หัตถ์เทวะธิดาพญายม - ตอนที่ 267 ปกป้องเจ้าไปตราบสิ้นชีวิต
ตอนที่ 267 ปกป้องเจ้าไปตราบสิ้นชีวิต
น่าเสียดายยิ่งนักที่ขุมพลังในกายยามนี้ของหนานกงยวี่เดือดแห้ง ศักยภาพทางกายถูกนําออกใช้กระทั่งไม่เหลือ เช่นนั้นยังไม่ทันที่เขาจะหยัดยืนขึ้นได้อย่างมั่นคง ร่างกํายํานั้นกลับซวนเซร่วงกระแทกพื้นอย่างแรง
“หนานกงยวี่!” เกอซีรีบเข้ามาช่วยประคองรับในทันที หยาดเหงื่อเย็นผุดพรายขึ้นทั่วแผ่นหลังด้วยความตื่นกลัว “นี่เจ้าไม่อยากมีลมหายใจอีกแล้วใช่ไหม ?”
ดวงตาดําสนิทคู่นั้นของหนานกงยวี่ร้อนผ่าวหนักขึ้นเรื่อย ๆ ยามเมื่อเขาจับจ้องกลับมาที่นาง เพียงเมื่อค่อนชั่วยามก่อน เขายังสามารถผงาดอย่างองอาจประดุจปีศาจร้ายที่พร้อมบดขยี้พื้นพสุธา ทว่าดูเขาในยามนี้เถิด มิต่างอันใดกับสุนัขเหลือขอที่นั่งน้ำตาซึมในสภาพน่าเวทนา
ที่สุดเกอซีจึงต้องพ่ายให้กับชายผู้นี้ นางยกชามโอสถที่วางอยู่ด้านข้างขึ้นมาพลางเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่พอใจเท่าไรนัก “ได้ ข้าป้อนให้ก็ได้ ! ท่านอ๋องราชันมัจจุราช !”
มุมปากของเขาขยักยกขึ้นเล็กน้อย เมื่อยามนี้ร่างกายท่อนบนของเขาได้รับอนุญาตให้เอนอิงพิงร่างของนาง ชายหนุ่มจึงยอมรับโอสถที่เกอซีช่วยป้อนให้ด้วยใบหน้าระรื่น
ทั้งหลายครั้งยังเผอิญไปสัมผัสโดนพวงแก้มนุ่นเนียนละเอียดของนาง ท่าทางยามนี้ของเขาคงบอกได้เพียง ได้รับความพึงพอใจอย่างเหลือล้น
ทว่าได้รับการป้อนโอสถแค่เพียงสองช้อน ฝ่ามือของเขากลับไปสัมผัสโดนบาดแผลบนไหล่ซ้ายของนาง ความเย็นเฉียบจากปากแผลคือสิ่งที่ชายหนุ่มรับรู้ได้ในทันที ในแววตาดําอันล้ำลึกคู่นั้นทอประกายอย่างเย็นยะเยือกน่าตื่นตะหนกขึ้นวูบหนึ่ง
เมื่อเกอซีกําลังจะป้อนโอสถคําที่สาม ความอบอุ่นที่เอิบอาบสายหนึ่งพลันหลั่งล้นลงสู่ช่วงไหล่ ก่อนขุมพลังที่หนาแน่นจะระเบิดออกครอบคลุมปากแผลทั่วไหล่ซ้ายของนาง
เพียงเสี้ยววินาที ร่างที่เย็นยะเยือก หัวไหล่ซ้ายที่ถูกแช่แข็งกระทั่งด้านชาแทบไร้ความรู้สึกพลันถูกเยียวยารักษาให้คืนสภาพคงเดิม
นัยน์ตาของหญิงสาวเบิกโพลง หนานกงยวี่ เจ้าคนผู้นี้ ! เห็นได้ชัดว่าพลังในกายของเขาแห้งเหือดแทบไม่เหลือ กว่าจะรวบรวมคืนพลังกลับมาได้ก็แสนยากเย็น ทว่ายามนี้เขากลับถ่ายพลังทั้งหมดนั้นมารักษาอาการบาดเจ็บกระจ้อยร่อยของนาง ! สมองของเขาผิดปกติใช่ไหม ?
ครั้งที่เกอซีอยู่ในวังจือจิน ส่วนหนึ่งแห่งอาณาจักรกําบัง นางได้รับบาดเจ็บสาหัส พลังปราณในกายจึงถูกใช้แทบไม่เหลือ ทั้งย่อมไม่ทันจะมีเวลาโคจรฟื้นพลัง นางจึงทําได้เพียงดื่มทิพย์ธาราเพื่อช่วยประคองร่างกาย และเพียงเท่านั้นก็ช่วยให้รู้สึกดีขึ้นมาก ส่วนอาการบาดเจ็บที่หัวไหล่ เกอซีตั้งใจจะโคจรพลังเข้าสู่ปากแปลเพื่อขับอายเย็นออกจากร่างและฟื้นคืนสภาพร่างกายในภายหลัง
หากจะเปรียบอาการบาดเจ็บของหนานกงยวี่กับตัวนางแล้ว อาการบาดเจ็บของนางนับว่าจิ๊บจ๊อยแทบมิอาจถือสา !
ขณะที่เกอซีกําลังจะขยับปาก น้ำเสียงคมเข้มหม่นมัวของหนานกงยวี่พลันเอ่ยให้สัตย์ปฏิญาณแก่นางขึ้นทัน
“ซีเอ๋อ จงเชื่อใจข้า ข้าจะปกป้องเจ้าไปตราบชั่วชีวิต !”
ร่างของนางชะงักค้าง ภายในใจคล้ายถูกข่วนเกาให้รู้สึกจั๊กจี้ ทว่ากลับเป็นความรู้สึกที่อ่อนละมุนยิ่งนัก
ฉับพลันภาพฉากที่หญิงสาวเพิ่งได้เห็นตําตาเมื่อไม่นานกลับผุดขึ้นในหัว
หนานกงยวี่หันกลับไปตรวจอาการบาดเจ็บของเฟิ่งเหลียนอิง เขาทอดทิ้งนางไว้เบื้องหลัง ยังมี เพื่อเฟิ่งเหลียนยิ่งผู้นั้น เขาถึงกับพร้อมทิ่มแทงกู้หลิวเฟิ่งด้วยปลายกระบี่
เพลิงร้อนรุ่มในใจพลันดับวูบคล้ายถูกน้ำเย็นสาดรด ประดุจดั่งสายลมเย็นที่หอบพาเอาความหนาวยะเยือกเข้ามาแทนที่ความอบอุ่นภายในห้อง
สีหน้าของหญิงสาวพลันแข็งกระด้างเย็นชา น้ำเสียงเฉยชาของนางดังก้อง “หนานกงยวี่ จะกล่าวไปไยกับสิ่งที่ไม่อาจเป็นได้ เหตุใดก่อนหน้านี้เจ้าไม่รู้จักกล่าวคํามั่นเช่นนี้เล่า ? เจ้าก็แค่เพียงกล้าเอ่ยกล่าวยามเมื่ออยู่ในที่ลับตาผู้คนเช่นนี้เท่านั้น หากข้าสังหารเฟิ่งเหลียนอิงเข้าจริง ๆ เจ้าจะยังให้เกียรติข้าเหลือรอดชีวิตหรือไม่เล่า ?”
เขาจ้องนางด้วยความงุนงง ในหัวพลันว่างเปล่าคงเห็นเพียงมุมปากของนางที่คลี่รอยยิ้มแสนเย็นชายามเมื่อเอื้อนเอ่ยวาจา “เจ้ากล่าวว่าจะปกป้องข้าตราบชั่วชีวิต…เช่นนั้นหากข้าบอกเจ้าว่าบาดแผลบนร่างข้าเป็นฝีมือของเฟิงเหลียนอิง เจ้าจะทําเช่นไรเล่า ? จะลงมือสังหารน้องหญิงเหลียนยิ่งสุดที่รักของเจ้าเพื่อข้ากระนั้นหรือ ?”
เขานิ่งตัวแข็งค้าง นัยน์ตาหลุบต่ำคล้ายต้องการซุกซ่อนความรู้สึกที่พลุ่งพล่านอยู่ภายใน
เมื่อรับรู้ได้ถึงบรรยากาศอันเย็นยะเยือก ความเป็นปฏิปักษ์อย่างที่สุดแผ่ซ่านออกตลอดทั่วเรือนกายของเกอซี ชายหนุ่มอยากเอ่ยกล่าวถ้อยคําบางสิ่ง ทว่าด้วยสถานการณ์บังคับ เขาจําต้องเก็บกลิ่นวาจาทั้งหมดทั้งมวลที่พร้อมรออยู่เพียงปลายลิ้นกลับคืนไป
ความนิ่งเงียบอาการนิ่งเฉยของหนานกงยวี่ คือสิ่งที่เกอซีคาดคิดไว้อยู่แล้ว สิ่งที่เห็น กลับทําให้นางพบกับความผิดหวัง กระทั่งพูดไม่ออกทั้งที่เตรียมใจไว้ก่อนหน้า ความเกรี้ยวกราดเดือดดาลโหมกระพืออยู่ภายในใจ
เกอซีกล่าวต่อด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน “กู้หลิวเฟิ่งกับข้าทําให้นางได้รับบาดเจ็บนิดหน่อยเจ้าก็ทนมิได้จนเต้นเร่า ๆ เช่นนี้ หากข้าลงมือสังหารนางจริง มีหรือที่เจ้าจะไม่หมายชีวิตข้าเพื่อล้างแค้น ? หนานกงยวี่ กระทั่งทุกอย่างชัดเจนตําตาอยู่เช่นนี้ เจ้ายังจะกล้าพูดว่าเจ้าจะปกป้องข้าตราบชั่วชีวิตอีกกระนั้นหรือ ? อย่าทําให้ข้าต้องหัวเราะจนฟันโยกไปหน่อยเลย !!”
***จบตอน ปกป้องเจ้าไปตราบสิ้นชีวิต ***