หวนคืนอีกครา สู่ห้วงเวลาแสนงาม - บทที่ 487
บทที่ 487
“แม่นางอย่าวู่วาม อย่าวู่วามเป็นอันขาด เป็นข้าที่ก่อเรื่อง ข้าก่อเรื่องเอง” ผู้ดูแลร้านยกสองมือสลับกันตบหน้าตนเองแรงๆ เป็นพัลวัน ชั่วครู่เดียวก็มีกลิ่นของเสียตุๆ ลอยมาจางๆ ระลอกหนึ่ง
“มีกลิ่นไม่ชวนดม พวกเราออกไปกันเถอะ” เซ่าหมิงยวนอมยิ้มกล่าวขึ้น
ทุกคนเดินผ่านหน้าผู้ดูแลร้านไปทีละคนโดยไม่เหลือบแลเขาสักแวบเดียว
นอกร้านสุรามีเจ้าหน้าที่ทางการล้อมอยู่เต็มไปหมด ในมือแต่ละคนถือดาบยาวสะท้อนประกายเย็นเยียบอยู่ใต้แสงแดดชวนให้สะท้านเยือกในอก
“พวกเจ้าคือคนร้ายที่สังหารนายตำบลคนก่อนของท่าปากทะเลหรือ!” เจ้าหน้าที่ที่เป็นหัวหน้าตวาดถาม
หยางโฮ่วเฉิงสาวเท้าก้าวใหญ่ไปตรงหน้าเขา พูดอย่างเฉยเมย “พวกข้าคือผู้กล้าที่กวาดล้างชาววอโค่วที่มาปล้นสะดมชาวบ้านของท่าปากทะเล”
“ผู้กล้า?” หัวหน้าเจ้าหน้าที่จ่อปลายดาบยาวตรงไปที่เขา “อย่าพูดพล่าม เจ้าเพียงบอกมาว่าพวกเจ้าเป็นคนสังหารนายตำบลคนก่อนหรือไม่กันแน่”
ชาวบ้านล้อมวงมุงดูอยู่ไกลๆ ได้ยินเจ้าหน้าที่ถามเช่นนี้ มีคนตะโกนบอก “เป็นพวกเขานั่นเอง”
มีคนพูดผสมโรงอย่างรวดเร็ว “ไม่ผิด เป็นพวกเขานั่นเอง”
มีคนรู้สึกทนดูไม่ได้ พูดเสียงค่อยๆ “ถึงอย่างไรพวกเขาก็สังหารชาววอโค่วพวกนั้น…”
“แล้วมีอันใด ตอนนั้นพวกเราคุกเข่าขอร้องให้พวกเขาอยู่ที่นี่พวกเขาต่างไม่ไยดี แต่พวกเราโชคดีที่พรรคพวกของชาววอโค่วไม่ได้มาแก้แค้น ไม่เช่นนั้นพวกเรายังยืนพูดจาอยู่ตรงนี้ได้อีกหรือ”
เมื่อเสียงพูดนี้ดังขึ้น เสียงทักท้วงอย่างไม่สบายใจในหมู่คนก็เงียบหายไป
หัวหน้าเจ้าหน้าที่ได้ยินชาวบ้านยืนยันก็ล้วงป้ายเหน็บเอวออกมาชูแสดงกับพวกเฉียวเจาและกล่าวเสียงดัง “ข้าคือมือปราบของอำเภอไห่เหมิน ได้รับคำสั่งให้มาจับกุมฆาตกรที่สังหารนายตำบลคนก่อนของท่าปากทะเล พวกเจ้ายังไม่มอบตัวให้จับอีกรึ!”
“มือปราบของอำเภอไห่เหมิน?” ฉือชั่นเลิกคิ้วสูง ยกมือลูบๆ อกพลางกล่าว “ข้ากลัวเหลือเกิน”
หัวหน้าเจ้าหน้าที่สังเกตเห็นฉือชั่นแล้วตะลึงงันไปชั่วอึดใจอย่างเห็นได้ชัด เขากระแอมกระไอให้คอโล่งก่อนกล่าว “อย่ามาพูดเล่นลิ้น!”
ฉือชั่นดึงสายตาคืนแล้วเอ่ยกับหยางโฮ่วเฉิง “ไม่ต้องเปลืองน้ำลายกับพวกเขาแล้ว”
หยางโฮ่วเฉิงยกมือล้วงอกเสื้อหยิบป้ายป้ายหนึ่งชูขึ้นตรงหน้าหัวหน้าเจ้าหน้าที่ พูดเสียงเย็นชาว่า “เบิกตาสุนัขของเจ้ามองดูว่านี่คืออะไร”
ป้ายใหญ่เท่าฝ่ามือขอบชุบทองทำให้หัวหน้าเจ้าหน้าที่เบิกตากว้างฉับพลัน เขาพูดเสียงหลง “นี่คือ…”
“พวกข้าคือองครักษ์จินอู๋ น้อมรับพระบัญชามาปฏิบัติหน้าที่ที่ทะเลแดนใต้ บัดนี้งานสำเร็จลุล่วงเตรียมตัวจะกลับไปแล้ว ว่าอย่างไร นายอำเภอของพวกเจ้าคิดจะขัดขวาง?”
“มิ…มิกล้า…” หัวหน้าเจ้าหน้าที่กลอกตาไปมาแล้วพูดยิ้มๆ “ในเมื่อท่านองครักษ์จินอู๋ทั้งหลายเดินทางไกลมาเยือน ขอเชิญทุกท่านไปยังที่ว่าการ ท่านนายอำเภอของพวกข้าจะได้รับรองแขกผู้ทรงเกียรติทั้งหลายอย่างเต็มที่ขอรับ”
มือปราบเล็กๆ อย่างเขาไม่เคยเห็นป้ายประจำตัวองครักษ์จินอู๋มาก่อน ใครจะรู้ว่าของจริงหรือของปลอม
หากเป็นของจริงเขาย่อมล่วงเกินไม่ได้ แต่ถ้าเป็นของปลอมแล้วปล่อยคนไปเช่นนี้ เขาก็กลับไปรายงานไม่ได้ ดังนั้นให้ท่านนายอำเภอปวดเศียรเวียนเกล้าไปเถอะ
“รับรอง? จะให้นายอำเภอของพวกเจ้าตรวจดูว่าจริงหรือปลอมมากกว่ากระมัง” ฉือชั่นยิ้มเยาะๆ เอ่ยถาม
หัวหน้าเจ้าหน้าที่หัวเราะแหะๆ ตอนนี้เขาชักจะเชื่อแล้วว่าคนเหล่านี้มาจากเมืองหลวง เพียงคุณชายผู้นี้ดูจากนิสัยใจคอต้องพบจุดจบด้วยการโดนคนตีตายเป็นแน่แท้ แต่ดูจากรูปโฉมโนมพรรณก็ต้องลงเอยด้วยการโดนชาววอโค่วฉุดคร่าไปในเวลาไม่ถึงหนึ่งถ้วยชา หากเป็นสามัญชนมีหรือจะอยู่รอดถึงบัดนี้ได้เล่า
“ให้ท่านนายอำเภอของพวกเจ้ามารับรอง” เซ่าหมิงยวนปริปากขึ้นในเวลานี้
หัวหน้าเจ้าหน้าที่อึ้งงันไป เขาอดหันไปมองคนพูดไม่ได้
บุรุษเบื้องหน้าสายตาตัวสูงมาก อาภรณ์รัดกุมบนกายขับเน้นสรีระที่บึกบึนแข็งแรง สีหน้าแววตาเย็นเยียบดุจน้ำแข็งหิมะ ทำให้คนไม่กล้ามองสบนัยน์ตาสีดำสนิทคู่นั้น
หัวหน้าเจ้าหน้าที่หลบตาตามสัญชาตญาณ
เซ่าหมิงยวนกล่าวเสียงเรียบ “พวกข้ามีคนมาก ไม่สะดวกจะไปพบ ถ้าท่านนายอำเภอเต็มใจ มาที่นี่ดื่มสุราสักจอกได้”
บุรุษเรือนกายสูงชะลูดหันศีรษะเหลือบตามองชื่อร้านสุราแวบหนึ่งก่อนกล่าวกลั้วเสียงหัวเราะจางๆ “ข้าลิ้มลองสุราของร้านนี้แล้ว ไม่เลวเลยทีเดียว”
“คือว่า…” หัวหน้าเจ้าหน้าที่ละล้าละลังเล็กน้อย ขืนเขาวิ่งกลับไปบอกท่านนายอำเภอให้มาท่าปากทะเลเช่นนี้ เขาไม่เจอท่านนายอำเภอด่ายับสิแปลก
“คือว่ามีบางอย่างที่ใต้เท้าไม่ล่วงรู้ หอสุราในอำเภอข้าดีกว่าร้านสุราเล็กๆ เช่นนี้มากมายนัก ไปดื่มสุราที่นั่นดีกว่านะขอรับ”
เซ่าหมิงยวนยิ้มบางๆ “ถ้าต้องการเพียงหอสุราดีๆ ไยพวกข้าไม่กลับเมืองหลวงแล้วค่อยดื่มเล่า มีบางอย่างที่พ่อหนุ่มไม่ล่วงรู้ พวกข้าอยากดื่มสุราที่ร้านนี้ ย่อมเพราะมันมีจุดพิเศษไม่เหมือนที่ใดเป็นธรรมดา”
“มีจุดพิเศษไม่เหมือนที่ใดหรือ” หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฟังแล้วงุนงง เขาย้อนถามโดยไม่ทันคิด
ร้านสุราโกโรโกโสเล็กๆ พรรค์นี้มีจุดพิเศษไม่เหมือนที่ใดอะไรกัน ไฉนเขาไม่รู้เลย
“หึๆ” เซ่าหมิงยวนหัวร่อเบาๆ เขามองหัวหน้าเจ้าหน้าที่พลางกล่าวเป็นนัย “ที่นี่บรรยากาศดีไม่เหมือนที่ใด มีชาววอโค่วโผล่มาให้พวกข้าได้ซ้อมมือทุกเมื่อ”
เขากล่าวประโยคนี้ด้วยสีหน้าสงบนิ่ง แต่หัวหน้าเจ้าหน้าที่สะดุ้งวาบในใจ
จริงสิ เขาลืมไปได้เช่นไร คนกลุ่มนี้ไม่ได้สังหารแค่นายตำบลคนก่อนของท่าปากทะเล ยังกำจัดชาววอโค่วไปโขยงหนึ่ง
ด้วยฝีมือการต่อสู้ของชาววอโค่วกลุ่มนั้น… หัวหน้าเจ้าหน้าที่คิดต่อไปก็สั่นสะท้านอย่างสุดระงับ
ต่อให้เขาพาคนมาเพิ่มอีกเท่าหนึ่งก็เอาชนะชาววอโค่วพวกนั้นไม่ได้ เช่นนั้นประจันหน้ากับคนพวกนี้มิใช่อยู่ดีไม่ว่าดี…รนหาที่ตายหรือ
“ใช่หรือไม่เล่า” เซ่าหมิงยวนอมยิ้มพลางส่งเสียงถาม
หัวหน้าเจ้าหน้าที่ดึงความคิดคืนมา เขายิ้มแห้งๆ กล่าวขึ้น “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ รบกวนทุกท่านรออยู่ที่นี่สักครู่ ข้าจะไปเรียนใต้เท้าของพวกข้าให้ทราบสักคำขอรับ”
เขาพูดจบก็กระแอมกระไอทีหนึ่งแล้วออกคำสั่ง “พวกเจ้าสองคนอยู่ที่นี่รับรองใต้เท้าทั้งหลายให้ดีๆ คนที่เหลือตามข้าไป”
เมื่อเดินออกมาได้หลายสิบจั้ง มีคนหนึ่งกระซิบถาม “หัวหน้า พวกเราออกมาเช่นนี้ทิ้งคนไว้แค่สองคน ไม่กลัวพวกนั้นหนีไปหรือขอรับ”
หัวหน้าเจ้าหน้าที่เงื้อมือฟาดคนผู้นั้นทีหนึ่ง “เจ้าเบาปัญญาหรือไม่ คนพวกนั้นฆ่าชาววอโค่วเหมือนตัดผักกาดขาว ทิ้งคนไว้สองคนกับทั้งโขยงจะแตกต่างกันหรือไร ถ้าหนีไปจริงๆ ถือว่าพวกเราโชคดีแล้ว”
“แล้วพวกไห่จื่ออยู่ที่นั่น…”
หัวหน้าเจ้าหน้าที่แค่นเสียงเยาะ “เจ้าสองคนนั้นไม่รู้กาลเทศะ ข้าอยากสั่งสอนพวกเขาให้หลาบจำมานานแล้ว”
พวกผู้ใต้บังคับบัญชาฟังแล้วใจหายวาบ
หัวหน้าเจ้าหน้าที่กวาดตามองทุกคนรอบหนึ่งแล้วกล่าวอย่างปึ่งชา “พวกเราตกลงกันแล้วนะ ทางท่านนายอำเภอนั่นอะไรไม่พึงพูดล้วนห้ามพูดแม้แต่คำเดียว คนใดพูดออกมาข้าจะเล่นงานคนผู้นั้นภายหลังให้หนักเลย”
“หัวหน้า ท่านวางใจได้ พวกข้าเข้าใจแล้ว ท่านหวังดีกับพวกข้ามิใช่หรือ”
เจ้าหน้าที่ทั้งกลุ่มเดินห่างไปไกลขึ้นทีละน้อย
หยางโฮ่วเฉิงลูบปลายคางพลางถาม “ถิงเฉวียน เจ้าว่านายอำเภอไห่เหมินจะมาหรือไม่”
เซ่าหมิงยวนหมุนกายเดินไปทางร้านสุรา เขากลับเข้าไปนั่งในห้องส่วนตัวดังเก่าแล้วกล่าวยิ้มๆ “มีโอกาสแปดถึงเก้าในสิบส่วนที่จะมา ท่าปากทะเลเป็นจุดที่พวกเราต้องผ่านก่อนออกทะเล ทางจยาเฟิงเกิดเรื่องขึ้นแล้ว ข้าไม่เชื่อว่าสิงอู่หยางจะไม่ระวังป้องกันสักนิด เห็นทีว่านายอำเภอไห่เหมินผู้นั้นต้องรู้ฐานะของพวกเราแต่แรกแล้ว”
“แล้วเหตุใดเจ้าหน้าที่ที่เขาส่งมาถึงมีท่าทางไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรสักหน่อย”
“คงจะหยั่งเชิงของพวกเราเท่านั้น ดูว่าพวกเราจะยอมรับอย่างเปิดเผยหรือว่าปิดบัง หากรู้ว่าพวกเราใกล้เดินทางกลับรอมร่อ นายอำเภอไห่เหมินต้องพอใจกับคำตอบนี้อย่างมาก ดังนั้นมีโอกาสแปดถึงเก้าในสิบส่วนที่จะมา”
เซ่าหมิงยวนกล่าวจบแล้วยกน้ำชาที่เย็นชืดไปแล้วขึ้นจ่อริมฝีปาก เขากำลังจะดื่มกลับมีมือขาวเกลี้ยงข้างหนึ่งยื่นมาขัดขวาง