หวนคืนอีกครา สู่ห้วงเวลาแสนงาม - บทที่ 193
บทที่ 193
บุรุษ?
เฉินกวงจ้องมองเถาเซิงที่เดินอยู่ข้างๆ อาจูอย่างไม่ละสายตา จากนั้นขยี้ตาตนเอง
เขาตาฝาดไปใช่หรือไม่ ไฉนมีบุรุษผู้หนึ่งปรากฏตัวขึ้นที่นี่
ไม่ถูก ปัญหามิใช่บุรุษปรากฏขึ้นที่นี่ ที่นี่มีบุรุษอยู่ไม่นับเป็นเรื่องแปลก แต่พบคนปลอมตัวเป็นหญิงต่างหากเป็นเรื่องใหญ่
สาวใช้ชุดสีเขียวที่เดินอยู่ด้านข้างคืออาจูกระมัง ดวงตาของเฉินกวงนิ่งขึงไป
นี่แสดงว่าคนที่ปลอมตัวเป็นหญิงผู้นั้นปะปนเข้าไปในห้องส่วนตัวของคุณหนูสาม? นี่ไม่ได้การแล้ว!
เฉินกวงทำหน้าบึ้งสาวเท้าก้าวใหญ่เดินไปทางนั้นอย่างเร็วรี่ แต่แล้วก็ชะงักฝีเท้ากลางคัน
วู่วามไม่ได้ ดูท่าทางเจ้าคนบัดซบนั่นออกมาจากห้องส่วนตัวของคุณหนูสามแล้ว ถ้าก่อเรื่องวุ่นวายขึ้นที่นี่ จะไม่เป็นผลดีต่อชื่อเสียงของคุณหนู
เฉินกวงสูดลมหายใจลึกๆ เดินเลี้ยวอีกทางหนึ่งตรงไปรอที่หน้าประตูใหญ่
ด้านอาจูเห็นว่าถึงอย่างไรอีกฝ่ายก็เป็นคนของวังองค์หญิง จะทำเชือนแชย่อมไม่เหมาะ นางจึงตามไปส่งเถาเซิงจนถึงหน้าประตู
“พี่สาว ค่อยๆ เดินนะ”
เมื่อเห็นว่าเจียนจะรอดตัวแล้ว จิตใจของเถาเซิงเริ่มผ่อนคลายดังเดิมพาให้อารมณ์เบิกบาน เป็นธรรมดาที่จะมีแก่ใจคิดคำนึงอย่างสะท้อนใจ
สาวใช้อ่อนโยนเฉกนี้ ถ้าเป็นคนในวังองค์หญิงของพวกเขาก็คงดี
“น้องอาจู ไว้พบกันใหม่นะ”
คุณหนูหลีซานเป็นหญิงในดวงใจของคุณชาย หากคุณชายแต่งคุณหนูสามเข้าวัง ก็จะได้พบหน้าน้องอาจูทุกวัน เขากล่าวถ้อยคำนี้มิใช่คำเท็จ
อาจูแย้มยิ้ม มองดูเถาเซิงก้าวเท้าออกจากประตูใหญ่ถึงหันหลังกลับไป
เถาเซิงแหงนคอมองฟ้าเงียบๆ ระบายลมหายใจเฮือกใหญ่ ในที่สุดก็ออกมาได้แล้วพร้อมกับสารขอบคุณของคุณหนูหลีซาน แม้ว่าจะเป็นสารที่เขียนถึงคุณหนูใหญ่ก็เถอะ คุณชายเห็นแล้วต้องดีใจเป็นแน่
เถาเซิงกดๆ ตรงอกเสื้อที่เก็บสารไว้ สาวเท้าเดินไปอีกทางหนึ่ง
คุณชายยังรอคอยเขาอยู่ตรงนั้น
เมื่อภารกิจลุล่วงอย่างราบรื่น เถาเซิงไม่ก้าวสั้นๆ เนิบๆ อีก เขาเดินด้วยฝีเท้าเร็วรี่ไปทางริมกำแพง แต่เพิ่งเลี้ยวพ้นหัวมุมหนึ่ง ยังไม่ทันส่งเสียงเรียกผู้เป็นนายก็มีฝ่ามือข้างหนึ่งยื่นมาจากด้านข้างปิดปากเขาไว้แล้วหิ้วตัวขึ้นออกวิ่งไปเลย
ฉือชั่นมองเห็นเด็กรับใช้แล้วตะลึงงันไปทันใด
เกิดเรื่องอันใดขึ้น
กลางวันแสกๆ ถึงกับมีพวกมากตัณหาตั้งใจมารอดักฉุดเด็กสาวที่หน้าประตูจวนสกุลหลี?
ฉือชั่นยิ่งคิดยิ่งโกรธเกรี้ยว เขารีบรุดไปที่หอชุนเฟิง เขาจะยืมตัวผู้ใต้บังคับบัญชาที่มีวรยุทธ์ดีๆ จากสหายสักสองคนไปกำจัดเจ้าคนมากตัณหาที่กำเริบเสิบสานผู้นั้นเสีย ไม่เช่นนั้นเกิดวันใดแม่นางน้อยนั่นออกจากเรือนจะไม่ประสบเคราะห์ภัยหรือไร
สำหรับเถาเซิง…คุณชายฉือหาได้กังวลใจสักน้อยนิดไม่ ถึงอย่างไรพอเปลื้องอาภรณ์ออกพบว่ามิใช่สตรีก็ไม่เป็นอะไรแล้ว
อีกด้านหนึ่งเฉินกวงกลัวว่าแบกคนจะสะดุดตาผู้คนจนก่อความยุ่งยากขึ้น เขาใช้สันมือสับต้นคอเถาเซิงให้สลบแล้วแบกขึ้นหลังวิ่งตะบึงไปตามทางสายเล็กๆ เวลาพบคนบนถนนผ่านมาคนสองคนก็จะร้องตะโกนว่า “หลีกทางๆ น้องสาวข้าล้มป่วยกะทันหัน ระวังจะติดโรค!”
ทุกคนที่ได้ยินไม่มีใครไม่ถอยกรูดรีบหลบ
เฉินกวงเข้าสู่หอชุนเฟิงทางประตูหลังในเวลาอันสั้น จากนั้นกดจุดเหรินจงของเถาเซิงสุดแรงให้เขาฟื้นขึ้น
เถาเซิงร้องโอยดังลั่นเสียงหนึ่งแล้วพูดโวยวายด้วยน้ำตาคลอเบ้า “เจ้าเป็นใคร คิดจะทำอะไร”
เฉินกวงแค่นเสียงเยาะ “อย่านึกว่าร้องไห้น้ำตานองหน้าประหนึ่งบุปผาต้องฝนแล้วข้าจะมองไม่ออกว่าเจ้าเป็นบุรุษ”
ก่อนหน้านี้เขาทำงานอะไรเล่า หากไม่มีแม้แต่ความช่างสังเกตในจุดเล็กจุดน้อยเท่านี้ เขาจะติดตามท่านแม่ทัพได้อย่างไร อีกทั้งได้รับมอบหมายหน้าที่สำคัญคืออารักขาคุณหนูหลีด้วย
เถาเซิงนิ่งขึงไป เขาก้มหน้ามองอาภรณ์บนตัว ถึงนึกขึ้นได้ว่าตอนนี้ตนยังปลอมตัวเป็นสตรีอยู่ก็ไอออกมาเป็นชุดทันที
น่าอายเหลือเกิน! ก็ว่าแล้วงานที่คุณชายสั่งให้ทำหาใช่เรื่องที่มนุษย์พึงกระทำไม่
พละกำลังมหาศาลระลอกหนึ่งพุ่งโถมมา เถาเซิงก็ถูกเฉินกวงกระชากคอเสื้อลากตัวไปตรึงติดกำแพงทันใด
“เจ้าหนู สารภาพมาเสียดีๆ ว่าเจ้าเป็นใครกันแน่ เพราะอะไรถึงแฝงกายเข้าไปในห้องคุณหนูหลีซาน”
เถาเซิงโดนขยุ้มคอเสื้อไว้จนหายใจไม่ออก เขาใช้ทั้งสองมือแกะฝ่ามือของเฉินกวงออกสุดกำลัง แต่อีกฝ่ายไม่คลายมือออกแม้แต่น้อยนิด
“สารภาพมา!” เฉินกวงยิ่งคิดยิ่งเดือดดาล สะบัดมือตบหน้าเถาเซิงฉาดหนึ่ง
ท่านแม่ทัพให้เขาดูแลคุณหนูหลีซานให้ดีๆ กลับเกิดเรื่องปัญหาขึ้นซ้ำๆ หนแล้วหนเล่า นี่จะทำให้เขาอยู่สู้หน้าท่านแม่ทัพไม่ได้กระมัง
ผู้ใดหมายทำให้เขาอยู่สู้หน้าท่านแม่ทัพไม่ได้ เขาก็จะให้คนผู้นั้นจบเห่ก่อน!
เถาเซิงโดนตบหน้าก็มึนงงไป มาตรว่าเขาจะเป็นเด็กรับใช้ แต่ติดตามฉือชั่นมาแต่เยาว์วัย อย่างมากก็โดนเตะสองทียามเจ้านายอารมณ์ไม่ดี เคยโดนตบตีจริงๆ ที่ใดกัน เขาเจ็บจนน้ำตาไหลทันที
ร้องไห้ไม่ได้ เขาเป็นถึงเด็กรับใช้ประจำตัวคุณชาย ถึงโดนหยามเกียรติก็จะทำขายหน้าไม่ได้ เขาจะร้องไห้ต่อหน้าเจ้าคนป่าเถื่อนหยาบคายสมควรตายผู้นี้ได้เช่นไร
เด็กรับใช้บางคนที่มีศักดิ์ศรีมากหลับตาปี๋พยายามกลั้นน้ำตาไว้
เฉินกวงเห็นแล้วยิ่งมีน้ำโห เขาถ่มน้ำลายลงพื้นก่อนกล่าวขึ้น “ถุย! เจ้าคนลักเพศ นี่เจ้ายังคิดจะใช้กลยุทธ์สาวงามอย่างนั้นหรือ นึกว่าบิดาไม่เคยเห็นสตรีมาก่อนรึ”
แม้ว่าจะแค่เคยเห็นเท่านั้น เขาก็ไม่มีทางยอมถูกบุรุษผู้หนึ่งหลอกลวงได้!
“พูด! เจ้าเป็นใครกันแน่” มือที่จับคอเสื้อเถาเซิงไว้ของเฉินกวงบีบเข้าหากันแน่นขึ้น
เถาเซิงถูกลักพาตัวมาที่นี่ยังไม่รู้สักนิดว่าตนเองอยู่ที่ใด ครั้นเห็นเฉินกวงทำท่าจะสังหารคนปิดปากอย่างดุร้ายเหี้ยมเกรียม เขาก็หนาวเหน็บจับใจ
ขณะที่สิ้นหวังพลันเหลือบเห็นเงาร่างสายหนึ่ง เขาตะโกนเสียงดังดุจพบทางรอดแล้ว “ช่วยด้วย ข้าถูกลวนลาม…”
เฉินกวงอึ้งงัน “…” เจ้าคนลักเพศ อยากให้ข้าชื่อเสียงย่อยยับต่อหน้าท่านแม่ทัพที่เคารพ?
บุรุษเรือนกายสูงใหญ่เดินเข้ามาหยุดยืนไม่ไกลนัก เขาถามเสียงนุ่ม “เฉินกวง นี่มันเรื่องอะไรกัน”
เฉินกวงแทบหลั่งน้ำตานองหน้าเลยทีเดียว เห็นหรือไม่ๆ เขารู้อยู่แล้วว่าท่านแม่ทัพไม่มีทางโดนเปลือกนอกลวงตาได้
ในที่สุดเขาก็รักษาชื่อเสียงไว้ได้
“ท่านแม่ทัพ คนผู้นี้ปลอมตัวเป็นสตรีแฝงตัวเข้าไปในห้องส่วนตัวของคุณหนูหลีซานขอรับ”
พอได้ยินคำว่า ‘ท่านแม่ทัพ’ หัวสมองของเถาเซิงก็อึงอลว่างเปล่า
เป็นกวนจวินโหว?
สวรรค์ ให้ข้าตายไปให้สิ้นเรื่องสิ้นราวเถอะ!
ไม่สิๆ เขาเป็นเด็กรับใช้ผู้หนึ่งเท่านั้น ถึงกวนจวินโหวจะพบปะกับคุณชายบ่อยๆ แต่น่าจะมิได้สังเกตเห็นเขา ยิ่งกว่านั้นเขายังสวมชุดของสตรี…
ขณะเถาเซิงปลอบใจตนเองก็ได้ยินเสียงฝีเท้าห่างออกไป
ไปแล้วหรือนี่ อืม กวนจวินโหวผู้องอาจปรีชาคงมีงานรัดตัว ต้องไม่สนใจเรื่องเล็กพรรค์นี้เป็นแน่ ถ้าให้เจ้าคนป่าเถื่อนผู้นี้สอบปากคำ เขาขอยอมตายก็ไม่ยอมจำนน ไม่ว่าอย่างไรจะเปิดเผยฐานะที่แท้จริงไม่ได้
“เอาตัวเขาเข้ามาคุยในห้อง”
เถาเซิงหน้ามืดแทบสิ้นสติไป
เสียงประตูปิดดังปึง
เซ่าหมิงยวนนั่งลงเอาท่อนขาเพรียวยาวไขว้ซ้อนกัน มองดูเถาเซิงอย่างเฉยเมย สุ้มเสียงเขาเย็นเยียบดั่งหิมะบนยอดเขา “ปลอมตัวเป็นสตรี? เข้าไปในห้องส่วนตัวของคุณหนูหลีซาน?”
ถามคำถามหนึ่ง เสียงพูดก็ปึ่งชาขึ้นส่วนหนึ่ง
เถาเซิงก้มหน้างุด ไม่กล้าหายใจเสียงดัง
“ใครส่งเจ้าไป”
“ปะ…เป็นข้าไปเอง…” เด็ดเดี่ยวไว้ จะบอกชื่อคุณชายออกมาไม่ได้
“ไม่มีทาง” น้ำเสียงของเซ่าหมิงยวนมั่นใจ เขากล่าวสั่งเอื่อยๆ “เงยหน้าขึ้น”
ไม่เงยหน้าๆ ถึงตายก็ไม่เงยหน้า
เถาเซิงแข็งขืนต่อบารมีน่าเกรงขามที่แผ่ออกมาจากท่านแม่ทัพไว้สุดชีวิตจนตัวสั่นเทิ้มไปหมด
เพลานี้มีคนส่งเสียงบอกอยู่นอกประตู “ท่านแม่ทัพ คุณชายฉือมาขอรับ กำลังรอท่านอยู่ด้านหน้า”
เซ่าหมิงยวนลุกขึ้นเดินออกไปโดยไม่เปล่งวาจาสักคำ
เถาเซิงได้ยินเสียงประตูปิดแล้วแทบน้ำตาไหลเป็นสาย
คุณชายขอรับ ท่านมาได้ถูกจังหวะเหลือเกิน หากช้ากว่านี้ชั่วครู่เดียว ข้าคงต้านทานไม่อยู่แล้ว
พอเซ่าหมิงยวนย่างเท้าเข้าห้องส่วนตัว ฉือชั่นลุกขึ้นยืนทันที “ถิงเฉวียน ข้าขอยืมคนสักสองคน!”