หฤโหดโคตรนักเวทย์ (Mage are too Op) - ตอนที่ 60
แม้ว่าแขนเวทย์จะได้รับการอธิบายรายละเอียดต่างๆจากแบบจำลอง ทว่านักเวทย์ฝึกหัดก็ยังคงไม่ก้าวหน้านัก เนื่องจากขาดคุณสมบัติในด้านความรู้พื้นฐานและความสามารถในการควบคุมพลังเวทย์
พวกเขาส่วนใหญ่เข้าใจแขนเวทย์ในรูปแบบพื้นฐานแล้ว แต่ยังไม่มีใครทำความเข้าใจแขนเวทย์ในรูปแบบพัฒนาได้
โรแลนด์ดื่มขณะที่เฝ้ามองพวกเขาฝึกซ้อมพร้อมทั้งเล่าและอธิบายหลักสำคัญให้พวกเขาฟัง
เหล่านักเวทย์ฝึกหัดต่างตั้งใจฝึกฝนกันอย่างหนักและพยายามจดจำทุกคำพูดของโรแลนด์ เพราะพวกเขาไม่มั่นใจว่าโรแลนด์จะยังคงสอบแบบละเอียดเช่นนี้จนถึงเมื่อไหร่
ณ ใจกลางเมือง ซึ่งเป็นที่ตั้งของคฤหาสน์ที่มีความสูงน้อยกว่าหอคอยเวทย์เพียงเล็กน้อย งานเลี้ยงกำลังเริ่มขึ้น
สะพานถูกลดลงมาเพื่อให้เกวียนสามารถวิ่งผ่านไปได้
สำหรับขุนนางหลายคนคฤหาสน์เป็นบ้านและที่พักพิงสุดท้ายของพวกเขา หากเมืองล่มสลายพวกเขายังคงสามารถอยู่รอดได้เป็นเวลานานภายในคฤหาสน์ของพวกเขาในขณะที่พวกเขารอกำลังเสริมหรือโอกาสอื่น ๆ
คฤหาสน์สว่างไสวด้วยแสงเทียน นักดนตรีหลายสิบคนกำลังเล่นบรรเลงเพลงเบาๆไปพร้อมๆกัน
จอห์นยืนอยู่ที่ระเบียงชั้นสามมองดูกลุ่มแขกด้วยความเงียบ
ข้างๆเขาเป็นหญิงสาวที่งดงามและมีเสน่ห์
“งานเลี้ยงกำลังจะเริ่มแล้ว ทว่าพวกเขาก็ยังไม่มา “ข้าไม่คิดว่าแผนของท่านจะได้ผลนะ”
จอห์นยิ้มในอีกไม่กี่วินาทีต่อมา เขากลับมานั่งที่เก้าอี้และพูดว่า “นั่นหมายความว่าบุตรทองคำเหล่านั้นไม่ใช่พวกโง่เง่าและป่าเถื่อนไปเสียหมด ทางทีดีพวกเราไม่ควรมีปัญหากับเขา”
หญิงสาวล้อว่า“ พี่ชายข้าไม่คิดเลยว่าท่านจะกลัวคนที่อายุเท่ากันหน่ะ!”
“พวกเขาไม่สามารถฆ่าได้และบ้าคลั่งเหมือนพวกลัทธิ ใครจะไม่กลัวกัน” จอห์นส่ายหน้า “ทำไมเทพธิดาแห่งชีวิตต้องนำสัตว์ประหลาดพวกนี้มาจากมิติอื่นด้วยนะ”
“ใครจะไปรู้สิ่งที่เทพคิดกันได้ล่ะ” ด้วยผมสีแดงของเธอ ทำให้ดูราวกับกองเพลิงที่ลุกโชน “เนื่องจากบุตรทองคำสองคนนั้นไม่มาข้าขอไปคุยกับแขกคนอื่นก่อนละกัน การอยู่กับท่านมันน่าเบื่อเกินไป”
จอห์นพยักหน้าและบอกไปว่า ”เตือนพวกเพื่อนๆด้วยว่าอย่าทำอะไรอุกอาจในช่วงนี้ เนื่องจากบุตรทองคำทั้งสองนั้นอาจจะเป็นผู้รักความยุติธรรม”
หญิงสาวยืนขึ้นและมองไปที่จอห์น “พี่กำลังจะบอกว่าพวกเขาจะเข้ามาแทรกแซงหากพบว่าพวกขุนนางทำอะไรไม่ดีสินะ”
“มีโอกาสมากที่จะเป็นแบบนั้น” จอห์นถอนหายในออกมา “นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมข้าถึงพร่ำบอกว่าให้ปฏิบัติตัวกับสามัญชนให้ดีขึ้นหน่อย ไม่งั้นเจ้าอาจจะพบจุดจบที่ไม่ดีนัก ยิ่งถ้าหากเจ้าไปมีเรื่องกับเซนต์ซามูไรละก็ เจ้าไม่มีทางรอดได้เลย นอกจากราชวค์จะเป็นคนเอ่ยปากขอ”
“ใครมันจะไปโชคร้ายขนาดนั้นกัน” หญิสาวคิดว่าพี่ชาของตนนั้นวิตกกังวลจนเกินไป
เมื่อมองไปที่ดวงจันทร์บนท้องฟ้าจอห์นกล่าวว่า“ พวกตระกูลฮอสสันที่ชอบกินหัวใจมนุษย์ก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน แต่ตอนนี้พวกมันตายไปหมดแล้ว”
หญิงสาวตกตะลึงไปชั่วครู่พร้อมทั้งขมวดคิ้วจากนั้นก็พูดขึ้นว่า “ข้าจะทำตามที่ท่านบอก ข้าจะดูแลพวกชนชั้นต่ำให้ดีขึ้นเล็กน้อย”
“นั่นเป็นวิธีที่ดีที่สุดแล้ว”
งานเลี้ยงดำเนินไปจนถึงเที่ยงคืน แต่เห็นได้ชัดว่าจอห์นไม่มีความสุขเพราะแขกคนสำคัญไม่อยู่ที่นี่
แขกคนอื่น ๆ ฉลาดพอที่จะสังเกตเห็น ดังนั้นพวกเขาจึงไม่อยู่ดึกจนเกินไป และเลือกที่จะกลับหลังจากได้สนุกเพียงพอแล้ว
ภายในหอคอยเวทย์โรแลนด์กำลังสอนเคล็ดลับของแขนเวทย์อยู่ เหล่านักเวทย์ฝึกหัดต่างอยู่ฟังอย่างตั้งใจโดยไม่คิดจะไปนอนกัน
โรแลนด์นั้นไม่จำเป็นต้องนอน โรแลนด์สอนพวกเขาอย่างอดทนจนกว่าเวลาจะหยุดลง
เมื่อคลานออกจากแคปซูลเสมือนจริงเขาก็เช็คเว็บไซค์ของเกมอย่างที่เคยทำเป็นประจำ ทว่าเขากลับเห็นหน้าเว็บมีการเปลี่ยนแปลง
“การอัปเดตครั้งแรกของเกมจะเริ่มขึ้นในวันที่ 17 สิงหาคม!”
โรแลนด์อุทานเมื่อเขาอ่านชื่อหัวข้อและคลิกมันเข้าไป
การประกาศนั้นเรียบง่าย มันจัดแบ่งข้อมูลไว้เป็นสามส่วน
“ระบบหมายเลข ID ฉพาะจะถูกนำเข้ามาเพื่อใช้แยกแยะคนที่มีชื่อเดียวกัน”
“ผู้เล่นหญิงจะมีระบบชุดชั้นในถูกเพิ่มเข้ามา โดยจะไม่สามารถถอดออกได้นอกเสียจากเป็นความตั้งใจของเจ้าตัวเองเพื่อป้องกันการถูกอนาจารจากผู้เล่นชาย หรือ NPC”
“ตอนนี้ระบบกิลได้เปิดเรียบร้อยแล้ว คุณสามารถลงทะเบียนผ่านทอลลี่บอร์ซัมซึ่งเป็นขุนนางระดับสูงอยู่ในอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ฟาเลียน เขาจะไม่สนใจแม้แต่จะมองคุณเสียด้วยซ้ำนอกเสียจากคุณจะมีค่าชื่อเสียงมากพอหรือมีบุคคลพิเศษให้คำแนะนำแก่คุณ ดังนั้นโปรดเพิ่มค่าชื่อเสียง”
ข้อมูลสองชิ้นแรกไม่สำคัญสำหรับโรแลนด์ แต่เขากลับสนใจในข้อมูลชิ้นที่สาม
ประเทศที่ผู้เล่นอยู่นั้นเรียกว่าโฮลเลวิน แล้วดินแดนศักดิ์สิทธิ์ฟาเลียนอยู่ที่ไหนกัน?
เขาไม่มีเบาะแสเลยแม้แต่น้อย
โรแลนด์เปิดเว็บบอร์ดขึ้นมา ก็พบว่าหลายคนก็ตั้งคำถามแบบเดียวกันกับเขา มีผู้เล่นที่ร่ำรวยหลายคนถึงขนาดเสนอเงินหลายพันเหรียญเพื่อเบาะแส
ผู้เล่นที่คุยโววางคนก็บอกว่าเขารู้ว่าฟาเลียนอยู่ที่ไหนแต่เขาไม่ยอมบอกหรอก
โรแลนด์คาดว่าคนเหล่านั้นได้รับข้อความส่วนตัวเป็นจำนวนนับไม่ถ้วนในตอนนี้
คนกลุ่มแรกที่ก่อตั้งกิลด์ ไม่ว่าใครก็ต่างมีความฝันที่อยากจะคว้าเกรียติยศแบบนั้นกันทุกคน
แต่โรแลนด์ไม่ได้สนใจมากนัก เพราะยังไงเพื่อนๆของเขาก็เคยพูดกันไว้ว่าจะสร้างกิลด์เล็กๆขึ้นมา และไม่ได้ต้องการแข่งขันกับพวกกิลด์ใหญ่
จู่ๆโทรศัพท์เขาก็ดังขึ้น เขารับสายขึ้นมาและปลายสายก็พูดก็ว่า “มาเจอกันหน่อย”
“เกี่ยวกับเรื่องกิลด์ภายในเกมหนะ ฉันเรียกบราซิลกับลี่หลินมาแล้ว เจอกันที่เดิมนะ”
ครึ่งชั่วโมงต่อมาโรแลนด์ไปที่บาร์ด้วยจักรยาน
ตอนนี้ยังไม่เจ็ดโมงเช้าด้วยซ้ำพนักงานภายในร้านยังไม่มาทำงาน ดังนั้นชัคจึงเป็นคนยกของมาให้เพื่อนของเขาด้วยตัวเอง
ชัครินน้ำผลไม้ให้พวกเขาทุกคนจากนั้นก็พูดว่า “ฉันว่าพวกเราน่าจะเป็นคนกลุ่มแรกที่ได้สร้างกิลด์นะ”
โรแลนด์แทบจะพ่นน้ำผลไม้เข้าปากเมื่อได้ยินแบบนั้น!
“ทำไม?”
“ฉันเคยบอกพวกนายมาก่อนใช่ไหมว่าฉันเรียนเกี่ยวกับหลักคำสอนอยู่ที่อาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ซึ่งมันตั้งอยู่ที่อาณาจักรฟาเลียน และยิ่งไปกว่านั้นฉันเคยเจอทอลลี่บอร์ซัมและเคยพูดคุยกับเขาหลายครั้งแล้ว เขาเป็นคนดีเลยทีเดียว”
ทุกคนต่างหมดคำพูดเมื่อได้ยินแบบนี้