หัตถ์เทวะธิดาพญายม - ตอนที่ 324 ข้าเชื่อมั่นในตัวเจ้า
หัตถ์เทวะธิดาพญายม ตอนที่ 324 ข้าเชื่อมั่นในตัวเจ้า
“หรือเจ้าอยากให้ลุงของเจ้าต้องสิ้นใจเพียงเพราะความเห็นแก่ตัวของเจ้า ?”
กู้หลิวเฟิงข่มเปลึกตาปิด ก่อนจะเปิดเปลือกตาทั้งสองขึ้น อีกคราด้วยอาการเยือกเย็นนิ่งสงบ “ข้าตัดสินใจแล้ว”
เนียจินเฉินกล่าวพลางหัวเราะร่วน “เมื่อเจ้าคิดได้แล้ว เหตุใดไม่เร่งเข้ามาโขกศีรษะรู้ผิดแก่น้องหญิงน้อยเหลียนอิง
หากทว่ายังมิทันที่เนียจินเฉินจะกล่าวจบ กู้หลิวเฟิงก็ลุกพรวดขึ้นพลางหันจ้องตรงเขม็งมายังเกอซี เขาเอ่ยกล่าวอย่างไม่เร่งร้อน “ได้โปรด ช่วยรักษาอาการปวยให้ท่านลุงของข้าด้วย”
เกอซีเลิกคิ้วสูง ประกายแห่งความประหลาดใจฉายวาบผ่านดวงตาคู่งาม “เจ้าไตร่ตรองถ้วนถี่ทุกประการแล้วกระนั้นหรือ ? ข้าหาได้มีทักษะทางการแพทย์แม้เพียงระดับขั้น ทั้งก็หาใช่สมาชิกในสมาพันธ์แพทย์อย่างผู้อื่นไม่”
กู้หลิวเฟิงตอบสนองในทันทีอย่างไร้สิ้นความลังเลใจแม้เพียงน้อย “ข้าเชื่อมั่นในตัวเจ้า”
เพียงได้เห็นภาพเหตุการณ์ตรงหน้า ถ้อยวาจาอันหมิ่นหยามสร้างความอัปยศอดสุทั้งหลายทั้งปวงล้วนจุกติดอยู่ที่คอหอย ทั้งใบหน้าแดงก่ํา ผ่านพ้นเวลาไปเนิ่นนานกว่าเขาจะเปล่งอุทานออกมาได้ “กู้หลิวเฟิงเจ้าเสียสติไปแล้วกระนั้นหรือ ? เจ้าเชื่อคําลวงของเจ้าเด็กเหลือขอสกปรก ผู้ไม่มีผลสําเร็จทางการแพทย์ใดเลยกระนั้นหรือ? เมื่อเจ้ากลับกลายเป็นเหตุให้ท่านลุงของเจ้าถึงแก่ความตายแล้ว เจ้าจะเสียใจกับการตัดสินใจในครานี้”
ทุกผู้คนในสวนสมุนไพรล้วนเผยสีหน้าแสดงความไม่พอใจ พวกมันทุกคนล้วนส่งสายตามองกู้หลิวเฟิง ประหนึ่งกําลังจับจ้องผู้ขลาดเขลาเบาปัญญา
บุรุษหนุ่มผู้นี้ถึงกับปฏิเสธความช่วยเหลือจากเทพธิดาบัวเยือกแข็งผู้มีทักษะทางการแพทย์ถึงระดับขั้นที่ห้า ทว่ากลับเลือกเชื่อฝีมือเด็กหนุ่มผู้มีพลังฝีมือแค่เพียงขั้นปฐมภูมิโลกันตร์เท่านั้น
เมื่อได้เห็นแววตาที่เด็ดเดี่ยวของกู้หลิวเฟิง มุมปากของเกอซีพลันยกยิ้มเย้ยขึ้นเล็กน้อย “เมื่อเป็นเช่นนี้ ข้าจําต้องไหว้วานท่านเข้าไปเก็บสมุนไพรบางตัวในสวนสมุนไพรแห่งนั้น ซึ่งล้วนคือดอกวานรม่วง ผลทับทิมเพลิง และหญ้ามังกร”
ทันทีที่ได้ยินสิ่งที่เอ่ยกล่าว เสียงกระหมจากเหล่ายอดฝีมือทั้งหลายพลันดังกึกก้องโกลาหล
“สวรรค์ นี่ข้าฟังไม่ผิดไปใช่หรือไม่ ? เมื่อครู่เจ้าหนุ่มนั่นบอกให้เข้าเป็นเก็บพฤกษาโอสถในสวนสมุนไพรกระนั้นหรือ ? นี่มันรู้บ้างหรือไม่ว่าสมุนไพรเหล่านั้นล้วนมีพิษ ผู้ใดกลืนกินพฤกษาเหล่านั้น ล้วนย่อมถึงแก่ความตายทั้งสิ้น”
“นั่นมันใช่การรักษาผู้ป่วยที่ใดกัน? แน่ชัดว่าย่อมหมายจะปลิดชีพต่างหากเล่า”
“ยิ่งไม่ต้องกล่างถึงว่าสมุนไพรที่มันกล่าวออกมาล้วนคือสมุนไพรเดียวกับที่เทพธิดาบัวเยือกแข็งกล่าวถึง นี่ล้วนย่อมชัดเจนว่ามันหาได้เข้าใจสิ่งใดไม่ มันผู้นี้ก็แค่เพียงลอกเลียนกระบวนการวินิจฉัยโรค และการสั่งยาตามเทพธิดาบัวเยือกแข็งเท่านั้น”
“มันช่างไร้ยางอายสิ้นดี”
โดยตลอดรอบด้านล้วนระเบ็งเซ็งแซ่ด้วยเสียงวิพากษ์วิจารณ์ หากทว่าสีหน้าของเกอซีกลับไม่แปรเปลี่ยนแม้เพียงน้อย นางยังคงจ้องหน้ากู้หลิวเฟิงด้วยสายตาเรื่อยเปื่อย
กู้หลิวเฟิงหันไปมองท่านลุง ผู้ยามนี้กําลังอยู่ในสภาวะไม่รู้สึกตัว หากทว่ายังคงส่งเสียงร้องโอดครวญกัดกรามแน่นอยู่เป็นระยะ ชายหนุ่มหันมากล่าวตอบ “ย่อมได้ ข้าจะรีบไป”
“เสียสติไปแล้ว เจ้าหนุ่มนั่นมันวิกลจริตชัดๆ ”
“เข้าสู่สวนสมุนไพร ล้วนมีค่าเท่ากับย่างเท้าเข้าหาความตาย เจ้าหนุ่มหน้าสวยผู้นั้นกําลังปั่นหัวไอ้หนุ่มนี้ใช่หรือไม่? เหตุใดหนุ่มผู้นั้นจึงตัดสินใจเช่นนี้เล่า?”
“ข้านึกได้แล้ว บุรุษผู้สวมใส่หน้ากากผู้นั้นคือ คุณชายกู้ นายใหญ่แห่งโรงโอสถซวนเต่อ ด้วยสติปัญญาอันเฉีย บคมของท่านผู้นี้ เหตุใดจึงกลับไปหลงเชื่อวาจาของเจ้าหนุ่มนั่น หากแต่กลับไม่วางใจให้เทพธิดาบัวเยือกแข็งเข้าช่วยเหลือเช่นนี้เล่า ?”
“อาจบางที เขาคงถูกใบหน้าจิ้มลิ้มของเจ้าหนุ่มนั่น ทําให้ไขว้เขวเสียกระมัง เฮ้อ ! ช่างหลงไปไกล กระทั่งไม่ใส่ใจความปลอดภัยของลุงตนเองเสียแล้ว ฮ่าฮ่าฮ่า….”
กู้หลิวเฟิงข่มกดกรามแน่นด้วยความโกรธเกรี้ยว เพียงเสี้ยวพริบตา ร่างกํายําของบุรุษหนุ่มก็ตรงฝ่าเข้าสู่สวนสมุนไพรอย่างไม่รอช้า
เมื่อเขาคือผู้ดําเนินการค้าโอสถ เช่นนั้นตัวยาสามัญดังเช่นดอกวานรม่วง ผลทับทิมเพลิง และหญ้ามังกรล้วนคือสิ่งที่เขาจดจําได้อย่างง่ายดาย
เพียงไม่นานสมุนไพรทั้งสามก็ถูกบรรจุเต็มกล่อง เพื่อหยิบยื่นส่งให้ตรงหน้าเกอซี
เมื่อกลับออกมาจากสวนสมุนไพร ทั่วทั้งหน้าผากขอ งชายหนุ่มล้วนถูกปกคลุมไปด้วยหยาดเหงื่อ หากแต่แววตา คู่นั้นกลับยังคงเด็ดเดี่ยวอย่างมิอาจประมาณ
ช่วงเวลานั้นเองที่น้ําเสียงแฝงความห่วงใยของเฟิงเหลียน ยิ่งดังแทรกขึ้นจากที่ไกล “คุณชายกู้ เมื่อท่านนําตนล่วงเข้าสู่สวนสมุนไพร ท่านย่อมติดเชื้อพิษโลหิตหลั่งสําราญ ท่านสมควรรีบกลืนเม็ดโอสถห้าธาตุสกัดโลหิตของข้าเสีย ข้ามิได้ต้องการให้ท่านมาโขกศีรษะสํานึกผิด ข้าเพียงหวังจะให้ท่านกับท่านลลุงของท่านมีลมหายใจต่อไปเท่านั้น….อย่างไรเสีย พวกเราทั้งคู่ก็ล้วนเป็นแพทย์ด้วยกันทั้งสิ้น ย่อมควรมีใจกรุณาสั่งสมสร้างบุญกุศล ข้าจะกระทําตนเยี่ยงคุณชายซี เห็นชีวิตผู้ป่วยเป็นของไร้ค่าที่มีไว้ เพียงเพื่อเป็นเครื่องมือในการชิงดีชิงเด่นได้เยี่ยงไร”
***จบตอน ข้าเชื่อมั่นในตัวเจ้า***