CatNovel
  • หน้าหลัก
  • แทงหวย24
  • มังงะ
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • แทงหวย24
  • มังงะ
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

หวนคืนอีกครา สู่ห้วงเวลาแสนงาม - บทที่ 450

  1. Home
  2. หวนคืนอีกครา สู่ห้วงเวลาแสนงาม
  3. บทที่ 450
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

บทที่ 450

คนเรือที่เฝ้าอยู่ด้านข้างเชือกผูกเรือสองคนกำมีดเล่มเล็กในมือแน่น เมื่อเกิดเหตุพลิกผันพวกเขาจะตัดเชือกขาดทันทีทันใดตามคำสั่งของเซ่าหมิงยวน

เยี่ยลั่วกระโดดขึ้นไปบนเรือแล้วย่องเข้าไปด้านในตัวเรือด้วยความว่องไวปราดเปรียว ไม่ทำเสียงดังแม้แต่น้อยนิด

เฉินกวงกระซิบที่ข้างหูเซ่าหมิงยวน “เยี่ยลั่วเข้าไปในตัวเรือแล้ว ไม่รู้จะพบอะไรหรือไม่”

เซ่าหมิงยวนเม้มปากไม่กล่าววาจา เขาย่อมต้องรู้ว่าเฉินกวงกำลังเล่าความเคลื่อนไหวของเยี่ยลั่วให้เขาฟังอยู่ แต่ดวงตาที่มองไม่เห็นสร้างความยุ่งยากลำบากให้เขามากกว่าที่คาดคิดไว้ในตอนแรก คล้ายดั่งวิหคโผบินที่ถูกเด็ดปีกกะทันหัน มันเป็นเรื่องโหดร้ายฉะนี้นี่เอง

ผ่านไปสองเค่อเต็มๆ ขณะที่ทุกคนเฝ้ารออยู่อย่างกระสับกระส่าย เยี่ยลั่วก็ปรากฏขึ้นเบื้องหน้าสายตาพร้อมกับแบกคนคนหนึ่งไว้บนหลัง

เยี่ยลั่วมีวรยุทธ์ยอดเยี่ยมที่สุดในหมู่องครักษ์ของเซ่าหมิงยวน ถึงแบกคนไว้อีกคนบนหลังยังเคลื่อนไหวได้คล่องแคล่วฉับไวสุดจะเปรียบ เขากระโดดขึ้นมาบนเรืออย่างรวดเร็ว

“เหตุการณ์เป็นอย่างไรบ้าง” เซ่าหมิงยวนถามด้วยสีหน้าเรียบเฉย

“ท่านแม่ทัพ บนเรือลำนั้นมีคนทั้งสิ้นสิบแปดคน นอกจากคนที่ข้าแบกกลับมาคนนี้ คนอื่นล้วนจบชีวิต ทั้งหมดตายเพราะบาดแผลจากคมดาบ” เยี่ยลั่ววางตัวคนที่แบกกลับมาลง กล่าวรายงานต่อว่า “คนผู้นี้มีแผลบนหัวไหล่ แต่เสื้อผ้าบนตัวแห้งแข็ง น่าจะเคยตกลงไปในน้ำ ข้าลองตรวจดูแล้วเขายังมีลมหายใจเบาๆ”

“ข้าดูเอง” เฉียวเจาสาวเท้าเข้าไป ย่อตัวลงตรวจอาการคนที่เยี่ยลั่วแบกกลับมา

คนที่นอนตรงพื้นเรือมีอายุราวสามสิบเศษ เรือนกายสูงใหญ่ บาดแผลบนหัวไหล่เป็นสีขาวซีด สองตาปิดสนิท ลมหายใจอ่อนรวยริน

เฉียวเจาหยิบยาลูกกลอนเม็ดหนึ่งในถุงผ้าปักยัดใส่ปากเขา จากนั้นใช้เข็มเงินฝังจุดชีพจร

เวลาหนึ่งก้านธูป* ให้หลัง คนผู้นั้นค่อยๆ ฟื้นขึ้น

เขาลืมตาขึ้น หลังจากหายงุนงงในตอนแรกก็มองเห็นพวกหยางโฮ่วเฉิงได้ชัดเจน เขาขยับตัวจะลุกขึ้น แต่ก็จนใจที่อ่อนแรงไปทั้งกายจึงล้มกลับลงไปบนพื้นเรือ

“พวกเจ้าเป็นใคร…” เขายกมือคลำไปที่เอวก็ว่างเปล่าไม่พบสิ่งใด จึงเอ่ยถามด้วยสีหน้าระแวดระวัง

“พวกข้าเป็นใคร เจ้าไม่รู้หรือนี่” ฉือชั่นมุ่นคิ้ว

คนผู้นั้นทำหน้างงงัน “ข้าจะรู้ได้อย่างไร”

ฉือชั่นแค่นเสียงเยาะ “ก็ต้องเป็นผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตเจ้าน่ะสิ หากมิใช่พวกข้าช่วยเจ้ามาจากเรือลำนั้น เจ้านึกว่าตอนนี้เจ้ายังมีชีวิตอยู่อีกหรือ”

เขาตะลึงงันแล้วมองไปรอบๆ อย่างลุกลน พบว่าคนที่รายล้อมตนเองอยู่ล้วนเป็นชายหนุ่มตัวโตสูงใหญ่ จากนั้นก้มหน้ามองที่หัวไหล่ทันที บาดแผลตรงนั้นมีผ้าพันไว้ลวกๆ เรียบร้อยแล้ว

คนผู้นั้นนิ่งอึ้ง แววระแวดระวังภัยในดวงตาเลือนหายไป เขากล่าวอย่างซาบซึ้ง “ขอบคุณผู้กล้าทุกท่านที่ช่วยชีวิตข้าไว้”

“ถ้อยคำตามมารยาทไม่จำเป็นต้องพูดมากแล้ว บอกมาสิว่าเจ้าเป็นใคร” ฉือชั่นเอ่ยอย่างหงุดหงิด

“ข้า…” เขาอ้าปากออกแล้วขมวดคิ้วอย่างทรมาน “ขอน้ำให้ข้าดื่มก่อนได้หรือไม่”

“ได้ น้ำ” หยางโฮ่วเฉิงบุ้ยใบ้บอกให้องครักษ์จินอู๋ผู้หนึ่งส่งกระบอกน้ำให้เขา

คนผู้นั้นยื่นมือรับไว้กลับพบว่ามือไม่มีแรง เขามองไปทางหยางโฮ่วเฉิงคล้ายขอความช่วยเหลือ

หยางโฮ่วเฉิงรับกระบอกน้ำมาอย่างปลงตก ยื่นไปจ่อข้างปากอีกฝ่ายป้อนน้ำให้พลางรำพึงในใจ ช่วยคนแล้วยังต้องเป็นบ่าวปรนนิบัติรับใช้นายท่านอีก

ทั้งที่ถิงเฉวียนกับสือซีก็อยู่ด้วย ไฉนคนผู้นี้หันมาหาเขาเล่า เห็นเขาพูดง่ายใช่หรือไม่

คนผู้นั้นดื่มน้ำเสร็จ หยางโฮ่วเฉิงไต่ถามขึ้นว่า “ตอนนี้พูดได้แล้วกระมัง”

เขาพูดอย่างกระดากใจ “จะให้ข้ากินอะไรเล็กๆ น้อยๆ ได้หรือไม่”

“เจ้ากินโจ๊กได้อย่างเดียว” เสียงของเฉียวเจาดังขึ้น นางบอกกับอาจู “ไปยกโจ๊กที่ห้องครัวมาให้เขาชามหนึ่ง”

เขากินโจ๊กแล้วเอ่ยปากบอกในที่สุด “พวกข้า…พวกข้าเป็นพ่อค้าเดินเรือ…ปรากฏว่าเจอกับชาววอโค่ว พวกนั้นกระโดดลงเรือพวกข้าแล้วสังหารพวกพี่น้องของข้าจนเกลี้ยง…”

“พ่อค้าเดินเรือ?” ฉือชั่นเลิกคิ้วสูง “ต้าเหลียงบัญญัติกฎไว้ว่าห้ามสามัญชนทำการค้าขายทางทะเลด้วยตนเอง ไม่ถูกสิ แม้แต่เรือสำเภาของทางการยังหยุดจอดมาหลายปีแล้ว จะมีพ่อค้าเดินเรือจากที่ใดกัน”

คนผู้นั้นหน้าเสีย พูดจาอึกๆ อักๆ “คุณชายต้องมิใช่คนทางทิศใต้กระมัง เดี๋ยวนี้มีพ่อค้าเดินเรือเช่นพวกข้านี้อยู่ถมเถไป…”

“เจ้าบอกมาก่อนว่าเจ้าหนีรอดจากชาววอโค่วได้อย่างไร ในเมื่อพี่น้องของเจ้าเหล่านั้นต่างสิ้นชีพใต้คมดาบ มีแต่เจ้าที่บาดเจ็บเล็กน้อยที่หัวไหล่” สุ้มเสียงเยือกเย็นของสตรีดังขึ้น

คนผู้นั้นกลอกตามองไปทางเฉียวเจา ดวงตาเขาทอประกายวูบหนึ่งก่อนเอ่ยอธิบาย “ชาววอโค่วพวกนั้นร้ายกาจเหลือเกิน หลังข้าบาดเจ็บที่หัวไหล่ เห็นสถานการณ์ไม่เข้าทีก็กระโดดลงทะเล ซ่อนตัวอยู่ในน้ำรอพวกวอโค่วจากไปแล้วถึงปีนขึ้นเรือ ข้าฟื้นขึ้นอีกทีก็อยู่ที่นี่แล้ว”

“บนเรือเจ้าลำเลียงสินค้าอะไร” เฉียวเจาถามต่อ

เขาทำตาหลุกหลิก “เครื่องกระเบื้อง…”

“มิใช่กระมัง คนของพวกข้าไปตรวจดูเรือของพวกเจ้าแล้วไม่เจอเครื่องกระเบื้องนะ”

“คงถูกชาววอโค่วปล้นไปหมดแล้วเป็นแน่” เขากล่าวโวยวายด้วยสีหน้าโกรธแค้น

เฉียวเจายืนก้มลงมองบุรุษที่นอนบนพื้นเรือตาเขม็ง จู่ๆ นางก็ย่อกายลงพูดด้วยน้ำเสียงไร้อารมณ์ใด “เจ้าโกหก”

รูม่านตาของคนผู้นั้นหดแคบลง “นี่คุณหนูหมายความว่าอะไร”

“ตอนเจ้าหมดสติอยู่ ข้าซักถามคนของพวกข้าที่ขึ้นไปตรวจดูบนเรือแล้ว ใต้ท้องเรือของพวกเจ้าไม่มีพวกเศษฟางหรือแกลบตกหล่นอยู่สักนิด ดังนั้นสินค้าของพวกเจ้าต้องไม่ใช่เครื่องกระเบื้องแน่”

เครื่องกระเบื้องล้ำค่าแตกหักง่าย เวลาขนส่งมักใส่ของกันกระแทกเช่นฟางข้าวหรือแกลบไว้ในหีบจนเต็ม ถ้าคนพวกนี้เป็นพ่อค้าเดินเรือที่ค้าขายเครื่องกระเบื้อง จะไม่มีเศษฟางข้าวหรือแกลบจากการลำเลียงสินค้ามานานเป็นเดือนเป็นปีตกหล่นอยู่เลยได้อย่างไร

คนผู้นั้นได้ยินเฉียวเจากล่าวเช่นนี้ก็รีบเปลี่ยนคำพูด “เป็นข้าจำผิดเอง ช่วงนี้พวกข้าหันไปขายแพรพรรณแล้ว…”

เฉียวเจาโบกมือตัดบทเขาแล้วลุกขึ้นยืนทันที นางเอ่ยถามตามสบาย “เจ้ารู้หรือไม่ว่าเพราะอะไรพวกข้าช่วยเจ้าขึ้นมาแล้ววางตัวเจ้าไว้บนพื้นเรืออยู่ตลอด”

น้ำเสียงของเด็กสาวฟังดูเรื่อยเฉื่อย คนผู้นั้นกลับไม่กล้าไม่ตอบ เขาคิดๆ แล้วเอ่ยถาม “เพราะตัวข้าสกปรกเกินไป กลัวจะทำให้ผ้าปูเตียงเลอะเทอะใช่หรือไม่…”

นางยิ้มน้อยๆ ส่ายหน้ากล่าวว่า “ไม่ใช่ เพราะเช่นนี้พวกข้าโยนเจ้าลงทะเลเป็นอาหารปลาได้สะดวกต่างหาก”

เมื่อถ้อยคำนี้ดังขึ้นสีหน้าของคนผู้นั้นเปลี่ยนไปทันใด

หยางโฮ่วเฉิงเบิกตากว้างอย่างตะลึงลาน เขานึกในใจ ถ้อยคำน่ากลัวเช่นนี้ คุณหนูหลีพูดออกมาหน้าตาเฉยอย่างนี้จะดีจริงๆ หรือ

โอยๆๆ ไม่รู้ว่าหญิงสาวคนอื่นจะเป็นเช่นนี้เหมือนกันหรือไม่

ฉือชั่นยกมุมปากโค้งขึ้น ทำสีหน้าเห็นพ้องด้วย

เซ่าหมิงยวนหลุบตาลงไม่พูดไม่จา ทว่ามีเสียงหัวเราะแผ่วๆ ดังลอดจากริมฝีปาก

“คุณหนู ท่านอย่าพูดล้อเล่น…”

“ข้าไม่เคยพูดล้อเล่น ข้าเอาจริงเอาจังมาก แต่ไรมาข้าพูดคำใดคำนั้น” เฉียวเจาเบนหน้ามองไปทางเซ่าหมิงยวน “พี่เซ่า ขอยืมคนจากท่านสักคนจะได้หรือไม่”

“ได้แน่นอน” ชั่วพริบตาที่ได้ยินคำเรียกขานว่า ‘พี่เซ่า’ ถึงแม้จะรู้ว่าเฉียวเจาทำไปเพื่อป้องกันมิให้ฐานะของเขาถูกเปิดเผยต่อหน้าผู้อื่น ในใจเซ่าหมิงยวนยังคงอบอุ่น แต่ไม่ได้แสดงออกทางสีหน้าแต่อย่างใด

แม่นางเฉียวลอบขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน

เจ้าคนบ้า แสร้งทำได้แนบเนียนนักนะ

นางกลับอยากดูว่าเขาจะเสแสร้งกับนางไปถึงเมื่อไร

ไฟโทสะที่เกิดขึ้นเพราะคนบางคนทำให้น้ำเสียงของเฉียวเจาปึ่งชายิ่งขึ้น “เยี่ยลั่ว ยกตัวคนผู้นี้ขึ้น ข้าจะถามเขาอีกคำ ขอเพียงเขาโกหก เจ้าโยนตัวเขาลงทะเลไปเลย”

“ขอรับ” เยี่ยลั่วยกตัวคนผู้นั้นขึ้นด้วยมือเดียวโดยไม่ชักช้ารีรอ

* หนึ่งก้านธูป เป็นคำเรียกเวลาโดยประมาณของคนจีนโบราณ บางตำราว่าประมาณครึ่งชั่วโมง บางตำราว่า 1 ชั่วโมง

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "บทที่ 450"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์