CatNovel
  • หน้าหลัก
  • แทงหวย24
  • มังงะ
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • แทงหวย24
  • มังงะ
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

หวนคืนอีกครา สู่ห้วงเวลาแสนงาม - บทที่ 490

  1. Home
  2. หวนคืนอีกครา สู่ห้วงเวลาแสนงาม
  3. บทที่ 490
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

บทที่ 490

เฉียวเจาเผยรอยยิ้มอย่างปลาบปลื้มยินดี “ข้าโชคดีอยู่สักหน่อยเจ้าค่ะ”

สิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อการใช้วิชาสะกดจิตนั้นคือเสียงพูด สายตา รวมถึงการทำกิริยาซ้ำๆ บางอย่างของผู้สะกดจิต

คนใจคอคับแคบส่วนใหญ่จะโลภมาก ฉะนั้นนางใช้ถุงผ้าปักใบหนึ่งดึงดูดความสนใจของภรรยาสาวให้สบตากับนางได้อย่างราบรื่นมาก

แน่นอนว่าสภาพรอบด้านในตอนใช้วิชาสะกดจิตก็เป็นจุดสำคัญมาก ซึ่งแสงสลัวรางในตรอกเล็กช่วยเปิดทางสะดวกให้นางอย่างยิ่งยวด

“ไม่คิดจะเอาถุงผ้าปักใบนั้นคืนมาแล้วหรือ”

เฉียวเจาเหลียวมองไปทางตรอกเล็กแวบหนึ่งแล้วส่ายหน้า “ช่างเถอะเจ้าค่ะ เดิมเป็นถุงใส่เศษเงินเล็กๆ น้อยๆ ทำจากผ้าพื้นไม่ได้ตกแต่งลวดลายเป็นพิเศษ ตอนแรกข้าตั้งใจจะเอาคืนมาตอนนางไม่ทันสังเกต ในเมื่อเด็กน้อยผู้นั้นเก็บได้ก็ให้เขาเก็บไว้ซื้อขนมถังหูลู่สองสามไม้แล้วกัน”

ถุงผ้าปักหล่นไปบนพื้นระหว่างที่ภรรยาสาวกับสามียื้อยุดฉุดดึงกัน ตอนนั้นเฉียวเจาเห็นเด็กชายก้มตัวไปเก็บก็เดินหนีออกมาเงียบๆ

ดูจากท่าทางที่เด็กน้อยผู้นั้นแสดงออกมา นางไม่คิดว่าเขาจะยกถุงเงินให้บิดามารดาคู่นั้น

หมอเทวดาหลี่พยักหน้า “เช่นนี้ก็ได้ แต่แม่หนูเจาจงจำไว้ให้ดี เจ้าเป็นสตรี วันหน้าจะใช้วิชาสะกดจิตกับใครอีกก็ตาม ใช้ของพกติดกายจำพวกนี้ให้น้อยที่สุด จะได้ไม่ทิ้งร่องรอยให้คนสืบสาวได้ในภายหลัง”

“ท่านวางใจได้ ข้าเข้าใจเจ้าค่ะ วันนี้เป็นการใช้วิชาครั้งแรก ข้าไร้ความมั่นใจถึงได้อาศัยของใช้ประจำตัวประเภทนี้ วันหน้าข้าจะพยายามหลีกเลี่ยงอย่างเต็มที่”

คำเตือนของท่านปู่หลี่ไม่ผิดเลยสักนิด ศาสตร์พิสดารนี้นางไม่มีทางนำมาใช้พร่ำเพรื่อเป็นแน่ เป้าหมายของนางในวันหน้าต้องมิใช่คนสามัญธรรมดา ฉะนั้นย่อมทิ้งสิ่งใดที่จะก่อปัญหาตามมาในภายหลังพรรค์นี้เอาไว้ไม่ได้

“ท่านหมอเทวดา คุณหนูหลี ท่านแม่ทัพให้ข้ามาบอกกล่าวให้ทราบว่าได้เวลาไปแล้วขอรับ” เยี่ยลั่วสาวเท้าเข้ามาหา

เฉียวเจาผงกศีรษะ ประคองแขนชายชราออกเดินไปข้างหน้า

เยี่ยลั่วติดตามอยู่ข้างหลังถูกเฉินกวงดึงตัวไว้

อะไรกัน

เยี่ยลั่วไม่ปริปาก แต่เลิกคิ้วเป็นเชิงสงสัย

เฉินกวงลากเขาไปที่มุมหนึ่ง กล่าวอย่างมีลับลมคมใน “ข้ารู้สึกว่าคุณหนูหลีมีบางอย่างแปลกๆ”

เยี่ยลั่วมุ่นคิ้วมองเขา

“เจ้าทำหน้าเช่นนี้หมายความว่าอะไร” เฉินกวงเอ่ยถามอย่างไม่ชอบใจ

เยี่ยลั่วกล่าวเสียงเรียบ “ในฐานะผู้ใต้บังคับบัญชา วิพากษ์วิจารณ์ว่าที่ฮูหยินแม่ทัพลับหลังไม่ใคร่จะดีกระมัง”

เฉินกวงกลอกตาขึ้นอย่างเอือมระอา “วิพากษ์วิจารณ์อะไรกัน นี่ข้าจะคุยถกกับเจ้า คุยถกกันเข้าใจหรือไม่”

ช่างไม่คิดเสียเลยว่าคุณหนูหลีกลายมาเป็นว่าที่ฮูหยินแม่ทัพได้อย่างไร เป็นความดีความชอบของข้าทั้งนั้นนะ!

ตอนนี้เจ้าลูกเต่าพวกนี้พากันเรียกขานฮูหยินแม่ทัพไม่หยุดปาก ชุบมือเปิบเช่นนี้ละอายแก่ใจบ้างหรือไม่

“ถ้าอย่างนั้นเจ้าอยากจะคุยถกเรื่องอะไร” เยี่ยลั่วไต่ถามด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก

“เมื่อครู่มีบุรุษผู้หนึ่งดุด่าตบหน้าบุตรชายอยู่ในตรอก คุณหนูหลีเดินเข้าไปพูดไม่กี่คำ ผลปรากฏว่าบุรุษผู้นั้นไม่ดุด่าตบหน้าบุตรชายเด็กแล้วยังหันไปทุบตีด่าทอภรรยาแทน เจ้าว่านี่แปลกมากใช่หรือไม่” เฉินกวงลูบปลายคางพลางทำสีหน้าแคลงใจ “คุณหนูหลีก็มิได้พูดอะไรเป็นพิเศษด้วยนะ”

ในฐานะผู้ใต้บังคับบัญชาซึ่งทำหน้าที่อารักขาเจ้านาย เฉินกวงย่อมไม่แอบฟังเวลาเฉียวเจากับหมอเทวดาหลี่พูดคุยกระซิบกระซาบกัน ทว่าตอนเฉียวเจาเดินออกไปพบปะกับคนแปลกหน้า เขาก็ไม่กล้าชะล่าใจ จำเป็นต้องตั้งใจจับสังเกตความเคลื่อนไหวของนางอย่างเต็มที่ ดังนั้นเขาจำได้ชัดเจนว่าขณะนั้นนางพูดว่าอะไรบ้าง

เพราะเหตุนี้เององครักษ์น้อยซึ่งเห็นเพียงผลลัพธ์โดยไม่รู้ที่มาที่ไปถึงได้งุนงงไปหมด

“เจ้าพูดสิ” เฉินกวงผลักเยี่ยลั่ว

เขาทำหน้าเฉยเมยดังเก่า “ไม่มีอะไรน่าพูด แปลกหรือไม่แปลกมันเรื่องอะไรของเจ้า ขอแค่ท่านแม่ทัพของเราชมชอบก็พอแล้วมิใช่หรือ”

เฉินกวงอึ้งงันไปเล็กน้อย จากนั้นพยักหน้า “จริงของเจ้า”

ดังนั้นข้าไม่ต้องรายงานให้ท่านแม่ทัพทราบหรือนี่

โอ๊ย ช่างเป็นปัญหาน่ากลุ้มใจจริงๆ

นายอำเภอผางตามไปส่งพวกเซ่าหมิงยวนตลอดทางจนถึงท่าเรือ เมื่อเห็นทุกคนขึ้นเรือจากไปกับตาถึงยกขบวนกลับ

เมื่อกลับถึงที่ว่าการเขาเขียนสารด่วนฉบับหนึ่งประทับครั่งส่งไปให้สิงอู่หยางทันทีทันควัน

“ในที่สุดก็อัญเชิญเทพเวินเสิน* พวกนี้กลับไปได้เสียที”

เสมียนหลี่ประสานมือคารวะพร้อมรอยยิ้มเต็มหน้า “ขอแสดงความยินดีกับใต้เท้าด้วยขอรับ ส่งเทพเวินเสินพวกนั้นกลับไป พวกเราก็นอนหลับอย่างสบายใจได้แล้ว ข้าน้อยบอกแล้วว่าคุณชายสูงศักดิ์จากเมืองหลวงพวกนั้นปฏิบัติภารกิจเสร็จ ต้องไม่เต็มใจรั้งอยู่ในอำเภอกันดารห่างไกลของเราพรรค์นี้อย่างแน่นอน”

นายอำเภอผางชายหางตามองเขา “พูดอะไรของเจ้า”

“นี่ข้าดีใจกับใต้เท้ามิใช่หรือขอรับ” ใบหน้าของเสมียนหลี่ฉาบด้วยรอยยิ้ม ทว่าในใจกลับพูดเยาะหยัน

ยังไม่ยอมให้พูดว่าอาณาเขตในอาณัติตนเป็นที่กันดารห่างไกลอีกรึ ถ้ารู้สึกว่าที่แห่งนี้ดีนัก ไฉนมอบตนอยู่ใต้อำนาจของฝ่ายสิงอู่หยางทางนั้นแต่แรก สิงอู่หยางบอกให้ไปทางขวา ผางเซิ่งก็ไม่กล้าไปทางซ้าย!

ผางเซิ่งเป็นนายอำเภอที่มีตำแหน่งบัณฑิตจิ้นซื่อติดตัว หากผลการพิจารณาความดีความชอบออกมาดีก็สามารถโยกย้ายไปที่อื่นได้ ขณะที่เสมียนหลี่มีโอกาสแปดถึงเก้าในสิบส่วนต้องอยู่ที่นี่จนแก่ชรา ด้วยเป็นห่วงว่าหลังเกษียณราชการในวันหน้าจะอยู่ในไห่เหมินไม่ได้ เขาถึงลอบคับแค้นใจที่ผู้บังคับบัญชารีดนาทาเร้นชาวบ้านของไห่เหมินจนได้รับความเดือดร้อนแสนเข็ญ

“เอาล่ะ วันนี้สำราญใจ พวกเราก็ไปดื่มสุราที่หอวั่นชุนกันสักจอก อาหารในร้านสุราที่ท่าปากทะเลนั่นจะกินลงที่ใดกัน”

นายอำเภอผางชักชวนคนสนิทหลายคนไปที่หอวั่นชุน

เมื่อเรือของพวกเฉียวเจาแล่นห่างจากท่าปากทะเลทีละน้อย สตรีที่ช่วยกลับมาพวกนั้นต่างห้อมล้อมอยู่ข้างกายหญิงสาวที่ร่ำไห้ไม่หยุดนางหนึ่ง อยากพูดเกลี้ยกล่อมก็ไม่รู้จะเอ่ยปากเช่นไร

ทุกคนได้ฟังคำบอกเล่าขององครักษ์ที่ส่งหญิงสาวนางนี้กลับเรือนแล้ว ขณะนี้ได้ยินเสียงร้องไห้ของนางก็มีสีหน้าไม่สู้ดีไปตามๆ กัน

หญิงสาวผู้นั้นลุกพรวดขึ้นวิ่งฝ่าวงล้อมของสตรีรอบตัวถลันไปที่กราบเรือ

พวกสตรีส่งเสียงร้องอุทานกันระงม

องครักษ์ซึ่งอยู่ใกล้พวกนางที่สุดทะยานกายไปดึงหญิงสาวที่ยื่นตัวออกนอกราวรั้วเรือครึ่งหนึ่งกลับมาแล้วพาไปตรงหน้าพวกเซ่าหมิงยวน

นางล้มพับลงกับพื้นปิดหน้าร่ำไห้เสียงดัง “พวกท่านช่วยข้ากลับมาด้วยเหตุใด ปล่อยให้ข้าตายเถอะ เป็นความผิดของข้าคนเดียว ถ้าไม่มีข้า พ่อแม่พี่น้องของข้าก็คงไม่จบชีวิตลง…”

“พอได้แล้ว!” เซี่ยเซิงเซียวที่นิ่งเงียบไม่พูดไม่จามาโดยตลอดตวาดเสียงห้วนกะทันหัน

เสียงร้องไห้ของหญิงสาวผู้นั้นหยุดชะงัก นางมองไปทางเซี่ยเซิงเซียวผ่านม่านน้ำตาพร่าพราย

เพราะว่าเซี่ยเซิงเซียวเป็นคนพาพวกนางออกมาจากที่กบดานของชาววอโค่ว ส่งผลให้สตรีเหล่านี้เห็นนางเป็นที่พึ่งพิงมากโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว ยามนี้เห็นนางบันดาลโทสะ หญิงสาวผู้นั้นส่งเสียงร้องไห้ไม่ออกอีก มีเพียงหัวไหล่ที่สั่นกระเพื่อมอย่างไร้สุ้มเสียง

เซี่ยเซิงเซียวลอบสูดหายใจเข้าเฮือกหนึ่งก่อนไต่ถามเสียงเฉยเมย “ตอนนั้นข้าพาพวกท่านหลบหนีจากรังชาววอโค่ว ต้องพานพบกับอุปสรรคขวากหนามมามากเท่าไรท่านลืมไปหมดแล้วหรือ เพื่อเร่งความเร็วในการพายเรือมือใครบ้างที่ไม่ถลอกเป็นแผล ไม่มีน้ำดื่ม ริมฝีปากใครบ้างที่ไม่แห้งแตกจนดูไม่ได้ หากมิใช่เจอกับพวกคุณหนูหลี พวกเราให้สัญญากันไว้ว่าแทนที่จะโดนชาววอโค่วจับตัวกลับไป มิสู้รอถึงเสี้ยวขณะสุดท้ายค่อยโดดทะเลไปเสียเลยใช่หรือไม่”

เซี่ยเซิงเซียวกล่าวถึงตรงนี้ก็มีน้ำตาคลอเบ้าแล้ว นางทะนงตนเกินกว่าจะร้องไห้เลยหลับตาลงกลั้นน้ำตาไว้ พูดเสียงแตกพร่าว่า “พวกเราตั้งใจเด็ดเดี่ยวที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไปโดยไม่กลัวตาย มิใช่ให้ท่านคิดสั้นในตอนนี้! ครอบครัวของท่านไปทวงความเป็นธรรมกับคนที่ฉุดคร่าท่านไปจนต้องประสบเคราะห์ร้าย แล้วท่านจบชีวิตตนเองเป็นการตอบแทนพวกเขาหรือ ท่านเลอะเลือนไปแล้วจริงๆ!”

คำพูดติเตียนเพื่อเตือนสติของเซี่ยเซิงเซียวทำให้หญิงสาวผู้นั้นหยุดร้องไห้ในที่สุด แววสิ้นหวังในดวงตานางค่อยๆ แทนที่ด้วยความแน่วแน่ จู่ๆ นางก็โขกศีรษะให้เฉียวเจาพลางกล่าว “คุณหนูหลี โปรดรับข้าไว้ด้วยเถอะ ข้าจะไปเมืองหลวงพร้อมกับพี่น้องทั้งหลาย ข้าจะมีชีวิตอยู่ต่อไปให้ดีๆ”

* เทพเวินเสิน ตามความเชื่อของชาวจีนหมายถึงเทพดาวหายนะ นำพาภัยพิบัติหรือโรคระบาดมาสู่มนุษย์

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "บทที่ 490"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์