หวานรักจับหัวใจท่านประธาน - ตอนที่ 495 ขอแต่งงาน! (3) / ตอนที่ 496 ขอแต่งงาน! (4)
- Home
- หวานรักจับหัวใจท่านประธาน
- ตอนที่ 495 ขอแต่งงาน! (3) / ตอนที่ 496 ขอแต่งงาน! (4)
ตอนที่ 495 ขอแต่งงาน! (3)
ความจริงแล้วเธออยากพูดว่า เธอเป็นแม่แท้ๆ ของเสี่ยวลิ่วลิ่ว
ทว่าคำพูดมาถึงปากแล้ว เธอเห็นสายตาเฉยชาของเขา ทำเอาหวาดหวั่นมากทีเดียว
หญิงสาวเปลี่ยนคำพูดเป็น ‘ฉันไม่อยากจากคุณไป’ อย่างน่าประหลาด ทำให้ดูเหมือนตอนนี้อวี๋เยว่หานคิดจะทิ้งเธอแล้ว…น่าขายหน้านัก!
“คนโง่” อวี๋เยว่หานยื่นมือไปกอดเธอไว้
ครั้นได้ยินคำพูดของหญิงสาว นิ้วเรียวยาวพลันเข้าไปในเรือนผมของเธอ
ขณะเดียวกันเขาก็จับท้ายทอยของเธอเอาไว้ เพื่อกดเธอไว้แนบอกของเธอ เสียงทุ้มต่ำของเขาดังขึ้น นำพามาซึ่งความมั่นคง “คุณไม่มีทางจากผมไป และผมจะไม่ให้คุณจากไปเช่นกัน”
“ไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไรน่ะเหรอ” เหนียนเสี่ยวมู่เงยหน้าขึ้นทันที
“อืม ไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น” อวี๋เยว่หานกระชับอ้อมแขน เอ่ยปากให้สัญญา
เมื่อได้ยินดังนั้น จิตใจว้าวุ่นของเหนียนเสี่ยวมู่ก็นับว่าสงบลงได้แล้ว
เธอแอบปลอบใจตัวเอง ว่าไม่เป็นไร
ตอนนี้ยังไม่ได้ยืนยันว่ารายงานตรวจดีเอ็นเอชุดนั้นเป็นของจริง รอถานเปิงเปิงยืนยันว่าเสี่ยวลิ่วลิ่วเป็นลูกสาวแท้ๆ ของเธอก่อน เธอจะรวบรวมความกล้าบอกอวี๋เยว่หานอย่างแน่นอน
ใช่ เธอไม่ได้กลัว
เธอแค่ระมัดระวังเท่านั้น!
ถ้าพูดออกไปแล้วกลับกลายเป็นแค่เรื่องเข้าใจผิด อย่างนั้นก็คงน่าอึดอัดมาก
เป็นนางฟ้า ต้องสำรวมกิริยา!
เหนียนเสี่ยวมู่โน้มน้าวตัวเองอยู่ในใจ ปล่อยให้อวี๋เยว่หานพาเธอเข้าไปกินข้าวในห้องอาหาร
วันที่สมบูรณ์แบบ เริ่มขึ้นจากการทำงาน
เหนียนเสี่ยวมู่จัดการงานที่แผนกประชาสัมพันธ์ได้อย่างถี่ถ้วน ตอนนี้จัดการภาระหน้าที่ใหม่ได้อย่างชาญฉลาดเช่นกัน
เมื่อว่างขึ้นมาบ้าง เธอจึงชงกาแฟให้ตัวเองแก้วหนึ่ง
จากนั้นหญิงสาวก็นั่งลงที่หน้าโต๊ะทำงานของตัวเอง จ้องมองคอมพิวเตอร์เหม่อลอย
ขณะที่เพิ่งเหม่อลอบได้ไม่เกินสามนาที บนหน้าจอคอมพิวเตอร์พลันส่งเสียงแจ้งเตือนขึ้นมา
“กลางวันมากินข้าวกับผม” อวี๋เยว่หานใช้น้ำเสียงบ้าอำนาจตามเคย
นี่ไม่ใช่คำเชิญและคำถามโดยสิ้นเชิง แต่เป็นคำสั่งโดยตรง
เธอวางกาแฟในมือลง ก่อนจะจ้องข้อความบนหน้าจอคอมพิวเตอร์อยู่หลายนาที ครั้นคิดเรียบร้อยแล้ว เธอถึงยื่นมือไปพิมพ์
“เพื่อนสนิทของคุณปฏิเสธคำขอ ออฟไลน์!”
หลังจากพิมพ์ข้อความเสร็จแล้ว หญิงสาวก็อดหัวเราะไม่ได้ ก่อนจะกดส่งออกไป
เหนียนเสี่ยวมู่ประคองแก้วกาแฟขึ้นอีกครั้ง แล้วดื่มมันอย่างสบายใจเฉิบ
เธอคิดได้ว่าอวี๋เยว่หานเห็นข้อความแล้วอาจจะโกรธจนลมออกจมูก และโทรศัพท์เธอโดยตรงอย่างอดไม่อยู่
แต่เธอรออยู่ครู่หนึ่งแล้ว แต่เขาก็ไม่ตอบกลับมา
หรือว่าเขาจะเมินไปอย่างนี้
นี่ไม่ใช่สไตล์ของเขาเลย
หญิงสาวรออีกหลายนาที แต่ก็ยังไม่ได้รับการตอบรับใดๆ
สองมือของเธอวางอยู่บนคีย์บอร์ด กำลังลังเลว่าต้องถามเขาหรือไม่ ก็ได้ยินเสียงเคาะประตูห้องทำงานดังขึ้น
เลขาเปิดประตูเข้ามาจากข้างนอก “ผู้จัดการเหนียน ฉันเพิ่งได้รับสายจากท่านประธาน เขาบอกว่ามีเอกสารอยากให้คุณไปส่งด้วยตัวเอง และบอกอีกว่าไม่จำเป็นต้องเดี๋ยวนี้ ไปส่งตอนมื้อกลางวันก็ได้ค่ะ”
เหนียนเสี่ยวมู่ “…” !!
เธอหันหน้าไปมองคอมพิวเตอร์ แล้วพิมพ์เสียงดังป้อกแป้ก
“คนใจแคบน่าไม่อาย! คุณอาศัยเรื่องงานทำเรื่องส่วนตัว ฉันจะฉีกหน้ากากของคุณต่อหน้าเพื่อนร่วมงานทุกคนเลย!”
หลังจากพิมพ์รวดเดียวจนเสร็จ เธอก็กดส่งในทันที
เลขายังไม่ทันออกไป เธอเห็นสีหน้าโกรธเป็นฟืนเป็นไฟของอีกฝ่ายเข้า ทำเอาต้องชะงักฝีเท้า
เมื่อเดินมาหน้าโต๊ะทำงานของเหนียนเสี่ยวมู่แล้ว เธอถึงถามด้วยความเป็นห่วง “ผู้จัดการเหนียน คุณไม่เป็นไรใช่ไหมคะ”
“…” เหนียนเสี่ยวมู่รีบปิดหน้าต่างแชทบนคอมพิวเตอร์ แล้วปั้นหน้ายิ้ม
ก่อนจะกัดฟันพูด “ไม่เป็นไรค่ะ เมื่อกี้ฉันเจอผู้ชายที่หน้าไม่อายมาก ก็เลยโมโหนิดหน่อย คุณวางใจเถอะค่ะ ฉันทราบเรื่องเอกสารที่คุณชายหานต้องการแล้ว ฉันจะเอาไปให้เขาตอนมื้อกลางวันอย่างแน่นอนค่ะ”
ตอนที่ 496 ขอแต่งงาน! (4)
“ผู้จัดการเหนียนเป็นผู้จัดการหญิงที่สวยที่สุดที่ฉันเคยเจอ ต้องมีคนตามจีบคุณเยอะแน่ๆ ได้เจอคนที่หน้าไม่อายบ้างก็ไม่ใช่เรื่องแปลก พูดขึ้นมาแล้ว ผู้ชายที่นับว่าดีในบริษัทตระกูลอวี๋ ก็ต้องเป็นคุณชายหานค่ะ! หล่อ รวย ไม่เข้าใกล้ผู้หญิง…”
เลขาสาวกล่าวชม นัยน์ตาเป็นประกาย เธอไม่ได้สังเกตเลย ว่าเหนียนเสี่ยวมู่ที่อยู่หน้าโต๊ะทำงาน เพิ่งโมโหใครบางคนแทบตาย เป็นคนในแผนกเดียวกันแท้ๆ แต่ยังชมคุณชายหานต่อหน้าเธออย่างหนัก
เหนียนเสี่ยวมู่หยิบปากกาเซ็นชื่อในมือมาวาดวงกลม แล้วเริ่มจิ้มลงในนั้นอย่างแรง
เมื่อเลขาชมได้ประโยคหนึ่ง เธอก็จิ้มครั้งหนึ่ง
“ผู้จัดการเหนียน คุณเป็นอะไรไปคะ สมุดของคุณ…” เลขาเผยสีหน้าหวาดหวั่น
หญิงสาวดึงสติกลับมาในทันที ก่อนจะก้มหน้าลงมอง
เธอจิ้มสมุดเล่มหนาตรงหน้าจนเกือบจะทะลุแล้ว!
“กึก” เหนียนเสี่ยวมู่ปล่อยมือ แล้วเสียบปากกาในมือไว้บนโต๊ะ
จากนั้นก็ยิ้มเจื่อนๆ “หลุดมือน่ะ หลุดมือ”
เลขามองสมุดที่หญิงสาวจิ้มจนเป็นรู ก่อนจะรีบบอกกล่าว แล้วกอกเอกสารวิ่งออกไปข้างนอก
ครั้นเห็นเงาหลังตื่นตระหนกของเลขาสาว เหนียนเสี่ยวมู่ก็คาดเดาได้ว่า วันนี้ตนเองจะกลายเป็นหัวข้อซุบซิบของเพื่อนร่วมงานสาวในแผนกประชาสัมพันธ์…
“ติ๊ง!” คอมพิวเตอร์ส่งเสียงแต้งเตือนดังขึ้น
เหนียนเสี่ยวมู่กำลังโมโห เมื่อเห็นว่าเป็นข้อความตอบกลับของอวี๋เยว่หาน เธอก็ยื่นมือไปกดเปิดทันที
เดิมทีเธอคิดว่าเขาเห็นท่าทีข่มขู่ของเธอแล้ว อย่างน้อยเขาน่าจะง้อเธอสักสองคำ ทำให้เธอหายโมโห
ทว่าคิดไม่ถึงเลย บนหน้าจอมีเพียงสามคำสั้นๆ เท่านั้น
“เปิดโปงสิ”
‘…คนหน้าหนา เขาชนะแล้ว!’ เหนียนเสี่ยวมู่คิดในใจ ก่อนจะปิดหน้าต่างข้อความไป
ตอนนี้พวกเขายังไม่ได้เลิกกัน เขาจึงใช้วิธีสารพัด ใช้ข้ออ้างเรื่องการทำงานมาบังหน้าเรื่องส่วนตัว เพื่อเอาเปรียบหญิงสาว
ถ้าเลิกกันแล้ว เขาคงจะกดดันเธอจนตาย
แต่ฝันไปเถอะ!
เหนียนเสี่ยวมู่คิดใคร่ครวญแล้ว ถึงตอบเขากลับไปประโยคหนึ่ง “ข้าวกลางวันกับนอนด้วยกันตอนกลางคืน คุณเลือกได้แค่หนึ่งอย่าง”
หลังจากพิมพ์ประโยคนี้เสร็จ ความอึดอัดในใจเธอก็นับว่าคลายลงแล้ว
เธอไม่เชื่อ ว่าตัวเลือกพวกนี้จะจัดการเขาไม่ได้
ถ้าเขากล้าเลือกมื้อกลางวัน อย่างนั้นคืนนี้เธอก็จะไปนอนที่ห้องของเสี่ยวลิ่วลิ่ว
ให้เขาโดดเดี่ยวหนาวเหน็บไปเลย!
“ติ๊ง!” ไม่ถึงสามวินาที คอมพิวเตอร์ก็ได้รับข้อความใหม่
เป็นอย่างที่เธอเดาไม่มีผิด
บนหน้าจอมีเพียงประโยคเดียว “งั้นตอนกลางวันคุณไม่ต้องขึ้นมาแล้ว”
เหนียนเสี่ยวมู่เพิ่งจะดีอกดีใจ กลับพบว่าด้านล่างยังมีอีกหนึ่งประโยค “ผมจะลงไปกินข้าวกับคุณเอง”
“พรวด”
หญิงสาวพ่นกาแฟในปากใส่หน้าจอคอมพิวเตอร์
อวี๋เยว่หาน คุณมันเจ้าเล่ห์เหมือนหมาป่า!
เธออยากพูดอะไรบางอย่าง แต่อยู่ๆ โทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น
เป็นสายจากอวี๋ฌยว่หาน
หลังจากชะงักค้างไปเล็กน้อย เธอถึงยื่นมือไปรับสาย เสียงน่าดึงดูดของเขา ไพเราะเสียจนอยากจะตั้งครรภ์เลยทีเดียว “ตอนกลางวันมาหาผม มีเซอร์ไพรส์”
“…”
เซอร์ไพรส์อีกแล้วเหรอ
ชายหนุ่มจำอะไรไม่ได้ทั้งนั้น แต่จำหนึ่งข้อในกฎทั้งสามข้อนั้นได้ ช่วงนี้เขาเตรียมเซอร์ไพรส์ให้เธอบ่อยมาก
ทว่าสองครั้งแรกเป็นดอกกุหลาบกับเค้กไปแล้ว วันนี้จะเป็นอะไรอีก
เหนียนเสี่ยวมู่เห็นเขาตั้งใจโทรศัพท์มาง้อเธอ จึงหายโมโหไปเป็นปลิดทิ้ง
เมื่อวางวายแล้ว เธอก็เอาแต่คาดเดาอยู่ตลอด ว่าครั้งนี้อวี๋เยว่หานเตรียมของขวัญอะไรไว้ให้เธอ
สิบเอ็ดโมงห้าสิบนาที อีกสิบนาทีจะเที่ยงแล้ว เธอลุกขึ้นยืนหน้าโต๊ะทำงาน แล้วหยิบเอกสารฉบับหนึ่งขึ่นมาโดยไม่คิด ทำเป็นว่ามีเรื่องด่วนต้องให้ประธานบริษัทเซ็นชื่อ
เที่ยงตรง หญิงสาวปรากฏตัวที่หน้าประตูห้องทำงานประธานบริษัทอย่างตรงเวลา
เธอจัดชุดทำงานทั้งตัวก่อน จากนั้นก็สูดหายใจเข้าลึกๆ เพื่อทำให้ตัวเองดูสวยอย่างเป็นธรรมชาติ
แล้วถึงจะยกมือขึ้นเคาะประตูด้วยความพึงพอใจ