CatNovel
  • หน้าหลัก
  • แทงหวย24
  • มังงะ
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • แทงหวย24
  • มังงะ
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

หวนคืนอีกครา สู่ห้วงเวลาแสนงาม - บทที่ 453

  1. Home
  2. หวนคืนอีกครา สู่ห้วงเวลาแสนงาม
  3. บทที่ 453
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

บทที่ 453

เฉียวเจากล่าวอย่างนี้หาใช่เป็นการปลอบใจแต่ประการเดียว สำหรับคนป่วยแล้วการคิดไปในด้านดีเป็นสิ่งสำคัญมาก

“อื้อ ข้ารู้สึกเช่นกันว่าอีกไม่นานก็จะหายดีแล้ว” เซ่าหมิงยวนพูดด้วยรอยยิ้มบางๆ

นางจ้องหน้าเขา

เบื้องหน้าสายตาคือความมืดมิด เป็นเรื่องที่ทำให้คนสิ้นหวังได้ยิ่งกว่าแขนขาด้วนนัก ถึงเวลานี้แล้ว เขายังหันมาเป็นฝ่ายปลุกปลอบนางอีก

เฉียวเจาบรรยายความรู้สึกในใจไม่ถูก นางเอ่ยขึ้นอย่างทอดถอนใจ “เซ่าหมิงยวน ถ้ากลับเมืองหลวงแล้วตาท่านยังไม่หายดี ใช่หรือไม่ว่าท่านไม่ต้องนำทัพออกรบแล้ว” ในใจท่านจะเสียดายมากหรือไม่

เขาแย้มปากยิ้มน้อยๆ “ใช่แล้ว ไม่ต้องออกรบแล้ว”

ไม่รู้ว่าเพราะอะไรยามเบื้องหน้าเป็นความมืดมิด ภาพเด็กสาวในห้วงความคิดกลับกระจ่างชัดกว่าเดิม ทำให้เขาอยากระบายความในใจอย่างไร้เหตุผล “ความจริงเป็นเช่นนี้ก็ดีนะ เดิมข้าก็ไม่ชอบสงครามอยู่แล้ว”

“ไม่ชอบสงคราม?”

“ใช่ ไม่ชอบสงคราม”

“แต่ท่านไปทำสงครามที่แดนเหนือตั้งแต่ตอนอายุสิบสี่นะ”

“ยามนั้นท่านพ่อข้าล้มป่วยที่แดนเหนือ จวนโหวตกอยู่ในสถานการณ์ง่อนแง่นล่อแหลม เดิมทีข้าเป็นพวกคุณชายเสเพลผู้หนึ่ง ทว่าเภทภัยมาเยือนถึงตัวแล้ว ข้าคิดว่าอย่างมากก็แค่ตาย มิสู้ไปตายเอาดาบหน้าที่แดนเหนือดีกว่า คิดไม่ถึงว่าพอไปถึงแดนเหนือ เห็นชาวต๋าจื่อโหดเหี้ยมอำมหิตดุจเสือสาง ราษฎรแดนเหนือมีชีวิตเหมือนตายทั้งเป็น ด้วยเหตุนี้จึงชูดาบขึ้นแล้วก็ไม่เคยวางลงอีกเลย…” เซ่าหมิงยวนเล่าเรื่องตนเองด้วยน้ำเสียงเนิบนาบ สีหน้าเขาสงบนิ่งราวกับกำลังบอกเล่าเรื่องราวของคนอื่นอยู่

เฉียวเจารับฟังเงียบๆ จนเขากล่าวจบถึงเอ่ยขันๆ “เซ่าหมิงยวน ท่านพูดโกหกอีกแล้ว”

เขาตาบอดไปแล้ว บางทีนางอาจมีส่วนต้องรับผิดชอบด้วย แต่นี่มิได้หมายถึงว่าเขากับนางคนใดคนหนึ่งต้องทำเหมือนกับจะเป็นจะตายให้ได้ ใต้หล้านี้มีขวากหนามที่ฝ่าข้ามไปไม่ได้ที่ใดกัน ถ้าเขาไม่มีวันหายเป็นปกตินางดูแลเขาตลอดชีวิตก็สิ้นเรื่อง

ถึงอย่างไรนางก็ชมชอบเขาเช่นเดียวกัน

ความชมชอบเพียงอย่างเดียวอาจทำให้นางตัดใจจากความอิสรเสรีที่ใฝ่ฝันหาไม่ได้ แต่เมื่อมีความรับผิดชอบเพิ่มขึ้นมาตุ้มน้ำหนักบนตาชั่งฝั่งนี้ก็มากพอแล้ว

เซ่าหมิงยวนในที่สุดท่านก็ชนะแล้ว

เฉียวเจาถอนหายใจยาวเหยียดอยู่ในใจ

“ข้าไม่ได้พูดโกหก” เซ่าหมิงยวนจับต้นชนปลายไม่ถูก

นอกจากเรื่องดวงตามองไม่เห็นที่เขาอยากปิดบังเอาไว้ เขาจะพูดโกหกกับนางได้อย่างไรเล่า

“ไฉนข้าไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยว่าท่านยังเคยเป็นพวกคุณชายเสเพลด้วย”

หากว่าเป็นคนเสเพลจริงๆ ไหนเลยเขาจะดั้นด้นเดินทางไกลนับพันลี้ช่วยบิดาตอนอายุสิบสี่และกลายเป็นเสาหลักของเหล่าทหารนักรบที่แดนเหนือตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

เซ่าหมิงยวนคิดไม่ถึงว่านางจะพูดเช่นนี้ แพขนตาของเขากระพือขึ้นลงเบาๆ ยามกล่าวอย่างเก้อเขิน “นอกจากตอนท่องตำรากับฝึกยุทธ์ วันๆ ข้าก็ออกไปเที่ยวเตร่กับพวกสือซีและก่อเรื่องชกต่อยคน ยังไม่นับว่าเสเพลหรือ”

เฉียวเจาอมยิ้มน้อยๆ “ตราบเท่าที่ไม่ได้เกี้ยวพาราสีสตรีโฉมงามน่ารัก ก็ไม่นับว่าเสเพลนะ”

คนทั้งคู่ต่างประจักษ์แจ้งแก่ใจถึงผลกระทบซึ่งจะตามมาจากการที่ดวงตาของเซ่าหมิงยวนสูญเสียการมองเห็น แต่ไม่มีใครเอ่ยถึงอีกอย่างจิตใจตรงกัน

ได้ยินถ้อยคำของนางแล้ว เซ่าหมิงยวนอึ้งไปเล็กน้อย

เหตุใดเขารู้สึกว่า…คำพูดนี้ของเจาเจากระเซ้าเขาอยู่

ทั้งที่ก่อนหน้านี้นางเคยพูดว่าไม่รู้สึกอะไรกับเขาสักนิด ต่อให้เปลี่ยนเป็นบุรุษคนใดก็ตามที่เคยเป็นสามีของนาง นางล้วนเป็นเช่นนี้ แต่ว่าเพราะอะไรท่าทีที่เปลี่ยนไปในตอนนี้ของเจาเจามีนัยพิกลๆ

หรือเพราะข้าตาบอด เจาเจาเลยสงสาร…

พอคิดถึงตรงนี้เซ่าหมิงยวนก็ยิ้มขื่นๆ ในใจ

หากตาเขาเป็นปกติ ต่อให้เจาเจาไม่มีความรักฉันชายหญิงต่อเขาสักเท่าไร จะแค่สงสารเขาหรือเป็นความรู้สึกอย่างอื่น เขาก็ต้องตบแต่งนางเป็นภรรยาก่อนค่อยว่ากันอีกที เขาเชื่อว่าตนไม่ได้ย่ำแย่ปานนั้น หลังอยู่ร่วมกันทุกเช้าค่ำหัวใจของเจาเจาจะต้องหวั่นไหวทีละน้อย

ทว่าบัดนี้ดวงตาทั้งคู่มองไม่เห็น อนาคตก็มืดมน เขาอาศัยอะไรฉุดหญิงในดวงใจมาจมปลักซ้ำสอง ทั้งยังเป็นเพราะความสงสารที่ลากนางลงสู่ปลักนี้

เฉียวเจาเม้มมุมปากเมื่อเห็นเขานิ่งเงียบไป นางรู้ทันว่าเจ้าคนทึ่มผู้นี้คิดอะไรอยู่

นึกว่าข้าสงสารท่านสินะ

คนน่าสงสารมีอยู่กลาดเกลื่อน ข้าดูแลไหวหรือไม่

“พี่เซ่าไม่พูดอะไร หรือว่าเคยเกี้ยวพาราสีหญิงสาวชาวบ้านดีๆ”

“ข้าเปล่า…” เซ่าหมิงยวนรีบปฏิเสธ แต่พูดไปได้ครึ่งๆ กลางๆ ก็ไม่มีความมั่นใจมากพอ

อันที่จริงก็เคยทำ ดูเหมือนเขาเกี้ยวพาราสีเจาเจาหลายครั้งหลายหนมาก

แต่นั่นเป็นเพราะว่าในใจเขา เจาเจาเป็นภรรยาของเขา มิใช่สตรีเรือนอื่น…

“ไม่เคยก็ดี” เฉียวเจาเห็นท่าทางลุกลนของเขาแล้วแย้มยิ้มพริ้มพราย “สมัยอยู่ที่จยาเฟิง จริงๆ แล้วข้าสนใจใคร่รู้เป็นอันมากเรื่อยมาว่าคนที่ทำให้ท่านปู่ยอมมีปากเสียงกับท่านย่าก็ต้องเลือกเป็นหลานเขยให้ได้นั้นเป็นคนอย่างไร ถ้าตอนเป็นเด็กหนุ่มท่านทำตัวเหลวไหล ท่านปู่ข้าคงผิดหวังแล้ว”

เซ่าหมิงยวนประหลาดใจพอดู เขาคิดไม่ถึงว่าที่แท้เจาเจาเคยสนใจใคร่รู้เรื่องของเขาเหมือนกัน

เช่นนั้นนางก็เคยมโนภาพรูปลักษณ์หน้าตาของเขาในหัวมาก่อนใช่หรือไม่ แล้วเขาทำให้ผิดหวังหรือไม่นะ

ชายหนุ่มคิดถึงตรงนี้แล้วสะดุ้งวาบในใจ ขืนคิดอย่างนี้ต่อไปจะอันตรายเกินไป เขากลัวว่าจะกระทำเรื่องที่ขาดสติอย่างห้ามใจไม่อยู่อีก

เซ่าหมิงยวนนิ่งเงียบไม่พูดไม่จา เฉียวเจาก็มองเขานิ่งๆ ไปเช่นนี้

เขาคงไม่รู้ว่านัยน์ตาของเขาชวนมองที่สุดในบรรดาคนที่นางเคยพบเจอมา

หรือจะพูดว่าดวงตาคู่นี้เป็นแบบที่นางชมชอบมากที่สุดพอดี

ผู้คนและเรื่องราวในใต้หล้านี้ ที่มักทำให้คนต้านทานไม่อยู่มากที่สุดก็คือคำว่า ‘พอดี’ นี่เอง

ถึงแม้นางไม่อยากจำนน แต่กลับยินยอมด้วยความเต็มใจ

สายตาของเด็กสาวตรึงอยู่ที่ใบหน้าชายหนุ่มนานเกินไป ถึงมองไม่เห็นทว่ารับรู้ได้ เขาอดเบือนหน้าไปอีกทางหลบตานางไม่ได้

เฉียวเจาไม่ใส่ใจที่เขาหนีความจริง นางพูดตามสบาย “ถิงเฉวียน หากตาท่านไม่หายเป็นปกติแล้ว วันหน้าข้าเป็นดวงตาให้ท่านดีหรือไม่”

เซ่าหมิงยวนตื่นตะลึงไปหมด หัวใจเขาเต้นเสียงดังโครมคราม

คำพูดนี้ของเจาเจามีความหมายเดียวกับที่เขาเข้าใจใช่หรือไม่

นางยินยอมเป็นดวงตาให้เขาคือยินยอมออกเรือนเป็นภรรยาของเขาครองคู่กันไปชั่วชีวิต?

ทว่าหัวใจที่เริงโลดขึ้นเพราะเปลวไฟร้อนแรงกองนั้นก็ถูกปกคลุมด้วยน้ำแข็งในเวลาอันสั้น ตรงกลางอกเขาเหลือเพียงความขมขื่น

ถ้าเป็นเมื่อสองวันก่อนเจาเจากล่าวคำนี้กับเขา เขาต้องยินดีปรีดาเจียนคลั่งเป็นแน่ แต่ตอนนี้จะดีใจสักปานใดก็เป็นเพียงฝันลมๆ แล้งๆ

“ถิงเฉวียน ท่านไม่พูดไม่จา ข้าจะถือว่าท่านตอบตกลงนะ” ในเมื่อตัดสินใจแน่วแน่แล้ว เฉียวเจาก็ไม่ลังเลหาทุกข์ใส่ตัวอีกต่อไป และไม่อนุญาตให้เจ้าคนทึ่มตรงหน้าถอยหนีแม้แต่น้อยนิด

เขาทำให้จิตใจนางหวั่นไหวบังเกิดความรักขึ้นแล้ว แค่เพราะตาบอดก็คิดจะหลบหนีลอยนวลใช่หรือไม่

นางไม่ตอบตกลง!

“คุณหนูหลีอย่ากล่าวล้อเล่นเลย” พอสุดปัญญาจะแสร้งทำหูหนวกเป็นใบ้ต่อ เซ่าหมิงยวนเอ่ยปากพูดอย่างยากลำบาก

ขืนเจาเจาพูดเช่นนี้อีก เขาจะต้านทานความเย้ายวนใจไว้ได้อีกไม่นานแล้วนะ

ครองคู่กันชั่วชีวิตเป็นเรื่องที่เขาปรารถนาแม้ในยามฝัน

“ข้าไม่เคยพูดล้อเล่น ข้าเอาจริงเอาจังมาก แต่ไรมาข้าพูดคำใดคำนั้น” เฉียวเจากล่าวถ้อยคำเดิมซ้ำอีกครา

เซ่าหมิงยวนใจเต้นผิดจังหวะ

หลังจากเจาเจาพูดประโยคนี้กับคนที่ช่วยมาจากบนเรือแล้วก็สั่งเยี่ยลั่วโยนคนผู้นั้นลงทะเล ตอนนี้นางพูดประโยคนี้กับเขา…

“เหตุใดคุณหนูหลีถึงเปลี่ยนความคิด” เซ่าหมิงยวนไต่ถาม

เฉียวเจาแย้มปากออก นางรู้อยู่แล้วว่าเจ้าคนทึ่มนี่ยังจะดิ้นรนเป็นเฮือกสุดท้าย

นางไม่เอื้อนเอ่ยวาจา เซ่าหมิงยวนจึงพูดต่อ “เป็นเพราะดวงตาของข้าใช่หรือไม่ ท่านเห็นว่าเพราะเอ่ยถ้อยคำพวกนั้นกับข้าถึงทำให้ข้าสะเทือนใจจนสองตามองไม่เห็น คิดว่าต้องรับผิดชอบต่อข้า…”

ยังกล่าวไม่จบประโยคกลีบปากนุ่มนิ่มของเด็กสาวก็ประทับลงบนริมฝีปากเขา

แม่นางเฉียวนึกในใจ รับผิดชอบบ้าบอน่ะสิ!

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "บทที่ 453"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์