CatNovel
  • หน้าหลัก
  • แทงหวย24
  • มังงะ
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • แทงหวย24
  • มังงะ
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

หวนคืนอีกครา สู่ห้วงเวลาแสนงาม - บทที่ 489

  1. Home
  2. หวนคืนอีกครา สู่ห้วงเวลาแสนงาม
  3. บทที่ 489
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

บทที่ 489

เฉียวเจาหลากใจเล็กน้อย นางหันไปมองหมอเทวดาหลี่

เขากล่าวเสียงเบา “อำนาจจิตของสตรีกับเด็กจะอ่อนแอกว่า เจ้าก็ลองกับเด็กคนนี้ดูว่าตกลงความจริงเป็นเช่นไรกันแน่”

“เด็กน้อยผู้นั้นหรือเจ้าคะ”

หมอเทวดาทำสีหน้าคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม “เหตุใดรึ กระดากใจที่จะลงมือกับเด็ก?”

เฉียวเจาคลี่ยิ้ม “ข้าไม่ค่อยถนัดเรื่องพูดคุยกับเด็กเจ้าค่ะ ท่านปู่หลี่ ข้าลองกับสตรีนางนั้นเป็นอย่างไร”

“สตรีนางนั้นมีลักษณะของคนใจแคบ ไม่ใช่สตรีหัวอ่อนพรรค์นั้น สตรีเยี่ยงนี้มักมีความคิดเป็นของตนเองอยู่บ้าง เจ้าลงมือครั้งแรกก็เลือกเป้าหมายเช่นนี้ ท่านปู่หลี่กลัวเจ้าจะเสียกำลังใจ” หมอเทวดาหลี่พูดยิ้มๆ

มาตรว่าเขาจะกล่าวเช่นนี้ แต่เห็นเฉียวเจาขันอาสาเอง ในใจเขากลับบังเกิดความคาดหวังอยู่หลายส่วน

ถึงจะสอนวิชาสะกดจิตให้หลานสาวน้อยเป็นเวลาสั้นมาก ทว่าศาสตร์พิสดารประเภทนี้อาจารย์มักทำได้เพียงชี้แนะแนวทาง การฝึกฝนให้ก้าวหน้าขึ้นอยู่กับตนเอง เขาก็อยากเห็นเชาวน์ปัญญาของแม่เด็กน้อยจริงๆ

เฉียวเจากลั้นยิ้มไม่อยู่ “ท่านปู่ ข้าไม่กลัวเสียกำลังใจ ถึงอย่างไรล้มเหลวแล้วไม่โดนไล่ตีก็พอ”

มีเฉินกวงอยู่ทั้งคน นางย่อมไม่ต้องเป็นห่วงว่าจะเป็นอันตราย

หมอเทวดาหลี่พยักหน้า “เช่นนั้นไปลองดูเถอะ มัวแต่ชักช้าครอบครัวนั้นคงกลับเข้าเรือนแล้ว”

“ข้าไปเลยนะเจ้าคะ” เฉียวเจาผงกศีรษะเล็กน้อย ยกชายกระโปรงเดินออกจากหลังประตูที่ซ่อนตัวอยู่ สาวเท้าเนิบนาบไปหาครอบครัวนั้น

หมอเทวดาหลี่ตาเป็นประกาย

แม่เด็กน้อยผู้นี้ฉลาดหลักแหลมเกินคนจริงๆ นี่นางเข้าถึงเคล็ดวิชาสะกดจิตได้แล้ว

หมายจะให้เป้าหมายถูกสะกดจิตโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว ผู้สะกดจิตจะต้องใช้ทุกอย่างที่ใช้ได้ให้เป็นประโยชน์ สามารถชักพาผู้ถูกสะกดจิตเข้าสู่ภวังค์ที่ตนสร้างขึ้นได้ยิ่งแนบเนียนยิ่งดี

เฉียวเจานั้นตั้งแต่เสี้ยวขณะที่เดินออกไป จังหวะก้าวเท้าก็แตกต่างไปจากปกติแล้ว

หมอเทวดาหลี่ศึกษาวิชาสะกดจิตมาสิบกว่าปีย่อมดูวี่แววออกได้ในชั่วแวบเดียว

เฮ้อ…หลานสาวของข้าหลี่เจินเฮ่อก็ไม่เหมือนใครอย่างนี้นี่เอง

เฉียวเจาเดินไปหาครอบครัวนั้นด้วยฝีเท้าเป็นจังหวะ สีหน้านางดูเยือกเย็นละมุนละไม หากในใจกลับตื่นเต้น

นี่เป็นคราแรกที่จะลองวิชาสะกดจิต จะสำเร็จหรือไม่นางไม่มีความมั่นใจแม้แต่สามส่วน

แต่ไหนๆ ก็ออกมาแล้ว ถึงล้มเหลวอย่างมากก็เรียกให้เฉินกวงรีบมาสกัดอยู่ข้างหน้าเท่านั้นเอง

เฉียวเจาลอบให้กำลังใจตนเองขณะเดินเข้าไปใกล้ครอบครัวนั้นทีละน้อย

อันที่จริงพอเฉียวเจาปรากฏกายขึ้น สายตาของสามีภรรยาคู่นั้นก็จับอยู่ที่ตัวนางแล้ว

เด็กสาวผมสีดำสวมชุดสีเรียบโผล่มากะทันหัน ซ้ำยังมีท่วงทีสง่าโดดเด่นไม่คล้ายผู้คนซึ่งพบเจอได้ในตรอกเล็กที่สกปรกทึมทึบสายนี้

ท่าเดินของนางชวนมองจริงๆ

สองสามีภรรยาคิดเหมือนกันโดยไม่ได้นัดหมาย

เมื่อเห็นว่าดึงดูดความสนใจของพวกเขาได้แล้ว เฉียวเจาลอบระบายลมหายใจเฮือกหนึ่ง

ใช้วิธีดึงดูดความสนใจของเป้าหมายได้อย่างแนบเนียนที่สุดคือเงื่อนไขสำคัญที่จะลงมือสะกดจิตได้อย่างราบรื่น ยังดีที่ตรอกสายนี้ค่อนข้างมืด แสงสลัวๆ เช่นนี้เป็นผลดีต่อการใช้วิชาสะกดจิตอย่างยิ่งยวด

“ท่านเป็นใคร” เห็นเฉียวเจาเดินใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ภรรยาสาวเอาตัวบังสายตาของสามีไว้ตามสัญชาตญาณพลางเปล่งเสียงถามขึ้น

เฉียวเจายื่นมือไปแล้วแบฝ่ามือ บนนั้นวางถุงผ้าปักเล็กๆ ใบหนึ่งไว้ เสียงพูดของนางอ่อนนุ่มแผ่วเบา “พี่สะใภ้ท่านนี้ เมื่อครู่ข้าผ่านมาทางตรอกนี้แล้วเก็บถุงผ้าปักได้ใบหนึ่ง ไม่ทราบว่าเป็นของท่านใช่หรือไม่”

ถุงผ้าปักใบนั้นมีขนาดเล็กกะทัดรัดฝีมือประณีต ข้างในมีของใส่ไว้อย่างเห็นได้ชัด

ภรรยาสาวตวัดสายตามองปราดหนึ่ง แววละโมบผุดขึ้นในดวงตานางขณะยื่นมือไปพลางกล่าว “ข้าขอดูหน่อย…”

เฉียวเจาหดมือกลับ

ภรรยาสาวมองสบตานางอย่างประหลาดใจ

นัยน์ตาของเด็กสาวดำขลับใสบริสุทธิ์ดุจบึงน้ำลึก ยามแพขนตาดกหนาของนางกระพือขึ้นลงเป็นจังหวะ คลับคล้ายว่ามันเริ่มแผ่กลิ่นอายลึกลับออกมา

ด้านภรรยาสาวเพียงรู้สึกว่าดวงตาทั้งคู่ของอีกฝ่ายงดงามเหลือหลายจนลืมเบนสายตาออกไปชั่วขณะ

เฉียวเจาชูถุงผ้าปักขึ้นแกว่งไปมาเบื้องหน้าสายตานาง กล่าวด้วยน้ำเสียงไม่ช้าไม่เร็ว “ข้าเห็นว่าสีสันเนื้อผ้าของถุงผ้าปักใบนี้เหมือนกับชุดกระโปรงบนตัวพี่สะใภ้ ดูทีว่าต้องเป็นของท่านอย่างไม่ต้องสงสัย”

นางวางถุงผ้าปักลงบนมืออีกฝ่ายเบาๆ แย้มยิ้มอ่อนหวาน

ภรรยาสาวกำถุงผ้าปักในมือแน่นโดยไม่รู้ตัว นางจ้องมองรอยยิ้มบนริมฝีปากเด็กสาวพลางพูดพึมพำ “ใช่ เป็นของข้า”

“เช่นนั้นพี่สะใภ้เก็บไว้เถอะ”

ภรรยาสาวมองดวงตาของเฉียวเจาโดยไม่ละสายตา นางสอดถุงผ้าปักเข้าไปในแขนเสื้อตามความเคยชิน

มุมปากของเฉียวเจาประดับรอยยิ้มบางๆ ไว้ตลอด นางเอ่ยถามไปตามเรื่องตามราว “เมื่อครู่พี่สะใภ้เห็นเด็กสองคนทะเลาะกันหรือไม่”

“เห็นแล้ว” ภรรยาสาวตอบคำถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบไร้อารมณ์ใดๆ

เฉียวเจายกมุมปากโค้งขึ้นพร้อมกับกะพริบตาเบาๆ “พี่สะใภ้มองเห็นอะไร”

“เห็นเอ้อร์วาหยิบดินเข้าปาก”

“โก่วเซิ่งเล่า”

“โก่วเซิ่ง?” ภรรยาสาวนิ่งขึงไป ลึกเข้าไปในดวงตานางฉายแววแข็งขืนวูบหนึ่ง

เฉียวเจาใจหล่นวูบแต่ไม่แสดงออกทางสีหน้า นางยกมือเสยปอยผมที่รุ่ยอยู่ข้างแก้มขึ้นเบาๆ

“ตอนแรกโก่วเซิ่งเล่นอยู่ตรงปากตรอก เห็นเอ้อร์วากินดินก็วิ่งมาห้ามไม่ให้เขากิน เอ้อร์วาก็ร้องไห้แล้ว…”

ภรรยาสาวพูดถึงตรงนี้เสียงด่าทออย่างโกรธาของสามีนางดังขึ้น “ฮุ่ยเหนียง! ไหนเจ้าบอกว่าโก่วเซิ่งหยิบดินยัดใส่ปากเอ้อร์วาไม่ใช่หรือ ตกลงเรื่องเป็นอย่างไรกันแน่”

ภรรยาสาวทำหน้าเสีย นางเหมือนเพิ่งตื่นจากฝัน พูดละล่ำละลักขึ้น “เมื่อครู่ข้า…”

สามีจับแขนภรรยาสาวหมับ “เมื่อครู่เจ้าพูดกับปากว่าเอ้อร์วากินดินเอง”

ภรรยาสาวได้สติเต็มที่ นางกล่าวอย่างลุกลน “ไม่ใช่นะ โก่วเซิ่งแกล้งเอ้อร์วาจริงๆ ข้าเป็นคนจิตใจชั่วร้ายอย่างนั้นหรือถึงใส่ร้ายเด็กผู้หนึ่ง”

ภรรยาสาวจับแขนสามีแล้วเริ่มร่ำไห้คร่ำครวญ

“เจ้าพูดเองแล้วยังจะเป็นเท็จอีกหรือ”

“ข้าเปล่านะๆ เมื่อครู่ข้าโดนผีเข้าถึงพูดจาส่งเดช จริงสิ เป็นเพราะสตรีผู้นั้น…” ภรรยาสาวยกมือชี้

แต่พอนางหันหน้าไปกลับพบกว่าเด็กสาวผมสีดำชุดสีเรียบที่ปรากฏตัวขึ้นเมื่อครู่นี้หายไปแล้ว

เฉียวเจาซึ่งกลับไปหลบอยู่หลังประตูมองดูเหตุการณ์ทั้งหมดอยู่ ความสำเร็จจากการสำแดงฝีมือครั้งแรกนี้ทำให้นางอารมณ์ดีไม่เลวเลย

ไม่คิดว่าจะราบรื่นถึงเพียงนี้ สองสามีคู่นั้นเริ่มทุ่มเถียงกันเองจนไม่ทันสังเกตเห็นว่านางย่องหนีออกมาแล้ว

ครั้นเห็นเด็กชายที่โตกว่าจ้องมองประตูหลังของร้านสุราตาโตอยู่ตลอด เฉียวเจาก็หัวเราะออกมา

คนที่มองเห็นนางเดินจากมาเงียบๆ คงจะมีแต่เด็กที่โดนแม่เลี้ยงใส่ร้ายป้ายสีผู้นั้น

“นางอยู่ที่ใด” ภรรยาสาวกล่าวอย่างงุนงง จู่ๆ นางก็โวยวายเสียงแหลม “นางต้องเป็นนางปีศาจล่อลวงใจคนเป็นแน่”

“อย่าพูดจาเหลวไหล” สามีชักสีหน้าใส่ภรรยาสาว เขาก้มหน้าถามโก่วเซิ่ง “แม่นางน้อยคนเมื่อครู่ผู้นี้ เจ้าเห็นหรือไม่ว่าไปที่ใดแล้ว”

เด็กชายเม้มปากแน่น

บิดาเขาถลึงตา “ตอบคำถามข้า”

เด็กชายก้มหน้าตอบเสียงดัง “ข้าไม่รู้”

“เห็นหรือไม่ ไม่มีคนเห็นว่านางหายตัวไปอย่างไร นางต้องเป็นนางปีศาจที่ครอบงำจิตใจคนได้อย่างแน่นอน” ภรรยาสาวโอบตัวเด็กชายในอ้อมแขนพร้อมกล่าวอย่างหวาดผวา

สามีนางถลึงตา “นางตัวดี ถึงตอนนี้แล้วยังหลอกข้าเหมือนคนโง่งมอีกหรือ ต่อให้เป็นนางปีศาจครอบงำจิตใจคน แต่ก็ทำให้เจ้าพูดความจริงออกมา ไป! กลับเรือนแล้วค่อยคิดบัญชีนี้กัน”

เด็กน้อยในอ้อมแขนมารดาร้องไห้จ้า

เสียงตะคอกของบุรุษกับเสียงร้องแหลมสูงของหญิงสาวผสมผเสกับเสียงร้องไห้กระจองอแงเงียบหายไป หลังประตูลานเรือนบานหนึ่งปิดลงอย่างรวดเร็ว

เสียงหัวเราะของหมอเทวดาหลี่ดังขึ้น “แม่หนูเจา ทำได้ไม่เลว”

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "บทที่ 489"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์