หวนคืนชะตาแค้น - ตอนที่ 77 เกรงว่าโลกจะไม่โกลาหล (4)
หรงจิ่นเหลือบมองนางอย่างไม่ใส่ใจและพูดอย่างเฉยเมย เสด็จพ่อขอให้เจ้ามาอภิเษกสมรสเพื่อเชื่อมสัมพันธ์ แต่เจ้าคิดว่าเจ้ากำลังสรรหาราชบุตรเขยอยู่อย่างนั้นหรือ
ท่าน!
ไหวหยาง หรงเหยี่ยนหยุดองค์หญิงไหวหยางด้วยน้ำเสียงนุ่มลึก เห็นได้ชัดว่าคำพูดของหรงจิ่นทำให้เขารู้สึกร้อนตัวเล็กน้อย
ตนได้รับคำสั่งจากเสด็จพ่อให้มาร่วมงานฉลองวันคล้ายวันพระราชสมภพของโอรสสวรรค์แคว้นหวาและส่งองค์หญิงมาแต่งเชื่อมความสัมพันธ์ เพราะฉะนั้นแล้วเขาต้องทำเพื่อประโยชน์สูงสุดสำหรับแคว้นเย่ว์ ตราบใดที่เรื่องนี้ผ่านไปได้ด้วยดีหลังจากกลับแคว้นไปแล้วเสด็จพ่อจะต้องยินดีเป็นแน่…
พี่สี่… สีหน้าขององค์หญิงไหวหยางเปลี่ยนไป ดวงตาที่มองหรงเหยี่ยนรื้นไปด้วยน้ำตา หรงเหยี่ยนถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้และพูดขึ้นว่า ตอนนี้อยู่ข้างนอก กลับไปค่อยคุยเถิด
หรงจิ่นเหลือบมองทั้งสองเล็กน้อยพลางลุกขึ้นยืน
น้องเก้า นี่เจ้า…
หรงจิ่นกวาดตามองการต่อสู้บนสังเวียนอย่างไม่อดทนและพูดอย่างเหยียดหยาม มีสิ่งใดน่าดูกัน น่าเบื่อเหมือนกลุ่มคนโง่งมที่ต่อสู้กันเพื่อสิ่งที่เน่าเหม็น พี่สี่จะไปหรือไม่ แน่นอนว่าหรงเหยี่ยนนั้นไปไม่ได้ หรงจิ่นมักจะเอาแต่ใจตัวเองเสมอมาโดยกระทำการบุ่มบ่ามโดยไม่คำนึงถึงเรื่องใดๆ ของแคว้น ซึ่งหรงเหยี่ยนไม่สามารถทำตัวเช่นนั้นได้ ไม่ว่าจะเป็นสมบัติของตระกูลกู้หรือจะเป็นจิ่วจ่วนหลิงหลงล้วนทำให้หัวใจของเขานั้นเต้นแรง แม้ว่าสุดท้ายจะไม่สามารถครอบครองจิ่วจ่วนหลิงหลงนั้นได้ แต่ถ้าหากเขาไม่ต่อสู้เพื่อแย่งชิงมันแม้เพียงเล็กน้อย คงไม่ง่ายที่จะกราบทูลเสด็จพ่อยามเมื่อตนกลับไป
ถ้าอย่างนั้น…น้องเก้าไปเดินเล่นรอบๆ ก่อนเถิด ระมัดระวังความปลอดภัยด้วย หรงเหยี่ยนสั่งราวกับว่าเขาเป็นพี่ชายที่แสนดี
หรงจิ่นแค่นหัวเราะเบาๆ จากนั้นก็หันหลังเดินออกไป
บนเรือสูงในฝั่งเจียงซาน ชายหนุ่มรูปงามในชุดขาวกำลังนั่งมองดูสถานที่ที่แออัดริมฝั่งแม่น้ำของฝั่งตรงข้ามพร้อมรอยยิ้มอยู่บนริมหน้าต่างชั้นสอง
ชิงชิง เจ้าจัดฉากการแสดงละครได้น่าเบื่อเสียจริง มีเสียงของบุรุษดังขึ้นอย่างเบื่อหน่าย ชายหนุ่มชุดขาวหันศีรษะไปมองก็เห็นชายรูปงามในชุดดำยืนอยู่ที่ด้านบนสุดของบันได
หรงจิ่นมองดูหญิงสาวที่แต่งตัวเป็นชายราวกับเด็กหนุ่มผู้สูงศักดิ์ กวาดตามองไปยังพื้นที่อันกว้างใหญ่และเงียบสงบบนชั้นสองแล้วอุทานว่า ชิงชิงนั้นช่างยอดเยี่ยมนัก ไม่น่าแปลกใจเลยที่เงินจะไม่ขาดมือ เรือลำนี้ถูกจัดเตรียมโดยเฝิงจื่อสุ่ย เรือของโรงน้ำชาอีกแห่งในเมืองหลวงของตระกูลกู้ ชั้นล่างยังคงใช้เป็นเรือโดยสารสำหรับให้ผู้คนได้ลิ้มรสชาชั้นยอดและเพลิดเพลินไปกับทัศนียภาพพร้อมเสียงดนตรี ส่วนชั้นบนนั้นกลับมีแค่มู่ชิงอีเพียงคนเดียว
มู่ชิงอีเหลือบมองและเอ่ยขึ้นยิ้มๆ มันน่าเบื่ออย่างนั้นหรือ เหตุใดหม่อมฉันถึงเห็นว่าทุกคนก็ล้วนดูตื่นเต้นกันดี
หรงจิ่นถอนหายใจแล้วกล่าวว่า ผู้คนยอมตายเพื่อเงิน นกยอมตายเพื่ออาหาร หากไม่รู้ถึงแผนการของชิงชิงล่วงหน้า ไม่แน่ว่าแม้แต่ข้าคงอดไม่ได้ที่จะเข้าไปร่วมวงด้วย มู่ชิงอีตอบกลับเบาๆ หากมีผู้ใดในโลกนี้ขาดแคลนเงินทอง ก็คงจะไม่ใช่องค์ชายเก้าหรอกกระมัง ด้วยการสนับสนุนอย่างลับๆ ของตระกูลเหมยที่เป็น ตระกูลร่ำรวยที่สุดในแคว้นเย่ว์ หรงจิ่นจะขาดแคลนเงินทองได้อย่างไรกัน
ชิงชิงเคยคิดหรือไม่ว่าจะจบอย่างไร จิ่วจ่วนหลิงหลง… ไม่จำเป็นต้องมอง หรงจิ่นก็รู้ว่าสิ่งที่เรียกว่าจิ่วจ่วนหลิงหลงนั้นเป็นของปลอมอย่างแน่นอน มู่ชิงอีกะพริบตาอย่างไร้เดียงสาพร้อมเอ่ยถามว่า เหตุใดหม่อมฉันถึงต้องการบทสรุปด้วยเล่า ที่นั่น…มีผู้ใดที่เกี่ยวข้องกับหม่อมฉันบ้างหรือเพคะ แม้แต่คนสองคนที่ทิ้งให้อยู่เพื่อปกป้องสมบัติก็ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับตระกูลกู้ ส่วนคนที่มีส่วนร่วมในเรื่องนี้พวกเขาก็ได้ออกจากเมืองหลวงไปตั้งแต่ทีแรกที่เวทีประลองเริ่มขึ้นแล้ว หากบรรดาองค์ชายและท่านอ๋องต้องการที่จะจับพวกเขาทีละคนจากทุกทิศทุกทางนางก็คงไม่สนใจเพราะสิ่งที่คนเหล่านี้รับรู้นั้นมีไม่มาก ตั้งแต่ต้นจนจบ ทั้งนางและเฝิงจื่อสุ่ยนั้นไม่ได้ออกหน้าเปิดเผยตัวเลยแม้แต่นิดเดียว
หรงจิ่นมองไปยังหญิงสาวที่อยู่ข้างหน้าเขาซึ่งใบหน้าของนางนั้นดูอ่อนเยาว์ขึ้นเพราะเสื้อผ้าอาภรณ์ของบุรุษพลางยิ้มและเอ่ยว่า ชิงชิงแผนการแยบยล ข้าเลื่อมใสยิ่งนัก
มู่ชิงอีกล่าวอย่างเฉยเมย ชิงอีเองก็รู้สึกประทับใจอย่างมากกับความสามารถขององค์ชายเก้าในการเติมเชื้อเพลิงลงในกองไฟอย่างลับๆ เพคะ
ทั้งสองมองหน้ากันและในที่สุดก็ยิ้มให้กัน ไม่มีใครเป็นคนดี ย่อมไม่จำเป็นต้องเสแสร้งใส่กัน
หรงจิ่นนั่งลงตรงข้ามกับมู่ชิงอีแล้วยกมือเพื่อรินชาให้ตัวเอง เอนกายลงบนเก้าอี้และดื่มชาอย่างสบายๆ พลางเอ่ยถามว่า จูเปี้ยนนำกำลังครึ่งหนึ่งของจวนกงอ๋องมุ่งหน้าไปที่หนานซาน เพื่อตามหาจูหมิงเยียน คนที่เหลืออยู่แม้รวมกับคนจากจวนหนิงอ๋องแล้ว คนของเจ้ากับข้าก็พอที่จะรับมือได้ แต่ชิงชิงเคยคิดหรือไม่ว่าเรือนชุ่ยเวยและเรือนอื่นๆ ของมู่หรงอวี้นั้นอยู่ไม่ไกลจากที่นี่ ถ้าหากทำให้ฮ่องเต้แคว้นหวาทรงตกพระทัย… ถ้าหากเกิดทำให้ฮ่องเต้ตกใจระดมกองทหารรักษาพระองค์ขึ้นมา ไม่ว่าจะทั้งคนของเขาและคนของมู่ชิงอีก็ไม่สามารถจัดการกับทหารจำนวนนับไม่ถ้วนจากกองทหารรักษาพระองค์ได้ ดังสำนวนที่ว่าแม้แต่มังกรจากภายนอกก็ยากที่จะล่างูที่อยู่ในรังของมัน และในเมืองหลวงของแคว้นหวาแห่งนี้ ไม่เพียงแต่งูนั้นคือฮ่องเต้แคว้นหวา เกรงว่ามังกรที่แข็งแกร่งก็คือเขาด้วยเช่นกัน ในแง่ของกำลังไม่มีใครสามารถขับเคี่ยวกับเขาที่นี่ได้
มู่ชิงอีกล่าวอย่างเฉยเมย มู่หรงอวี้จะไม่ปล่อยให้ฮ่องเต้ได้รู้ว่าเขาซ่อนกู้ซิ่วถิงเอาไว้ในเรือนอื่น ถ้าเดาถูก เขาต้องทูลฮ่องเต้ว่ากู้ซิ่วถิงนั้นตายแล้ว ถ้าหากฮ่องเต้รู้ว่ากู้ซิ่วถิงยังมีชีวิตอยู่ โทษฐานของการหลอกลวงฮ่องเต้นั้น…มู่หรงอวี้คงไม่สามารถจ่ายได้
ดูเหมือนว่าชิงชิงจะวางแผนมาเป็นอย่างดีแล้ว หรงจิ่นถอนหายใจมองเด็กชายชุดขาวที่ดูไร้เดียงสาและไร้อารมณ์ด้วยความสนใจ
เพื่อคนแบบใดกัน เพื่อคนที่สูงค่าหรือบุคคลอันเป็นที่รักที่ทำให้หญิงสาววัยสิบหกปีผู้นี้ถึงกับกล้าเล่นกับราชวงศ์แคว้นหวาทั้งราชวงศ์รวมถึงราชทูตทั่วทั้งโลกหล้า
กู้ซิ่วถิง…
หรงจิ่นขมวดคิ้ว เขาควรจะคิดได้ตั้งนานแล้วว่าแผนการทั้งหมดรอบตัวเขาล้วนเกี่ยวข้องกับการช่วยเหลือกู้ซิ่วถิง ไม่ว่าจะเป็นสมบัติล้ำค่าของตระกูลกู้ จิ่วจ่วนหลิงหลงหรือการลักพาตัวพระชายากง รวมถึงกับดักที่สร้างให้มู่หรงอาน ทั้งหมดนี้เป็นการปูทางสำหรับการช่วยเหลือกู้ซิ่วถิง
กู้ซิ่วถิงสำหรับชิงชิงแล้วมีความสำคัญขนาดนั้นเลยหรือ ลูกพี่ลูกน้องอะไรกัน ข้าเกลียดที่สุด!
มู่ชิงอีมองดูใบหน้าที่หล่อเหลาของชายหนุ่มที่อยู่ตรงข้ามอย่างเงียบๆ ที่ประเดี๋ยวสีหน้าก็เต็มไปด้วยความสงสัย ประเดี๋ยวก็ปรากฏความหงุดหงิดรำคาญ ประเดี๋ยวก็ดูบรรลุเข้าใจบางอย่าง ประเดี๋ยวก็กลับมาขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน แต่นางก็ไม่ได้สนใจที่จะคาดเดาว่าหรงจิ่นคิดอะไรแปลกๆ อยู่ในขณะนี้ น่าเสียดายที่นางไม่ได้อยากรู้อยากเห็น แต่หรงจิ่นกลับไม่ปล่อยให้มันผ่านไปง่ายๆ องค์ชายเก้าเอนตัวอยู่บนตั่งนั่ง จ้องมองหนุ่มน้อยรูปงามอย่างเศร้าใจ ชิงชิง ข้าพบว่าการแลกเปลี่ยนครั้งนี้ขาดทุน
หม่อมฉันต้องการฟังรายละเอียดเพิ่มเพคะ มู่ชิงอีกลอกตาพร้อมพูดขึ้นเบาๆ
หรงจิ่นมองดูนางด้วยใบหน้าที่จริงจัง ข้า…คงไม่ได้ช่วยศัตรูหัวใจกลับมาหรอกใช่หรือไม่
มู่ชิงอีตกใจจนเกือบจะสำลักน้ำชา หลังจากไอเล็กน้อยนางก็พูดขึ้นอย่างไม่ใส่ใจ องค์ชายเก้า พระองค์ทรงคิดมากเกินไปแล้วเพคะ ประการแรก หม่อมฉันกับลูกพี่ลูกน้องชายเป็นเพียงแค่พี่ชายน้องสาวกัน ประการที่สอง ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม พี่ชายของหม่อมฉันก็ไม่สามารถเรียกได้ว่าเป็นศัตรูหัวใจขององค์ชายเก้าได้เพคะ
เพราะเราไม่ได้เป็นอะไรกันอย่างไรเล่าเจ้าบ้า คนที่ทำตัวไร้สาระหยอกล้อเยอะเกินไปต้องมีสักวันที่จะเดือดร้อนเพราะการละเล่นนั่น ข้าจะเฝ้ารอดูวันที่เจ้ากรรมตามสนอง!
หรงจิ่นกะพริบตามองไปที่มู่ชิงอีอย่างไร้เดียงสา ท่าทางดูราวกับจะบอกว่า แม้ว่าจะต้องได้รับผลกรรม ข้าก็จะต้องดึงชิงชิงมาร่วมด้วยกัน
จู่ๆ มู่ชิงอีพลันตัวสั่นอย่างไร้เหตุผล
คุณหนู องค์ชาย อู๋ซินเดินขึ้นไปชั้นบนและเหลือบมองหรงจิ่นซึ่งนั่งอยู่ตรงข้าม ก่อนที่จะเดินไปหามู่ชิงอีด้วยความเคารพ มู่ชิงอีไม่สนใจเรื่องที่ว่าอู๋ซินจะภักดีต่อหรงจิ่นเหมือนเดิมหรือจะภักดีต่อนางมากขึ้นหรือไม่ เพราะดูเหมือนว่าอู๋ซินนั้นไม่ได้เพิ่งติดตามหรงจิ่นเพียงแค่วันสองวัน และมู่ชิงอีคิดว่านางไม่ได้มีเสน่ห์มากขนาดที่จะทำให้เขาจงรักภักดีต่อนางอย่างรวดเร็ว หรือหากประสบความสำเร็จจริงๆ ก็สามารถอธิบายได้เพียงข้อเดียวคือ อู๋ซินไม่ได้จงรักภักดีต่อหรงจิ่นอย่างแท้จริงและคนที่ใจไม่ภักดีนั้น มู่ชิงอีย่อมไม่กล้าที่จะใช้งาน