CatNovel
  • หน้าหลัก
  • แทงหวย24
  • มังงะ
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • แทงหวย24
  • มังงะ
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

หวนคืนอีกครา สู่ห้วงเวลาแสนงาม - บทที่ 292

  1. Home
  2. หวนคืนอีกครา สู่ห้วงเวลาแสนงาม
  3. บทที่ 292
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

บทที่ 292

ในเรือนของเฉียวโม่ เฉียวหว่านกำลังคล้องแขนกับพี่ชายพลางพูดคุยกันอยู่ “พี่ใหญ่ หลายวันมานี้ท่านไปที่ใดมาเจ้าคะ”

“ท่านโหวไม่ได้บอกเจ้าหรือ” เฉียวโม่ไม่รู้ว่าเซ่าหมิงยวนพูดกับน้องสาวคนเล็กว่าอย่างไร เขาเลยตะล่อมถามกลับ

ดรุณีน้อยบอกออกมาเองตามคาด “บอกว่ามีหมอเทวดาคนหนึ่งมาที่เมืองหลวง ท่านไปหาหมอเจ้าค่ะ”

“ใช่แล้ว พี่ใหญ่ไปหาหมอมา”

เฉียวหว่านมองสำรวจซีกหน้าด้านซ้ายของเฉียวโม่แล้วกล่าวอย่างระมัดระวัง “แต่ดูไปแล้วไม่ต่างจากก่อนหน้านี้เลยเจ้าค่ะ”

“อย่างนั้นหรือ” เขาถามอย่างหม่นหมอง

ดรุณีน้อยเห็นพี่ชายเสียใจ นางจึงรีบปิดปากพลางสั่นศีรษะ “พี่ใหญ่ ข้าดูผิดเองเจ้าค่ะ อันที่จริงดีขึ้นตั้งมากแล้ว”

เฉียวโม่ยื่นมือไปยีศีรษะนาง “จริงหรือ”

เฉียวเจามองเห็นภาพนี้ตอนเดินตามเซ่าหมิงยวนเข้ามา

ใต้ต้นไม้สูงตระหง่านแผ่กิ่งก้านสาขาร่มรื่นในลานเรือน บุรุษชุดสีขาวลูบศีรษะดรุณีในอาภรณ์สีเรียบอย่างอ่อนโยน ดวงตาเขาเต็มไปด้วยความรักใคร่เอ็นดู เด็กหญิงตัวน้อยแหงนคอมองพี่ชายด้วยแววตาอาวรณ์ผูกพันอย่างเปี่ยมล้นเฉกเดียวกัน

ฝีเท้าของเฉียวเจาชะงักไปเล็กน้อย

เซ่าหมิงยวนอดชายตามองนางไม่ได้ จากนั้นเปล่งเสียงบอก “พี่เฉียวโม่ คุณหนูหลีมาแล้ว”

รอยยิ้มมุมปากของเฉียวโม่นิ่งค้างไป

เฉียวหว่านเหลียวหน้ามาทันที นางเห็นเซ่าหมิงยวนก็รีบวิ่งเข้าไปจับแขนเสื้อของเขาพลางเรียกขาน “พี่เขย”

เขาตบตัวนางเบาๆ อย่างยิ้มแย้ม “เจอพี่ใหญ่แล้วดีใจหรือไม่”

“ดีใจเจ้าค่ะ” เฉียวหว่านพยักหน้า นางกวาดตามองเฉียวเจาที่ยืนอยู่ข้างเซ่าหมิงยวนแล้วกล่าวทักทายอย่างไม่เต็มใจ “พี่หลี”

ไฉนคนผู้นี้มาอีกแล้ว พอเห็นอีกฝ่ายมา นางก็เริ่มไม่ชอบใจ

“น้องเฉียวหว่าน” เฉียวเจาส่งยิ้มให้นางอย่างเป็นมิตร ก้มหน้าถามว่า “ได้รับลูกม้าแล้วใช่หรือไม่”

เฉียวหว่านเชิดคางขึ้น “ได้รับแล้วเจ้าค่ะ ได้เร็วมาก เรื่องที่พี่เขยรับปากไว้ไม่เคยผิดคำพูด”

เฉียวเจาไม่กล้ามองสีหน้าในเวลานี้ของพี่ชาย นางรู้สึกประหม่าเลยชวนเฉียวหว่านพูดคุย “ดูท่าว่ามีพี่เขยเป็นเรื่องดียิ่ง”

“แน่นอนอยู่แล้วเจ้าค่ะ” เฉียวหว่านพูดจบแล้วเผยสีหน้าระแวงระวัง นางว่าแล้วเชียว คุณหนูหลีหมายตาพี่เขยอยู่ คงอิจฉาตาร้อนที่เห็นพี่เขยดีต่อนางเป็นแน่

ดรุณีน้อยจับมือเซ่าหมิงยวนไว้คล้ายประกาศความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของก็ไม่ปาน

แม้นในใจเฉียวเจาเป็นทุกข์อยู่บ้าง แต่ย่อมไม่คิดเล็กคิดน้อยกับเด็กผู้หนึ่ง นางจึงทำหน้ายิ้มๆ

“คุณหนูหลี…”

เสียงคุ้นหูดังลอยมาทางด้านข้าง เฉียวเจาแข็งเกร็งไปทั้งร่างทันใด เป็นนานก็ไม่หันหน้าไป

เฉียวโม่ซึ่งยืนห่างไปหนึ่งจั้งไม่ปริปากอีก

มาตรว่าเฉียวหว่านยังอายุน้อยก็รู้สึกได้ว่าผิดปกติอยู่บ้าง นางมองเฉียวโม่แล้วค่อยมองเฉียวเจาอีกที สุดท้ายเขย่ามือของเซ่าหมิงยวนไปมาพลางถาม “พี่เขย พี่ใหญ่กับพี่หลีเป็นอะไรไปเจ้าคะ”

“เอ่อ…” เซ่าหมิงยวนอ้าปากแต่ไม่รู้ว่าควรพูดเช่นไรดี

เขาก็อยากรู้ว่าสองคนนี้เป็นอะไรไป เหตุใดบรรยากาศระหว่างคนคู่นี้ถึงแปลกชอบกลอย่างนั้น

เซ่าหมิงยวนย่อตัวลงเสียเลย “หว่านวาน พี่เขยพาเจ้าไปเลือกลูกม้าอีกสักตัว ดีหรือไม่”

เฉียวหว่านตาเป็นประกาย “ดีเจ้าค่ะ”

เซ่าหมิงยวนยืดตัวขึ้นยืนตรงแล้วเอ่ยกับเฉียวโม่ “พี่เฉียวโม่ ข้าพาหว่านวานออกไปก่อน ถ้าท่านมีธุระกับคุณหนูหลีก็คุยกันตามสบาย”

เฉียวโม่ถึงดึงสติคืนมาในเวลานี้ เขาพยักหน้าเบาๆ

ไม่นานนักในลานเรือนเหลือแต่เฉียวเจากับเฉียวโม่สองคน

หลังจากความเงียบอันยาวนาน เฉียวเจาแย้มปากออกเป็นรอยยิ้ม “พี่เฉียว…”

“ท่านตามข้ามา” เฉียวโม่มองนางอย่างพินิจปราดหนึ่งก่อนหมุนกายออกเดินไป

สุขภาพของเขาไม่ดีอยู่แต่เดิม ครั้นสายตาของเฉียวเจาปะทะเข้ากับแผ่นหลังของบุรุษที่ดูผ่ายผอมซูบซีดลง ใจนางก็ปวดร้าวระลอกหนึ่ง

พี่ชายในอดีตผู้โดดเด่นเพียบพร้อมและงามสง่าผ่าเผย เคยอยู่ในสภาพอับจนปานนี้เมื่อไรกัน

นางก้าวขาตามไปเงียบๆ

เฉียวโม่หยุดยืนตรงบริเวณโล่งกว้างแห่งหนึ่ง การสนทนาในสถานที่เช่นนี้กลับปลอดภัยกว่า ไม่ต้องกลัวจะมีคนประสงค์ร้ายแอบฟังอยู่ในมุมลับ

เฉียวเจายืนอยู่ข้างหลังเขา

เฉียวโม่หมุนกายช้าๆ ยื่นมือมา กลางฝ่ามือคือถุงผ้าปักที่นางมอบให้เขาตอนไปที่คุกหลวงใบนั้นนั่นเอง

เฉียวเจาเม้มปาก รอกระทั่งเขาอ้าปากพูดในที่สุด

“นักปราชญ์พึงรู้เองให้แจ่มแจ้ง จึ่งสอนผู้อื่นให้รู้แจ่มแจ้ง ข้าไม่เข้าใจความหมายของประโยคนี้ คุณหนูหลีไขความกระจ่างให้ข้าได้หรือไม่”

น้ำเสียงของเฉียวโม่สงบนิ่งมาก ทำให้นางอ่านความคิดเขาไม่ออกสักนิด

ทว่าเฉียวเจาหมดทางถอยแล้ว นางเปล่งเสียงพูด “ประโยคนี้เป็นที่มาของนามข้าเจ้าค่ะ”

“ไม่รู้ว่านามของคุณหนูหลีเป็นผู้อาวุโสคนใดตั้งให้หรือ”

“ท่านปู่เจ้าค่ะ เพราะท่านอยากให้ข้ากลายเป็นคนเช่นนี้” สุ้มเสียงของนางเริ่มสั่นเครือ

เฉียวโม่มองนางอย่างค้นหา “แล้วอาชูเล่า”

เฉียวเจาหลับตาลง กล่าวเสียงแผ่วเบา “ท่านย่าเจ้าค่ะ เพราะท่านย่าจะล้อเลียนท่านปู่ จงใจพูดว่าตัวอักษร ‘เจา’ ในชื่อข้าควรจะตีความหมายตามถ้อยคำว่า ‘แสงตะวันจันทราแจ่มกระจ่าง’ ถึงตั้งชื่อแรกเกิดให้ข้าว่า ‘อาชู’ ที่หมายถึงแรกรุ่ง”

“คุณหนูหลี ยาลูกกลอนสีเขียวขมมาก” เฉียวโม่กล่าวเนิบๆ

ขอบตาของเฉียวเจาร้อนผ่าว แต่นางฝืนกลั้นน้ำตาไว้ เผยรอยยิ้มซุกซนพร้อมกับพูดอย่างชัดถ้อยชัดคำ “พี่เฉียวดวงไม่ดีจริงๆ เม็ดสีเขียวใส่หวงเหลียนเจ้าค่ะ”

สิ้นเสียงนาง เฉียวโม่สืบเท้าขึ้นหน้าครึ่งก้าว จ้องมองนางจนตาไม่กะพริบ

ในใจเฉียวเจาตื่นเต้นถึงขีดสุด

พี่ใหญ่ความจำดีเหมือนนาง เขาต้องไม่ลืมเลือนคำสนทนาระหว่างสองพี่น้องเมื่อสิบกว่าปีก่อนนี้แน่นอน

ถ้าถึงเพียงนี้แล้วพี่ใหญ่ยังคงไม่เชื่อ นางก็หมดปัญญาแล้วจริงๆ

พอเห็นเฉียวโม่ไม่พูดไม่จาเสียที เฉียวเจาฮึดขึ้นมา เป็นฝ่ายทำลายความเงียบที่ชวนให้อึดอัดเอง “ข้าทำยาลูกกลอนเป็นสีรุ้ง ยังนึกว่าพี่เฉียวไม่กล้ากินเจ้าค่ะ”

เฉียวโม่มองนางนิ่งๆ เสียงพูดเบาหวิวดุจเสียงกระซิบลอยมากระทบหูเฉียวเจาในที่สุด “คนอื่นไม่กล้ากิน พี่ใหญ่กล้ากิน ขอเพียงน้องสาวของพี่เป็นคนทำ”

ตรงกลางอกของเฉียวเจาสั่นสะท้านวูบหนึ่ง นางเดินขึ้นหน้าหนึ่งก้าวอย่างห้ามใจไม่อยู่ “พี่ใหญ่?”

เฉียวโม่กางแขนออก “เจาเจา”

ณ เสี้ยวขณะนี้ความวิตกกังวลและทุกข์ทนทรมานทั้งหลายแหล่หาที่ระบายออกได้แล้ว หญิงสาวโผเข้าสู่อ้อมอกพี่ชายกอดเขาไว้เต็มแรง นางร่ำไห้สุดเสียงอย่างเศร้าโศกเสียใจ

เฉียวโม่กอดน้องสาวราวกับโอบอุ้มสมบัติล้ำค่าที่หายไปแล้วได้คืนมาอย่างทะนุถนอม ปล่อยให้นางร้องไห้ให้สาแก่ใจ

“พี่ใหญ่ ข้านึกว่าท่านยังคงไม่เชื่อข้า…”

“เด็กโง่ เจ้าเด็กโง่คนนี้” เฉียวโม่ลูบผมน้องสาวเบาๆ ทีแล้วทีเล่า พูดแทบไม่เป็นภาษา

น้องสาวคนโตร้องไห้โฮๆ อย่างควบคุมตัวไม่อยู่ ส่วนจิตใจของเขาจะไม่สับสนยุ่งเหยิงได้หรือ

เขามีเรื่องมากมายอยากถามนาง แล้วก็มีเรื่องมากมายอยากบอกนาง แต่ตอนนี้นอกจากเรียกนางว่า ‘เด็กโง่’ แล้ว กลับเอื้อนเอ่ยคำใดออกจากปากไม่ได้เลย

สองพี่น้องสวมกอดกันเนิ่นนาน เฉียวเจาถึงขืนตัวออกจากอ้อมแขนของพี่ชายอย่างเก้อเขิน เห็นสายตาของเขาทั้งอ่อนโยนและเอ็นดูเต็มที่ก็อดนึกไปถึงวาจาถากถางก่อนหน้านี้พวกนั้นไม่ได้ นางกล่าวอย่างน้อยใจ “พี่ใหญ่ไม่ช่างสังเกตเท่าท่านปู่หลี่เลย ท่านปู่หลี่จำข้าได้ตั้งนานแล้ว”

นางรู้ว่าไม่ควรต่อว่าต่อขาน แต่กลับทนไม่ไหว ใครใช้ให้เขาเป็นพี่ชายนางเล่า

“พี่ใหญ่โง่เขลาเอง เพิ่งจำน้องสาวได้ตอนนี้” ขณะนี้เฉียวโม่มีเพียงความปีติยินดีเต็มหัวใจ ไหนเลยจะใส่ใจกับคำพูดตัดพ้อเล็กๆ น้อยๆ เท่านี้

สองพี่น้องต่างมองอีกฝ่ายโดยไม่ละสายตา สุดท้ายก็หัวเราะให้กันอย่างขบขัน

ผ่านไปนานพักหนึ่ง ทั้งคู่อ้าปากพูดพร้อมกัน

“เรื่องไฟไหม้ในเรือนมันเป็นอย่างไรกันแน่เจ้าคะ”/ “เจ้ากลายเป็นเช่นนี้ได้เช่นไร”

เขากับนางชะงักไป จากนั้นกล่าวประสานเสียงกันอีก

“ท่านพูดก่อน”/ “เจ้าพูดก่อน”

เฉียวเจาเพียงรู้สึกว่านับแต่ฟื้นคืนชีพเป็นต้นมาไม่เคยเบิกบานใจเท่านี้มาก่อน นางกลั้นยิ้มไม่อยู่ “เช่นนั้นข้าเป็นคนพูดก่อนเจ้าค่ะ”

นางเล่าเหตุการณ์ตอนถูกเซ่าหมิงยวนยิงธนูปลิดชีพแล้วลืมตาขึ้นอีกครั้งก็กลายเป็นแม่นางน้อยหลีเจาอย่างละเอียดยิบ

ผ่านไปนานเท่าไรก็สุดรู้ เฉียวเจาเล่าจบในที่สุด เฉียวโม่ยื่นมือไปลูบผมนางอย่างอดใจไม่อยู่ “ดีที่สวรรค์มีตา…”

ในยามนี้เองเสียงอุทานของดรุณีน้อยลอยมาจากไกลๆ “พี่ใหญ่!”

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "บทที่ 292"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์