CatNovel
  • หน้าหลัก
  • แทงหวย24
  • มังงะ
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • แทงหวย24
  • มังงะ
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

หวนคืนอีกครา สู่ห้วงเวลาแสนงาม - บทที่ 216

  1. Home
  2. หวนคืนอีกครา สู่ห้วงเวลาแสนงาม
  3. บทที่ 216
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

บทที่ 216

“ใช่ขอรับ” หลีฮุยก้าวขาจะเดินไปที่ศาลา แต่ถูกหลีเจี่ยวรั้งตัวไว้

“น้องสาม เจ้าจะเข้าไปด้วยเหตุใด”

“จะทักทายน้องเจาสักคำขอรับ”

หลีเจี่ยวทำท่าอึกๆ อักๆ

“มีอะไรหรือพี่เจี่ยว”

“เจ้าเข้าไปตอนนี้ น้องเจาจะไม่กระอักกระอ่วนใจหรือ”

“เพราะอะไรต้องกระอักกระอ่วนใจ” หลีฮุยจับต้นชนปลายไม่ถูก

หลีเจี่ยวเม้มปากพูดอย่างอิดเอื้อน “เจ้าไม่รู้สึกหรือว่าน้องเจาไม่ได้เห็นสารถีผู้นั้นเป็นสารถี”

หลีฮุยยิ้มอย่างไม่เอาใจใส่ “สารถีผู้นั้นเป็นท่านปู่บุญธรรมของน้องเจายกให้นาง นางจะให้ความสำคัญเขาเป็นพิเศษก็เป็นเรื่องธรรมดามากมิใช่หรือขอรับ”

เขากล่าวจบแล้วสาวเท้าไปทางศาลา แต่ออกเดินได้ไม่กี่ก้าวก็หันศีรษะไป “พี่เจี่ยว ท่านไม่ไปหรือขอรับ”

หลีเจี่ยวกำลังโมโหน้องชายหัวทื่อแทบตาย แต่จะแสดงออกทางสีหน้าก็ทำไม่ได้อีก นางจำต้องฝืนยิ้มออกมา “ไปสิ”

เฉียวเจาได้ยินเสียงแล้วเบือนหน้ามา

หลีฮุยอมยิ้มมุมปากก้าวเข้าสู่ศาลา “น้องเจา…”

เสียงพูดเขาชะงักกลางคันเมื่อสายตาหยุดอยู่ที่หางตาแดงๆ ของน้องสาว เขาอดถามอย่างหลากใจไม่ได้ “เจ้าร้องไห้หรือ หรือว่ามีใครรังแกเจ้า”

“ไม่มีเจ้าค่ะ เมื่อครู่นี้โดนทรายเข้าตา”

หลีเจี่ยวลอบยิ้มเยาะ โดนทรายเข้าตาอะไรกัน นี่มันร้องไห้ชัดๆ หรือจะเห็นว่านางกับสารถีผู้นั้นไม่มีทางเป็นไปได้เลยร้องไห้ด้วยความเสียใจ

“พี่เจี่ยว พี่สาม ในตาข้ามีทรายอยู่ รู้สึกเคืองๆ ว่าจะกลับไปล้างออกสักหน่อย ข้าขอตัวก่อนนะเจ้าคะ”

“ให้ข้าไปส่งเจ้าเถอะ”

“ไม่ต้องเจ้าค่ะ มีปิงลวี่อยู่ด้วย พี่สามอยู่เป็นเพื่อนพี่เจี่ยวเถอะ”

หลีเจี่ยวกัดริมฝีปากมองตามแผ่นหลังของร่างอรชรที่เดินห่างออกไป

บัดนี้หลีซานเป็นที่โปรดปรานของคนในจวนมากขึ้นทุกที เห็นทีว่าถ้าไม่มีหลักฐานมัดตัวแน่นหนาวางอยู่ตรงหน้า คนอื่นคงไม่มีทางเชื่อ

นางไม่เชื่อหรอกว่าหลีซานจะไม่แสดงพิรุธออกมาได้ตลอด

หลังจากเฉียวเจากลับเข้าเรือน นางแตะอาหารเย็นไม่กี่คำก็ล้างหน้าบ้วนปากอย่างขอไปทีแล้วเอนกายลงนอนเลย

เวลายังไม่นับว่าดึกนัก แต่เทียนถูกจุดไฟแล้ว เฉียวเจานอนพลิกไปพลิกมาอยู่บนเตียงอย่างกระสับกระส่าย

“คุณหนูเป็นอะไรไปหรือ” ที่นอกประตู ปิงลวี่กระซิบถามอาจูด้วยสีหน้าวิตกกังวล

อาจูส่ายหน้า

“ดูเหมือนว่าหลังพบกับเฉินกวงแล้วก็เป็นเช่นนี้ ต้องเป็นเจ้าคนทึ่มนั่นพูดอะไรที่ทำให้คุณหนูโมโหเป็นแน่ ไม่ได้ ข้าจะไปคิดบัญชีกับเขา”

ปิงลวี่ที่จะเดินออกไปอย่างกระฟัดกระเฟียดถูกอาจูรั้งตัวไว้ “คุณหนูไม่มีทางคิดเล็กคิดน้อยกับเฉินกวงหรอก อีกอย่างฟ้ามืดแล้ว เจ้าไปหาเฉินกวงได้อย่างไร”

ปิงลวี่ห่อเหี่ยวใจทันใด

ภายในห้องเฉียวเจาลุกพรวดขึ้นนั่ง ตะเบ็งเสียงบอก “อาจู รินน้ำให้ข้าที”

อาจูเดินลิ่วๆ เข้าไป “คุณหนู น้ำเจ้าค่ะ”

เฉียวเจายื่นมือรับถ้วยน้ำชาดื่มคำแล้วคำเล่า ตาเป็นประกายยิ่งกว่าหมู่ดาวบนฟากฟ้า

อาจูเห็นนัยน์ตาสีดำสุกใสวาววับคู่นั้นแล้วใจคอไม่ดีอยู่บ้างชอบกล แต่แววตาสงบนิ่งของเด็กสาวก็ทำให้นางสบายใจได้เช่นกัน

เฉียวเจาคืนถ้วยให้อาจู “เจ้าออกไปพักเถอะ ข้าไม่เป็นไร”

ในเมื่อขบไม่แตกว่าเหมาซื่อมีแรงจูงใจอันใดที่มากพอจะปองร้ายพี่ใหญ่ อย่างนั้นก็ไม่คิดแล้ว นางแค่ให้เหมาซื่อได้รับการลงโทษเท่านั้นเป็นพอ

เคราะห์ดีที่นางเอายาลูกกลอนให้พี่ใหญ่แต่เนิ่นๆ และให้เขาแกล้งล้มป่วยโดยยกข้ออ้างว่าได้รับความตกใจ เหมาซื่อน่าจะไม่ลงมือทำร้ายพี่ใหญ่อีกในเร็ววันนี้

ไม่รู้ว่าเซ่าหมิงยวนรู้เรื่องนี้แล้วจะทำอย่างไรนะ…

ด้วยเฉียวเจาเป็นคนเข้มแข็ง เมื่อตกลงปลงใจได้แล้วกลับเยือกเย็นลง ไม่นานนักก็หลับสนิทไป

ด้านเซ่าหมิงยวนฟังรายงานจากเฉินกวงแล้วเม้มปากแน่น จากนั้นพาองครักษ์สิบกว่าคนมุ่งหน้าไปจวนเสนาบดีโค่ว

ยามพลบค่ำ เหย้าเรือนส่วนใหญ่มีควันไฟจากการหุงหาอาหารลอยอวล บนถนนมีคนสัญจรไปมาบางตา

กีบเท้าม้ากระทบพื้นถนนศิลาเขียวบังเกิดเสียงกุบกับๆ บุรุษผมสีดำด้านหน้าสุดสวมเสื้อคลุมสีขาว ท่วงท่าสง่าผึ่งผาย มีบุรุษชุดสีดำหลายสิบคนติดตามอยู่ข้างหลัง ขี่อาชาพ่วงพีขนสีดำเป็นมันเช่นเดียวกันหมด ส่วนท้ายขบวนเป็นรถม้าคันหนึ่ง

ทั้งที่บุรุษเหล่านี้มีสีหน้าเฉยเมยไร้แววดุดันให้เห็นแม้สักกระผีก ทว่าเสียงฝีเท้าม้าที่ทรงพลังและเป็นระเบียบ รวมถึงท่าทางขี่ม้าที่แทบจะพร้อมเพรียงกัน กลับทำให้ผู้คนบนถนนรู้สึกถึงแรงกดดันมหาศาลที่มองไม่เห็นระลอกหนึ่ง

เสียงนั้นราวกับว่ากีบเท้าม้ามิได้เหยียบย่ำบนพื้นถนนศิลาเขียว หากแต่กระแทกลงกลางใจของพวกเขาทีแล้วทีเล่าชวนให้ขวัญหนีดีฝ่ออย่างปราศจากเหตุผล

คนบนถนนลุกลนถอยหลบไปด้านข้างแล้วก้มหน้าลงไม่กล้าแม้แต่หายใจเสียงดัง รอจนทหารม้ากองนี้เคลื่อนผ่านไปไกลแล้วถึงชะเง้อคอยืดคอยาวมองตามไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น

บางคนตกตะลึงไปเมื่อพบว่าทหารม้ากองนั้นหยุดอยู่ที่หน้าประตูจวนเสนาบดีกรมอาญา

เซ่าหมิงยวนหันศีรษะไปด้านข้างแล้วพยักหน้า

องครักษ์คนหนึ่งพลิกกายลงจากหลังม้าไปเคาะประตูบานใหญ่สีแดงเข้ม

“ใครน่ะ นี่มันยามใดแล้ว…” ยามเฝ้าประตูแง้มประตูเป็นรอยแยกเล็กๆ เยี่ยมหน้าออกมาครึ่งหนึ่ง เสียงบ่นงึมงำอย่างไม่พอใจขาดหายไปกะทันหันเมื่อเห็นม้าตัวโตสูงใหญ่สีเดียวกันหมด เขากล่าวเสียงหลง “เป็นใครหรือ”

“กวนจวินโหวมาเยี่ยมคารวะใต้เท้าของจวนเจ้า” องครักษ์กล่าวเสียงกังวาน

ยามเฝ้าประตูเคยเห็นขบวนทหารน่าเกรงขามเฉกนี้ที่ใดกัน เขาลืมเลือนไปชั่วขณะว่ากวนจวินโหวคือหลานเขยของใต้เท้าของตน ก้าวขาวิ่งเข้าไปรายงานเสียงกระหืดกระหอบ

“ไม่ได้การแล้วขอรับ กวนจวินโหวมาแล้ว พาคนมามากมาย ซ้ำยังขี่ม้ามาด้วย!”

เพลานี้เสนาบดีกรมอาญาโค่วสิงเจ๋อเพิ่งกลับจากที่ว่าการได้ไม่นาน เขากำลังไม่ค่อยสบอารมณ์ จึงเรียกบุตรชายคนโตโค่วป๋อไห่มาดื่มสุราด้วยกัน

สองพ่อลูกร่ำสุราอยู่ พลันได้ยินยามเฝ้าประตูบอกเช่นนี้ โค่วป๋อไห่ผุดลุกขึ้นผลุนผลันเดินออกไป

“หยุดก่อน” เสนาบดีโค่ววางจอกสุราลง ร้องเรียกคำหนึ่ง

“ท่านพ่อ ท่านไม่ได้ยินหรือขอรับว่ากวนจวินโหวมาแล้ว! จู่ๆ เขาก็รุดมาเยือนในเวลานี้จะต้องเป็นเรื่องใหญ่อะไรเป็นแน่”

“ป๋อไห่ กวนจวินโหวเป็นใคร”

“กวนจวินโหว? เขาคือแม่ทัพผู้มิเคยพ่ายศึกที่องค์ฮ่องเต้ทรงแต่งตั้งด้วยพระองค์เองน่ะสิขอรับ เป็นบุคคลที่โดดเด่นหาใครเทียบมิได้แล้วในกองทัพ…”

เสนาบดีโค่วลุกขึ้นช้าๆ กล่าวเสียงขรึม “เจ้าลืมไปแล้วหรือว่ากวนจวินโหวยังเป็นหลานเขยของข้า เขาสมควรเรียกเจ้าว่าท่านลุงด้วย”

โค่วป๋อไห่อ้าปากค้างแล้วยิ้มกระดากๆ “ข้าร้อนใจไปชั่ววูบเลยลืมไปจริงๆ ขอรับ”

เขากล่าวจบแล้วถลึงตาใส่คนที่มาบอกความพลางตะคอกดุ “พูดจาไม่รู้เรื่อง จะแตกตื่นลนลานไปด้วยเหตุใด”

เสนาบดีโค่วกวาดตามองเขา เอ่ยขึ้นเสียงเรียบ “พอแล้ว อย่ามัวถือสาหาความบ่าวไพร่คนหนึ่ง เจ้าออกไปต้อนรับ”

“ท่านพ่อ กวนจวินโหวอยู่ต่อหน้าพวกเรานับเป็นผู้เยาว์ จะออกไปต้อนรับด้วยเหตุใด…”

“เลอะเลือน!” เสนาบดีโค่วขึงตาใส่บุตรชายคนโต “เมื่อครู่ข้าเตือนเจ้าว่าอย่าลืมความสัมพันธ์ว่าเป็นเครือญาติกันชั้นนี้ ส่วนตอนนี้จะให้เจ้ารู้ว่าต่อให้กวนจวินโหวเป็นผู้เยาว์ของข้าและเจ้า แต่ศักดิ์ฐานะสำคัญที่สุดของเขายังคงเป็นกวนจวินโหวที่ฮ่องเต้ทรงแต่งตั้งด้วยพระองค์เอง เขามาในตอนนี้เป็นงานราษฎร์หรืองานหลวงยังไม่แน่ชัด เจ้าเป็นขุนนางชั้นผู้น้อยขั้นห้าคนหนึ่ง จะไว้ยศไว้อย่างต่อหน้าเขาได้หรือ”

“ท่านพ่อสั่งสอนได้ถูกต้องขอรับ” โค่วป๋อไห่สงบอารมณ์ครู่หนึ่ง วางท่าทางตามสบายหากแฝงไว้ด้วยความเคร่งขรึมอยู่ในทียามเดินออกไปต้อนรับ

ประตูสีแดงเข้มเปิดออก โค่วป๋อไห่กล่าวกลั้วเสียงหัวร่อดังกังวาน “ท่านโหวมาแล้วหรือนี่ เชิญเข้าข้างใน”

เซ่าหมิงยวนส่งสายบังเหียนให้องครักษ์ด้านข้างก่อนจะสาวเท้าก้าวใหญ่เดินเข้าไป

องครักษ์ชุดสีดำสิบกว่าคนเดินตบเท้าตามหลังเขาอย่างเป็นระเบียบพร้อมเพรียงกัน

โค่วป๋อไห่ไล่สายตามองพวกองครักษ์กลับไปกลับมารอบหนึ่งอย่างห้ามไม่อยู่

“คารวะท่านลุงขอรับ” เซ่าหมิงยวนประสานมือคำนับโค่วป๋อไห่ ดวงตาสีดำสนิทนิ่งสนิทมองผ่านหน้าเขาไป

ทั้งๆ ที่ชายหนุ่มเบื้องหน้าแสดงมารยาทได้ไร้ที่ติ แต่โค่วป๋อไห่กลับรู้สึกว่าสายตาของอีกฝ่ายที่มองเขาแฝงแววเย็นเยียบจับกระดูกอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย

ความรู้สึกเหนือกว่าที่มาพร้อมกับคำเรียกว่า ‘ท่านลุง’ มลายหายไปทันใด

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "บทที่ 216"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์