หวานรักจับหัวใจท่านประธาน - ตอนที่ 959 ไอดอลมาแล้ว ตอนที่ 960 ถึงเวลาโชว์เสน่ห์ที่แท้จริง
- Home
- หวานรักจับหัวใจท่านประธาน
- ตอนที่ 959 ไอดอลมาแล้ว ตอนที่ 960 ถึงเวลาโชว์เสน่ห์ที่แท้จริง
ตอนที่ 959 ไอดอลมาแล้ว
อวี๋เยว่หานไม่ลังเลที่จะยกมือกันมีดไว้ คมมีดเฉือนไปที่แขนของเขาทันที
เลือดสาดกระเซ็นใส่ใบหน้าของชายคนดังกล่าว
ขณะที่ชายคนนั้นกำลังจะล่าถอย อวี๋เยว่หานก็คว้าข้อมือของเขาไว้และใช้แรงบิดอย่างแรง
ได้ยินเพียงเสียงกรีดร้องของเขา มีดพกในมือตกลงพื้น
วินาทีต่อมา อวี๋เยว่หานก็เตะชายคนนั้นกระเด็นออกไป กลิ้งบนพื้นสองตลบแล้วหมดสติไป
อวี๋เยว่หานยังไม่ทันจัดการบาดแผลที่แขน ทันใดนั้นก็มีคนถือไม้เบสบอลตวัดมาตรงหน้าเขา
ตวัดติดต่อกันหลายครั้งจนเกือบจะตีโดนหน้าเขา
เหนียนเสี่ยวมู่เกือบจะร้องออกมาแต่ก็ต้องกุมปากตัวเองไว้สุดชีวิต เพราะไม่อยากให้เสียงร้องของตัวเองทำให้เขาเสียสมาธิหรือเป็นห่วงเธอ
“เคล้ง——”
มีไม่กี่คนที่กำลังล้อมตัวอวี๋เยว่หาน ส่วนคนที่เหลือพากันทุบรถอย่างเอาเป็นเอาตาย
กระจกหน้าต่างที่เบาะหลังของรถโดนทุบจนแตกละเอียด ทันใดนั้นก็มีมือข้างหนึ่งยื่นมาจากด้านนอกจับข้อมือเหนียนเสี่ยวมู่ไว้!
เจิ้งเหยียนอุทาน “เสี่ยวมู่มู่…”
“ฉันไม่เป็นไร ไม่ต้องเรียก อย่าให้เขาได้ยิน!”
เหนียนเสี่ยวมู่หันไปเตือนเจิ้งเหยียน เธอไม่สนว่าตัวเองไม่สบาย เธอคิดแค่ว่าอย่าให้อวี๋เยว่หานได้รับบาดเจ็บอีกเลย
เธอเงยหน้าขึ้นมองชายที่จับแขนเธอ นัยน์ตาเย็นยะเยือก
สองเท้าถีบประตูรถ ขณะที่ชายคนนั้นกำลังจะลากเธอลงจากรถ จู่ๆ ก็ถูกคนลากกลับอย่างแรง!
“ปัง!” ชายคนนั้นไม่ทันป้องกันตัวจึงถูกกระชากชนกับประตูรถอย่างจัง
เหนียนเสี่ยวมู่เอื้อมมือไปคว้ากระเป๋าถือที่ตกอยู่บนเบาะรถและกระแทกมันลงบนใบหน้าของชายคนนั้น
“แกต่อยคู่หมั้นฉัน!”
“ปล่อยพ่อของลูกฉันนะ!”
“ฉันจะตีแกให้ตาย!”
“……”
เหนียนเสี่ยวมู่เคยเรียนศิลปะป้องกันตัว เธอจึงมีพละกำลังมากกว่าผู้หญิงทั่วไป
เธอลงมือด้วยเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราว
หลังจากนั้นไม่นานชายที่อยู่ตรงหน้าก็ถูกทุบจนเวียนหัว
ถอยหลังไปสองสามก้าว ยื่นมือออกไปแตะเลือดกำเดาบนหน้าตัวเอง จากนั้นก็กลอกตาแล้วหมดสติไป!
เจิ้งเหยียน “…” !!
วีรสตรี!
งานนอกบ้านก็ได้ ทำกับข้าวก็เป็น เอาชนะเมียน้อย ทั้งยังต่อยพวกอันธพาล!
นี่มันไอดอลชัดๆ!
เหนียนเสี่ยวมู่ตีคนจนเจ็บแขน หลังจากโยนกระเป๋าถือลงไปได้ไม่นานก็เหลือบไปเห็นอะไรบางอย่าง ทันใดนั้นก็รีบร้อนตะโกนออกมาว่า
“เจิ้งเหยียน ระวังข้างหน้า!”
ทันทีที่สิ้นเสียง ก็มีชายคนหนึ่งกระโดดขึ้นฝากระโปรงรถ
เขาแกว่งไม้เบสบอลในมือแล้วฟาดเข้ากับกระจกหน้ารถอย่างแรง
กระจกหน้ารถที่แตกร้าวตอนนี้ไม่สามารถรับได้อีกแล้ว
เหนียนเสี่ยวมู่กระโจนไปข้างหน้าและปลดเข็มขัดนิรภัยให้เจิ้งเหยียนที่อยู่ในอาการตกใจอย่างรวดเร็ว
ฉุดเธอให้เธอปีนมาข้างหลัง
ขณะที่กำลังจะปีนมาเบาะหลัง กระจกหน้ารถก็ถูกทุบจนหมด ชิ้นส่วนพังลงมากดลงบนเบาะหน้ารถ
เจิ้งเหยียนตบหน้าอกด้วยความตกใจ
ถ้าไม่ใช่เพราะเหนียนเสี่ยวมู่หูตาว่องไวฉุดเธอมา ตอนนี้เธอคงโดนทับอยู่ข้างหน้าไปแล้ว
ที่สำคัญมีผู้ชายถือไม้เบสบอลยืนอยู่ตรงหน้าเธอ!
เมื่อเห็นพวกเธอหลบไปอยู่ตรงเบาะหลัง เขาก็กระโดดลงฝากระโปรงรถทันที
เดินอ้อมมาที่เบาะหลังกับอีกคนและเตรียมทุบกระจกหลัง
“นั่งรอความตายแบบนี้ต่อไปไม่ได้แล้ว!”
เหนียนเสี่ยวมู่กัดริมฝีปากขณะที่เฝ้าดูสถานการณ์ตึงเครียด
อวี๋เยว่หานยังคงถูกคนล้อมไว้ตรงกลาง
คนพวกนั้นเห็นแล้วว่าเขากำลังอ่อนแอ จึงตั้งใจล้อมเขาไว้โดยไม่ลงมือทำอะไรกับเขา
จากนั้นก็ให้อีกสองสามคนมาจัดการกับพวกเธอ
เพียงแค่เห็นเธอกับเจิ้งเหยียนตกอยู่ในสถานการณ์อันตรายอยู่ทางนี้ อวี๋เยว่หานก็จะควบคุมอารมณ์ไม่ได้อย่างแน่นอนและคนเหล่านั้นจะสามารถหาช่องโหว่จัดการกับเขา
ตอนที่ 960 ถึงเวลาโชว์เสน่ห์ที่แท้จริง
คนเหล่านั้นจะประมือกับเขาอีกครั้งเพราะอวี๋เยว่หานแบ่งความสนใจมาทางพวกเธอ แขนก็ถูกมีดเฉือน ร่างกายก็น่าจะโดนทุบตีไปหลายครั้งแล้ว
ด้วยไม้เบสบอลหนาๆ เหนียนเสี่ยวมู่เห็นแล้วก็รู้สึกเจ็บปวด!
อย่าว่าแต่ตีบนตัว…
เธอทรมานจะแย่อยู่แล้ว!
“เจิ้งเหยียน เธอกลัวตายไหม?” เหนียนเสี่ยวมู่ถามขึ้นมาทันที
เจิ้งเหยียนเหลือบมองเธอ “ไม่กลัว!”
“งั้นฉันขอพูดตรงๆ นะ เธอมองไปทางนั้น ตรงนั้นมีไม้เบสบอลอยู่ เดี๋ยวฉันจะเปิดประตูรถแล้วเธอก็…” เหนียนเสี่ยวมู่โน้มตัวไปกระซิบมอบหมายภารกิจข้างๆ เจิ้งเหยียน
เมื่อแน่ใจแล้วว่าเธอไม่มีปัญหาก็นับหนึ่ง สอง สาม แล้วยื่นมือปลดล็อกประตูรถ
ทันทีที่เปิดประตู เจิ้งเหยียนก็รีบกระโดดออกไปเหมือนกระต่าย
“มีผู้หญิงคนหนึ่งหนีไปแล้ว รีบตามไป!” สองคนที่ล้อมรถวิ่งตามเจิ้งเหยียนไปตามสัญชาตญาณ
เหนียนเสี่ยวมู่ลงจากรถช้าไปเพียงหนึ่งก้าว เธอคลำหาไม้เบสบอลของคนที่เพิ่งโดนเธอตีจนหมดสติไปเมื่อกี้นี้
ขึ้นมาจากพื้น
และหยิบมีดพกออกมาจากกระเป๋าเสื้อของชายคนนั้นพกติดตัวไปด้วย
จากนั้นก็วิ่งไปตามทางที่เจิ้งเหยียนหนีไปอย่างรวดเร็ว
“เสี่ยวมู่มู่ ช่วยด้วย! ฉันวิ่งไม่ไหวแล้ว…”
เหนียนเสี่ยวมู่เพิ่งตามไปได้ไม่นานก็เห็นเจิ้งเหยียนกำลังยืนอยู่ข้างทางโดยเอื้อมมือค้ำเสาไฟด้วยท่าทางเหนื่อยหอบ
ด้านหลังเธอมีชายสองคนกำลังวิ่งตามมาติดๆ
เหนียนเสี่ยวมู่หรี่ตาและก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับไม้เบสบอล
ฉวยโอกาสตอนที่ชายสองคนนั้นไม่ทันตั้งตัว ใช้แท่งไม้ฟาดจนหมดสติไปหนึ่งคน
ในเวลาเดียวกันก็โยนมีดพกให้เจิ้งเหยียน “สองคนตีไปแล้วหนึ่ง เรามีเยอะกว่าไม่ต้องกลัว!”
เจิ้งเหยียนรับมีดพกที่เธอโยนมาจนเกือบจะบาดตัวเอง
เธอถือมันไว้ในมือด้วยท่าทางเก้ๆ กังๆ ทำไม่เป็นแม้แต่ท่าข่มขู่คน “เสี่ยวมู่มู่ ถ้าตอนนี้ฉันยอมรับว่าฉันไม่กล้าเหยียบแมลงสาบแม้แต่ตัวเดียว เธอจะหัวเราะเยาะฉันไหม?”
เหนียนเสี่ยวมู่ “…” !!
“เธออย่ามองฉันด้วยสายตาดูถูกนะ ฉันเป็นถึงคุณหนูใหญ่ตระกูลเจิ้ง เรียนแต่มารยาทผู้ดี จะมีใครที่ไหนมาสอนเรื่องชกต่อยกันล่ะ? พูดอีกอย่างก็คือสาวงามออกนอกประตูก็ควรจะมีหนุ่มหล่อมาปกป้องไม่ใช่เหรอ ใครจะออกแรงปกป้องตัวเองกัน?”
เจิ้งเหยียนพูดอย่างไม่สบอารมณ์
เหนียนเสี่ยวมู่ชี้ไปที่ผู้ชายตรงหน้า “แม่สาวงาม ถึงเวลาที่เธอจะได้โชว์เสน่ห์ที่แท้จริงแล้ว”
เจิ้งเหยียน “…”
“นังบ้า พวกแกหนีไปไหนไม่รอดแล้ว! ฉันจะบอกให้ว่าพวกแกช่วยดูสถานการณ์สักหน่อยก็ดี ไม่อย่างงั้นอย่าหาว่าฉันทำรุนแรงกับผู้หญิง!”
“ฉันยอมแพ้! ฉันยอมแพ้แล้ว แกอย่าทำร้ายพวกเราเลย…”
เจิ้งเหยียนเดินไปยืนตัดหน้าเหนียนเสี่ยวมู่แล้วพูดขึ้นมาทันที
โยนมีดในมือทิ้งพร้อมกับยื่นมือมาจัดกระโปรงตัวเองและผมเผ้าที่รุงรังอันเนื่องมาจากการวิ่งอย่างสุดกำลัง
เธอเป็นคนสวยมาตั้งแต่เกิด
มีเสน่ห์เย้ายวนประเภทเดียวกับสุนัขจิ้งจอก ดวงตาหงส์คู่งามกะพริบปริบๆ เหมือนกำลังหลอกล่อให้คนหลงใหล
ท่าทางที่ดูขี้อายและอ่อนแอของเธอในขณะนี้ทำให้ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าเธอพอใจอย่างมาก
เจิ้งเหยียนเลิกกระโปรงตัวเองขึ้น เดินไปข้างหน้าด้วยท่าทางยอมจำนน
ตอนที่เดินไปตรงหน้าชายคนนั้น จู่ๆเท้าก็ลื่นโผไปซบบนตัวชายหนุ่มและกอดคอเขาด้วยความกระวนกระวาย
“ว้าย ตกใจหมดเลย…”
น้ำเสียงออเซาะแทรกซึมเข้าไปในกระดูก
ชายคนนี้คลุกคลีอยู่ในวงการอันธพาลมานานมากแล้ว กลัวว่าจะไม่เคยเห็นสาวงามหยาดเยิ้มแบบนี้ ผิวพรรณเปล่งปลั่งอย่างกับแทงออกมาเป็นน้ำ
เมื่อโดนเธอกอดคอ ตัวก็เบาหวิวไปทั่วทั้งตัว
วินาทีต่อมาก็มีไม้เบสบอลฟาดเข้าที่ท้ายทอยของเขา
ชายหนุ่มเบิกตากว้างแล้วหมดสติไป
เหนียนเสี่ยวมู่ที่ยืนอยู่ข้างหลังเขายังคงทำท่าตีคนค้างไว้