันทีและพูดว่า ถ้าหากพวกเราได้ตําแหน่งนั่นมา พวกเราจะยอมวางมือจากผลประโยชน์บางอย่างเป็นไง
ทั้งห้าคนที่อยู่ฝั่งตรงกันข้ามต่างตกตะลึก หญิงชราใช้พัดสีฟ้าปิดปากของตัวเธอไว้ คิ้วของเธอขมวดเป็นปมและกล่าวว่าพวกเราจะได้ผลประโยชน์มากขนาดไหนงั้นเหรอ? อาทิเช่น…เหมืองพวกเราสามารถปล่อยมือ และมอบมันให้พวกคุณได้ …
การเจรจาเป็นไปอย่างราบลื่นกว่าที่คิด ลิงค์นั้นได้ตําแหน่งนายท่ามา, ท่าเรือของฮอร์กนั้นก็กําลังจะได้เปิดธุรกิจอย่างเป็นทางการแล้ว และเขายังได้ท่าเรือเก่ามาอีกด้วย
เจ็ทมีสิทธิ์ในการเข้าถึงสิทธิเศษต่างๆซึ่งเกี่ยวข้องกับศาสนาภายในเมืองเดลพอน
สําหรับโรแลนด์ เขาต้องการเพียงเงินเท่านั้น…ดังนั้นภาษีสามส่วนในทุกๆเดือนของเมืองจะถูกส่งมอบให้กับโรแลนด์
ที่สําคัญกว่านั้นพวกเขาจะเป็นตัวแทนของเจ้าเมืองเพื่อประกาศว่าจอห์นนั้นเสียชีวิตเนื่องจากอาการป่วยแทนที่จะเป็นเสียชีวิตจากอาวุธ
แน่นอนว่าหลังจากนั้นเหล่าเจ้าภาพและแขกจะเริ่มกินอาหารและดื่มฉลองกันอยู่ครู่หนึ่ง หลังจากนั้นโรแลนด์และคนอื่นๆก็ออกจากโถงงานเลี้ยงไป
กลุ่มของขุนนางและพ่อค้ายังคงรออยู่ที่ประตู และเมื่อพวกเขาเห็นโรแลนด์และคนอื่นๆเดินออกมาพวกเขาก็ไม่กล้าที่จะถามอะไรออกไปและเพียงแค่หลบทางให้พวกเขาทั้งสี่จากไปเท่านั้น
หลังจากพวกเขาทั้งสี่จากไป หญิงชราก็เดินออกมา
ขุนนางต่างมองไปที่เธออย่างวิตกกังวล
หลังจากมองไปโดยรอบ หญิงชราก็พูดออกมาเบาๆ การเจรจาเรียบร้อยแล้ว ในวันพรุ่งนี้ทุกสิ่งจะกลับมาเป็นปกติเหมือนเช่นเดิม
เหล่าขุนนางต่างรู้สึกยินดี ทว่าพวกเขาเป็นสุภาพบุรุษและสุภาพสตรีชนชั้นสูงพวกเขาจึงไม่ตะโกนดีใจออกมาเหมือนพวกชนชั้นต่ํา พวกเขาทําเพียงแค่ปรบมือเท่านั้น
และ…เสียงปรบมือโดยรอบก็ดังราวกับมีฟ้าผ่าลงมา
โรแลนด์และคนที่เหลือต่างเดินออกจากคฤหาสน์
ฮอร์กเดินอยู่ด้านหน้าพวกเขา ขณะที่กําลังเดินอยู่จู่ๆเขาก็หัวเราะออกมาราวกับหมดแรงและพูดว่า พวกนั้นค่อนข้างเป็นคู่เจรจาที่ดีจริงๆ ทว่าพวกเขาก็ดูไม่หวั่นเกรงในพลังของพวกเราแม้แต่น้อย ถ้าหากพวกเราเป็นสามัญชนบางทีพวกเขาอาจจะจับกุมพวกเราในข้อหากบฎไปแล้ว
คืนนี้แสงจันทร์ค่อนข้างงดงาม และโรแลนด์เองก็ค่อนข้างอารมณ์ดีเช่นกัน เขายิ้มอย่างโล่งอกและพูดว่า อย่ากังวลกับเรื่องพวกนั้นนักเลย เป็นธรรมดาที่จะต้องศึกษาความแข็งแกร่ง, รูปลักษณ์และตระกูลถ้าหาก มีหญิงหน้าตาอัปลักษณ์อยู่ตรงหน้าและยอมให้นายขอเธอแต่งงานได้นายจะยอมไหม? และถ้าหากเป็นสาวงามนายอาจจะนั่งลงและพูดคุยกับเธอก็ได้ มันก็เหมือนกัน พวกเรานั้นมีพลังอํานาจเป็นธรรมดาที่พวกเราจะสามารถทําให้พวกเขานั่งลงและพูดคุยกับเราได้อย่าคิดถึงเรื่องพวกนี้มากเกินไปเลยพักสักหน่อยเถอะมันไม่ดีสําหรับตัวนาย
ฮอร์กถอนหายใจ ก็จริง ความยุติธรรมที่ปราศจากพลังก็นับว่าสูญเปล่า
ในตอนนั้นเองลิงค์ที่อยู่ด้านข้างก็ถามขึ้นมาอย่างกระทันหันว่า โรแลนด์นายพอใจจริงๆงั้นเหรอกับแค่เหรียญทองพวกนั้น? มันจะไม่ดีกว่าเหรอถ้านายสร้างกองกําลังส่วนตัวของตัวเองขึ้นมาน่ะ? นั่นเป็นการสิ้นเปลืองพลังงานมากเกินไป เวทมนตร์เป็นทักษะที่ลึกซึ้งมากและฉันไม่มีเวลามากพอที่จะจัดการองค์กรและสิ่งต่างๆเช่นนั้น โรแลนด์ถอนหายใจ นอกจากนี้ฉันเห็นอัตชีวประวัติของนักเวทย์และประโยคแรกในหน้าแรกกล่าวว่าคนยากจนไม่มีคุณสมบัติพอที่จะเป็นนักเวทย์ระดับสูง นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันต้องหาเงินให้มากขึ้นก่อนเพื่อวางรากฐานสําหรับอนาคตของ ‘การใช้จ่ายเงินเหมือนกับน้ํา จะไม่ดีกว่าเหรอหากนายแค่ย้ายไปเป็นพ่อมด… ฮอร์กหันหลังและหัวเราะออกมาตอนนี้เขากําลังเดินถอยหลังอยู่ จากนั้นเขาก็ตกใจขึ้นมาทันที เฮ้แล้วเจ็ทไปไหนล่ะนั่น?
โรแลนด์พูดออกมาอย่างธรรมดาว่า เขาขึ้นรถม้าไปกับขุนนางสาวที่มีหุ่นเหมือนกับน้ําเต้าไปแล้ว
ดวงตาของฮอร์กมองไปเบื้องหลังและเห็นรถม้ากําลังตรงเข้าไปยังคฤหาสน์
หมอนั่นมีดวงกับผู้หญิงชะมัด ฮอร์กกัดปากของเขา น่าอิจฉาจริงๆ
ลิงค์มองไปยังเขาด้วยสายตาที่แปลกประหลาด
ฮอร์กลูบแขนของตัวเองโดยไม่รู้ตัว แปลกจริงทําไมจู่ฉันถึงรู้สึกหนาวขึ้นมาได้เนี่ย?
โรแลนด์หัวเราะออกมา
พวกเขาทั้งสามแยกจากกันตรงทางแยกบนถนนและโรแลนด์ก็กลับไปยังหอคอยเวทย์
วิเวียนนั่งพักอยู่ในห้องวิจัยของเขา และเมื่อเขาได้ยินเสียงเปิดประตู เธอก็รีบยืนขึ้นด้วยท่าทางมีความสุขทันที รองประธานในที่สุดท่านก็กลับมาเสียที่ ข้าได้เตรียมซุปเพื่อทําให้ร่างกายของท่านอุ่นขึ้นไว้แล้วรอข้าอู่นมันสักครู่ข้าจะนํามันมาให้ท่าน
โรแลนด์ต้องการจะปฏิเสธแต่เมื่อคิดถึงความหวังดีของเธอ เขาเลยไม่ได้พูดอะไรออกมา
ไม่นานนัก วิเวียนก็กลับมาพร้อมกับน้ํานมข้าวที่มีกลิ่นหอมมาก
โรแลนด์หยิบมันขึ้นมาพร้อมดื่มมันลงไป เขาถามขึ้นว่า แล้วเด็กใหม่สองคนนั้นเป็นไงบ้าง พวกเขาก้าวร้าวรึเปล่า? พวกเขาทั้งเชื่อฟังและขยันขันแข็งเป็นอย่างมาก วิเวียนลังเลยเล็กน้อย ทว่าดูเหมือนคนอื่นๆจะไม่ชื่นชอบพวกเขานัก