CatNovel
  • หน้าหลัก
  • แทงหวย24
  • มังงะ
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • แทงหวย24
  • มังงะ
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

หวนคืนอีกครา สู่ห้วงเวลาแสนงาม - บทที่ 420

  1. Home
  2. หวนคืนอีกครา สู่ห้วงเวลาแสนงาม
  3. บทที่ 420
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

บทที่ 420

กับสือซีและฉงซานล้วนเรียกขานว่า ‘พี่’ ตอนนี้ยังมีพี่จูโผล่มาอีกคน ทีเขากลับเอาแต่เรียก ‘แม่ทัพเซ่า’

แม่ทัพหนุ่มชักไม่พึงใจ

ในเมื่อเป็นอย่างนี้ก็จับเจ้าสองคนที่เป็นหางตามหลังข้ากับนางมาหลายวันออกมาจัดการเถอะ

“เจาเจา อย่าเสียใจเลย หากเรื่องท่านอาจูไม่ใช่อุบัติเหตุ เช่นนั้นการตายของท่านต้องเกี่ยวข้องกับพวกเจ้าเมืองหลี่อย่างหนีไม่พ้น ช้าเร็วพวกเราก็ต้องจัดการคนพวกนี้มิใช่หรือ”

เฉียวเจาพยักหน้า

เซ่าหมิงยวนลอบพิศดูเสี้ยวหน้าด้านข้างของนาง ในใจคิดคำนึงอย่างขัดเคืองพอดู พี่จูผู้นั้นเป็นสหายสมัยวัยเยาว์กับเจาเจาใช่หรือไม่

ส่วนสหายของเขาไม่มีเด็กหญิง มีแต่เด็กชาย ซ้ำยังมีถึงสามคน…

หญิงสาวรับรู้ได้ถึงสายตาพินิจของบุรุษข้างกาย นางเบนหน้ามองเขาด้วยสายตาแกมฉงน

เซ่าหมิงยวนกระแอมกระไอเบาๆ “วันนี้จับหางที่ตามหลังออกมาเถอะ ถึงเวลาทำให้ฝ่ายนั้นร้อนใจสักหน่อยแล้ว”

สหายเก่าของสกุลเฉียวก็เยี่ยมคารวะจนครบหมดแล้ว นอกจากสมุดบัญชีจากเบาะแสที่ได้จากสกุลเซี่ยเล่มนั้นก็ไม่พบอะไรที่เป็นประโยชน์จากสกุลอื่นๆ เลย ฉะนั้นถึงเวลาที่พวกเขาต้องพลิกจากฝ่ายรับเป็นฝ่ายรุกแล้ว

ถนนในชนบทมีคนผ่านไปผ่านมาบางตา ต้นไม้สองข้างทางสูงใหญ่แน่นขนัด แม้นล่วงเข้าฤดูใบไม้ร่วงแล้วยังร่มรื่นชุ่มชื้น พฤกษชาติในฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาวของแดนใต้คงความเขียวชอุ่มไว้ดุจเดิม

เซ่าหมิงยวนก้มตัวลงเก็บก้อนหินสองสามก้อนขึ้นมาหมุนคลึงในมือเล่นๆ

“หางแรกอยู่หลังต้นอิ๋นซิ่ง* ซ้ายมือด้านหลังเรา” เขายื่นหน้าไปกระซิบบอกข้างหูเฉียวเจา “ส่วนหางที่สองเจ้าเล่ห์กว่า เจาเจาเดาได้หรือไม่ว่าตอนนี้เขาซ่อนตัวอยู่ที่ใด”

ริมใบหูมีเสียงแผ่วเบาของบุรุษคละเคล้าเสียงซู่ซ่าของใบไม้ต้องลม เฉียวเจาหลับตาลงอึดใจหนึ่งก็บังเกิดปฏิภาณโดยพลัน “บนต้นไม้?”

เซ่าหมิงยวนอมยิ้มพลางพยักหน้า เจาเจาของเขาฉลาดน่ารักดังคาด

นางชะงักฝีเท้า “เจ้าหางนั่นอยู่บนต้นไม้ นี่มิแสดงว่าเขาดักซุ่มอยู่ตรงนั้นแต่แรกหรือไร หรือว่าเขาตั้งใจจะจัดการพวกเราวันนี้”

เซ่าหมิงยวนยกยิ้มอย่างไม่เดือดเนื้อร้อนใจ “วันนี้พวกเราอยู่ในเรือนสกุลจูเป็นเวลานานไปบ้าง นานกว่าไปที่เรือนสกุลอื่นๆ อยู่มาก สงสัยว่าคนบางคนจะเป็นวัวสันหลังหวะ คิดจะชิงลงมือก่อน”

เขากล่าวถึงตรงนี้แล้วสีหน้าแปรเปลี่ยนเป็นปึ่งชา ดวงตาทอแววเย็นเยียบราวกับฉาบด้วยน้ำค้างแข็ง เขาพูดกลั้วเสียงหัวร่อในลำคอ “คงรู้สึกว่าข้ากวนจวินโหวผู้นี้ไม่สมคำเล่าลือกระมัง เจาเจา คอยดูนะ ข้าจะจับหางสองตัวนั่นออกมาให้เจ้าเอง”

เฉียวเจาฟังแล้วอมยิ้มน้อยๆ “แม่ทัพเซ่าช่างพูดได้อย่างง่ายดายนัก ทำให้ข้านึกถึงเรื่องสมัยเด็กๆ”

“หือ?”

“ตอนนั้นท่านอาจูจะพาพี่จูมาเล่นที่สวนซิ่งจื่อบ่อยๆ พี่จูชอบที่ใช้ไม้ง่ามยิงนกกระจอกก็มักพูดอย่างนี้เสมอ”

แม่ทัพหนุ่มทำหน้าตึง “อือ อย่างนั้นหรือ”

ยิงนกกระจอก?

นี่มีอันใดน่าโอ้อวดต่อหน้าดรุณีน้อย ยิงนกกระจอกได้แล้วยังเอามาย่างกินเพื่อประจบเอาใจนางด้วยใช่หรือไม่

เซ่าหมิงยวนแน่ใจเป็นคำรบที่สองว่าเขาไม่ชอบพี่จูผู้นั้นแม้แต่น้อยนิด!

แม่ทัพหนุ่มนึกอิจฉาริษยาอยู่ในใจ เขายกมือดีดหินก้อนหนึ่งไปทางซ้ายมือด้านหลังเต็มแรง

พอเสียงร้องโอดโอยดังขึ้น เขาซัดก้อนหินในมือทั้งหมดไปบนต้นไม้เบื้องหน้าไม่ไกลด้วยสีหน้านิ่งสนิท

หินหลายก้อนนั้นลอยพุ่งไปไม่พร้อมกันดูเหมือนขว้างออกมาตามใจชอบ ทว่าคนที่ซ่อนตัวอยู่บนต้นไม้กลับตื่นตกใจเมื่อพบว่าพวกมันล้วนเล็งตามจุดอ่อนร้ายแรงบนตัวเขา เขาคิดจะหลบหลีกก็ต้องกระโดดลงจากต้นไม้เผยตัวออกมา

ท่าทีโต้ตอบของยอดฝีมือเกิดขึ้นในชั่วลัดนิ้วมือ คนผู้นั้นตัดสินใจอย่างฉับไว กระโดดลงจากเหนือยอดไม้ทิ้งตัวลงตรงหน้าเฉียวเจากับเซ่าหมิงยวนพอดี

“เจาเจา อยู่เฉยๆ” เซ่าหมิงยวนกล่าวคำนี้ทิ้งท้ายไว้ก่อนชักดาบยาวตรงเอวออกมา ประกายดาบคมกริบโอบล้อมอีกฝ่ายไว้ในพริบตา

ทั้งคู่เริ่มต่อสู้กันพัลวัน

ผู้คนประปรายตามถนนเห็นแล้วรีบหลบไปอยู่ไกลๆ หวาดหวั่นสุดใจว่าเภทภัยจะมาเยือนตนเอง

ส่วนเรื่องแจ้งทางการ? อย่าล้อเล่น ดูจากฝีมือของคนพวกนี้ ต่อให้เจ้าหน้าที่ในที่ว่าการพวกนั้นมาแล้วก็เปล่าประโยชน์ ดีไม่ดียังจะกล่าวโทษว่าคนที่แจ้งทางการยุ่งไม่เข้าเรื่องอีกด้วย

คนบนถนนหนีไปกันหมดแล้ว เหลือเฉียวเจายืนมองคนสองคนที่สู้กันอย่างดุเดือดอยู่ไม่ไกล มือที่ห้อยลงข้างลำตัวของนางกำแน่นโดยไม่รู้ตัว

เป็นคนในภาพวาด!

นี่ก็คือฆาตกรที่สังหารคนในครอบครัวนาง

ร่างกายที่แข็งเกร็งของเฉียวเจาสั่นระริกละม้ายใบไม้ร่วงปลิวใบหนึ่ง

คนผู้นี้ปรากฏตัวในที่สุด เขาประมือกับเซ่าหมิงยวนแล้วดูท่าทางไม่ตกเป็นรองเลยทีเดียว

เป็นคราครั้งแรกที่นางเห็นคนที่มีฝีมือเชิงยุทธ์ทัดเทียมเซ่าหมิงยวนได้

วรยุทธ์ของคนผู้นี้สูงส่งกว่าที่นางคิดไว้ทีแรก เจ้าเมืองผู้หนึ่งมียอดฝีมือชั้นนี้อยู่ข้างกายเป็นเรื่องน่าประหลาดใจดีแท้

สายตาที่มองไปทางชายหนุ่มของเฉียวเจาฉายแววห่วงใยโดยไม่เก็บงำ

ถึงแม้นางเชื่อว่าบุรุษผู้นั้นต้องไม่เป็นอะไร แต่ก็ยังอดเป็นห่วงไม่ได้

สติอาจควบคุมอารมณ์ได้ แต่ทำให้ความเป็นห่วงหายไปไม่ได้

แม่นางเฉียวคิดคำนึงว่านี่ก็คือพะวักพะวนจนเสียการกระมัง

เสียงความเคลื่อนไหวแผ่วเบาดังลอยมา นางหันไปมองต้นเสียง เห็นสายสืบที่โดนเซ่าหมิงยวนดีดหินใส่จนหมอบอยู่บนพื้นก่อนหน้านี้ค่อยๆ คืบคลานห่างไปอีกทางทีละนิดๆ ทิ้งรอยเลือดไว้เป็นทางอยู่ด้านหลัง

เฉียวเจาหรี่ตาลง บาดเจ็บถึงเพียงนี้แล้วยังคิดจะหลบหนีอีกหรือ

นางหันไปมองชายหนุ่มแวบหนึ่ง เวลานี้อย่าทำให้เขาว่อกแว่กจะดีกว่า นางยังจัดการกับบุรุษเจ็บหนักผู้หนึ่งได้ไหว

แม่นางเฉียวเหลียวมองรอบด้านก่อนจะหยิบหินก้อนหนึ่งขึ้นมา จากนั้นยกชายกระโปรงเดินหลบรอยเลือดบนพื้นแล้วสาวเท้าเร็วรี่ไปหาสายสืบที่กำลังหนีเอาชีวิตรอด

“โปรดรอสักครู่เจ้าค่ะ” แม่นางเฉียวร้องเรียก

สุ้มเสียงของเด็กสาวอ่อนหวานนุ่มนวลคลับคล้ายลมวสันต์เจือกลิ่นดอกไม้ในเดือนสาม

สายสืบที่บาดเจ็บสาหัสเหลียวหลังโดยไม่ทันคิด

แม่นางเฉียวเงื้อมือเอาก้อนหินทุบศีรษะคนผู้นั้นอย่างใจเย็น

พอเห็นเขาล้มฟุบแน่นิ่งไปอยู่ตรงปลายเท้า เฉียวเจาระบายลมหายใจเฮือกหนึ่ง หมุนกายไปด้วยสีหน้าเฉยเมย

เซ่าหมิงยวนซึ่งต่อสู้กับหลิวหู่อยู่ดูเหมือนจดจ่อเต็มที่ แท้จริงแล้วเขาแบ่งสมาธิหลายส่วนคอยจับสังเกตเฉียวเจาอยู่ตลอด

เขามั่นใจว่าหางแรกที่โดนเขาเล่นงานไปถ้าไม่ตายก็อาการร่อแร่ ไม่มีทางทำอันตรายเฉียวเจาได้ แต่คิดไม่ถึงว่าเด็กสาวที่สงบเสงี่ยมผู้นั้นจู่ๆ จะเดินเข้าไปเอาหินทุบศีรษะสายสืบที่คิดหลบหนีจนสลบเหมือด

นึกถึงท่าทางที่นางใช้ก้อนหินทุบศีรษะคนแล้วค่อยมองดูสีหน้าไม่รู้ไม่ชี้ของนางในขณะนี้ เซ่าหมิงยวนยกมุมปากโค้งขึ้น เขาพลันเอี้ยวกายทำทีเปิดช่องโหว่แล้วจู่โจมจับตัวหลิวหู่ไว้ได้ในกระบวนท่าเดียว

เขาเงื้อดาบฟันเส้นเอ็นข้อมือของอีกฝ่ายจนขาดสะบั้นเป็นอันดับแรก ตามมาด้วยดึงกรามให้หลุดออกทันที

เฉียวเจาเดินด้วยฝีเท้าเป็นจังหวะไปตรงหน้าเซ่าหมิงยวน สายตาที่จ้องมองหลิวหู่เย็นชาดุจน้ำแข็ง

เมื่อครั้งที่คนผู้นี้ติดตามเจ้าเมืองหลี่ไปเยี่ยมคารวะท่านปู่ของนาง เขาเงียบขรึมไม่ช่างพูดเหมือนไม่มีตัวตนอยู่สักนิดเฉกเช่นองครักษ์ผู้ปฏิบัติหน้าที่อย่างซื่อสัตย์

ในสกุลเฉียวมีจำนวนคนไม่มาก ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันตามสบาย ตอนนั้นอาหารที่ท่านย่าตระเตรียมให้คนผู้นี้ไม่ด้อยไปกว่าโต๊ะใหญ่ สาวใช้อาวุโสข้างกายของท่านย่าเห็นเขากินอย่างเอร็ดอร่อยยังยกข้าวมาให้อีกหลายชามเป็นพิเศษ

ยามที่คนผู้นี้ลงมือสังหารบิดามารดาและญาติพี่น้องของนางเคยคิดถึงสิ่งเหล่านี้หรือไม่

ย่อมไม่ได้คิดเป็นธรรมดา เดรัจฉานที่สูญสิ้นความเป็นมนุษย์ไปแล้วจะมีเวลาจดจำว่าตนเองเป็นคนได้อย่างไรเล่า

เมื่อเห็นสีหน้าของเฉียวเจาผิดปกติไป เซ่าหมิงยวนตบแขนนางเบาๆ “เจาเจา มีเรื่องอะไรกลับไปค่อยว่ากัน”

นางดึงความคิดคืนมาแล้วพยักหน้าแรงๆ

ในเมื่ออดทนมาได้ตั้งนานปานนี้ นางย่อมรอต่อไปไหวแน่นอน

* ต้นอิ๋นซิ่ง หมายถึงต้นแปะก๊วย

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "บทที่ 420"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์