หวานรักจับหัวใจท่านประธาน - ตอนที่ 1027 เธอหนีไม่รอดหรอก ยอมรับชะตากรรมซะเถอะ! / ตอนที่ 1028 ฉันผิดเอง…
- Home
- หวานรักจับหัวใจท่านประธาน
- ตอนที่ 1027 เธอหนีไม่รอดหรอก ยอมรับชะตากรรมซะเถอะ! / ตอนที่ 1028 ฉันผิดเอง…
ตอนที่ 1027 เธอหนีไม่รอดหรอก ยอมรับชะตากรรมซะเถอะ!
ทันทีที่สิ้นเสียงมั่วเฉียน คนที่อยู่ข้างหลังเหนียนเสี่ยวมู่ก็กรูเข้ามาอย่างรวดเร็วแบบที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า
สายตาเต็มไปด้วยไอสังหาร!
เหนียนเสี่ยวมู่ไม่อยากจะเชื่อฉากที่อยู่ตรงหน้า
นอกจากประหลาดใจที่มีคนกล้าถึงขนาดฆ่าคนตอนกลางวันแสกๆ แบบนี้แล้ว
สิ่งที่เธอรู้สึกประหลาดใจยิ่งกว่านั้นก็คือคนที่ต้องการชีวิตของเธอ แท้ที่จริงแล้วคือมั่วเฉียน!
มันผิดพลาดตรงไหนกันแน่?
ทำไมพ่อสุดที่รักในความทรงจำของเธอถึงได้กลายมาเป็นปีศาจร้ายที่ต้องการจะเอาชีวิตเธอ…
มั่วหย่งเหิงล่ะ?
การมีตัวตนของเขาและที่เขาแกล้งทำเป็นไม่รู้จักเธอ เขามีบทบาทอย่างไรในการแสดงนี้กันแน่?
เหนียนเสี่ยวมู่หายใจติดขัดเล็กน้อยเมื่อเผชิญหน้ากับสถานการณ์ซับซ้อนซ่อนเงื่อนที่อยู่ตรงหน้า
ในหัวยุ่งเหยิงเต็มไปหมด
หลงเหลือแต่ความคิดหมกมุ่น——
“การหายตัวไปของถานเปิงเปิงก็เกี่ยวข้องกับแกด้วยใช่ไหม? คนเมื่อกี้ใช่เธอหรือเปล่า? ถานเปิงเปิงยังมีชีวิตอยู่ใช่ไหม?”
เมื่อได้ยินเธอยังเป็นห่วงเป็นใยคนอื่นทั้งๆ ที่ตัวเองกำลังจะตาย
ใบหน้ามั่วเฉียนก็เผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์
“เป็นห่วงถานเปิงเปิงซะขนาดนี้ ฉันจะให้เธอนอนตายตาหลับก็ได้”
มั่วเฉียนโบกมือ จากนั้นก็มีคนพาผู้หญิงคนหนึ่งลงจากรถทันที
บนตัวถูกมัดด้วยเชือก มีถุงกระดาษคลุมไว้บนศีรษะ
รูปร่างคล้ายถานเปิงเปิง
แต่ทันทีที่แกะถุงกระดาษ กลับเป็นคนแปลกหน้าไปโดยปริยาย
ไม่ใช่เธอ
ไม่ใช่ถานเปิงเปิง…
ที่แท้แล้วเป็นกับดัก เขาหลอกล่อเธอให้มาที่นี่โดยอาศัยที่เธอเป็นห่วงถานเปิงเปิง
“ต่ำทราม!” เหนียนเสี่ยวมู่กัดฟัน
มั่วเฉียนหัวเราะเยาะ “จะโกรธไปทำไมกัน? ไม่ใช่เพื่อนรักเธอ เธอก็ควรจะดีใจไม่ใช่เหรอ เพราะอย่างน้อยๆเพื่อนเธอยังโชคดีกว่าเธอที่ไม่ตกอยู่ในเงื้อมมือฉัน แต่ถึงยังไงเธอก็ไม่ได้โชคดีขนาดนั้น”
มั่วเฉียนขยิบตาเป็นสัญญาณให้คนเข้ามาจับตัวเหนียนเสี่ยวมู่
เหนียนเสี่ยวมู่ยกเท้าขึ้นและเตะหน้าอกชายคนนั้นทันที
หยิบโทรศัพท์จะโทรแจ้งตำรวจ
แต่ยังไม่ทันได้ต่อสาย ก็มีคนมาคว้าโทรศัพท์ของเธอไป
เธอเองก็ไม่ได้ตื่นตระหนก เพียงหมุนตัวและเลี่ยงการจู่โจม
ในขณะเดียวกันก็วิ่งไปที่โล่งแล้วหันกลับมามองมั่วเฉียน
ถามคำถามที่อยากจะถามมากที่สุด “แกใช่พ่อของฉันหรือไม่กันแน่?”
“อยากรู้คำตอบนี้มากเลยสินะ ลงนรกไปแล้วจะมีคนบอกเธอเอง” เสียงของมั่วเฉียนทั้งเย็นชาและไม่แยแส
เมื่อได้ยินดังนั้น หัวใจเหนียนเสี่ยวมู่ก็จมดิ่ง
มั่วเฉียนมองสถานการณ์ออก เขาไม่ยอมให้เหนียนเสี่ยวมู่ยื้อเวลาไปมากกว่านี้ จึงส่งสัญญาณให้ลูกน้องลงมือแบบรวดเร็วฉับไว
จัดการเธอให้เร็วที่สุด
จัดการหนามยอกอกตัวเอง!
กลุ่มคนพวกนั้นล้อมเหนียนเสี่ยวมู่ไว้บนพื้นที่เปิดโล่งของท่าเรือตามคำสั่งของมั่วเฉียน…
“เธอหนีไม่รอดหรอก ยอมรับชะตากรรมซะเถอะ!”
“……”
เหนียนเสี่ยวมู่มองคนชุดดำที่กำลังเดินเข้ามาประชิดเพื่อจับตัวเธอ แม้ในใจจะกระวนกระวายเหมือนมดบนกระทะร้อนๆ
แต่กลับไม่แสดงความขี้ขลาดออกมาแม้แต่น้อย
มองไปทางประตูทางเข้าอยู่ตลอด
เจ้าบ้าฟ่านอวี่ ทำไมยังไม่มาอีก…
ถ้าไม่มา เธอคงต้องทิ้งชีวิตน้อยๆ ไว้ที่นี่แล้ว
คงเป็นประเภทที่ว่านอนตายตาไม่หลับ!
“ดูเหมือนประธานมั่วจะดีใจเร็วไปหน่อย!” เสียงขี้เล่นดังมาจากทางเข้าท่าเรือ
วินาทีต่อมา ฟ่านอวี่คนที่เหนียนเสี่ยวมู่คอยพร่ำรำพันถึงก็มาปรากฏตัวอยู่ต่อหน้าในชุดสูทสีขาว ด้วยท่าทางไม่สะทกสะท้าน
นัยน์ตาอ่อนโยนราวกับแฝงไปด้วยกาแล็กซี
พอเงยหน้าขึ้นก็ทำให้คนรู้สึกอบอุ่น
ด้านหลังเขายังมีกลุ่มบอดี้การ์ดที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดี เต็มไปด้วยพลังคุ้มกัน
ทันทีที่ฟ่านอวี่ให้สัญญาณมือ พวกเขาก็พุ่งเข้าไปตั้งท่าคุมเชิงกับคนของมั่วเฉียน
ตอนที่ 1028 ฉันผิดเอง…
เหนียนเสี่ยวมู่ถอนหายใจด้วยความโล่งอกพร้อมกับเอามือตบหน้าอกตัวเองเบาๆ
รักษาชีวิตน้อยๆไว้ได้แล้ว
แต่เธอให้ฟ่านอวี่ไปแจ้งอวี๋เยว่หานแล้ว ทำไมเขาถึงมาคนเดียว?
หรือยังติดต่ออวี๋เยว่หานไม่ได้?
ตามเวลาที่กำหนด ณ เวลานี้ งานแต่งงานของพวกเขาน่าจะเริ่มไปตั้งนานแล้ว
อวี๋เยว่หานจะต้องรู้แล้วแน่ๆ ว่าเธอหายตัวไป
เขาคงไม่ได้โกรธที่เธอจากไปโดยไม่ลา ก็เลยไม่มา…
“นายคือ…ฟ่านอวี่?”
มั่วเฉียนไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ในยามคับขัน
ถึงกับทำลายเรื่องดีๆ ของเขา
หลังจากเขาจำได้ว่าคนที่อยู่ตรงหน้าคือฟ่านอวี่ซึ่งเป็นประธานหนุ่มอายุน้อยแห่งบริษัทตระกูลฟ่าน สีหน้าก็เปลี่ยนเป็นอึมครึม
เหมือนไม่ได้คาดคิดมาก่อนเลยว่าเหนียนเสี่ยวมู่จะรู้จักคนใหญ่คนโตมากมายขนาดนี้
และยังมาได้ทันเวลาพอดี!
“ที่แท้แล้วประธานมั่วก็รู้จักคนรุ่นหลังอย่างผมด้วย เป็นเกียรติกับผมจริงๆ” ระหว่างที่ฟ่านอวี่กำลังยิ้มเบาๆ ก็สาวเท้าเดินมาทางเหนียนเสี่ยวมู่
ทันทีที่เดินไปตรงหน้าเหนียนเสี่ยวมู่ ก็พบว่ามีคนเข้ามาล้อมพวกเขาเพิ่มอีกหนึ่งกลุ่ม
“พ่อหนุ่ม ในเมื่อฉันวางกับดักนี้ไว้แล้ว ฉันจะปล่อยพวกเธอไปง่ายๆได้ยังไง?”
เห็นได้ชัดว่ามั่วเฉียนเตรียมการมาอย่างดี และไม่ได้พาคนมาแค่กลุ่มเดียว
เมื่อรวมๆกันแล้ว มีจำนวนคนเยอะกว่าบอดี้การ์ดของฟ่านอวี่มากกว่าหนึ่งเท่า!
ถ้าต้องประมือกันจริง พวกเขาคงเอาชนะไม่ได้อย่างแน่นอน!
เหนียนเสี่ยวมู่กลืนน้ำลายพลางมองไปทางฟ่านอวี่ “ตอนที่นายมา คงแจ้งตำรวจไว้แล้วสินะ?”
ฟ่านอวี่ “เธอไม่ได้บอกฉันหนิว่าคนจะเยอะขนาดนี้ แล้วอีกอย่างฉันก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ จะกล้าไปแจ้งตำรวจได้ยังไงล่ะ? ช่างเถอะ ฉันผิดเอง”
ฟ่านอวี่หยิบโทรศัพท์ออกมาจากในกระเป๋า
ไม่นานก็พบว่าโทรศัพท์ไม่มีสัญญาณ
“มั่วเฉียนไม่ใช่พ่อเธอใช่ไหม? ทำไมถึงคิดจะฆ่าเธอด้วย?”
ฟ่านอวี่พิจารณาจากสถานการณ์ที่อยู่ตรงหน้าพลางขมวดคิ้วถาม
จากข้อมูลที่เขาสืบมา เหนียนเสี่ยวมู่น่าจะเป็นคุณหนูใหญ่ตระกูลมั่ว
ซึ่งเป็นลูกสาวแท้ๆ ของมั่วเฉียน
ทว่าตอนนี้…
“ฉันเองก็อยากรู้ว่าทำไม แต่นี่ไม่ใช่เวลาที่จะมาคุยกัน นายยังมีวิธีเอาชีวิตรอดด้วยวิธีอื่นอีกไหม? ถ้าไม่มีล่ะก็ วันนี้พวกเราอาจจะต้องตายอยู่ที่นี่”
เหนียนเสี่ยวมู่เหลือบมองสถานการณ์ที่ไม่เอื้ออำนวยรอบๆ ตัวพวกเขา
ก่อนที่ฟ่านอวี่จะตอบคำถามเธอ มั่วเฉียนก็หัวเราะขึ้นมาทันใด
เสียงหัวเราะเต็มไปด้วยความเหยียดหยาม
ดวงตาเฉียบคม “ฟ่านอวี่ เรื่องนี้เป็นเรื่องภายในตระกูลมั่วของพวกเรา ไม่เกี่ยวกับนาย ถ้าตอนนี้นายยอมพาคนของนายออกไปจากที่นี่ ฉันจะไม่ขัดขวาง”
ดูเหมือนมั่วเฉียนจะมีเป้าหมายที่ชัดเจนมาตั้งแต่ต้น
สิ่งที่เขาต้องการคือชีวิตเหนียนเสี่ยวมู่
ขอเพียงบรรลุเป้าหมาย เขาก็ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น
ตอนนี้สถานการณ์เข้าข้างเขา ถ้าฟ่านอวี่อ่านสถานการณ์ออก ก็น่าจะรู้ว่าการออกไปจากที่นี่คือทางเลือกที่ฉลาดที่สุด
เพราะถ้าอยู่ที่นี่ต่อไป ก็แค่รอฝังพร้อมกับเหนียนเสี่ยวมู่เพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งศพ!
เมื่อได้ยินดังนั้น ฟ่านอวี่ก็ยังยิ้มอย่างไม่สะทกสะท้าน
ไม่มีความตกใจหรือหวาดกลัวแต่อย่างใด
ในทางกลับกันยังปกป้องเหนียนเสี่ยวมู่ไว้ข้างหลังตัวเองอย่างเงียบๆ แล้วพูดว่า
“ประธานมั่ว ผมต้องขอบคุณในความใจดีของคุณ แต่ผมคนนี้เป็นคนไม่รู้จักดีชั่ว สู้ก่อนจนกว่าจะรู้แพ้ชนะ!”
“ดูท่าแล้ว นายจะสู้กับฉันให้ได้เลยใช่ไหม?” เสียงมั่วเฉียนเย็นยะเยือก
แฝงไปด้วยความอาฆาตพยาบาท
เมื่อเสียงของเขาสิ้นสุดลง คนรอบๆ ก็เริ่มเข้าใกล้ฟ่านอวี่กับเหนียนเสี่ยวมู่อย่างเห็นได้ชัด
ตราบใดที่เขาออกคำสั่ง ทั้งคู่จะต้องตายอยู่ที่นี่…
“เดี๋ยว!”
เหนียนเสี่ยวมู่ตะโกนขึ้นมาทันที “เดี๋ยวก่อนๆ! ฉันมีเรื่องจะพูด!”