หวนคืนอีกครา สู่ห้วงเวลาแสนงาม - บทที่ 66
อู่ซื่อได้ยินดังนั้นก็ถึงกับพูดไม่ออก
ถ้านางเด็กตัวดีผู้นี้อาศัยอยู่ใต้ชายคาข้าล่ะก็ โดนจับเชือดทิ้งไปนานแล้ว!
คุณหนูห้าหลีซูยืนอยู่ด้านข้างเห็นท่านแม่ใหญ่ของตนเสียท่า ในดวงตาก็มีรอยยิ้มจุดวาบขึ้น
พี่เจาร้ายกาจจริงๆ พูดไม่กี่คำก็ทำให้ท่านแม่ใหญ่เหมือนเอากำปั้นทุบลงบนปุยนุ่นได้
ท่านป้าสะใภ้ใหญ่ยังอยากทราบเรื่องใดอีกหรือไม่เจ้าคะ ข้าจะบอกทุกอย่างที่รู้โดยไม่ปิดบังอำพรางแน่นอน
อู่ซื่อเห็นเด็กสาวมีสีหน้าสงบนิ่งแล้วจู่ๆ ก็ถามต่อไม่ออก
ยังจะถามอะไรได้ นางเป็นป้าสะใภ้ มิหนำซ้ำยังอยู่แยกกันคนละเรือน คงจะถามตรงๆ ไม่ได้ว่า ‘หรือเจ้าดูออกว่าอาหารผิดปกติถึงได้ไม่กิน’
หลีซานหาใช่คนโฉดเขลา ต่อให้ดูออกจริงๆ ก็ไม่มีทางยอมรับหรอก
อู่ซื่อนิ่งเงียบไปประเดี๋ยวหนึ่ง เฉียวเจากลับเอ่ยขึ้น เห็นทีว่าอาหารที่พวกข้ากินตอนกลางวันจะมีปัญหา ท่านป้าสะใภ้ใหญ่ให้คนตรวจสอบดูสักหน่อยหรือยังเจ้าคะ
นางเอ่ยเตือนขึ้นด้วยเจตนาดี แม้ว่าพี่เจี่ยวกับพี่เจียวจะกินอาหารหมดเกลี้ยง แต่ข้าไม่ได้กินเลย สามารถนำไปตรวจสอบได้พอดีเจ้าค่ะ
ต่งมามากำลังตรวจสอบอยู่ แต่ท่านป้าคิดว่าถ้าคุณหนูสามสังเกตเห็นอะไรผิดปกติก็บอกกล่าวให้ท่านป้ารู้สักคำ ทางต่งมามาจะตรวจหาสาเหตุพบได้เมื่อไรก็ไม่รู้ จะได้ไม่ทำให้การรักษาพี่เจี่ยวกับพี่เจียวของเจ้าต้องล่าช้า
สิ้นเสียงอู่ซื่อไม่ทันไร ต่งมามาก็เดินเข้ามากระซิบพูดสองสามคำที่ข้างหูอู่ซื่อ เป็นเหตุให้นางหน้าเปลี่ยนสีฉับพลัน
ต่งมามาตรวจพบว่ามียาถ่ายผสมอยู่ในอาหารที่เทลงถังทิ้งเศษอาหาร
ท่านป้าสะใภ้ใหญ่ รู้สาเหตุที่พวกพี่เจียวท้องเสียหรือยังเจ้าคะ เฉียวเจาไต่ถามอย่างเยือกเย็น
ในใจอู่ซื่อขุ่นเคืองสุดประมาณ
ตอนนั้นเจียวเจียวกับคุณหนูใหญ่ท้องเสียอย่างรุนแรงจนพูดไม่ไหว นางซักถามจากคุณหนูสี่กับคุณหนูหกถึงรู้ว่าคุณหนูสามไม่ได้กินอาหาร สัญชาตญาณนางบอกว่าเป็นเด็กผู้นี้เล่นไม่ซื่อ ด้วยความเป็นห่วงบุตรสาวจนว้าวุ่นใจ ถึงได้รีบร้อนเรียกตัวมาถามให้รู้เรื่อง
แต่เผอิญกลับกลายเป็นอาหารที่ถูกวางยาถ่าย เช่นนั้นก็ต้องเป็นฝีมือของคนในจวนตะวันออกสถานเดียวแล้ว
หรือว่าเด็กผู้นี้ติดสินบนบ่าวไพร่ของจวนตะวันออก
อู่ซื่อปัดข้อสันนิษฐานนี้ทิ้งไปทันที
หากบ่าวไพร่ของจวนตะวันออกถูกเด็กสาวผู้หนึ่งของจวนตะวันตกติดสินบนได้โดยง่าย นางซึ่งเป็นประมุขหญิงของเรือนก็ไม่ต้องทำหน้าที่แล้ว
หรือจะบอกว่า…
ครั้นคิดถึงความเป็นไปได้บางประการ สีหน้าของอู่ซื่อก็บึ้งตึงอยู่บ้าง นางฝืนยิ้มพูดอธิบายกับเฉียวเจา ตรวจพบแล้วว่ากุ้งที่ใช้ทำกุ้งกระจกไม่สด
ที่แท้เพราะกุ้งไม่สดนั่นเองหรือ อย่างนั้นเป็นความบกพร่องของคนในเรือนครัวเล็กสินะเจ้าคะ
คนครัวผู้หนึ่งทำอาหารให้คนได้กินอิ่มท้องเป็นการรักษาหน้าที่ตน ในเมื่อก่อเรื่องวุ่นวายเหลวไหลพรรค์นี้สมควรรับผิดชอบผลที่ตามมา
เฉียวเจาเห็นพ้องกับคำกล่าวที่ว่า ‘ทำสิ่งใดไว้ย่อมได้รับผลเช่นนั้น’ เป็นอันมาก
ให้ร้ายคนสำเร็จแล้วได้รับผลดี แต่พอให้ร้ายคนไม่สำเร็จก็สะบัดบั้นท้ายจากไปก็สิ้นเรื่อง คงให้เป็นเช่นนี้ไม่ได้กระมัง
เรือนครัวเล็กทำหน้าที่ผิดพลาด จะมิใช่ความไร้สามารถของประมุขหญิงของเรือนหรอกหรือ อู่ซื่อคับแค้นใจที่โดนเหน็บแนม นางข่มความโกรธกล่าวขึ้นว่า คุณหนูสามวางใจได้ ประเดี๋ยวท่านป้าจะลงโทษเจ้าพวกไม่ได้เรื่องนั่นอย่างหนักแน่นอน
เฉียวเจาไม่กล่าวตอบคำนี้ นางบอกด้วยรอยยิ้มเอื่อยๆ ท่านป้าสะใภ้ใหญ่คงไม่ทราบว่าตอนนั้นพี่เจียวตำหนิที่ข้าไม่กินกับข้าวไม่หยุดเลยนะเจ้าคะ
อู่ซื่อใจหายวาบ เด็กสาวผู้นี้ฉลาดเจ้าเล่ห์ดังคาด ทั้งเริ่มสงสัยเจียวเจียวแล้วยังข่มขู่นางซึ่งๆ หน้าอีก
อู่ซื่อนึกถึงชื่อเสียงของบุตรสาวในยามนี้แล้ว ไหนเลยจะต้านทานคลื่นลมลูกใหม่ได้อีก นางสะกดไฟโทสะทั้งหมดไว้ ปั้นสีหน้ายิ้มแย้มอบอุ่น เจาเจาอย่าถือสาพี่เจียวของเจ้าเลยนะ นางน่ะทนเห็นอาหารต้องเสียไปอย่างสิ้นเปลืองไม่ได้
มิน่าพี่เจียวกินอาหารเสียเกลี้ยงเลย
อู่ซื่ออยากจะสะบัดฝ่ามือตบหน้าเฉียวเจาสักฉาดใจจะขาด นี่จะเยาะเย้ยว่าบุตรสาวนางโง่เขลา ยกก้อนหินทุ่มใส่เท้าตนเองละสิ อย่านึกว่านางฟังไม่ออก
เฉียวเจาอมยิ้ม นางชอบนักล่ะที่ได้เห็นท่าทางคนที่อยากฆ่านางให้ตายใจจะขาดแต่กลับทำอะไรไม่ได้
ท่านป้า…
อู่ซื่อกระอักเลือดในอกอยู่แล้ว แต่ยังต้องพูดกล่อมหลานบังเกิดเกล้าตรงหน้า นางข่มใจกล่าวยิ้มๆ ข้าได้ยินคุณหนูสี่บอกว่าเจาเจาปวดกระเพาะ ตอนนี้ดีขึ้นแล้วใช่หรือไม่
ขอบคุณท่านป้าสะใภ้ใหญ่ที่เป็นห่วง ย่อมดีขึ้นมากแล้วเป็นธรรมดาเจ้าค่ะ
ได้อย่างนั้นก็ดี อู่ซื่อพยักหน้าแล้วบอกเสียงดัง หวังมามา เอาป้ายประจำตัวข้าไปห้องคลัง แล้วหยิบรังนกเลือดมาให้คุณหนูสามเอากลับเรือนไป
ท่ามกลางสายตาประหลาดใจของทุกคน ประมุขหญิงของจวนตะวันออกผู้นี้ยิ้มอย่างกันเองเป็นพิเศษ รังนกเลือดนี้เป็นของดี เจาเจากินวันละหนึ่งชามบำรุงกระเพาะลำไส้ให้มากๆ นะ
สิ่งซึ่งผู้อาวุโสกำนัลให้มิกล้าบอกปัด หากเจาเจาไม่รับไว้จะเป็นการไม่เคารพเจ้าค่ะ
อู่ซื่อระบายลมหายใจเบาๆ รับรังนกเลือดไว้แสดงว่าไม่คิดจะโวยวายหาเรื่องแล้วกระมัง
เพียงแต่รังนกเลือดเป็นของล้ำค่ามีราคา หลานเกรงว่าบำรุงกระเพาะลำไส้ด้วยของแพงจะเคยตัว เกิดกินหมดแล้วคงไม่มีปัญญาซื้อ…
ขู่กรรโชก นี่คือการขู่กรรโชกอย่างโจ่งแจ้ง!
อู่ซื่อแทบสำลัก นางเอ่ยขึ้นทั้งที่ในใจหลั่งโลหิตเป็นสาย เจาเจาไม่ต้องกังวลเรื่องนี้นะ ท่านป้ายังมีอีก กินหมดแล้วก็มาหยิบได้ตามสบายเลย
เฉียวเจาซึ่งพึงพอใจแล้วถือรังนกเลือดห่อใหญ่ยุรยาตรกลับจวนไป ทิ้งให้อู่ซื่อปวดใจอยู่เนิ่นนานก็ไม่บรรเทาลงไว้ที่เดิม
ฮูหยิน… หวังมามาอดเรียกขานคำหนึ่งไม่ได้
อู่ซื่อกวาดตามองนางแวบหนึ่งแล้วลุกพรวดขึ้น สาวเท้าก้าวใหญ่เดินฉับๆ เข้าไปในห้องที่จัดให้หลีเจียว
หลีเจียวดื่มยาต้มแล้วฟื้นฟูเรี่ยวแรงขึ้นบ้าง พอเห็นมารดาเข้ามาก็พูดแกมสะอื้น ท่านแม่ วันนี้ข้าต้องอับอายขายหน้าในสำนักศึกษาเหลือเกิน วันหน้าข้าไม่ไปเรียนดีดพิณอีกแล้ว ฮือๆๆ…
หุบปาก! อู่ซื่อระงับความโกรธไม่อยู่อีกต่อไป ตะคอกดุเสียงห้วนจัด
หลีเจียวอึ้งงันไป
อู่ซื่อทั้งโมโหทั้งขุ่นใจ เจียวเจียว เจ้าบอกข้ามาตามสัตย์จริง ยาถ่ายในอาหารนั่นมันเรื่องอะไรกัน
ยาถ่าย…ยาถ่ายอะไรเจ้าคะ หลีเจียวลุกลนพูดเฉไฉกลบเกลื่อน
อู่ซื่อถอนใจเฮือกหนึ่ง เจียวเจียว เจ้าออกมาจากท้องแม่นะ เจ้าคิดอย่างไรมีหรือแม่จะไม่แจ่มแจ้ง ตรงนี้ไม่มีคนอื่น ยังไม่เล่าที่มาที่ไปให้แม่ฟังทั้งหมดอีกรึ
หลีเจียวต้องทรมานกับอาการท้องร่วงมากพอแล้วยังโดนมารดามองด้วยสายตาคาดคั้นอีก นางจึงร้องไห้เสียงดังในที่สุด ท่านแม่ ข้าไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น ข้าสั่งให้คนของเรือนครัววางยาในสำรับอาหารของหลีซานชัดๆ ใครจะรู้ว่าอาหารทั้งหมดล้วนมีปัญหาได้อย่างไร
นางเงยหน้าขวับ คว้าแขนเสื้อของอู่ซื่อจับไว้ ต้องเป็นเจ้าพวกเบาปัญญาในเรือนครัวฟังผิดไป ถึงเป็นต้นเหตุทำให้ข้ากลายเป็นตัวตลก ท่านแม่ ท่านต้องลงโทษพวกเขาให้เข็ดหลาบนะเจ้าคะ
เจ้าหุบปากเสีย! อู่ซื่อโกรธจนมือสั่น สะบัดมือของหลีเจียวออกทันที
ท่านแม่… หลีเจียวตะลึงงัน
เจ้าพวกโง่เง่านั่นข้าต้องเล่นงานแน่ ส่วนเจ้าทำให้ข้าผิดหวังเหลือเกิน! ข้าพูดกำชับเจ้าซ้ำๆ แล้วมิใช่หรือว่าตอนนี้ไม่เหมือนแต่ก่อน จะก่อปัญหาอีกไม่ได้ แต่เจ้าฟังไม่เข้าหูสักคำ ถึงกับสั่งให้เรือนครัวเล็กวางยาหลีซาน
หลีเจียวยังไม่ยอมแพ้ เป็นคนพวกนั้นที่ไม่ทำงานให้ดี ถ้ามีหลีซานท้องเสียคนเดียว ก็จะบอกได้เต็มปากว่านางกระเพาะไม่ดีหรือว่าไปกินอาหารไม่สะอาดจากที่ใดก็ไม่รู้ แล้วจะมาโยนความผิดให้พวกเราได้เช่นไรเล่า
หลีเจียวยิ่งพูดยิ่งเจ็บใจ นางปิดหน้าร่ำไห้พลางพูด ท่านแม่ สวรรค์ไม่ยุติธรรมเอาเสียเลย ไยต้องให้หลีซานโชคดีถึงเพียงนี้ จำเพาะต้องมาปวดกระเพาะตอนนั้นจนกินอาหารไม่ลงด้วยนะ
อู่ซื่อปล่อยให้หลีเจียวร้องไห้ตามใจชอบ รอจนนางสงบอารมณ์ลงทีละน้อย ถึงดีดหน้าผากนางอย่างไม่ได้ดั่งใจ เจียวเจียว ถึงเวลานี้แล้วเจ้ายังนึกว่าหลีซานแค่โชคดีอย่างเดียวอีกหรือ
หลีเจียวนิ่งขึง
มิใช่เพราะโชคดี เช่นนั้นเป็นเพราะอะไร