หัตถ์เทวะธิดาพญายม - ตอนที่ 282 หวูอวี้ ผู้ตะกละ
หัตถ์เทวะธิดาพญายม ตอนที่ 282 หวูอวี้ ผู้ตะกละ
เมื่อเกอซีหวนนึกถึงกระแสพลังอบอุ่นที่โอบล้อมรอบกายนางยามเมื่อมิติฉีกขาด สีหน้าของหญิงสาวจึงอ่อนลงอย่างอดมิได้
ทว่ากู้หลิวเฟิ่งที่ยืนเคียงข้างกลับยังคอยสุมไฟเติมเชื้อเพลิง “เยว่เอ๋อน้อย เบื้องหน้าต่อไปเจ้าสมควรระมัดระวังเฟิ่งเหลียนยิ่งให้ยิ่งขึ้น สตรีร้อยพิษผู้นั้น จุ๊ จุ๊ จุ๊… นี่เจ้ายังไม่ได้เห็นสีหน้านางยามเมื่อเจ้ากับองค์ราชันมัจจุราช หายร่างไปพร้อมกันว่าน่าเกลียดน่ากลัวปานใด กระทั่งข้าได้เห็นยังอดขนลุกมิได้ ข้าคิดว่ายามนี้นางคงเห็นเจ้าเป็นเสมือนศัตรูหัวใจตัวฉกาจที่กําลังหาทางช่วงชิงชายคนรักไปจากนางอย่างแน่แท้ สตรีที่กมลสันดานมีเพียงความอิจฉาริษยาเช่นนี้ล้วนสามารถลงมือกระทําได้ทุกสิ่ง แม้จะเป็นเรื่องไร้เหตุผลสักเพียงไรก็ตาม”
เกอซีเบื่อจะเอ่ยปากเปลี่ยนแปลงการเรียกขานที่น่าขนลุกของกู้หลิวเฟิ่งอีกต่อไป หญิงสาวเพียงเปล่งเสียงเย้ยหยันเมื่อได้ฟังสิ่งที่ชายหนุ่มพล่ามบ่น
“แม้นหากนางไม่มาหาข้าก็ใช่ว่าข้าจะยอมปล่อยนางไป ที่สุดเราจะได้รู้กันว่าผู้ใดรวดเร็วกว่า ระหว่างเราทั้งสอง ผู้ใดจะใช้วิธีการที่เหี้ยมโหดยิ่งไปกว่ากัน !”
กู้หลิวเฟิ่งปรบมือหัวเราะลั่น “เยว่เอ๋อน้อย ข้าชอบนิสัยเจ้าคิดเจ้าแค้นทั้งยังเถรตรงของเจ้าเสียจริง หากยามนี้ข้ามีสุราอยู่ในมือ ข้าจะต้องยกจอกร่วมหัวจมท้ายกับเจ้า สหายข้าเป็นแน่ จริงสิ หากคิดลงมือกับหญิงชั่วนั่นเมื่อไรอย่าลืมเรียกข้าไปร่วมคิดบัญชีที่นางกล้าลงมือทําร้ายเหยียนอันด้วยเล่า ! ตราบเท่าที่ท่านอ๋องราชันมัจจุราชไม่สอดมือเข้ามายุ่ง ข้าเชื่อว่าข้ายังคงมีคุณสมบัติเพียงพอจะช่วยเจ้ารอดได้เสมอ”
กล่าวจบ สายตาของเขาก็ชําเลืองไปทางหนานกงยวี่ ทั้งยังเห็นอีกฝ่ายเขม็งตาจ้องกลับมาด้วยใบหน้ามืดมัว
หน้าตาท่าทางยามนี้ของหนานกงยวประดุจเพิ่งซดน้ำส้มสายชู*เข้าไปจนเต็มคราบกระทั่งแทบจะระเบิดอารมณ์ออกมาแล้ว
“ดื่มน้ำส้มสายชู หมายถึง หึงหวง
เห็นได้อย่างชัดเจนว่าหนานกงยี่หาได้ใส่ใจต่อความเป็นหรือความตายของเทพธิดาบัวเยือกแข็งไม่ หากทว่ายิ่งรู้เท่าทันเท่าไร กู้หลิวเฟิ่งก็ยิ่งอดยิ้มกริ่มมิได้
เห็นทีข่าวคําลือพวกนั้นจะเป็นเพียงข่าวโคมลอยอย่างแท้จริง ! ไม่คาดคิดเลยว่าท่านอ๋องราชันมัจจุราชผู้มีหัวใจเย็นชาประดุจแท่งน้ำแข็ง ไม่เคยเปิดโอกาสใกล้ชิดให้แก่อิสตรีใดโดยตลอด โดยที่แท้จริงนั้นคือบุรุษผู้นิยมชื่นชมบุรุษด้วยกัน อา…หากแต่จะอย่างไรเสีย หนุ่มหน้างามเบื้องหน้าผู้นี้ก็งดงามยิ่งไปกว่าเทพธิดาผู้เคลื่อนคล้อยจากสรวงสวรรค์ที่ปรากฏในภาพวาดทั้งหลาย
เพียงเมื่อหญิงสาวกําลังจะปริปาก นางกลับรับรู้ได้ถึงความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นในเสี้ยวนาที่ถัดมา สิ่งที่ปรากฏแก่สายตา คือเงาร่างของคนผู้หนึ่งซึ่งเหินข้ามผ่านเวหามาอย่างเร็วรี่ ปลายทางมุ่งมาที่พวกเขา ก่อนจะจรดฝ่าเท้าลงเบื้องหน้าหนานกงยว
คนผู้นี้คือหนึ่งในลูกน้องคนสนิทข้างกายหนานกงยวี่ หวูอวี้!
ลําดับแรก หวูอวี้ ค้อมกายลงคารวะหนานกงยี่ก่อนจะรายงานผลการสํารวจอาณาบริเวณโดยรอบอาณาจักรกําบังแห่งนี้ให้ผู้เป็นนาย
เมื่อการรายงานสิ้นสุดลง ชายหนุ่มจึงหันมาเห็นเกอซีเพียงเท่านั้นเสียงเปล่งอุทานของเขาพลันดังขึ้นทันที “พระชา…แค่ก….คุณชายซี เหตุใดท่านจึงอยู่ที่นี่ด้วย ?!”
หญิงสาวตอบกลับด้วยท่าที่ไม่ยี่หระใด “แล้วเหตุใดข้าจะมาไม่ได้เล่า ?”
“หามิได้ คุณชายซี ท่านย่อมมาที่นี่ได้อย่างแน่แท้” สีหน้าตื่นตะลึงของเขาแปรเปลี่ยนกลายเป็นรอยยิ้มประจบประแจงอย่างรวดเร็วในทันที “ข้าเพียงตระหนกมากไป เนื่องเพราะไป๋หู่ เจ้าเด็กนั้นมิอาจหาตัวท่านพบ เขาควานหาท่านไปทั่วเมืองเหยียนจึงทว่ากลับไม่อาจพบเจอ”
หญิงสาวเลิกคิ้วสูงด้วยความงุนงง “ไป๋หู่ตามหาข้าด้วยเหตุใด ?”
“ย่อมเป็นธรรมดา เพื่อคอยคุ้มครองท่าน !” พร้อมกันนั้นเขาจ้องมองนางคล้ายจะกล่าวว่า เหตุใดท่านต้องเอ่ยถามสิ่งที่น่าจะรู้คําตอบดีอยู่มิใช่หรือ ?” “นายท่านเตรียมเข้าสู่อาณาจักรกําบัง หากทว่าสถานที่ลึกลับแห่งนี้ล้วนอันตรายอย่างใหญ่หลวงสําหรับผู้ฝึกยุทธผู้มีพลังปราณระดับต่ำกว่าขั้นที่ 3 พลิกผันอเวจี เช่นนั้นย่อมเป็นธรรมดาที่นายท่านมิอาจนําพาท่านเข้ามาด้วย กระนั้นนายท่านยังห่วงกังวลว่าจะมีผู้คิดร้ายต่อท่านยามเมื่อนายท่านมิได้อยู่คอยปกป้อง เช่นนั้นไป๋หู่จึงถูกส่งออกมาทําหน้าที่อารักขาท่าน”
“ท่านมิรู้หรอกหรือ เดิมที่ข้าต้องการรับหน้าที่ดูแลปกป้องท่าน ส่วนไป๋หู่ก็อยากติดตามนายท่านเข้ามาเปิดหูเปิดตาในอาณาจักรกําบัง ทว่าหวูซิน พี่ชายจอมหัวเสียของข้ากลับไม่ฟังคําทัดทานใด ๆ ทั้งยังถีบข้ากระเด็นเข้ามาในอาณาจักรกําบังแห่งนี้ ! ท่านคิดดูสิ เหลียวแลไปในทิศใดล้วนมีเพียงซากศพ ถ่านเถ้า เทือกเขา และหินผา ไร้อาหารชั้นเลิศให้ลิ้มลอง การต้องเข้ามาเยือนสถานที่ลี้ลับแห่งนี้จะไปมีความหมายอย่างไรได้ ? !”
“หากทว่าข้าไม่คาดฝันเลยว่าจะได้มาพบท่านที่นี่ คุณชายซี ! พลังฝีมือของท่านนับว่ายังต่ำต้อย กระนั้นท่านก็สามารถเข้ามาในอาณาจักรกําบังแห่งนี้ได้จริง นับเป็นเรื่องวิเศษยิ่ง ครานี้เห็นที่ข้าคงไม่ต้องกังวลถึงเรื่องของอร่อยอีกต่อไปแล้ว เนื่องเพราะนายท่านเฝ้าแต่คิดถึงท่านทั้งเกลียดชังการแยกจากท่าน เช่นนั้นกระทั่งวินาทีสุดท้าย นายท่านจะต้องหอบท่านตามติดไปด้วยทุกที่อย่างแน่นอน”
***จบตอน หวูอวี้ ผู้ตะกละ***