หฤโหดโคตรนักเวทย์ (Mage are too Op) - ตอนที่ 57
เมื่ออัลโด้มาหาโรแลนด์เขาก็พบว่าโรแลนด์กำลังทดลองจุดเวทย์ใหม่สำหรับความสามารถทางภาษาอยู่ในห้องทดลอง
จากการคาดคะเนของโรแลนด์ เนื่องจากเวทย์สามารถให้ผู้รับเข้าใจสิ่งที่คนอื่นพูดได้ ดังนั้นมันน่าจะสามารถทำให้เขาเข้าใจสิ่งที่พวกเขาเขียนได้อย่างแน่นอนเมื่อพบเส้นทางของจุดเวทย์ที่ถูกต้อง มันน่าจะมีผลลัพธ์อื่นๆอยู่อีก หากเขาลองเชื่อมต่อจุมเวทย์นับร้อยนั่นในรูปแบบต่างๆได้
ทดลอง , ล้มเหลว และจดบันทึก… กระบวนการทั้งหมดถูกทำซ้ำครั้งแล้วครั้งเล่า
โรแลนด์ทุ่มเทให้กับการทดลองเวทมนตร์ของเขาอย่างเต็มที่ แม้ว่าสมุดบันทึกของเขาจะไม่มีใครสามารถมองเห็นได้ แต่พลังจิตของเขาที่แผ่กระจายและพังทลายออกมาสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน
ประตูของห้องวิจัยถูกเปิดอยู่โดยมีอัลโด้จ้องมองดูพลังถูกรวบรวมและพังทลายซ้ำไปซ้ำมาอยู่ด้านนอก
เขาสังเกตเห็นใบหน้าที่เจ็บปวดของโรแลนด์เมื่อพลังจิตของเขาพังทลาย
เขายืนอยู่ที่ประตูเป็นเวลากว่าครึ่งชั่วโมง รอยยิ้มของเขาในตอนแรกหายไป
เมื่อการทดลองของโรแลนด์ ล้มเหลวอีกครั้งเขาก็เดินเข้าไป
โรแลนด์กำลังจับหัวของตัวเองด้วยความเจ็บปวด
ความเจ็บปวดทางร่างกายลดลงเหลือหนึ่งในสิบก็จริง แต่ความเจ็บปวดภายในจิตวิญญาณนั้นไม่ได้ถูกลดลงตามไปด้วย
ตอนนี้จิตวิญญาณของโรแลนด์กำลังเจ็บปวดเป็นอย่างมาก พลังทางจิตดูเหมือนจะเชื่อมต่อกับจิตวิญญาณของเขาโดยตรง
ในฐานะคนรุ่นใหม่โรแลนด์ไม่เชื่อว่าวิญญาณมีจริง
แต่เมื่อไม่นานมานี้ความคิดของเขาเปลี่ยนไป
อาจจะมีวิญญาณอยู่จริงๆก็ได้ แต่ไม่ใช่วิญญาณตามแบบความเชื่อของไสยศาสตร์ แต่เป็นตามแบบของวิทยาศาสตร์ที่บางทีมันอาจจะยังไม่ถูกค้นพบ
แก่นแท้ของพลังจิตคือการเคลื่อนไหวของจิตวิญญาณ
นี่เป็นการคาดเดาส่วนตัวของโรแลนด์ หลังจากที่ได้ทำการทดลองเวทมนตร์มากมายในเกมในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา
ความเจ็บปวดในจิตวิญญาณไม่สามารถบรรเทาได้ด้วยระบบดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงหยุดการทดลองลงชั่วคราว
โรแลนด์ได้ยินเสียงฝีเท้า เขาเงยหน้าขึ้นและยิ้ม “ประธานในที่สุดคุณก็มาที่หอคอยเวทย์สักที”
เมื่อมองไปที่ใบหน้าซีดเซียวของโรแลนด์อัลโดก็แอบตกใจ แต่เขาพูดอย่างไม่เป็นทางการว่า “คุณทำงานหนักเกินไปแล้ว คุณควรพักผ่อนสักหน่อย”
“มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะหาสิ่งที่น่าสนใจและเราชื่นชอบ ถ้าคุณไม่พยายามอย่างหนัก คุณจะแก่ก่อนที่คุณจะรู้ตัว เมื่อถึงเวลานั้นแล้วทั้งร่างกายและเวลาของคุณจะไม่อนุญาตให้คุณทำงานหนักได้อีกต่อไป” โรแลนด์ยิ้มออกมา “น่าแปลกที่ผมได้พบกับคุณที่นี่นะท่านประธาน”
“ข้ามาที่นี่เพื่อส่งต่อข้อความ” อัลโด้ไม่พบที่นั่งสักที่ในห้องนี้และยิ่งไปกว่านั้นบรรยากาศของที่นี่ก็ไม่ค่อยดีนัก “ ทำไมเราไม่ไปคุยกันในห้องวิจัยของคุณกันละ”
“ได้เลย!”
พวกเขาสองคนมายังห้องวิจัย
เนื่องจากโรแลนด์เพิ่งย้ายเข้ามาจึงไม่มีอะไรมาต้อนรับแขกในห้องวิจัยของเขา ตามจริงแล้วเขาควรเสิร์ฟชาหรือคุกกี้ให้แก่แขก
ดังนั้นโรแลนด์จึงดูอับอายเล็กน้อย
อัลโด้ยิ้มล้อเลียนออกมาเขาพอเข้าใจว่าทำไมโรแลนด์ถึงดูมีท่าทีอับอายออกมา
ทันใดนั้นวิเวียนก็เข้ามาพร้อมกับถาด เธอวางถาดไว้ระหว่างพวกเขาและโค้งคำนับเล็กน้อย “โปรดเพลิดเพลินค่ะท่าน”
จากนั้นเธอก็จากไป
บนถาดมีไวน์สองแก้วและขนมที่ดูน่ารักเห็นได้ชัดว่าหญิงสาวเป็นคนทำมันขึ้นมา
อัลโด้ยิ้มล้อเลียนหนักยิ่งกว่าเดิม “เรามีรักษาการที่มีเสน่ห์ดึงดูดจริงๆ! เป็นเวลาสามปีแล้วที่วิเวียนอยู่ที่หอคอยเวทมนตร์แห่งนี้ แต่ข้าไม่เคยเห็นเธอกระตือรือร้นขนาดนี้”
อืม…โรแลนด์ไม่รู้ว่าจะตอบสนองอย่างไร เขาทำได้เพียงแสดงให้เห็นว่าเขาไม่มีความรู้สึกใดๆต่อวิเวียนด้วยใบหน้าที่เรียบเฉย
เขาบังเอิญเห็นร่างเปลือยเปล่าของเธอด้วยพลังจิตของเขา ทว่าเขาเคยได้เห็นร่างเปลือยเปล่าของดาราหนังโป๊มาเป็นจำนวนมาก
เขาได้มีภูมิต้านทานมากพอที่จะไม่อ่อนไหวเหมือนพวกไก่อ่อน
เมื่อเห็นว่าโรแลนด์ไม่สนใจที่จะพูดเรื่องนี้อัลโด้ก็ถอนหายใจออกมา “นี้มันไม่ดีเลยนะ แม้ว่าจะมีเพียงไม่กี่คนที่สามารถเข้าใจในตัวของนักเวทย์ได้ แต่อย่างน้อยคุณก็สามารถพยายามเข้าใจในตัวคนอื่นได้ ข้าเคยเห็น
จอมเวทย์ผู้ทรงพลังมากมายที่ตายเพียงลำพังโดยไม่มีแม้แต่คนช่วยฝังศพ”
โรแลนด์กล่าวว่า “ฉันเคยมีผู้หญิงมาก่อนน่า!”
นี่เป็นรหัสลับระหว่างผู้ชายด้วยกัน อัลโด้รู้ดีว่าโรแลนด์นั้นหมายถึงอะไร
เขาไม่ได้สนใจวิเวียน
อัลโด้ถอนหายใจเล็กน้อยเขาคิดว่าวิเวียนนั้นค่อนข้างน่าสงสาร จากนั้นเขาก็พูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “มาคุยธุระกันเถอะ ข้าเห็นแบบจำลองของแขนเวทมนตร์ที่อยู่ชั้นล่าง คุณเป็นคนค้นคว้ามันด้วยตัวเองรึเปล่า?”
โรแลนด์พยักหน้าและถามว่า “คุณสังเกตเห็นข้อผิดพลาดรึเปล่า?”
“ไม่!” อัลโกล่าวอย่างจริงจังยิ่งขึ้นว่า “มันเป็นแบบจำลองเวทย์มนตร์ที่มีค่าที่สุดที่ฉันเคยเห็น ไม่เพียงแต่เวทย์รูปแบบดั้งเดิมเท่านั้น แต่ยังรวมถึงเวทย์รูปแบบพัฒนาอีกด้วย คุณได้เปลี่ยนแปลงเวย์ระดับศูนย์ใหม่ให้กลายเป็นเวทย์พิเศษที่ใกล้เคียงกับเวทย์ระดับสองซึ่งจะเป็นเรื่องที่น่าทึ่งมากสำหรับนักเวทย์ทุกคน คุณเป็นนักเวทย์ที่เก่งกาจที่สุดที่ฉันเคยเห็นมาเลย”
เวทย์ระดับสอง?
โรแลนด์โบกมือด้วยรอยยิ้ม “คุณกำลังชมฉันเกินไปประธาน ฉันเชื่อว่าหลายคนสามารถทำเช่นเดียวกันได้เพียงแค่พวกเขาไม่เคยลองทำมาก่อนเท่านั้น”
“นั่นคือสิ่งที่ข้าจะพูด” อัลโดนั่งตัวตรงและพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า “คุณต้องเก็บมันไว้กับตัวเอง! ครั้งนี้ข้าช่วยคุณเก็บแบบจำลองไว้ได้ ในโลกเวทมนตร์อัจฉริยะมักดึงดูดความอิจฉา แม้ตอนนี้คุณจะไม่ได้อ่อนแอ แต่คุณก็ยังห่างไกลจากการเป็นปรมาจารย์นักเวทย์หรือหนึ่งในนักเวทย์ในตำนาน หากใครเรียนรู้ความสามารถของคุณคุณอาจต้องตายในทันทีหรือจบลงด้วยการถูกจับตัวไปให้คุณดัดแปลงเวทย์ของพวกเขาไปทั้งชีวิต”
โรแลนด์ที่กำลังเพลิดเพลินกับเครื่องดื่ม เขากล่าวอย่างตกตะลึงว่า “พวกเขาไม่แลกเปลี่ยนข้อมูลเวทย์กันงั้น เหรอ? หรือการแลกเปลี่ยนไม่ใช่เรื่องที่ดีงั้นเหรอ?”
“มันไม่ใช่สิ่งที่ดีนัก” อัลโดพูดออกมาถากถาง “ไม่เช่นนั้นพวกเขาจะผูกขาดความรู้เวทมนตร์ที่สำคัญและรักษาเกียรติศักดิ์ของตระกูลนับร้อยปีไว้ได้อย่างไร?”
โรแลนด์รู้สึกขบขันที่ได้ยินเช่นนั้น เขารู้สึกว่าเขาควรเรียกร้องให้มีการปฏิวัติในโลกนี้
เมื่อเห็นว่าโรแลนก์ตกตะลึงอัลโด้ก็คิดว่าโรแลนด์ยอมรับคำเตือนของเขาแล้ว เขาก็รู้สึกโล่งใจ “คุณควรเก็บมันไว้กับตัวเอง จนกว่าจะเจอคนที่คุณเชื่อใจจริงๆเข้าใจไหม?”
“ตามจริงแล้วฉันคงไม่ต้องระวังตัวขนาดนั้น” โรแลนด์ตอบ
อัลโดมึนงงขึ้นมาทันที
“ในฐานะบุตรทองคำฉันนั้นเป็นอมตะ” โรแลนด์ยิ้ม “ฉันจะยังคงสอนสิ่งเหล่านี้ให้พวกนักเวทย์ฝึกหัดในหอคอยต่อไป ตราบใดที่พวกเขาต้องการละนะ และถ้าหากพวกเขาหรือใครก็ตามต้องการที่จะสังหารฉันละก็…พวกเขาจะต้องเสียใจ”
หลังจากเขาพูดจบอัลโด้ก็หัวเราะออกมาเมื่อเขาเห็นความมั่นใจของโรแลนด์