หัตถ์เทวะธิดาพญายม - ตอนที่ 325 นิสัยเผด็จการ
หัตถ์เทวะธิดาพญายม ตอนที่ 325 นิสัยเผด็จการ
การที่เฟิ่งเหลียนอิ่งเอ่ยกล่าววาจาเช่นนั้น เป็นเพราะเห็นว่าถ้อยคําทั้งปวงล้วนสมบูรณ์ไปด้วยเหตุผลเต็มไปด้วยความบริสุทธิ์ และจริงใจ
เหล่ายอดฝีมือรอบข้างผู้หาได้ตระหนักถึงสิ่งที่ซ่อนเร้นภายในความคิดของนางต่างแสดงความเห็นพ้องคล้อยตาม
“เทพธิดาบัวเยือกแข็งเป็นผู้มีจิตใจงดงามดังคํากล่าวเล่าขานอย่างแท้จริง นางคือผู้มีใจอารี่เมตตาต่อเพื่อนมนุษย์ทั้งหลายโดยถ้วนหน้า”
“เทพธิดาบัวเยือกแข็งคงถูกส่งมาจากสรวงสวรรค์ชั้นเก้า นางลงมาเพื่อโปรดพวกเราทุกคนโดยแท้”
“เจ้าเด็กเหลือขอผู้นั้นไม่มีจรรยาแพทย์เลยสักนิด มันไม่ใส่ใจชีวิตเพื่อนมนุษย์ คนเยี่ยงมัน ไม่สมควรถูกปล่อยให้มีชีวิตรอดไปจากสวนสมุนไพรแห่งนี้”
ราวกับยามนี้เฟิ่งเหลียนอิ่งสามารถปลดปล่อยรัศมีเรืองรองแห่งเทพสวรรค์ต่อหน้าทุกผู้คน นางชายตามองกู้หลิวเฟิ่งด้วยความเวทนา
หากแต่นางมิคิดเลยว่าจะถูกกู้หลิวเฟิ่งสวนกลับด้วยสายตาอันเย็นชา ทั้งยังไร้ร่องรอยแห่งความสุภาพ เขาเพียงเปรยขึ้น “ความเป็นหรือความตายของผู้คนล้วนสวรรค์เป็นผู้ลิขิต คงไม่จําเป็นต้องให้เทพธิดาบัวเยือกแข็งห่วงกังวลกระมัง ยิ่งมิต้องกล่าวถึงว่ายามนี้ ข้ากลับรู้สึกคลื่นเหียนที่ได้เห็นสตรีผู้น่าสะอิดสะเอียนเช่นเจ้า ภายนอกประพถิตตนราวดอกบัวขาว หากทว่าภายในกลับเน่าเหม็นฟอนเฟะ หากข้าต้องรับความช่วยเหลือจากเจ้า ข้าขอยอมตายด้วยน้ำมือของเยว่เอ๋อน้อยยังจะดีเสียกว่า”
กล่าวจบ เขาก็หันหลังให้โดยไม่ใส่ใจเฟิ่งเหลียนอิ่งอีกเลย
เฟิ่งเหลียนอิ่งได้เพียงยืนตัวสั่นด้วยความโกรธเกรี้ยว ขณะสองตาของนางยังคงจับจ้องอยู่ที่เกอซี และกู้หลิวเฟิ่ง สายตาคู่นั้นล้วนอัดแน่นไปด้วยแรงปราถนาจะเข่นฆ่าสังหารพวกมันทั้งคู่ บดขยี้กองกระดูกให้ปนเป็นเถ้าธุลี
ขณะเดียวกันนั้นเอง เมื่อเกอซีได้รับสมุนไพรทั้งหมด นางกลับไม่ได้นําพฤกษาทั้งปวงมาหลอมสกัดเป็นตัวยาตามความคาดหมายของทุกคน หากแต่นางกลับปลดปล่อยขุมพลังปราณเพลิงที่แปลกประหลาดออกมาแผดเผาตัวยาทั้งหมดนั้น
เมื่อสมุนไพรต้องความร้อนของเปลวเพลิง พลังแห่งจิตวิญญาณที่สั่งสมภายในจึงเริ่มถูกพลังปราณเพลิงสูบกลืนออกไปทีละน้อย ครั้นพฤกษาทั้งหมดเริ่มหลอมละลาย ความสดชื่นเปล่งปลั่งของพฤกษาล้วนถูกทําให้แห้งกร้าน กระทั่งกลายเป็นเพียงใบหญ้าแห้ง
“นี่มันกําลังทําอันใด ? เห็นชัด ๆ ว่าพลังในสมุนไพรล้วนถูกถ่ายออกไปจนสิ้นแล้ว เช่นนี้ตัวยาจะเหลือคุณสมบัติใดในการรักษาอีกเล่า ?”
“เห็นได้ชัด มันเพียงทํากร่างคล้ายมีความรู้ มันก็แค่หมายจะช่วยคนเลียนแบบเทพธิดาบัวเยือกแข็งเท่านั้น หากแต่แค่เพียงกลั่นโอสถขั้นพื้นฐานที่สุดมันก็ยังไม่สามารถ ครานี้มันเสียท่าแน่แล้ว”
“แม้พฤกษาในสวนสมุนไพรจะมีปัญหา หากแต่ทําเช่นนี้กลับกลายเป็นการสิ้นประโยชน์เปล่าของสมุนไพรจริง ๆ ”
“ไอ้คนประเภทนี้มันควรค่าจะเรียกว่าแพทย์กระนั้นหรือ ? เหตุใดคุณชายกู้จึงเชื่อใจมันถึงเพียงนี้”
เกอซีทําหูทวนลมไม่รับรู้สุ่มเสียงทั้งหลายโดยรอบ หญิงสาวต้มโอสถน้ำออกมาได้อย่างรวดเร็วภายใต้การช่วยเหลือของกู้หลิวเฟิง และหวูอวี้
ครั้นตัวยาถูกสกัดออกมาแล้ว เกอซีจึงหันมายืนด้านข้างของกู้อี้ตาว แท่งเข็มเงินในมือสะบัดพริ้วเป็นริ้วเงา ก่อนจะแทรกผ่านชั้นผิวปักลงบนจุดสําคัญทั่วร่างของกู้อี้ตาว
เมื่อแบ่งเข็มเงินแทรกลงสู่จุดต่าง ๆ บนร่างของกู้อี้ตาว พลังปราณภายในกลับรั่วไหลออกจากร่างของกู้อี้ตาว ร่างที่เดิมที่อ่อนล้าสิ้นแรงอยู่แล้ว ยามนี้เมื่อต้องสูญเสียพลังปราณมหาศาลกลับยิ่งอ่อนแรงลงอีก กระทั่งลมหายใจที่ผ่านริมฝีปากยามนี้ยังยากลําบาก กลับกลายเสมือนกําลังจะสิ้นใจ
เมื่อได้เห็นร่างที่อ่อนกําลังของผู้เป็นลุง กู้หลิวเฟิ่งจึงอดมิได้ที่จะเอ่ยปากถาม “ซีเยว่ ท่านลุงของข้า….พอมีหนทางเยียวยาหรือไม่ ?”
ยามนี้เกอซีกําลังเพ่งพินิจให้มั่นใจว่าพลังปราณในร่างของกู้อี้ตาวถูกระบายออกไปแล้วหรือไม่ ทว่าทันทีที่ได้ยินสิ่งที่เอ่ยถาม หญิงสาวกลับหัวเราะอย่างภาคภูมิก่อนจะกล่าวตอบอย่างเชื่องช้า “กระบวนการรักษาของข้ายังไม่ถึงที่สุด ทว่าข้าไม่กล้ากล่าวว่าข้าสามารถรักษาโรคภัยได้ทุกชนิดในใต้หล้า หากแต่เมื่อใดที่ข้ากล่าวว่าข้าสามารถให้การรักษาผู้ใดแล้วละก็ กระทั่งพญามัจจุราชก็ไม่อาจเอาชีวิตคนผู้นั้นไปจากข้าได้”
“ส่วนพวกเจ้า…” สายตาของนางเบี่ยงมาหากู้หลิวเฟิง หวูอวี้ และชิงหลง “แค่หุบปากให้สนิทก็พอแล้ว”
กู้หลิวเฟิ่ง หวูอวี้ ชิงหลง “…”
หวูอวี้ และชิงหลง : พระชายา ท่านเผด็จการจนเกินไปแล้ว ช่างเหมาะสมควรคู่กับนายท่านอย่างแท้จริง
หนานกงยวี่ยกมือขึ้นลูบไล้เรือนผมของเกอซี ขณะกล่าวกลัวเสียงหัวเราะบางเบา
“เปิ่นหวาง*ชอบความโหดข่มผู้คนเยี่ยงนี้ เจ้าช่างควรค่าสมเป็นสตรีที่เปิ่นหวางเฝ้าฝันถึงอย่างแท้จริง”
*เปิ่นหวางแปลว่าข้า เป็นคําเรียกแทนตนเองของท่านอ๋อง
สิ่งที่เกอซีตอบสนองกลับมีเพียงวลีอันทรงค่า “ไสหัวไป”
เพียงไม่นานโอสถน้ำที่ต้มอย่างสมบูรณ์แบบก็ถูกกรอกใส่ปากของกู้อี้ตาว หลังได้ดื่มกลืนโอสถลงไป ใบหน้าของเขากลับบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวดทรมานอย่างเหลือกําลัง
ร่างที่เดิมที่ล้วนอ่อนแรงอยู่แล้ว พลันบิดม้วนอย่างรุนแรงกับพื้นพสุธา
บนผิวเนื้อที่เดิมปรากฏเพียงน้ำหนองเล็กน้อยไม่เพียงไม่ได้รับการเยียวยา กลับกัน มันยิ่งแตกระเบิด และเริ่มปลดปล่อยน้ำโลหิตสีคล้ำออกมาแทนที่
***จบตอน นิสัยเผด็จการ***