หวานรักจับหัวใจท่านประธาน - ตอนที่ 925 เทพธิดากลัวแล้ว! ตอนที่ 926 สถานะพิเศษที่สุดในตระกูลมั่ว
- Home
- หวานรักจับหัวใจท่านประธาน
- ตอนที่ 925 เทพธิดากลัวแล้ว! ตอนที่ 926 สถานะพิเศษที่สุดในตระกูลมั่ว
ตอนที่ 925 เทพธิดากลัวแล้ว!
เหนียนเสี่ยวมู่ “…”
เขาควรจะสนใจว่ามั่วหย่งเหิงมีความสัมพันธ์อะไรกับตระกูลมั่วก่อนไม่ใช่เหรอ?
ทำไมถึงสนใจว่าเธอทิ้งอะไรลงถังขยะล่ะ?
ถ้าเขารู้ว่าเธอตั้งใจเอาถุงยางที่อยู่ในห้องไปทิ้งหมดแล้วล่ะก็ กลัวก็แต่ว่าคืนนี้เขาจะจับเธอกดตายคาเตียงแล้วทำเธอท้อง…
เทพธิดากลัวแล้ว!
เหนียนเสี่ยวมู่เม้มริมฝีปากด้วยความประหม่า จากนั้นทำเป็นเปลี่ยนเรื่อง
“ไม่ได้ทิ้งอะไรก็แค่ของลับส่วนตัวของผู้หญิง ทิ้งไว้ในห้องก็กลัวว่าคุณจะเห็น ฉันก็อายเป็นนะ ใช่แล้ว คุณว่ามั่วหย่งเหิงคนนี้จะใช่ลูกหลานของตระกูลมั่วหรือเปล่า?”
“แปดสิบเปอร์เซ็นต์ใช่” อวี๋เยว่หานกล่าว
สายตายังแผ่รังสีอันตราย
โรงแรมแห่งนี้ถูกตระกูลมั่วครองไว้หมดแล้ว
พูดให้ชัดๆ ก็คือโรงแรมระดับห้าดาวที่หรูหราแห่งนี้เป็นกิจการของตระกูลมั่วนั่นเอง
ที่โรงแรมแห่งนี้ได้รับเลือกสำหรับจัดงานประชุมสัมมนาทางธุรกิจครั้งนี้ก็เพราะตระกูลมั่วไม่ต้องการให้แขกคนสำคัญโดนรบกวน ว่ากันว่าได้จัดเตรียมพนักงานที่เข้าออกโรงแรมอย่างเคร่งครัด
ทุกประตูทางเข้าออกโรงแรมก็มีระบบรักษาความปลอดภัยเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า
ดังนั้นคนที่สามารถเข้ามาพักห้องเพรสซิเดนท์สวีทในโรงแรมแห่งนี้ล้วนแล้วแต่มีสถานะไม่ธรรมดา
เหนียนเสี่ยวมู่ก็เพิ่งบอกเองว่ามั่วหย่งเหิงมีบอดี้การ์ดรายล้อมอยู่ไม่น้อย ถ้าไม่ใช่เพราะเขาเดินมาคุยกับเหนียนเสี่ยวมู่ก่อน ก็เกรงว่าเหนียนเสี่ยวมู่จะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาหน้าตาเป็นอย่างไร
ท่าทางลึกลับเช่นนี้ค่อนข้างเหมาะกับความเป็นตระกูลมั่ว
“พูดตามตรงนะ มั่วหย่งเหิงนั่นค่อนข้างหน้าตาดี ฉันยังรู้สึกอีกว่าเขาเป็นคนพิถีพิถันเหมือนใครคนหนึ่ง แต่ฉันจำไม่ได้ว่าเหมือนใคร…ตอนที่เห็นเขาเข้ามาคุยกับฉันกะทันหัน และยังถามว่าทำให้ตกใจหรือเปล่า ฉันก็เอาแต่มองหน้าเขา ตอนนี้พอคิดคิดดูแล้วฉันน่าจะคุยกับเขาให้มากๆ หน่อย ไม่แน่ว่าอาจจะรู้อะไรขึ้นมาบ้าง...”
เหนียนเสี่ยวมู่พูดคนเดียวอย่างคล่องปาก
หลังจากนั้นไม่นานก็รับรู้ได้ถึงกลุ่มควันจางๆ ในอากาศ
และยังมีผู้ชายที่เอาแต่จับจ้องเธอ ทำหน้าเหมือนอยากจะเขมือบเธอ
เหนียนเสี่ยวมู่ “o(╯□╰)o……”
เมื่อกี้เธอพูดอะไรไปบ้างนะ?
ตอนนี้เธอไม่ยอมรับผิดได้ไหม?
เธอมองหน้าเขาและไม่ได้พูดอะไรที่เป็นความจริง!
“ฉันนึกออกแล้ว ท่าทางนิ่งๆ แบบนั้นคล้ายเปิงเปิงนิดหน่อย! จริงด้วย เมื่อก่อนตอนที่ฉันอยู่กับเปิงเปิง ฉันพูดกับเธอสิบประโยคแต่เธอตอบมาแค่ประโยคเดียว เอาแต่นั่งฟังฉันพูดอยู่เงียบๆ อีกอย่างเปิงเปิงยังเป็นโรคย้ำคิดย้ำทำ ไม่ว่าของอะไรจะต้องจัดให้เป็นระเบียบเรียบร้อย ไม่รู้ว่ามั่วหย่งเหิงจะเป็นแบบนั้นไหมนะ ดูเขาเป็นคนเคร่งเครียดมากหรือจะเป็นโรคย้ำคิดย้ำทำแต่เราดูไม่ออก”
เหนียนเสี่ยวมู่หันมาคว้าแขนอวี๋เยว่หาน
“ตอนนี้คุณออกไปกับฉันดีกว่า ไปดูว่าจะเจอมั่วหย่งเหิงคนนั้นหรือเปล่า?”
“เหนียนเสี่ยวมู่ คุณก็น่าจะรู้นะว่าตอนนี้ถึงจะมีเง็กเซียนฮ่องเต้คอยคุ้มครอง ผมก็ไม่ยอมปล่อยคุณไป?” อวี๋เยว่หานพูดอย่างเงียบๆ
ประโยคเรียบๆแต่กลับแฝงไปด้วยภยันตราย
เหนียนเสี่ยวมู่ “o(╯□╰)o……”
โดนจับได้ซะแล้ว
ถานเปิงเปิงแซ่ถาน มั่วหย่งเหิงแซ่มั่ว นอกจากความเข้มงวดและความพิถีพิถันแล้ว อย่างอื่นก็ดูเหมือนจะไม่มีอะไรที่เหมือนกันเลย
เมื่อกี้เธอเพิ่งพูดเรื่องไร้สาระออกไปเพราะอยากจะเบี่ยงเบนความสนใจของอวี๋เยว่หาน
ไม่คิดเลยว่าจะโดนจับได้เร็วขนาดนี้
ทำยังไง ทำยังไงดี?
ลูกกระต่ายขาวที่น่ารักไร้เดียงสากำลังตกอยู่ในเงื้อมมือของหมาป่าอวดหางที่แสนจะโหดเหี้ยมซะแล้วสิ!
เหนียนเสี่ยวมู่เตรียมจะวิ่งหนี แต่วินาทีต่อมาก็โดนอวี๋เยว่หานลากตัวกลับมาได้ เขาหันตัวโยนเธอลงไปที่เตียง
ตอนที่ 926 สถานะพิเศษที่สุดในตระกูลมั่ว
ร่างสูงแกร่งของชายหนุ่มกดเธอจนไม่สามารถขยับตัวไปไหนได้
เสื้อผ้าบนกายโดนถอดจนแทบไม่เหลือ
ขณะที่เธอกำลังต่อต้าน อวี๋เยว่หานก็ได้ประทับริมฝีปากของเธอเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เขาจูบเธอจนเวียนหัว ลมหายใจที่ร้อนผ่าวชิดอยู่ริมใบหูของเธอ
กระซิบด้วยน้ำเสียงแหบพร่า
“วันนี้เสี่ยวลิ่วลิ่วไม่อยู่ จะไม่มีใครมารบกวนเราได้”
“…” เสี่ยวลิ่วลิ่ว หม่าม้าคิดถึงหนูจังเลย
อุณหภูมิภายในห้องค่อยๆเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ
เหนียนเสี่ยวมู่ถูกก่อกวนจนทนไม่ได้ ดวงตากลายเป็นแอ่งน้ำยอมให้เขาทำตามอำเภอใจ
อวี๋เยว่หานยิ้มอย่างพึงพอใจพลางเอื้อมมือไปหยิบถุงยางบนลิ้นชักข้างเตียงด้วยลมหายใจอันหนักหน่วง
พอยื่นมือออกไป สัมผัสได้เพียงความว่างเปล่า
ขมวดคิ้วเล็กน้อย
เหนียนเสี่ยวมู่ถือโอกาสตอนที่เขานิ่งไปสักพัก หลุดออกจากอ้อมแขนเขา
“ฉันยังไม่ได้อาบน้ำ ฉันไปอาบน้ำก่อน!”
พอพูดเสร็จ เธอก็รีบวิ่งเข้าห้องน้ำแล้วปิดประตูดังปัง!
อวี๋เยว่หานลุกขึ้นนั่งด้วยสีหน้ามืดมน เหมือนธนูที่ถูกง้างเต็มเหนี่ยวแต่ยิงออกไปไม่ได้
เขาหันมามองที่ลิ้นชักข้างเตียง
ที่ที่ควรจะเก็บอุปกรณ์ยุติการตั้งครรภ์มีแต่ความว่างเปล่า
อวี๋เยว่หานเลิกคิ้ว
พอคิดอะไรได้ก็เดินไปที่ชั้นวางของหน้าห้องน้ำ
ตอนที่เขาเดินพุ่งเข้าห้องน้ำเมื่อกี้นี้ หางตายังเหลือบไปเห็นถุงยางวางอยู่ตรงนั้น
พอตอนนี้มาดูอีกที มันหายไปไหนหมดแล้ว
จู่ๆ คำพูดของใครบางคนก็ผุดขึ้นมาในหัว ตั้งใจเอาขยะไปทิ้งข้างนอกโดยเฉพาะ…
เขาหันกลับมาค้นหามันไปทั่วห้องเพรสซิเดนท์สวีทอีกรอบ
ไม่มีแล้ว
ที่ที่ควรจะเก็บอุปกรณ์ยุติการตั้งครรภ์ทั้งหมดว่างเปล่า
เมื่ออวี๋เยว่หานกลับมาที่หัวเตียงอีกครั้งก็เตรียมจะต่อสายหาพนักงานโรงแรม แต่ในที่สุดก็หยิบสายโทรศัพท์ที่ไม่ได้เสียบออกมา ใบหน้าหล่อเหลากลายเป็นสีเขียวคล้ำ
“อวี๋เยว่หาน คุณใจเย็นๆ ฟังฉันอธิบายก่อน…”
เมื่อเหนียนเสี่ยวมู่ที่เดินออกมาจากห้องน้ำเห็นชายหนุ่มกำลังยืนถือสายโทรศัพท์อยู่ข้างเตียง เธอก็ถึงกับสะดุ้งโหยง!
พอได้ยินเสียงของเธอ อวี๋เยว่หานก็หันกลับมา
ดวงตาดำสนิทกวาดมองไปทั่วแววตาที่รู้สึกผิดของเธอแล้วพูดทีละคำ
“จะอธิบายว่าถุงยางในห้องถูกคุณเอาไปทิ้งหมดแล้ว หรือจะอธิบายว่าสายโทรศัพท์นี้โดนถอดได้ยังไง?”
“……”
“เหนียนเสี่ยวมู่ ตอนนี้คุณควรจะบอกว่าเหตุผลที่ต้องทำแบบนี้เพราะอยากมีน้องชายให้เสี่ยวลิ่วลิ่ว เพราะไม่อย่างงั้นคุณจะต้องใช้ชีวิตบนเตียงภายในสองวันนี้”
เหนียนเสี่ยวมู่ “…” !!
เล่นซนไม่เข้าเรื่อง พริบตาเดียวก็กลายเป็นเมรุเผาศพไปซะแล้ว !
สุดท้ายเหนียนเสี่ยวมู่ยังไม่ทันได้พูดอะไรก็โดนกดไว้บนเตียง ทั้งยังได้รับบทเรียนหนักๆไปหนึ่งยก
อวี๋เยว่หานพูดคำไหนคำนั้น
เหนียนเสี่ยวมู่ก็ไม่ได้ไปไหนเลยตลอดสองวันที่ผ่านมา
ขณะที่อวี๋เยว่หานใช้ช่วงเวลาที่งดงามกว่าสี่สิบแปดชั่วโมงในการเคี่ยวเข็ญเธอบนเตียง
เขาก็อธิบายให้เธอฟังไปด้วยว่า : ก่อนที่ยังพิสูจน์ไม่ได้ว่าตระกูลมั่วเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของถานเปิงเปิงหรือไม่ การไปสำรวจบ้านประจำตระกูลถานก็จะเป็นการแหวกหญ้าให้งูตื่นเท่านั้น
เธอเชื่อแล้วจริงๆ
เพราะเจิ้งเหยียนก็บอกแบบนี้
ดังนั้นพวกเขาแทบจะไม่ได้ไปไหนกันเลย
ยกเว้นตอนที่ได้ยินว่ามั่วเฉียนมาที่โรงแรม จึงคิดอยากจะลงไปด้อมๆมองๆ แต่กลับไม่เจอเลยสักครั้ง
ในที่สุดงานประชุมสัมมนาทางธุรกิจก็เริ่มขึ้นแล้ว!
ในฐานะแขกคนสำคัญที่เข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ อวี๋เยว่หานกับเหนียนเสี่ยวมู่ก็ไม่ได้อยู่เฉยในสองวันมานี้
จำเป็นต้องจัดเตรียมงานของคณะตัวแทนการประชุมของบริษัทตระกูลอวี๋ ส่วนเหนียนเสี่ยวมู่ก็ยังคงอ่านข้อมูลของตระกูลมั่ว
เมื่อพบเจิ้งเหยียนตรงประตูเข้างาน เธอก็รีบร้อนสอบถามเรื่องมั่วหย่งเหิง
เจิ้งเหยียน “เธอถามเรื่องเขาทำไม? เขามีสถานะพิเศษที่สุดในตระกูลมั่ว ได้ยินมาว่าใกล้ชิดกับผู้นำตระกูลมาตั้งแต่เด็ก…”