หัตถ์เทวะธิดาพญายม - ตอนที่ 266 ข้าจะไม่มีวันปล่อยมือเจ้า
ตอนที่ 266 ข้าจะไม่มีวันปล่อยมือเจ้า
ลมหายใจอุ่นร้อนจั๊กจี้ร้อนรุ่มดั่งเปลวเพลิงเผาผลาญอยู่ข้างหู เกอซีรีบเบี่ยงหลบในทันที
บุรุษผู้นี้หาได้ห่วงใยชีวิตของตนไม่ อาการบาดเจ็บที่เห็นอยู่นี้นับว่าสาหัส ! หากคนธรรมดาทั่วไปได้รับบาดเจ็บหนักหนาถึงเพียงนี้ย่อมอาจถึงความตายได้ ทว่าเขากลับทําประหนึ่งไม่ได้รับบาดเจ็บใด !
ความสามารถในการดูดซึมของทิพย์ธาราแห่งความฝันโดษชั้นเก้านับว่ามีประสิทธิภาพยอดเยี่ยมกว่าโอสถทั้งหลายหลายเท่าตัว เช่นนั้นหญิงสาวจึงเลือกใช้ทิพย์ธาราในการรักษาบาดแผลทั้งหลาย นางราดทิพย์ธาราใส่ปากแผลส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งแบ่งไว้สําหรับดื่ม
สีหน้าของหนานกงยวี่ค่อย ๆ ดีขึ้นทีละน้อย ส่วนบาดแผลต่าง ๆ บนร่างค่อย ๆแห้ง และคืนสภาพอย่างเห็นได้ชัดด้วยตาเปล่า
ทว่าทั่วร่างของชายหนุ่มเต็มไปด้วยบาดแผลที่ส่วนใหญ่ลึก กระทั่งเห็นชั้นกระดูกที่ขาวโพลน แม้หากรักษาได้กลับยังคงทิ้งร่องรอยแผลเป็นคงค้างไว้
เกอซีเพ่งดูรอยแผลเป็นพวกนั้น คิ้วทั้งสองขมวดเข้าหากันอย่างลืมตัว รอยแผลเป็นเหล่านี้ทําให้นางหวนนึกถึงภาพการต่อสู้ที่น่าสะพรึงกลัวเมื่อครู่ ภาพฉากที่ทําให้นางหวาดผวาอย่างสุดหัวใจ
เสียงหัวเราะเบา ๆ ของหนานกงยวี่ดังขึ้นพร้อมถ้อยคําหยอกเย้า “เฮ้อ…. รอยแผลน่าเกลียดมากเลยใช่ไหม ? หรือซีเอ๋อจะมิชอบข้าในยามนี้เสียแล้ว ?”
อีกฝายกัดฟันพยามยามฝืนข่มบังคับน้ำเสียงไม่ให้สั่นเครือแหบพร่า เพื่อโต้กลับอย่างดุดัน “ใช่สิ ! ทุเรศทุรังถึงเพียงนี้ แค่เห็นก็สะอิดสะเอียนแล้ว !”
ชายหนุ่มเลิกคิ้วสูงพลางยกตัวขึ้นกระซิบข้างหูนางอย่างหน้าด้าน ๆ “มิใช่ผู้คนกล่าวกันว่า บุรุษที่มีรอยบากเต็มตัวจะดูแข็งแกร่งสมชายชาตรีกระทั่งพวกสาว ๆ อ่อนระทวยใจละลายล่ะหรือ ?”
“หากผู้ใดคิดว่าเจ้าทรงเสน่ห์ถึงเพียงนั้นก็ไปหาพวกนางเลย !” เกอซีเย้ยหยันออกมา
ชายหนุ่มส่งเสียงร้องครางดูคล้ายเจ็บปวด ติดตามมากับเสียงนั้นคือใบหน้าที่กลั้นทุกข์ทรมาน ปลายขนตายาวกดลงสั่นระริกบางเบา
“ครานี้รู้แล้วใช่ไหมว่าความเจ็บปวดเป็นเช่นไร !” แม้เกอซีแทบไม่อาจทนดูทว่าน้ำเสียงที่เอ่ยกล่าวยังคงแข็งกร้าว ขณะฝ่ามือยังทําแผลไม่หยุด “ดูสิว่า ต่อไปเจ้าจะยังกล้าทําอะไรบ้าระห่ำไม่คิดชีวิตเช่นนี้อีกหรือไม่ !”
“ขอเพียงมีซีเอ๋ออยู่ข้างกาย แม้ต้องรับศึกหนักหยิ่งกว่านี้ เปิ่นหวาง*ก็ไม่เคยนึกหวั่น”
*เป็นหวาง คือการเรียกแทนตนเองของท่านอ๋อง
ชายหนุ่มเอื้อมมือข้างที่ไม่ได้รับบาดเจ็บตรงเข้ารัดรอบเอวอ่อนบางรั้งร่างนุ่มมือไว้ในอ้อมแขน “ซีเอ๋อจะไม่ทิ้งข้าใช่ไหม ? ไม่ว่าเจ้าจะไปที่ใดข้าก็จะติดตามเจ้าไป ข้าจะไม่มีวันปล่อยมือเจ้า !”
จะติดตามข้า ? เจ้ามันวิญญาณเร่ร่อนหรือไร ?
เกอซีพลิกร่างกลับมาถลึงตาใส่อีกฝ่าย นางไม่อยากสนใจวาจาไร้ยางอายของชายผู้นี้แล้ว
เกอซีทุ่มเทแรงพลังทั้งหมดเพื่อรักษาบาดแผลให้หนานกงยวี่
ไม่ว่าจะรอยแผลเป็นที่น่าเกลียดน่ากลัว หรือกระทั่งท่อนแขนที่หักร้าว ล้วนสามารถทําให้รู้สึกผวาจนขนลุกเมื่อได้เห็น กระนั้นก็หาใช่สิ่งที่ยากเย็นสําหรับนางไม่
ด้วยทักษะทางการแพทย์ของหญิงสาวผนวกกับประสิทธิภาพอันยอดเยี่ยมในการสมานแผลของทิพย์ธาราแห่งความสันโดษชั้น 9 รับรองได้ว่าแค่เพียงสองสามวัน บาดแผลทั่วร่างเขาจะหายดีเป็นปกติ
ที่น่ากังวลอย่างที่สุดนั้นคือ การที่หนานกงยวี่ฝุ่นควบกลั่นพลังในกายมากจนเกินไปเมื่อครั้งประมือกับเจ้านกยักษ์ย่อมทําให้เส้นชีพจรปราณไหม้เสียหายหลายจุด จําต้องอาศัยเวลาในการฟื้นตัว
ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เกอซีจึงนําโอสถน้ำที่ใช้ฟื้นสภาพเส้นชีพจรปราณซึ่งต้มจากสมุนไพรเวทชั้นสูงซึ่งเติบโตในมิติเวทของตนหล่อเลี้ยงด้วยทิพย์ธาราแห่งความสันโดษชั้น
ทว่าเมื่อนางส่งโอสถให้ชายหนุ่ม เขากลับส่ายหน้าทันทีโดยไม่ต้องหยุดคิด “ซีเอ๋อ เจ้าก็เห็นว่าข้าเคลื่อนไหวไม่ถนัดนัก เหตุใดเจ้าไม่ช่วยป้อนโอสถให้ข้าเล่า ?”
เกอซี “…”
ก็แค่แขนขวาหัก แขนซ้ายยังใช้การได้เป็นปกติไม่ใช่หรือ ! แค่นี้เหตุใดทําสําออยดื่มยาเองไม่ได้เล่า !
หนานกงยวี่บ่ายหน้าหลบโดยไม่ยอมเหลือบมองโอสถข้นน้ำดําในมือของเกอซีอีก พลางกล่าวด้วยสีหน้าหม่นหมอง “เมื่อครู่เจ้ายังป้อนโอสถให้เจ้าสารเลวกู้หลิวเฟิ่งนั่นด้วยมือตน ทั้งยังช่วยฝังเข็มให้มันอีก มือเจ้าจับต้องร่างของมันได้ ทว่าเจ้ากลับปฏิเสธไม่ยอมป้อนโอสถให้ข้า ซีเอ๋อ ในใจเจ้า ข้ามีความสําคัญน้อยกว่ามันใช่ไหม ?”
มุมปากญิงสาวกระตุก ไม่รู้จะเอ่ยกล่าวเช่นไรดี
ขณะที่สีหน้าของหนานกงยวี่กลับยิ่งหม่นมัวเศร้าหมอง ชายหนุ่มคว้ากระบี่ยาวเล่มดําสนิทค้ำประคองกายลุกขึ้นในทันที
***จบตอน ข้าจะไม่มีวันปล่อยมือเจ้า***