CatNovel
  • หน้าหลัก
  • แทงหวย24
  • มังงะ
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • แทงหวย24
  • มังงะ
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

หวนคืนอีกครา สู่ห้วงเวลาแสนงาม - บทที่ 730

  1. Home
  2. หวนคืนอีกครา สู่ห้วงเวลาแสนงาม
  3. บทที่ 730
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

บท​ที่​ 730

ฮ่องเต้​หมิง​คัง​วาง​พู่กัน​ลงบน​ที่​วาง​พู่กัน​ ยื่น​นิ้วมือ​แตะ​ๆ ตรง​ตัวอักษร​คำ​ว่า​ ‘เฉียว​โม่’

เขา​เคย​กล่าว​ไว้​ว่า​ถึงรูปโฉม​ของ​เฉียว​โม่จะมีตำหนิ​ แต่​อนุญาต​ให้​เขา​เข้าร่วม​การ​สอบ​ขุนนาง​ได้​เป็นพิเศษ​ ถือ​เป็นการ​ชดเชย​ให้​สกุล​เฉียว​

กระนั้น​นั่น​เป็น​คำพูด​ตามมารยาท​แท้ๆ​ ใคร​กันที่​เสียโฉม​แล้ว​ยัง​วิ่ง​ไป​เข้าร่วม​สอบ​ขุนนาง​อีก​ ไม่กลัว​ทำให้​คนอื่น​ตกใจ​หรือ​

“เอ๊ะ​ ใบหน้า​เฉียว​โม่หาย​ดี​ดังเดิม​แล้ว​หรือ​” หลัง​ถามไถ่เว่ยอู๋​เสีย​ ฮ่องเต้​หมิง​คัง​หลากใจ​อยู่​สักหน่อย​

ใน​เมื่อ​เป็น​อย่างนี้​ เขา​ไม่ต้อง​เป็นห่วง​ว่า​วันหลัง​เห็น​แล้​วจะ​ขัดนัยน์ตา​

ฮ่องเต้​หมิง​คัง​คิด​ๆ แล้ว​ใช้พู่กัน​จุ่มหมึก​แดง​กา​เครื่องหมาย​วงกลม​บน​ม้วน​ข้อสอบ​ของ​เฉียว​โม่

ถึงอย่างไร​ต้อง​เลือก​ใคร​สัก​คน​ เช่นนั้น​ตัดสิน​ให้​เฉียว​โม่เป็น​จ้วง​หยวน​บัณฑิต​เอก​อันดับ​หนึ่ง​ก็แล้วกัน​ ท่าน​ปู่​ของ​เขา​เป็น​จอม​ปราชญ์​ หลานชาย​ได้​เป็น​จ้วง​หยวน​ก็​ชอบ​ด้วยประการทั้งปวง​ คนใต้​หล้า​ต้อง​เห็น​ว่า​เขา​ผู้​เป็น​ฮ่องเต้​มีสายตา​แหลมคม​เป็นแน่​

เมื่อ​ตัดสินใจ​เลือก​จ้วง​หยวน​ได้​แล้ว​ ฮ่องเต้​หมิง​คัง​สิ้นเปลือง​สมอง​อีก​น้อย​นิด​เท่า​ขี้เล็บ​ใน​การ​เลือก​คน​ที่​ได้​เป็น​ปั่งเหยี่ยน​กับ​ทั่น​ฮวา​ตามลำดับ​ จากนั้น​ตะโกน​บอก​

“เว่ยอู๋​เสีย​ หยิบ​เหรียญทองแดง​มาเหรียญ​หนึ่ง​”

มุมปาก​ของ​เว่ยอู๋​เสีย​กระตุก​ริก​ “ฝ่าบาท​…” พระองค์​จะพึ่ง​เหรียญทองแดง​แบบนี้​ไม่ดี​กระมัง​

“หือ​?”

“พ่ะย่ะค่ะ​” เว่ยอู๋​เสีย​ยื่น​เหรียญทองแดง​ส่งให้​ด้วย​สอง​มือ​

ฮ่องเต้​หมิง​คัง​เอา​ม้วน​ข้อสอบ​เจ็ด​ฉบับ​ที่​เหลือ​วาง​เรียง​เป็น​วงกลม​แล้ว​หมุน​เหรียญทองแดง​ตรงกลาง​วง​

อืม​…รอ​เหรียญ​หยุด​หมุน​แล้ว​ หาก​เหรียญ​ด้าน​ที่​สลัก​คำ​ว่า​ ‘ทอง​’ จาก​คำ​ว่า​ ‘ร่ำรวย​เงินทอง​’ ตรง​กับ​ม้วน​ข้อสอบ​ฉบับ​ไหน​ก็​ตัดสิน​ให้​เป็น​อันดับ​สี่

ฮ่องเต้​หมิง​คัง​เลือก​ผู้​ได้​อันดับ​ที่สี่​ถึงสิบ​โดย​ใช้เหรียญทองแดง​ช่วย​ตัดสิน​ได้​อย่าง​ว่องไว​แล้ว​สั่งให้​เว่ยอู๋​เสีย​ส่งออก​ไป​

เช้าวันรุ่งขึ้น​ ฮ่องเต้​หมิง​คัง​ต้อง​ตื่น​บรรทม​เร็ว​กว่า​ปกติ​ครึ่ง​ชั่ว​ยาม​ เขา​ไม่สบอารมณ์​ด้วยเหตุนี้​เป็นอันมาก​

เพราะ​ ‘การ​ประกาศ​รายชื่อ​บัณฑิต​เอก​’ หน้า​พระที่นั่ง​ซึ่งจัด​ขึ้น​ทุกๆ​ สามปี​นี้​ เป็นต้นเหตุ​ให้​ต้อง​ตื่น​แต่เช้า​ฝึก​วิปัสสนา​เช้าก่อนเวลา​ ช่างน่า​หงุดหงิด​ใจจริงๆ​

บัณฑิต​ทั้ง​สิบ​คน​บ้าง​ประหม่า​บ้าง​ตื่นเต้น​ที่​ได้​พบ​พระพักตร์​โอรส​สวรรค์​ในที่สุด​

ฮ่องเต้​หมิง​คัง​มองเห็น​เฉียว​โม่ใน​หมู่​บัณฑิต​อย่าง​รวดเร็ว​แล้ว​พยักหน้า​กับ​ตนเอง​

รูปลักษณ์​โดดเด่น​ยิ่งกว่า​ที่​เขา​คิด​ไว้​เสีย​อีก​ ฉะนั้น​ไม่ต้อง​เปลี่ยนแปลง​การ​จัดอันดับ​อีกแล้ว​

หาก​การ​จัดอันดับ​หลัง​การ​ประกาศ​รายชื่อ​บัณฑิต​เอก​ไม่มีการเปลี่ยนแปลง​อีก​ ถึงจะเขียน​ลง​บน​แผ่น​ประกาศ​ผล​การ​สอบ​ขุนนาง​อย่าง​เป็นทางการ​ จากนั้น​จะนำ​ไป​ติดประกาศ​ให้​ทราบ​โดย​ทั่วกัน​

เจ้าหน้าที่​ทางการ​ตี​ฆ้อง​ร้อง​ป่าว​มาแจ้งข่าวดี​ที่​จวน​กวน​จวิน​โหว​ ดึงดูด​ความสนใจ​ของ​ผู้คน​ให้​มายื้อแย่ง​กัน​ชมดู​นับไม่ถ้วน​ ชั่ว​ประเดี๋ยวเดียว​ข่าว​คุณชาย​สกุล​เฉียว​ได้​เป็น​จ้วง​หยวน​ก็​แพร่กระจาย​ไป​ทั่ว​ทุก​ตรอก​ซอกซอย​

แต่​ไม่จบ​เพียงเท่านี้​ บัณฑิต​จิ้น​ซื่อ​ของ​ปี​นี้​ซึ่งนำ​โดย​เฉียว​โม่ต้อง​ไป​ร่วม​งานเลี้ยงต้อนรับ​ อีก​ทั้ง​บัณฑิต​จ้วง​หยวน​คน​ใหม่​ยัง​ต้อง​เป็น​ผู้นำ​การ​เซ่นไหว้​บวงสรวง​ที่​ศาล​บูชา​มหา​ปราชญ์​ข่งจื่อ*​ และ​ตั้ง​ป้าย​สดุดี​ใน​สำนักศึกษา​หลวง​ จึงเป็นอัน​เสร็จสิ้น​พิธีการ​ทั้งหมด​

แต่​ไร​มาบัณฑิต​ที่​สอบ​รับราชการ​รุ่น​เดียวกัน​จะรู้สึก​ผูกพัน​กัน​ฉัน​พี่น้อง​ สำหรับ​บัณฑิต​จิ้น​ซื่อ​ทั้งหลาย​ที่​กำลังจะ​ก้าว​เข้าสู่​เส้นทาง​ขุนนาง​แล้ว​ พวกพ้อง​เพื่อนฝูง​ใน​วง​สมาคม​นี้​มีความหมาย​ไม่สามัญเลย​ทีเดียว​ และ​ผู้​ที่​เป็น​จ้วง​หยวน​ย่อม​กลายเป็น​ผู้นำ​ของ​คน​กลุ่ม​นี้​ไป​โดยปริยาย​

แน่นอน​ว่า​ชื่อเสียง​เกียรติยศ​ใน​ตอนนี้​จะลด​น้อย​ถอย​ลง​ไป​ตาม​ความก้าวหน้า​ใน​หน้าที่​การงาน​ของ​แต่ละคน​หลังจาก​เข้าสู่​ราชสำนัก​ กระนั้น​ถ้าผู้​เป็น​จ้วง​หยวน​ก้าวหน้า​ไป​ได้​ไกล​ เช่นนั้น​ก็​จะมีอิทธิพล​สำคัญ​อย่างยิ่งยวด​ต่อ​ขุนนาง​ร่วม​รุ่น​กลุ่ม​นี้​

เฉียว​โม่รู้​ใน​จุด​นี้​อย่าง​ถ่องแท้​ หลัง​ได้รับ​ตำแหน่ง​เป็น​อาลักษณ์​ใน​สำนัก​ราชบัณฑิต​ เขา​ให้​ความเคารพ​ต่อ​ผู้บังคับบัญชา​และ​ผูกมิตร​กับ​สหาย​ร่วม​สำนัก​ อีก​ทั้ง​ปฏิบัติงาน​ใน​หน้าที่​ได้​อย่าง​ดีเยี่ยม​ ใน​ชั่วเวลา​เพียง​สั้น​ๆ ก็ได้รับ​คำชื่นชม​เป็น​เสียง​เดียวกัน​จาก​คน​ทั่ว​ทั้ง​สำนัก​ราชบัณฑิต​

คน​ที่​ชมเชย​เฉียว​โม่ยัง​รวมไปถึง​หลีก​วง​เห​วิน​

“เฉียว​โม่เจ้าเด็ก​รุ่นหลัง​ผู้​นั้น​ไม่เลว​จริงๆ​ ทุก​ครา​ที่​เดินหมาก​กับ​ข้า​ไม่มีท่าทาง​ขอไปที​สัก​น้อย​นิด​ ทั้ง​ยัง​ทำงาน​ได้​คล่องแคล่ว​ว่องไว​ ไม่เหมือน​เจ้าพวก​ไร้​หัวคิด​ที่​ใช้ชีวิต​ไป​วัน​ๆ เหล่านั้น​” หลีก​วง​เห​วิน​ซึ่งหนีงาน​กลับ​เรือน​แต่​มิได้​กลับ​ไป​ที่​จวน​ เขา​มาที่​เรือน​หลัง​ติดกัน​กิน​กระเพาะ​หมู​ผัด​พริก​หวาน​ฝีมือ​ว่าที่​ลูกเขย​พร้อมกับ​ร่ำสุรา​พลาง​กล่าว​ติชม​

“ใช่ขอรับ​ พี่​เฉียว​โม่เป็น​คน​ที่​ยอดเยี่ยม​มาก​จริงๆ​” เซ่าหมิง​ยวน​แย้มยิ้ม​มอง​เฉียว​เจาที่นั่ง​เป็นเพื่อน​อยู่​ด้าน​ข้าง​ พูด​เออออ​คล้อยตาม​

หลีก​วง​เห​วิน​ดื่ม​สุรา​คำ​หนึ่ง​ หรี่ตา​ลง​ครึ่งหนึ่ง​เหล่​มอง​ชายหนุ่ม​ เขา​มอง​ไป​โคลง​ศีรษะ​ไป​ “น่าเสียดาย​ๆ”

เซ่าหมิง​ยวน​ได้ยิน​คำ​ว่า​ ‘น่าเสียดาย​’ ซ้ำๆ ก็​ไต่ถาม​ขึ้น​อย่าง​อดใจ​ไม่อยู่​ในที่สุด​ “ที่​ท่าน​พ่อตา​กล่าวว่า​น่าเสียดาย​เป็น​ความหมาย​ใด​กัน​ หรือว่า​ของ​แกล้ม​สุรา​ไม่ถูกปาก​ขอรับ​”

“น่าเสียดาย​ที่​ข้า​มีเจาเจาเป็น​บุตรสาว​ที่​ยัง​ไม่ออกเรือน​คนเดียว​น่ะ​สิ เด็ก​รุ่นหลัง​ที่​ดีเด่น​อย่าง​เฉียว​โม่นั่น​ เฮ้อ​…” หลีก​วง​เห​วิน​ดื่ม​สุรา​ไป​กา​หนึ่ง​ชัก​เริ่ม​มึนเมา​ ก็​เก็บ​คำพูด​ใน​ใจไว้​ไม่อยู่แล้ว​

เซ่าหมิง​ยวน​ตกใจ​จน​เหงื่อกาฬ​แตก​พลั่ก​

นี่​ท่าน​พ่อตา​หมายความว่า​อะไร​!

ศัตรู​หัวใจ​มีอยู่​ตั้ง​หลาย​คน​แล้ว​ หรือว่า​ต้อง​นับ​รวม​พี่​เฉียว​โม่ด้วย​

เฉียว​เจามีสีหน้า​กระอักกระอ่วน​ นาง​ยื่นมือ​ไป​ดึง​กา​สุรา​ใน​มือ​บิดา​แล้ว​พูด​ดุ​ “ท่าน​พ่อ​ ท่าน​ดื่ม​มาก​ไป​แล้ว​”

เซ่าหมิง​ยวน​ถูๆ แก้ม​อย่าง​คับอกคับใจ​

ก็​เพราะ​ท่าน​พ่อตา​ดื่ม​สุรา​ไป​มาก​น่ะ​สิถึงพูดความจริง​ออกมา​ด้วย​ความเมา​

“ข้า​ดื่ม​มาก​ไป​หรือ​ เปล่า​ ข้า​แค่​ชอบ​พูด​เรื่องจริง​ คืน​กา​สุรา​ให้​ข้า​เร็ว​เข้า​” หลีก​วง​เห​วิน​สะอึก​ที​หนึ่ง​ ดวงตา​เขา​ฉ่ำปรือ​ด้วย​ฤทธิ์​สุรา​

เฉียว​เจาส่งเสียง​ไอ​สอง​ที​แล้ว​พยุง​บิดา​ลุกขึ้น​ “ถิงเฉวียน​ ข้า​จะกลับ​พร้อมกับ​ท่าน​พ่อ​ก่อน​นะ​”

ท่าน​พ่อ​ที่​เคารพ​เป็น​คน​เถรตรง​เช่นนี้​ นาง​ก็​จนใจ​มาก​เหมือนกัน​

เซ่าหมิง​ยวน​พยักหน้า​เงียบๆ​

แสลงใจ​อยู่​สักหน่อย​ ไม่อยาก​พูดจา​แล้ว​

มือ​ข้าง​หนึ่ง​ยื่น​มากุมมือ​เขา​แน่น​ๆ พร้อม​เสียง​กระซิบ​ของ​เด็กสาว​ดัง​ขึ้น​ “ประเดี๋ยว​ข้า​ค่อย​มาอีกที​นะ​”

สีหน้า​หม่นหมอง​ของ​คน​บางคน​เปลี่ยนเป็น​เบิกบาน​แจ่มใสละม้าย​ฟ้าหลัง​ฝน​ทันที​

อย่างไร​ข้า​ก็​ต้อง​ได้​แต่งงาน​กับ​เจาเจา ปล่อย​ให้​ท่าน​พ่อตา​เสียดาย​ไป​เถอะ​

พริบตาเดียว​ก็​เข้าสู่​เดือน​เจ็ด​ อากาศ​เริ่ม​ร้อนระอุ​ ต้นไม้ใบหญ้า​เป็น​สีเขียว​ซีด​ๆ ไร้​ชีวิตชีวา​ เสียง​จักจั่น​ร้อง​ดังระงม​ชวน​ให้​หงุดหงิด​ใจ

มู่อ๋อง​ย่ำเท้า​วน​ไป​วน​มาใน​ห้อง​หนังสือ​หลาย​รอบ​ก็​ยก​เท้า​ถีบ​เก้าอี้​ตัว​หนึ่ง​ล้ม​ลง​

ที่ปรึกษา​ก้ม​กาย​ลง​จับ​เก้าอี้​ตั้งขึ้น​แล้ว​พูด​ปลอบ​ “ท่าน​อ๋อง​อย่า​ร้อน​พระทัย​…”

“ไม่ให้​ร้อนใจ​หรือ​ ข้า​จะไม่ร้อนใจ​ได้​เช่นไร​ ตอนแรก​ส่งคน​ไป​กำจัด​เด็ก​ใน​ครรภ์​ของ​อนุ​เจ้าห้า​ ปรากฏ​ว่า​ลงมือ​หลายครั้ง​ก็​ไม่สำเร็จ​ กลับ​ทำให้​เจ้าห้า​ไหวตัว​ทัน​อีก​ ตอนนี้​อนุ​ผู้​นั้น​ครรภ์​แก่​แล้วก็​ยิ่ง​ลงมือ​ได้​ยาก​ขึ้น​”

“ท่าน​อ๋อง​พระทัย​เย็น​ๆ ไว้​ก่อน​ พวกเรา​มีไม้ตาย​ที่​ยัง​ไม่ได้​งัด​ออกมา​ใช้พ่ะย่ะค่ะ​”

มู่อ๋อง​นั่งลง​เอนหลัง​พิง​พนักเก้าอี้​ เขา​หรี่ตา​ลง​เอ่ย​ “หาก​ไม่ได้ผล​อีก​ เจ้าเศษสวะ​พวก​นั้น​ก็​ไม่ต้อง​กลับมา​แล้ว​”

ยาม​บ่าย​อัน​สุขสงบ​ ภายใน​วัง​รุ่ย​อ๋อง​นอกจาก​เสียง​จักจั่น​ดัง​น่ารำคาญ​แล้ว​ทั่ว​ทั้ง​บริเวณ​เงียบเชียบ​

ทันใดนั้น​มีเสียงร้อง​อุทาน​ลั่น​ดังก้อง​วัง​อ๋อง​ “แย่​แล้ว​ มากัน​เร็ว​เข้า​ อี๋​เหนียง​หกล้ม​แล้ว​…”

รุ่ย​อ๋อง​ซึ่งพักผ่อน​อยู่​ใน​เรือน​ของ​หลี​เจี่ยว​วิ่ง​ทะยาน​ออกมา​ราวกับ​เหาะ​เลย​ทีเดียว​ เขา​ทำ​หน้าเสีย​กล่าวถาม​ขึ้น​ว่า​ “ใคร​หกล้ม​!”

พวก​สาวใช้​คุกเข่า​เรียงราย​กัน​เต็ม​พื้น​ กล่าวตอบ​ตัวสั่น​งันงก​ “เจี่ยว​อี๋​เหนียง​กลิ้ง​ตกลง​มาจาก​บันได​…”

“บัดซบ​! ถ้าเจี่ยว​อี๋​เหนียง​เป็น​อะไร​ไป​ ข้า​จะให้​พวก​เจ้าชดใช้​ด้วย​ชีวิต​” รุ่ย​อ๋อง​ผู้​อ่อนโยน​นุ่มนวล​เป็น​นิจ​เงื้อ​เท้า​ถีบ​สาวใช้​คน​ที่อยู่​ใกล้​เขา​มาก​ที่สุด​เต็มแรง​แล้ว​รีบรุด​ไปดู​

“เจี่ยว​เหนียง​ เจ้าไม่เป็นไร​นะ​”

หลี​เจี่ยว​ยัง​มีสติ​อยู่​ นาง​กุม​ท้อง​อย่าง​เจ็บปวด​ “ท่าน​อ๋อง​ หม่อมฉัน​เจ็บท้อง​เหลือเกิน​…”

รุ่ย​อ๋อง​ไล่​สายตา​ลง​มอง​ต่ำ​ลง​ตาม​สัญชาตญาณ​ เห็น​รอย​สีแดงเข้ม​ปื้น​หนึ่ง​ตรง​ชายกระโปรง​สีอ่อน​ของ​นาง​

“เลือด​!” รุ่ย​อ๋อง​ตัว​เซวูบ​ เขา​รีบ​ตะโกน​บอก​ “ตาม​หมอ​ประจำ​วัง​อ๋อง​มาเดี๋ยวนี้​”

ผ่าน​ไป​ไม่นาน​นัก​ หมอ​ใหญ่​ประจำ​วัง​อ๋อง​ก้าว​ออกจาก​ห้อง​ของ​หลี​เจี่ยว​แล้ว​ส่ายหน้า​กับ​รุ่ย​อ๋อง​อย่าง​หนักใจ​

รุ่ย​อ๋อง​แทบ​ล้มทั้งยืน​ เขา​แผดเสียง​ดังลั่น​ “หมอ​หลวง​เล่า​ หมอ​หลวง​ที่​ให้​ไป​ตาม​ยัง​มาไม่ถึงอีก​หรือ​”

หมอ​ใหญ่​ประจำ​วัง​อ๋อง​ถอย​ออก​ไป​ด้าน​ข้าง​ก้มหน้า​ไม่กล่าว​วาจา​

สาวใช้​นาง​หนึ่ง​วิ่ง​ออก​มาจาก​ใน​ห้อง​ “ท่าน​อ๋อง​ อี๋​เหนียง​ อี๋​เหนียง​ทูล​เชิญพระองค์​เสด็จ​เข้าไป​เพคะ​”

รุ่ย​อ๋อง​สาวเท้า​เข้า​ห้อง​ไป​ทันที​ เขา​ย่อ​กาย​ลง​ข้าง​เตียง​กุมมือ​นาง​ไว้​ “เจี่ยว​เหนียง​ เจ้าเป็น​อย่างไรบ้าง​ เจ้าต้อง​แข็งใจ​ไว้​นะ​ อีก​ประเดี๋ยว​หมอ​หลวง​ก็​มาแล้ว​”

หลี​เจี่ยว​ส่ายหน้า​อย่าง​อ่อนแรง​ นาง​รวบ​รวมกำลัง​ทั้งหมด​ที่​มีกุมมือ​เขา​ตอบ​ “ท่าน​อ๋อง​ ตาม​…ตาม​น้อง​เจาของ​หม่อมฉัน​มา…นาง​เป็น​ลูกศิษย์​ของ​หมอ​เทวดา​หลี​่ ยาม​นี้​มีแต่​นาง​เท่านั้น​ถึงจะช่วย​ลูก​ของ​พวกเรา​ไว้​ได้​…”

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "บทที่ 730"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์