หวนคืนอีกครา สู่ห้วงเวลาแสนงาม - บทที่ 191
บทที่ 191
ในเพิงน้ำชาริมถนนหลวงนอกเมือง ฉือชั่นจับเจ่าเฝ้ารออยู่ครึ่งค่อนวันยังคงไม่เห็นวี่แววของหญิงงาม พาให้สีหน้าปึ่งชาดุจฉาบด้วยน้ำแข็ง เขาลุกขึ้นตัดสินใจกลับวังด้วยความขุ่นใจ จู่ๆ ก็รู้สึกวิงเวียนคลื่นไส้ระลอกหนึ่ง
ฉือชั่นยกมือเกาะโต๊ะไว้ถึงไม่ล้มหน้าคว่ำไป อาการวิงเวียนตาลายถาโถมใส่เป็นระลอก สีหน้าเขาซีดขาวราวหิมะ
ร่างร่างหนึ่งวิ่งเร็วรี่ดุจลมกรดเข้ามาประคองเขา “คุณชาย ท่านเป็นอะไรไป เป็นอะไรกันแน่ขอรับ”
ฉือชั่นที่ใบหน้าซีดเผือดถลึงตาใส่เถาเซิงเด็กรับใช้ “ขืนเขย่าตัวข้าอีก ข้าจะอาเจียนแล้ว”
เถาเซิงมองใบหน้าฉือชั่นแล้วสะดุ้งโหยงด้วยความตกใจ “คุณชาย สีหน้าท่านย่ำแย่เหลือเกิน ก่อนออกจากเรือนยังสบายดีอยู่มิใช่หรือ นี่มันเกิดอะไรขึ้น…”
“น้องชาย คุณชายท่านนี้เป็นลมแดด เจ้ารีบพาเขาไปโรงหมอตรวจดูเถอะ”
ฉือชั่นได้ยินแล้วหน้าเขียวไปหมด
ลมแดด? ข้าเป็นลมแดดเพราะรอแม่นางน้อยตัวดีคนนั้นหรือ
คุณชายฉือซึ่งมึนๆ งงๆ อยู่ถูกเถาเซิงใช้กำลังบังคับพาตัวไปที่โรงหมอจี้เซิง ทั้งฝังเข็มทั้งกรอกยา สีหน้าถึงดีขึ้นเล็กน้อย เขาเอ่ยถามเด็กรับใช้อย่างอ่อนระโหยโรยแรง
“เจ้าอยู่ที่นั่นได้อย่างไร”
“ก็ข้าไม่วางใจท่านน่ะสิขอรับ” เถาเซิงยิ้มอย่างสอพลอ
ไม่สำคัญว่าเด็กรับใช้จะทำไปเพราะอยากรู้อยากเห็นหรือว่าห่วงใย เคราะห์ดีที่เวลานั้นมีอีกฝ่ายอยู่ คุณชายฉือจึงคร้านจะถือสาหาความ เขาทำเสียงฮึเบาๆ เดินออกจากประตูใหญ่ของโรงหมอ
“คุณชาย ท่านเดินผิดทางแล้ว วังองค์หญิงใหญ่ต้องไปทางนี้ขอรับ” พอเห็นฉือชั่นเลี้ยวขวา เถาเซิงจึงรีบร้องบอก
ดูท่าทางคุณชายจะป่วยไม่น้อย
“พูดมาก!” ฉือชั่นคร้านจะสนใจเถาเซิง รีบสาวเท้าเดินไปอีกทางหนึ่ง
นี่คุณชายจะไปที่ใดเล่า เถาเซิงลุกลนตามไป
ฉือชั่นหันหน้าไป “เจ้าไม่ต้องตามข้ามา”
เถาเซิงสั่นศีรษะเป็นกลองป๋องแป๋ง “นี่จะได้อย่างไรกัน ถ้าเกิดคุณชายเป็นลมไปจะทำฉันใด”
เขาคิดๆ แล้วล้วงคันฉ่องอันเล็กจากอกเสื้อ “คุณชาย ท่านดูสิ ท่านมีสีหน้าไม่ดีเพียงใด”
ฉือชั่นตวัดสายตามองปราดหนึ่งอย่างไม่ใส่ใจ เขาไต่ถามเด็กรับใช้อย่างกังขา “เจ้าพกสิ่งนี้ติดตัวด้วยหรือ”
เถาเซิงทำหน้าตาภาคภูมิเต็มที่ “แน่นอนอยู่แล้ว ข้าต้องเอาใจใส่รูปลักษณ์ภายนอกทุกเวลาถึงจะไม่ทำให้คุณชายต้องขายหน้าขอรับ”
มุมปากของฉือชั่นกระตุกริก เขาเดินไปเรื่อยๆ จนมาถึงด้านนอกจวนสกุลหลีโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว
ที่นี่คือเรือนของแม่นางน้อยคนนั้น ดูแล้วก็ไม่เท่าไรนี่นา
“เถาเซิง เอานี่ไปมอบให้คุณหนูในจวนแห่งนี้” ฉือชั่นหยิบยาขี้ผึ้งน้ำค้างแข็งเมฆาที่ซุกไว้ในอกเสื้อจนเหงื่อแทบซึมออกมา
“ได้ขอรับ” เถาเซิงรับยาขี้ผึ้งมาแล้วถึงฉุกคิดขึ้นได้ “อะไรนะ คุณหนู?”
“เหตุใดรึ”
“โธ่ คุณชาย ทำเช่นนี้ไม่ได้ ข้าเป็นเด็กรับใช้ ไปมอบของให้คุณหนูของจวนผู้อื่นจะโดนเขาเอาไม้กระบองไล่ตีออกมานะขอรับ”
จุๆๆ คุณชายของข้าถึงกับจะมอบของให้คุณหนูท่านหนึ่ง?
เขานึกมาโดยตลอดว่าคุณชายของตนหลีกหนีสตรีในเมืองหลวงประหนึ่งพวกนางเป็นอสรพิษ สักวันหนึ่งคงต้องมอบของให้บุรุษ ยังดีที่เป็น ‘คุณหนู’ สวรรค์มีตาจริงๆ
เด็กรับใช้บางคนที่กังวลสงสัยในความชื่นชอบส่วนตัวของผู้เป็นนายเสมอมาถอนหายใจโล่งอกในที่สุด
“เป็นเด็กรับใช้ไม่ได้ใช่หรือไม่” คิ้วเรียวยาวของฉือชั่นเลิกขึ้นเล็กน้อย
“ไม่ได้แน่นอนขอรับ ถ้าเป็นสาวใช้ก็ค่อยยังชั่ว จะได้บอกว่าเป็นคุณหนูจากจวนใดก็ได้สักจวนส่งมา” เถาเซิงพูดโดยมิได้คิดอะไร เขาเห็นโค่วจื่อโม่พาสาวใช้ขึ้นรถม้าที่จอดอยู่นอกประตูจวนสกุลหลีก็เอ่ยขึ้น “หรือว่าคุณหนูตระกูลใดตระกูลหนึ่งมาเยี่ยมเยียน เอาเป็นว่าบุรุษไม่ได้แน่ๆ ขอรับ”
“ถ้าอย่างนั้นจะมอบสิ่งนี้ให้ได้เช่นไร” ฉือชั่นไม่พึงใจเป็นอันมาก
แต่ไรมาเขาไม่เคยกระทำเรื่องที่เสียแรงเปล่า ในเมื่อตั้งใจจะมอบยาขี้ผึ้งน้ำค้างแข็งเมฆาให้แม่นางน้อยผู้นั้นก็ต้องทำให้ได้ ไม่เช่นนั้นเขาจะนอนไม่หลับ
“หรือไม่พวกเรากลับวังองค์หญิงไปไหว้วานตงอวี๋กูกู”
ฉือชั่นขึงตาใส่เขา “เจ้าเบาปัญญาใช่หรือไม่ ตงอวี๋กูกูรู้เรื่อง ท่านแม่ข้าก็ต้องรู้เรื่องด้วยมิใช่หรือไร”
“เช่นนั้น…หรือไม่หานางข้าหลวงสักคนในวังช่วย”
ฉือชั่นขมวดคิ้ว “ไม่ได้เหมือนกัน พวกสาวใช้หรือนางข้าหลวงในวังข้าล้วนไม่รู้จัก ใครจะรู้ว่าเชื่อใจได้หรือไม่ ถ้าเกิดกลับไปแล้วบอกกับตงอวี๋กูกูจะทำอย่างไร”
“ข้าคิดวิธีไม่ออกแล้ว คุณชายฉลาดปราดเปรื่องหาใครเทียบไม่ได้ จะต้องมีวิธีที่เป็นผลดีต่อทุกฝ่ายอย่างแน่นอนขอรับ”
ฉือชั่นพยักหน้า “วิธีน่ะมีอยู่”
ดวงตาเรียวของเขาตวัดมองเถาเซิง เอ่ยด้วยสีหน้านิ่งสนิท “เจ้าปลอมตัวเป็นสาวใช้เอาไปมอบให้”
เถาเซิงตัวเซวูบไปเกาะกำแพง เขายิ้มฝืดๆ “คุณชาย ท่านอย่าล้อข้าเล่นเลยขอรับ”
“เหตุใดรึ ไม่เต็มใจ?”
เด็กรับใช้ผู้นี้กระทั่งให้ปลอมตัวเป็นหญิงก็ยังไม่เต็มใจ เก็บเขาไว้จะมีประโยชน์อันใด
เถาเซิงจับจ้องดวงตาปึ่งชาของผู้เป็นนายแล้วทำหน้าละห้อย “คุณชาย ท่านดูใบหน้าข้านี่สิ ยังไม่ขาวเนียนเท่าท่านแล้วจะปลอมเป็นสาวใช้ได้เช่นไร”
แทนที่จะเป็นข้า ท่านมิสู้ปลอมตัวเป็นสตรีจะดีกว่านะ
ฉือชั่นหน้าบึ้งเต็มที “เจ้าไม่ปลอมเป็นสาวใช้ ยังคิดจะให้ข้าแต่งกายเป็นสตรีอีกหรือไร”
เอ๊ะ เช่นนี้ดูเหมือนจะมีอะไรไม่ได้นะ
ฉือชั่นถือใจตนเป็นใหญ่จนเป็นนิสัย เขามิได้แยแสธรรมเนียมประเพณีเหล่านี้จริงๆ
ทว่าแม่นางน้อยผู้นั้นไม่ได้เป็นอะไรกับเขาเสียหน่อย เขาต่างหากที่คร้านจะไปเยี่ยม
“อย่าพูดพล่าม ถ้าไม่ปลอมตัวเป็นสาวใช้ช่วยข้าจัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อยก็เอาต้นหญ้าเสียบไว้ตรงหลังคอคุกเข่าอยู่ริมถนน* เถอะ”
เถาเซิงเบิกตากว้าง
ข่มขู่ นี่คือการข่มขู่อย่างโจ่งแจ้ง!
ครึ่งชั่วยามให้หลัง เถาเซิงยืนบิดตัวกระมิดกระเมี้ยนอยู่ตรงหน้าฉือชั่น เขาดึงชายเสื้ออย่างกระอักกระอ่วน “คุณชาย อย่างนี้พอไหวหรือไม่ขอรับ”
ฉือชั่นลูบปลายคางพลางพยักหน้า “ไหว ยิ่งกว่าไหวเสียอีก อย่าลืมที่ข้ากำชับนะ”
เถาเซิงหลับตาลง จึงโดนฉือชั่นเอาพัดตีศีรษะ “คุณชาย?”
“เจ้าไปเยี่ยมคนป่วย มิใช่ขึ้นลานประหาร ถ้าทำพิรุธถูกจับได้ล่ะก็ เจ้าคงแจ่มแจ้งถึงผลลัพธ์ดี”
เด็กรับใช้ผู้น่าสงสารเจียนร่ำไห้แล้ว เขาแจ่มแจ้งเสียยิ่งกว่าแจ่มแจ้ง ก็ให้เขาเอาต้นหญ้าเสียบหลังคุกเข่าอยู่ข้างถนนขายตัวเป็นทาสมิใช่หรือ
คุณชายไม่รู้เรื่องรอบตัวสักน้อยนิด คุกเข่าข้างถนนขายตัวฝังศพบิดามีแต่ในบทละครเรื่องเล่า การซื้อขายบ่าวไพร่กันจริงๆ จะมีตลาดโดยเฉพาะ
เถาเซิงค่อนแคะอยู่ในใจจบก็แข็งใจเดินจ้ำพรวดๆ ไปที่จวนสกุลหลี
“รอประเดี๋ยว” ฉือชั่นไล่ตามมาบอกอย่างไม่พอใจ “ก้าวเท้าสั้นๆ สิ ถ้าเจ้าโดนจับได้ ผลลัพธ์จะมิใช่ถูกข้าขายทิ้งแต่เพียงง่ายดายเท่านั้น เจ้าตรองดูให้ดี หากเผยพิรุธในจวนสกุลหลี…”
เถาเซิงแทบจะคุกเข่าลงแล้ว
อย่าข่มขู่ข้าอีกเลย ข้าใจเสาะมากนะคุณชาย
เถาเซิงปาดเหงื่อออก พูดด้วยสีหน้าขึงขัง “คุณชาย หากข้ากลับมาไม่ได้ ฝากดูแลบิดามารดาของข้าด้วยนะ อ้อ จริงสิ ข้ายังซ่อนเงินหีบหนึ่งไว้ใต้ตุ่มน้ำหลังประตูเรือนข้า เดิมทีตั้งใจว่าจะเก็บไว้ตบแต่งภรรยา อย่าลืมบอกให้บิดามารดาข้านำออกมาใช้ประทังชีพยามแก่เฒ่า”
“รีบไสหัวไปเสีย!” ขืนพล่ามต่อไป เขาไปเองดีกว่าจริงๆ
เถาเซิงจดจำคำกำชับกำชาของผู้เป็นนาย พลางก้าวเท้าสั้นๆ เนิบๆ มาถึงหน้าประตูจวนสกุลหลี
“แม่นางน้อยมีเรื่องอันใดหรือ” วันนี้เหล่าจ้าวยามหน้าประตูได้เห็นพวกสาวใช้ของคุณหนูจวนต่างๆ มามากแล้ว ขณะนี้เห็นสาวใช้หน้าตาหมดจดตัวสูงสะโอดสะองยืนอยู่หน้าประตูก็ไม่แปลกใจเลยสักนิด
“คุณหนูส่งข้ามามอบของให้คุณหนูสามของจวนแห่งนี้” เถาเซิงตื่นเต้นจนเหงื่อแตกเต็มหน้าผาก ดีที่เขายังเป็นเด็กหนุ่ม สุ้มเสียงจึงเล็กกังวานใสนุ่มหู เหล่าจ้าวยามเฝ้าประตูจึงจับพิรุธไม่ได้แม้แต่น้อย
“แม่นางน้อยลงชื่อในทะเบียนตรงนี้เถอะ”
เถาเซิงจับพู่กันเขียนว่า ‘วังองค์หญิงใหญ่ฉางหรง’ แล้วมิได้วางของขวัญลง
เหล่าจ้าวกล่าวยิ้มๆ “แม่นางน้อยวางของไว้ที่นี่ก็ได้ จะมีคนนำไปส่งถึงที่เรือนคุณหนูสามโดยเฉพาะเอง”
เถาเซิงยิ้มอย่างจืดเจื่อน “ท่านลุง คือว่าคุณหนูของข้าสั่งกำชับไว้ให้ข้ามอบให้คุณหนูสามด้วยตนเอง และดูว่าอาการของคุณหนูสามเป็นอย่างไรบ้าง คุณหนูของข้าจะได้สบายใจ”
* เอาต้นหญ้าเสียบไว้ตรงหลังคอ เป็นวิธีการขายตัวเองเป็นทาสในสมัยโบราณ