หวนคืนอีกครา สู่ห้วงเวลาแสนงาม - บทที่ 62
เป็นแม่ทัพท่านใดหรือ
เฉียวเจากลั้นยิ้มมองสีหน้าท่าทางคันปากอยากเล่าเต็มแก่อย่างของหลีกวงเหวินพลางกล่าว ดูเหมือนจะเป็นเจิ้นหย่วนโหว เคยนำทัพไปโจมตีชาวต๋าจื่อที่ยึดครองซานไห่กวนให้ถอยร่นไปได้เจ้าค่ะ
หลีกวงเหวินหุบยิ้มตรงมุมปากลงทันควัน
ท่านพ่อ…
หลีกวงเหวินไม่สนใจเฉียวเจา เอามือไพล่หลังแล้วย่ำเท้าวนไปวนมาในห้องหนังสือเล็กๆ เขาเดินวนไปมาอยู่หลายรอบมากถึงเอ่ยขึ้น ท่านโหวผู้นั้นโดนประหารทั้งตระกูลไปแล้ว
เพราะเหตุใดเจ้าคะ
เพราะเหตุใดรึ หลีกวงเหวินเริ่มเดินวนไปรอบห้องอีกครา พอตัวไปชนถูกมุมโต๊ะโดยไม่ทันระวัง เขาก็ขมวดคิ้วมุ่นด้วยความเจ็บ แต่ติดขัดที่อยู่ต่อหน้าบุตรสาวเลยไม่อยากขายหน้า จึงฝืนทนไว้และกล่าวว่า สมุหราชเลขาธิการหลันซานถวายฎีกาว่าเขาคิดกบฏ
คิดกบฏหรือ เฉียวเจาอุทานเบาๆ นี่เป็นความผิดใหญ่หลวงทีเดียวเชียวนะ
ฝ่ายหลีกวงเหวินจู่ๆ ก็พลุ่งพล่านขึ้นมา คิดกบฏอะไรกัน นี่มันตรงกับคำกล่าววิหคสิ้นเกาทัณฑ์ซ่อน กระต่ายม้วยย่างสุนัข* ชัดๆ ข้าว่าฮ่องเต้บำเพ็ญเพียรจนเลอะเลือนแล้วมากกว่า…
แค่กๆๆ เฉียวเจาส่งเสียงไอเป็นชุด
เจาเจาเป็นอะไรไปหรือ
เฉียวเจาเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย ฝืนยิ้มน้อยๆ อย่างยากเย็น ท่านพ่อ ท่านเล่าเรื่องสนุกๆ จากข้างนอกให้ข้าฟังดีกว่าเจ้าค่ะ
ขืนพูดต่อไป นางคงต้องไปฟังเรื่องเล่าในคุกหลวงแล้ว
หลีกวงเหวินดูเหมือนรู้สึกตัวแล้วเช่นกัน เขาพยักหน้าอย่างเซื่องซึม อ้อ จริงสิ พ่อเล่าเรื่องสนุกๆ จากข้างนอกให้เจ้าฟังดีกว่า เรื่องมีอยู่ว่าเมื่อวานกวนจวินโหวนำพากองกำลังคุ้มกันหีบศพของทหารพลีชีพเข้าเมืองหลวง มีเด็กสาวใจกล้าบ้าบิ่นคนหนึ่งที่เพ้อรักจนหน้ามืดตามัว เห็นกวนจวินโหวหน้าตาหล่อเหลา ถึงกับวิ่งออกไปดักหน้าเขาต่อหน้าธารกำนัล…
เฉียวเจา … เช่นนี้นางไปฟังเรื่องเล่าในคุกหลวงดีกว่า
เมื่อหาทางให้หลีกวงเหวินกลับไปได้ในที่สุด ผ่านไปไม่นานนักปิงลวี่ก็เข้ามารายงาน
คุณหนู คุณชายสามมาแล้วเจ้าค่ะ
เฉียวเจางุนงงอยู่บ้าง
ตั้งแต่หลีฮุยมาขอขมานางด้วยท่าทางเก้อกระดากคราวนั้น ภายหลังก็ไม่ได้เห็นหน้าค่าตากันสักเท่าไร วันนี้เขามาหานางด้วยเรื่องอะไรอีก
นางตรึกตรองอย่างละเอียด หรือจะบอกว่าหลีเจียวของจวนตะวันออกโดนดูถูกรังแก เขาจะออกหน้าอีกแล้ว?
เชิญคุณชายสามเข้ามา
หลีฮุยย่างเท้าเข้าห้องหนังสือ มองสบสายตานิ่งเรียบดุจผิวน้ำของเฉียวเจาแล้วกลับเป็นฝ่ายหน้าแดง
วันนี้พี่สามไม่ไปสำนักศึกษาหลวงหรือเจ้าคะ
ต้องไป แต่อีกประเดี๋ยวค่อยไป
เช่นนั้นพี่สามมาที่นี่มีธุระหรือ
หลีฮุยมองสำรวจห้องหนังสือปราดหนึ่ง ไม่เห็นพวกภาพอักษรใดๆ แขวนประดับอยู่ข้างใน แววผิดหวังจุดวาบขึ้นในดวงตา เขากล่าวด้วยสีหน้าแดงเรื่อๆ ข้าได้ยินว่าเจ้ามีฝีมือเขียนอักษรได้ดี เมื่อวานได้รับอนุญาตให้เข้าพบอู๋เหมยซือไท่หรือ
ในใจเฉียวเจาบังเกิดความรู้สึกที่บรรยายไม่ถูก
สมแล้วที่เป็นพ่อลูกกัน ถามคำถามยังเหมือนกัน ต่อจากนี้คงจะไม่เอ่ยปากขอดูนางเขียนอักษรกระมัง
พอเห็นน้องสาวเพียงยิ้มไม่กล่าววาจา หลีฮุยกลั้นใจอ้าปากพูดว่า ลายมือของน้องเจาเข้าตาของอู๋เหมยซือไท่ได้ แสดงว่าต้องยอดเยี่ยมมาก ไม่รู้ว่าจะให้พี่สามดูสักหน่อยได้หรือไม่
เฉียวเจาแลมองเด็กหนุ่มที่ยังไม่เติบโตเต็มที่ยืนหน้าตาแดงก่ำอยู่ตรงหน้าแล้วเรียกขานตนเองว่า ‘พี่สาม’ อย่างจริงจังแล้วนึกอ่อนใจเป็นอันมาก จะให้นางหยิบพู่กันเขียนอีกรอบคงไม่ได้แล้ว ด้วยเหตุนี้นางจึงเอ่ยขึ้น เมื่อครู่ข้าเขียนอักษรแผ่นหนึ่งถูกท่านพ่อเอาไปแล้ว ถ้าพี่สามอยากดู มิสู้ไปดูที่เรือนท่านพ่อเถอะเจ้าค่ะ
อ้อ เป็นอย่างนี้เองหรือ… หลีฮุยตวัดสายตามองเฉียวเจาแวบหนึ่งแล้วพยักหน้า ถ้าเช่นนั้นข้าไปล่ะ
เขาหันหลังสาวเท้าไปทางข้างนอก แต่เดินไปถึงหน้าประตูก็พลันหยุดนิ่ง เหลียวหน้ามาพูดทิ้งท้ายไว้คำหนึ่งว่า ขอตัวก่อนนะน้องเจา ถึงวิ่งผลุนผลันออกไป
ปิงลวี่ทำหน้าชอบกล พูดเสียงอุบอิบ ไฉนคุณชายสามเกิดมีมารยาทขึ้นมา นี่เป็นต้นเหตุให้นางไม่ได้ออกโรงเลย
อาจูเดินประคองถาดเข้ามา คุณหนู กินโจ๊กกลีบหัวไป่เหอ* สักชามเถอะเจ้าค่ะ
ปิงลวี่ตบหน้าผากตนเอง จริงสิ คุณหนู วันนี้เป็นวันที่ท่านไปสำนักศึกษาที่จวนตะวันออก เมื่อคืนข้าจัดกล่องใส่ตำราไว้ให้เรียบร้อยแล้ว จะไปหยิบมาให้ท่านประเดี๋ยวนี้เลยนะเจ้าคะ
พอเห็นปิงลวี่วิ่งลิ่วๆ ไปแล้ว อาจูยื่นหน้าไปกระซิบที่ข้างหูเฉียวเจา คุณหนู ข้าได้ยินจากท่านป้าที่ซื้อของเข้าเรือนว่าหีบศพของทหารพลีชีพซึ่งเข้าเมืองมาเมื่อวานนี้ได้รับพระราชทานอนุญาตจากฮ่องเต้ให้ฝังที่สุสานหลวงตะวันตก ฮูหยินที่ล่วงลับไปของกวนจวินโหวถูกแต่งตั้งเป็นโหวฟูเหรินลำดับสูงสุด…
นางไม่เข้าใจว่าคุณหนูให้นางสืบถามเรื่องใหญ่ๆ ที่เกิดขึ้นในเมืองหลวงไปเพื่ออะไร แต่ในเมื่อเป็นคำสั่งของคุณหนู นางก็จะทำอย่างเต็มที่
เฉียวเจาพยักหน้าบอกว่ารับรู้แล้ว
อาจูเป็นคนสุภาพอ่อนโยน เจอใครก็มีรอยยิ้มสามส่วน ดูทีว่าคงค่อยๆ เข้าไปคลุกคลีกับพวกบ่าวไพร่ได้แล้ว ส่วนว่าภรรยาของกวนจวินโหวจะได้รับบรรดาศักดิ์หลังล่วงลับไปแล้วหรือไม่ สำหรับนางแล้วปราศจากความหมายใดๆ
ลำบากเจ้าแล้ว
คุณหนู กล่องใส่ตำราของท่านเจ้าค่ะ ปิงลวี่เดินฉับๆ เข้ามา เห็นอาจูยืนชิดกับเฉียวเจาก็ทำเสียงฮึเบาๆ พลางสืบเท้าเข้าไปเบียดนางไปด้านข้างอย่างว่องไวปราดเปรียว
คุณหนู เมื่อวานคุณหนูรองเคราะห์ร้ายครั้งใหญ่ คงมีไฟโทสะสุมเต็มอกเป็นแน่ วันนี้ท่านต้องระวังตัวหน่อยนะเจ้าคะ
คุณหนูรองจะหาเรื่องข้าหรือ เฉียวเจาอดยิ้มไม่ได้ คุณหนูผู้นั้นยิ่งล้มยิ่งแกร่งจริงๆ
มิใช่หาเรื่องอย่างเดียวนะเจ้าคะ ตามความเห็นข้า อย่างน้อยต้องแลกกับท่านสักตั้ง ปิงลวี่พูดฉอดๆ
เฉียวเจาหลุดหัวเราะพรืดด้วยความขบขัน
ปิงลวี่ทำตาลอยแล้วจู่ๆ ก็ยกมือกุมแก้ม
หือ? เฉียวเจาเลิกคิ้วขึ้น
โอ๊ย คุณหนูเจ้าคะ เมื่อครู่ท่านหัวเราะแล้วงามจริงๆ ปิงลวี่ตบแก้มตนเองเบาๆ นางถอนใจเฮือกอย่างหาได้ยาก ท่านไม่ได้หัวเราะอย่างนี้มานานมากแล้วเจ้าค่ะ
พักนี้รอยยิ้มของคุณหนูจืดจางเหลือเกิน นางเห็นแล้วมักรู้สึกเหมือนมีบางอย่างขวางกั้นไว้ชั้นหนึ่งอยู่ร่ำไป
เป็นอย่างนี้หรือนี่ เฉียวเจาเอียงคอมองไปทางอาจู อาจู ถุงผ้าปักที่ให้เจ้าเตรียมไว้ เรียบร้อยแล้วใช่หรือไม่
เรียบร้อยแล้วเจ้าค่ะ อาจูคลำหาถุงผ้าปักสีพื้นใบหนึ่งออกมาจากแขนเสื้อ
เฉียวเจายื่นมือรับมาเปิดออกดูแล้วเหน็บไว้ข้างเอวตามสบาย
ปิงลวี่เบะปาก ถุงผ้าปักน่าเกลียดเช่นนี้ ยังหยิบให้คุณหนูพกติดตัวโดยไม่ละอายแก่ใจ
น่าเกลียดตรงที่ใดกัน
เฉียวเจาอดก้มหน้าลงดูถุงผ้าปักของประดับเอวชิ้นใหม่
นี่เป็นคุณหนูทำเอง อาจูเอ่ยเตือนด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ใดๆ
ปิงลวี่อึ้ง … อาจูเจ้าคนโง่เง่า เพราะอะไรไม่รีบบอกแต่แรก!
สาวใช้น้อยมองถุงผ้าปักซ้ำอีกครา เพียรพยายามสรรหาถ้อยคำชมเชยเยินยอสักอย่าง นางคิดอยู่นานสองนานแล้วเห็นว่าขอขมาคุณหนูตามตรงเป็นอันสิ้นเรื่อง
นานๆ ทีจะทำงานเย็บปักถักร้อยสักหน ถึงกับโดนปิงลวี่รังเกียจ?
เฉียวเจาพลันคับอกคับใจอยู่บ้าง นางยืนขึ้นแล้วบอกเสียงเรียบ ถึงเวลาไปเรือนชิงซงคารวะยามเช้าแล้ว
จวบจนนางออกเดินไปได้หลายก้าว ปิงลวี่ถึงหาข้อดีของถุงผ้าปักพบกะทันหัน นางตะโกนพูด คุณหนู ผ้าไม่เลวเจ้าค่ะ
เฉียวเจาฟังไม่เข้าใจในชั่วขณะ
ปิงลวี่พูดอธิบาย ข้าจะบอกว่าเนื้อผ้าที่ใช้ทำถุงผ้าปักไม่เลวเจ้าค่ะ คุณหนูตาแหลมจริงๆ
ฮ่าๆ อาจูผู้สุขุมเป็นนิจเปล่งเสียงหัวเราะอย่างกลั้นไม่อยู่
เฉียวเจาจับๆ ถุงผ้าปักด้วยสีหน้าบูดบึ้ง จากนั้นก้าวเท้าปราดๆ เดินออกไปอย่างรวดเร็ว
หลีกวงเหวินกลับถึงห้องหนังสือแล้วปลดภาพอักษรภาพหนึ่งบนผนังลงมาทันที เขายกมือกะประมาณขนาดเล็กน้อย ก่อนจะค้นหากระดาษเนื้อหนามาเตรียมทำเป็นกรอบรองหลังให้ตัวอักษรที่บุตรสาวเขียนแล้วเอาไปแขวน
เขาเพิ่งเตรียมวางกระดาษที่จะใช้เสร็จ เสียงเคาะประตูห้องก็ดังขึ้น
ใครรึ
ท่านพ่อ ข้าเองขอรับ
หลีกวงเหวินลุกขึ้นเดินไปที่หน้าห้องแล้วเปิดประตู
ฮุยเอ๋อร์? วันนี้ยังไม่ถึงช่วงหยุดเรียนของสำนักศึกษาหลวงกระมัง ไฉนเวลานี้เจ้ายังไม่ไปอีก
หลีฮุยเกือบกลอกตาขึ้นอย่างห้ามไม่อยู่ วันนี้ก็ไม่ใช่วันพักของท่านพ่อสักหน่อย ท่านยังไม่ไปที่ว่าการเลยมิใช่หรือ
ท่านพ่อ ข้าได้ยินว่าน้องเจาเขียนตัวอักษรให้ท่านแผ่นหนึ่ง ข้าอยากดูบ้างขอรับ
หลีกวงเหวินลืมเรื่องที่บุตรชายเข้าเรียนสายไปสนิทใจทันควัน ทำสีหน้าประหนึ่งได้พบผู้รู้ใจ มาๆ ข้ากำลังใคร่ครวญว่าจะให้เจ้าไปฝึกฝนกับน้องเจาของเจ้าให้มากๆ ในยามว่างอยู่เลยนะ
* วิหคสิ้นเกาทัณฑ์ซ่อน กระต่ายม้วยย่างสุนัข หมายถึงกำจัดทิ้งเมื่อใช้ประโยชน์เสร็จแล้ว ยิงวิหคตายแล้วก็เก็บธนู ล่ากระต่ายได้แล้วก็จับสุนัขล่าเนื้อมาฆ่ากิน
* ไป่เหอ คือดอกลิลลี่ ส่วนที่นำมาปรุงอาหารไม่ใช่ส่วนดอก แต่เป็นส่วนหัว (Bulb) ซึ่งลักษณะเป็นกลีบๆ คล้ายกระเทียม