หัตถ์เทวะธิดาพญายม - ตอนที่ 342 ทั้งกินทั้งเก็บกลับ
หัตถ์เทวะธิดาพญายม ตอนที่ 342 ทั้งกินทั้งเก็บกลับ
“ท่านแม่ ท่านแม่ อาหารพวกนี้รสชาติเยี่ยมไปเลย ! แม้จะดําๆเหม็น ๆไปเสียหน่อย ทว่าเมื่อต้านต้านกินเจ้าพวกนี้ลงไปกลับรู้สึกว่ามันรสชาติดีเยี่ยมขุมพลังที่เดือดแห้ง เพราะหญิงชั่วผู้นั้นทําร้ายข้าล้วนฟื้นคืนมาเช่นกัน !”
ทั้งดําทั้งเหม็นกระนั้นหรือ ? เกอซีทั้งรู้สึกตะลึงพรึงเพริดทั้งวิตกกังวล “ต้านต้านเจ้าแน่ใจหรือว่าเจ้าสามารถกินพฤกษาเวทพวกนี้ได้ ? แล้วพิษโลหิตหลั่งสําราญที่แฝงอยู่ในสมุนไพรเล่า ?”
ต้านต้านเกลือกกลิ้งตัวไปกับสวนสมุนไพร เขายกพุงกลมที่ล้นหลามยืดพองขึ้นแสดงให้หญิงสาวชม พร้อมเสียงหัวเราะชอบใจ “โธ่ ! ท่านแม่งงไปเลยนั่นเพราะมีท่านป่าเถาม่วงอยู่ทั้งคนยังจะมีพิษใดปรากฏอยู่ได้เล่าส่วนที่ดําคล้ําเหม็นตุพวกนั้นล้วนถูกส่งไปให้ท่านป้าเถาม่วงที่เหลือก็ล้วนถูกส่งมาให้ต้านต้านอย่างไรเล่าคิก คิก คิก คิก อว้าว ว้าว ! รสาชาติเยี่ยมสุดยอดไปเลยท่านแม่ลองชิมดูหน่อยเป็นไร ?”
ท่านป่าเถาม่วง ? ความสัมพันธ์ของพวกเขาทั้งสองแนบแน่นเช่นนั้นตั้งแต่เมื่อใดกัน ? ยังมี เหตุใดต้านต้านจึงเรียกเถาวัลย์ม่วงอเวจีว่าท่านป่าเถาม่วงเล่า ? เรียกพรรณไม้ว่าท่านป่าต้านต้านเห็นที่เจ้าจะจัดลําดับญาติไม่เป็นเสียกระมัง ?
“ท่านป้าเถาม่วงพาข้าออกไปกวาดกินพฤกษาที่น่าอัศจรรย์เหล่านั้นด้วยความยากลําบากดูเอาเถิดท่านป้าจัดการทุกสิ่งได้อย่างรวดเร็วกระทั่งทั้งท่านแม่ทั้งพี่ชายท่านนั้นยังไม่รู้เรื่องเลย ฮีฮีฮีพวกเรากินกันอย่างอิ่มหนําเต็มคราบ ทั้งยังสามารถหอบเก็บกลับ มาได้อีกด้วยเช่นนี้พวกเราจะได้มีเก็บไว้กินในมิติเวทได้ทุกเมื่อ ท่านแม่ ต้านต้านฉลาดล้ําหรือไม่เล่า ?”
*พี่ชายของต้านต้าน หมายถึงหนานกงยี่ (สามารถกลับไปอ่านดูตอนเก่าที่หนานกงพยายามเอาเปรียบน้องซีเอ๋อช่วงที่น้องซีเอ้อหมดสติส่วนต้านต้านก็ดูดพลังจากทั่วเมืองได้ค่ะต้านต้านเป็นพยานรู้เห็นความลามกของคุณพี่ชาย)
เยี่ยม ! ไม่คาดคิดเลยว่า เขาจะคิดเลยไกลไปถึงรวบรวมเก็บกลับมาไว้กินในที่นี้ ช่างหัวใสเสียจริง
ในช่วงเวลาเดียวกันนั้นเอง เกอซีย่อมสามารถรับรู้ความคิดอ่านของเถาวัลย์ม่วงอเวจีได้ ยามนี้เถาวัลย์ม่วงอเวจีตัวน้อยของนางกําลังนั่งสะบัดแกว่งตัวหมุนไปมาแทบจะรอบทิศด้วยความภาคภูมิใจในผลงานอย่างหาใดเปรียบปานสิ่งที่นางกําลังรั้งรออยู่ อมคือคํากล่าวชื่นชมจากเกอซี
มุมปากของหญิงสาวกระตุกอีก เมื่อได้เห็นพฤกษาเวทขั้นสูงของตนกําลังสะบัดแกว่งหมุนไปมาไม่หยุดนางเดินตรงเข้าไปลูบเถาของเถาวัลย์ม่วงอเวจีเพื่อให้กําลังใจ
เพียงเท่านั้นเถาวัลย์ม่วงอเวจีกลัยยิ่งตวัดกวัดแกว่งสายเถาวัลย์สะพรึ่บสะพรับด้วยความร่าเริงยินดี มันกลิ้งเกลือกเถือกไถลราวกําลังเป็นลมชักบ้าหมูก็ไม่ปาน สาบานได้เลยว่าหากเจ้าพฤกษาเวทขั้นสูงของนางพูดได้ ยามนี้มันคงกําลังหัวเราะร่วนไม่หยุดด้วยความสุขใจอย่างเหลือล้นเป็นแน่แท้
เมื่อรับรู้ได้ว่าสัตว์เวท และพฤกษาเวททั้งสองของนางไม่เจ็บป่วยหรือเกิดปัญหาใหญ่ หญิงสาวจึงถ่ายถอนลมหายใจยาวด้วยความโล่งอก
แท้จริง ตัวยาในสวนร้อยหลากสมุนไพรแห่งนี้ล้วนเป็นของจริงเพียงนางยังไม่เข้าใจย่อมต้องมีเหตุบางประการที่ทําให้พฤกษาเวทจํานวนมากเจริญเติบโตขึ้นในสวนแห่งนี้
ส่วนพฤกษามนตราในที่นี้ล้วนไม่ใช่พฤกษาขั้นสูงทั้งยังดูคล้ายเป็นวัชพืช หากทว่าคลื่นพลังของมันกลับเข้มข้นและหากทิ้งเวลาให้ผ่านไปถึงพันปี พวกมันทั้งหมดย่อมสามารถขึ้นปกคลุมกระทั่งแทบจะทั่วเขตสวนสมุนไพรแห่งนี้
หากยืนมองจากด้านนอก พฤกษามนตรา และพฤกษาเวทล้วนดูคล้ายคลึง เพียงทว่าพฤกษามนตราล้วนเจือพิษ ดังเช่นพฤกษามนตราบางส่วนในที่นี้ล้วนสามารถขับพิษโลหิตหลั่งสําราญออกมาได้และหากผู้ใดต้องพิษถึงสิ้นชีวิตจากพฤกษาเหล่านี้ร่างของมันผู้นั้นจะเน่าเปื่อยย่อยสลายกลายเป็นขุยดิน พลังปราณทั่วร่างล้วนรั่วไหลถ่ายเทกระจายไปกับชั้นบรรยากาศกลายเป็นแหล่งอาหารอันโอชะของเหล่าพฤกษามนตราพวกนี้
แท้จริงเดิมที่ พฤกษามนตราเหล่านี้หาใช่สิ่งที่น่าตื่นผวาไม่ยิ่งโดยเฉพาะในดินแดนพื้นที่ราบอันกว้างใหญ่แห่งทวีปมีหลัวน้อยยิ่งนักที่จะสบโอกาสได้พานพบพฤกษามนตราเหล่านี้ทั้งในดินแดนแห่งนี้ล้วนไม่ปรากฏผืนดินอันประกอบด้วยแหล่งอาหารที่สม บูรณ์เหมาะสมแก่การเจริญเติบโตของพฤกษามนตราย่อมเป็นเหตุให้พฤกษาเหล่านี้ล้วนกลับกลายเป็นของหายากที่แทบไม่มีผู้ใดเคยพบเห็นและด้วยเหตุนั้นเหล่าผู้ฝึกยุทธขั้นสูงซึ่งรวมไปถึงเฟงอวินจึงย่อมล้วนไม่รู้จักพฤกษามนตราเหล่านี้เช่นกัน
หากทว่าเถาวัลย์ม่วงอเวจีย่อมต่างออกไปเมื่อแท้จริงเดิมที่ตัวตนของมันล้วนคือพฤกษามนตราขั้นห้า เช่นนั้นเหล่าพฤกษามนตราขั้นกระจ้อยพวกนี้จะนับเป็นอย่างไรได้สําหรับมัน และเมื่อพฤกษามนตราเหล่านี้ล้วนสมบูรณ์ด้วยพลังจิตวิญญาณที่เข้มข้นสูงส่งเช่นนั้นพวกมันล้วนสมควรกลับกลายมาเป็นอาหารอันโอชะของต้านต้าน และเถาวัลย์ม่วงอเวจี
พฤกษาเวทของจริงจากสวนสมุนไพรในม่านหมอกร้อยพฤกษ์สมุนไพรล้วนถูกโยนใส่เข้ามาเก็บไว้ในมิติเวทของนางด้วยฝีมืออันยอดเยี่ยมของต้านต้าน
และเมื่อเป็นเช่นนี้เกอซีจึงไม่ห่วงเจ้าสองจอมตะกละบรรลือโลกคู่นี้นางจึงย้ายไปดูอาการของมังกรทองตัวน้อย
ยามนี้มังกรทองตัวน้อยยังคงนอนหลับใหลแม้บาดแผลทั่วร่างคล้ายจะเริ่มดีขึ้นหากทว่าพลังที่เหลือในร่างของเขานับว่าแห้งเหีอดอย่างยิ่ง
***จบตอนทั้งกินทั้งเก็บกลับ***