CatNovel
  • หน้าหลัก
  • แทงหวย24
  • มังงะ
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • แทงหวย24
  • มังงะ
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

หวนคืนอีกครา สู่ห้วงเวลาแสนงาม - บทที่ 566

  1. Home
  2. หวนคืนอีกครา สู่ห้วงเวลาแสนงาม
  3. บทที่ 566
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

บทที่ 566

ณ ถนนที่ตั้งศาลาพักม้า เกล็ดหิมะปลิวว่อนทั่วฟ้า

เฉียวโม่ยกมือจับพู่กลมขนปุกปุยน่ารักบนเสื้อคลุมขนสุนัขจิ้งจอกหิมะของเฉียวเจาให้เข้าที่พลางกล่าวเสียงนุ่ม “ความแค้นของครอบครัวเราได้รับการสะสางในครานี้ต้องขอบคุณน้องพี่ที่ต้องลำบากลำบนวิ่งวุ่นไปทั่ว พี่ใหญ่ละอายใจอย่างมาก”

ท่ามกลางพายุหิมะเฉียวเจาคลี่ยิ้มอย่างอ่อนโยน “พี่ใหญ่พูดอะไรกัน ถ้าไม่มีพี่ใหญ่เสี่ยงตายนำสมุดบัญชีออกมา ข้าก็คงหมดปัญญา อีกอย่างความแค้นของพวกเราเพิ่งชำระไปได้ครึ่งเดียว ยังมีภูเขาลูกใหญ่ที่ยังไม่โค่นล้มลงนะเจ้าคะ”

ภูเขาลูกใหญ่ตามคำกล่าวของเฉียวเจาหมายถึงหลันซาน สมุหราชเลขาธิการคนปัจจุบันนั่นเอง

คดีของสิงอู่หยางหลันซานอาจถูกฮ่องเต้หมิงคังตำหนิอย่างรุนแรงยกหนึ่ง แต่ก็เพียงริบเบี้ยหวัดเท่านั้น ซึ่งมิได้กระทบกระเทือนถึงฐานอำนาจบารมีของเขาแต่อย่างใด สำหรับหลันซานแล้วเท่านี้ไม่นับว่ามีอะไรจริงๆ

กระนั้นเฉียวเจากับพี่ชายแจ่มแจ้งดีว่าความผิดของหลันซานมิใช่แค่สะเพร่าเลินเล่อส่งเสริมคนผิดอย่างสิงอู่หยางดังที่เห็นอยู่ภายนอก อย่างน้อยเรื่องที่เฉียวโม่โดนวางยาพิษประหลาดที่เรือนท่านตาก็มีเงาของหลันซานอยู่เบื้องหลังรางๆ

กล่าวให้ลึกลงไปหลันซานต่างหากที่เป็นตัวการใหญ่อยู่เบื้องหลัง มีเพียงกำจัดเขาทิ้ง ความแค้นของครอบครัวถึงนับว่าได้รับการชำระสะสางอย่างหมดจด

ไม่ว่าเฉียวเจาหรือว่าเฉียวโม่ต่างรู้ซึ้งถึงจุดนี้ แต่ขณะเดียวกันก็รู้ว่าหมายโค่นภูเขาลูกใหญ่เฉกหลันซานมิใช่จะทำสำเร็จได้ในวันเดียว จำต้องค่อยเป็นค่อยไป

“จะอย่างไรก็ตามตอนนี้พวกเราบรรลุเป้าหมายเล็กได้แล้ว เป็นเรื่องที่ควรค่าแก่การยินดี” ผ้าโปร่งสีดำที่บดบังใบหน้าของเฉียวโม่ทำให้สุ้มเสียงของเขาฟังดูอ่อนโยนยิ่งขึ้นกลางพายุหิมะ

“พี่ใหญ่กล่าวได้ถูกต้องเจ้าค่ะ”

“เจาเจา…”

“หือ?”

“วันหน้าสวมอาภรณ์ที่มีสีสันสดใสขึ้นเถอะ พี่ใหญ่รู้ว่าเจ้าต้องการไว้ทุกข์ให้ท่านพ่อท่านแม่ แต่บัดนี้เจ้าเป็นบุตรสาวสกุลหลีแล้ว อายุยังน้อยก็แต่งกายเรียบง่ายเช่นนี้จะสร้างความไม่พึงใจให้ผู้อาวุโสได้”

เฉียวเจาเม้มปาก

เฉียวโม่พูดกล่อมต่อ “ดวงวิญญาณของท่านพ่อท่านแม่บนสวรรค์รับรู้ความตั้งใจของเจ้าได้ อย่างอื่นเป็นเพียงพิธีการอย่างหนึ่ง เจ้าว่าพี่ใหญ่พูดถูกหรือไม่”

เฉียวเจาผงกศีรษะ “ข้าเชื่อพี่ใหญ่เจ้าค่ะ”

เฉียวโม่ถึงมองไปทางเซ่าหมิงยวนที่ยืนข้างกายนางแล้วกางร่มให้เงียบๆ

“ท่านโหว…”

แม่ทัพหนุ่มในชุดสีขาวปลอดตัดบทเฉียวโม่ “พี่เฉียวโม่เรียกข้าว่าหมิงยวนเถอะ”

โดยทั่วไปแล้วผู้อาวุโสกว่าจะเรียกชื่อจริง คนอายุเท่ากันเรียกชื่อรอง เซ่าหมิงยวนขอให้เฉียวโม่เรียกชื่อจริงของตน แสดงให้เห็นถึงความเคารพนับถือที่มีต่ออีกฝ่าย

เฉียวโม่ชะงักไปเล็กน้อย แน่นอนว่าเขาไม่มีทางเรียกขานชื่อจริงๆ ของท่านโหวขั้นหนึ่งผู้ทรงเกียรติ หากในใจกลับรู้สึกปลาบปลื้มยินดี เขาอมยิ้มกล่าวว่า “ถิงเฉวียน หลังจากนี้ฝากน้องสาวข้าไว้กับเจ้าด้วย เจ้าต้องดูแลนางให้ดีๆ”

เซ่าหมิงยวนกุมมือเฉียวเจาต่อหน้าเฉียวโม่พร้อมกล่าวยิ้มๆ “พี่เฉียวโม่วางใจได้ ข้าจะดูแลเจาเจาเป็นอย่างดี ไม่ทำให้นางต้องคับข้องหมองใจแน่นอน”

สายตาของเฉียวโม่จับอยู่ที่สองมือที่กุมกันของคนทั้งคู่ จู่ๆ เขาชักไม่สบอารมณ์ขึ้นมาอีก

เขาให้เจ้าหนุ่มผู้นี้ดูแลน้องสาว ไม่ได้พูดว่าตอนนี้ก็สามารถทำปากว่ามือถึงแตะเนื้อต้องตัวน้องสาวของเขาได้แล้วนะ!

ในฐานะพี่เขยเฉียวโม่รู้สึกคับใจเป็นอันมาก เขากำมือป้องปากส่งเสียงไอเบาๆ แสร้งทำเหมือนไม่ใส่ใจก่อนเอ่ยเตือนขึ้น “แม้พวกเจ้าหมั้นหมายกันแล้ว แต่เวลานี้เจาเจายังอายุน้อยอยู่ พวกเจ้าอย่าพบหน้ากันบ่อยเกินไปจะได้ไม่ตกเป็นที่ครหาของผู้คน”

เซ่าหมิงยวนปล่อยมือเฉียวเจาอย่างเก้อกระดาก พร่ำพูดรับรองว่าจะเป็นคู่หมั้นที่สำรวมระวังตนผู้หนึ่ง

เฉียวโม่พยักหน้าอย่างพอใจ เขาเปลี่ยนเรื่องพูด “ยังมีหว่านวาน เด็กผู้นั้นมีนิสัยกระโดกกระเดก นางอยู่คนเดียวในจวนโหวข้าก็ไม่ใคร่วางใจเท่าไรนัก ถิงเฉวียน เจ้าช่วยดูแลนางแทนข้าด้วยนะ”

เซ่าหมิงยวนย่อมต้องรับปาก

เฉียวโม่สบายใจแล้ว สายตาของเขามองเฉียวเจากับเซ่าหมิงยวนสลับไปมา จากนั้นกล่าวเสียงนุ่มว่า “อากาศหนาวเหน็บ พวกเจ้าไม่ต้องอยู่ส่งข้าแล้ว รีบกลับไปเถอะ”

“พี่ใหญ่ รอท่านไปแล้วพวกข้าค่อยกลับ”

“ตกลง เช่นนั้นข้าไปก่อนนะ” เฉียวโม่มองน้องสาวนิ่งๆ แล้วผงกศีรษะให้เซ่าหมิงยวน พอเขาขึ้นรถม้าไปพร้อมกับองครักษ์หลายคนที่เซ่าหมิงยวนส่งมาอารักขาเขาโดยเฉพาะ มันก็แล่นห่างไปไกลขึ้นทุกทีๆ

เฉียวเจากับเซ่าหมิงยวนยืนเคียงข้างกัน จนกระทั่งรถม้าลับตาไปแล้วชายหนุ่มถึงจับมือนางขึ้นมา ยกยิ้มเอ่ยบอกว่า “เจาเจา พวกเราก็กลับกันเถอะ”

นางมองเขาด้วยสีหน้าคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม “เมื่อครู่เป็นใครกันที่รับรองกับพี่ใหญ่ของข้าว่าจะสำรวมระวังตน”

เซ่าหมิงยวนจูงนางขึ้นรถม้า เขายิ้มตาหยีกล่าวว่า “ข้าสำรวมระวังตนมากนะ”

พอเห็นปลายจมูกที่แดงระเรื่อด้วยความหนาวและดวงหน้าเล็กที่ขาวเนียนปานหยกหิมะของเด็กสาว ชายหนุ่มอ้าแขนออก “มานี่ ข้าจะให้ไออุ่นแก่เจ้า”

เฉียวเจาถอดเสื้อคลุมออกแขวนกับตะขอตรงประตูรถม้า นางมองค้อนเขาวงหนึ่งพลางเอ่ย “ในรถม้าอบอุ่นถึงเพียงนี้ ใครอยากให้ท่านทำเรื่องเกินจำเป็น…”

นางกล่าวไม่ทันจบประโยคก็เปลี่ยนเป็นเสียงอุทานอ่อนหวาน ตัวพลันถูกดึงเข้าไปอยู่ในอ้อมอกกว้างแข็งแรงของคนผู้หนึ่ง

“เซ่าหมิงยวน!” เฉียวเจาทุบเขาทีหนึ่ง

ชายหนุ่มคว้ามือเด็กสาวไว้หมับ พูดกลั้วเสียงหัวเราะในลำคอ “อย่าทุบ ระวังเจ็บมือ”

“ถ้าอย่างนั้นท่านปล่อยมือสิ” แผงอกบึกบึนแน่นแข็งของอีกฝ่ายแนบชิดกาย พาให้เฉียวเจาหัวใจเต้นแรงขึ้นอย่างไร้สาเหตุ นางจะยกมือยันหน้าอกเขาถอยห่างออกไป กลับพบว่าขยับเขยื้อนไม่ได้สักนิด

เขาคลายมือออก

เฉียวเจาพรูลมหายใจออกเบาๆ ตั้งท่าจะยืดตัวนั่งหลังตรงเงาดำก็ทาทาบลงมาเหนือศีรษะ ใบหน้าหล่อเหลาของบุรุษขยายใหญ่ขึ้นเบื้องหน้าสายตานาง

เรียวปากของเขาที่ประทับลงบนกลีบปากนางร้อนผ่าวชวนให้ปั่นป่วนใจ

“เซ่าหมิงยวน…” เฉียวเจาแตกตื่นอยู่บ้าง นางอยากจะพูดดุอย่างเคร่งขรึมจริงจังก็กลัวเฉินกวงที่หูไวและชอบสอดรู้สอดเห็นเป็นพิเศษจะได้ยิน สุดท้ายหลังจากปลายลิ้นของอีกฝ่ายล่วงล้ำเข้ามา นางก็ได้แต่โอนอ่อนคล้อยตามปล่อยให้เขายึดครองตักตวงตามแต่ใจ

ดูเหมือนเป็นเพราะว่าขับพิษไอเย็นไปแล้ว ร่างกายของเขาจึงไม่เย็นน้อยๆ อยู่เสมออีกต่อไป ไอร้อนผ่าวที่แผ่มานั้นราวกับจะแผดเผาคนได้

เฉียวเจาเพียงรู้สึกว่ามีกระแสความร้อนวิ่งพล่านวูบวาบอยู่ในกาย ทั้งคล้ายเต็มอิ่มทั้งคล้ายโหวงเหวง ความรู้สึกที่ปนเปกันอย่างบอกไม่ถูกทำให้หัวสมองของนางว่างเปล่าขาวโพลน มีเพียงดอกไม้ไฟแตกกระจายเบ่งบานนับไม่ถ้วน ท้ายที่สุดแม้แต่ปลายนิ้วของนางก็เริ่มสั่นระริก

เสียงหอบเบาๆ ดังสะท้อนก้องอยู่ในรถม้าอันอบอุ่น

ร่างของเฉียวเจาพลันลอยขึ้นจากพื้น นางรู้สึกตัวอีกทีก็ถูกเขาอุ้มไปนั่งอยู่บนตักแล้ว

ท่วงท่าอย่างนี้ทำให้สองแก้มของนางร้อนซู่ด้วยความสะเทิ้นอาย นางดิ้นขัดขืนเป็นพัลวัน “เซ่าหมิงยวน วางข้าลงเร็วสิ”

เสียงที่เปล่งออกมาออดอ่อยเสียจนเฉียวเจาได้ยินแล้วยังหน้าแดงใจสั่น

น้ำเสียงข่มกลั้นของชายหนุ่มดังขึ้นเหนือศีรษะ “เป็นเด็กดี อย่าพูด”

เขากอดนางไว้นิ่งๆ นานครู่หนึ่งถึงอุ้มนางลงวางข้างกายอย่างเงียบๆ แล้วพิงผนังรถม้าพ่นลมหายใจเบาๆ เฮือกหนึ่ง

เฉียวเจาจับผมที่ลุ่ยลงมาให้เข้าที่ก่อนจะถลึงตาใส่เขา

เซ่าหมิงยวนเปิดยิ้มแจ่มกระจ่าง เอ่ยถามเสียงนุ่มขึ้นว่า “ยังกลัวอีกหรือไม่”

เขารู้ว่าสตรีตรงหน้าใจแข็งมาก ใจแข็งถึงขั้นที่ต้องเห็นเหล่าฆาตกรที่สังหารบิดามารดาของนางโดนลงทัณฑ์กับตาตนเองให้ได้

นางมองดูคนพวกนั้นศีรษะหลุดออกจากบ่าทีละคนด้วยสีหน้าสงบนิ่ง โลหิตอุ่นจัดไหลกระฉูดออกมาจากลำคอที่ไร้ศีรษะพุ่งขึ้นสูงเป็นจั้ง

พวกชาวบ้านที่มุงดูอยู่บ้างโห่ร้องเสียงดัง บ้างอุทานเสียงหลง ยังมีคนที่อายุน้อยตกใจจนร้องไห้จ้า ทั่วทั้งบริเวณเสียงดังอึกทึกวุ่นวาย มีเพียงสตรีของเขาที่มองดูตั้งแต่ต้นจนจบอย่างเงียบเชียบโดยไม่แม้แต่จะกะพริบตาสักครั้งเดียว

แต่เขายังคงรู้ว่าจริงๆ แล้วเจาเจาของเขากลัวอย่างยิ่งยวด

เขามองเห็นนางกำมือไว้แน่นจนเห็นเส้นเลือดหลังฝ่ามือปูดโปนและสั่นเทาไม่หยุด

เขาหักใจไม่ได้ที่จะห้ามไม่ให้นางดึงดันต่อไป แต่ก็สงสารนางที่ต้องแบกรับหน้าที่เอาไว้

เมื่อมองสบดวงตากระจ่างใสอ่อนโยนของอีกฝ่าย แพขนตาของเฉียวเจากระพือขึ้นลงเบาๆ นางเอ่ยเสียงค่อยว่า “ไม่กลัวแล้ว”

คงเป็นเพราะรู้ว่าหนทางกลางพายุหิมะในวันข้างหน้าจะมีคนเดินเคียงข้างเสมอก็เลยไม่มีอะไรน่ากลัวอีกต่อไปแล้ว

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "บทที่ 566"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์