หัตถ์เทวะธิดาพญายม - ตอนที่ 352 เผยเรือนร่างอันงดงาม
หัตถ์เทวะธิดาพญายม ตอนที่ 352 เผยเรือนร่างอันงดงาม
“อยากบอกนะว่าจู่ ๆ ก็เกิดเหตุขึ้นในแดนผนึกมังกร พวกเราจึงถูกขับออกมาเช่นนี้ ?”
ทุกคนต่างขยับลิ้นกันไม่หยุดปากด้วยสีหน้าที่ตื่นตกใจเพียงไม่มีผู้ใดล่วงรู้ได้ว่าเกิดเหตุใดขึ้นกันแน่
สุ่มเสียงสายหนึ่งพลันแทรกขึ้นมา “ข้าคิดว่าเหตุการณ์ที่ เกิดขึ้นทั้งมวลนี้เนื่องเพราะมีผู้ได้รับการถ่ายทอดให้มีอํานาจควบ คุมเขตแดนมังกร”
“ว่าอย่างไรนะ ?”
“เป็นไปได้อย่างไร ? ตามตํานานกล่าวว่าอาณาจักรกําบังคือดินแดนที่ยิ่งใหญ่เกรียงไกรจะมีผู้ใดเข้าควบคุมได้อย่างไรกัน ?
สีหน้าของเฟงอวิ่นจึงหาได้ปรากฏความตื่นตระหนกใดไม่ชายหนุ่มค่อย ๆ นําเม็ดโอสถเสริมพลังวิญญาณออกมากลืนกิน
กระนั้นในแววตาของเขากลับปรากฏความขุ่นมัวมืดหม่นขึ้นวูบห
เมื่อครู่เขาเกือบได้ครอบครองพฤกษาธารทิย์ต้นนั้น ทว่ายามนี้กระทั่งภารกิจสุดท้ายเขากลับทําไม่สําเร็จ ทั้งกลับต้องสูญเสียศิษย์ชั้นยอดของสํานักไปนับสิบ
ความสูญเสียในครานี้ของตระกูลเฟิงนับเป็นหายนะ เพิ่งเหลียนยิ่งไม่อาจเป็นผู้สืบทอดตําแหน่งเจ้าวังจือจิน นางต้องเสียหน้าในม่านหมอกร้อยพฤกษ์สมุนไพร เหนืออื่นใดนั้นคือ พฤกษาธารทิพย์ที่คล้ายจะอยู่ในอุ้งมือพลันหลุดลอย ไม่รู้ว่าว่าเขาจะใช้ข้ออ้างใดมาแก้ตัวเมื่อต้องแบกหน้ากลับตระกูลในสภาพสองมือเปล่า !
เพียงทว่าเหตุใดเขาจึงรู้สึกว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นล้วนดูคล้ายเป็นแผนจงใจพุ่งเป้ามาที่ตระกูลเฟิง ?
ดังเช่นสถานการณ์เมื่อครู่ ก่อนที่เขาจะถูกขับออกจากอาณาจักรกําบัง พวกเขาทุกคนล้วนไม่เหลืออาวุธติดกาย ทั้งยังถูกโยนเข้าไปกลางฝูงสัตว์อสูรต้องยืนหยัดต่อสู้เลือดตาแทบกระเด็นเกือบเอาชีวิตไม่รอด
หรือจะเป็นได้ว่ามีผู้สามารถควบคุมอาณาจักรกําบังแห่งนี้จริง ?
และหากเป็นเช่นนั้น หรือผู้ที่สามารถควบคุมเขตแดนมังกรในอาณาจักรกําบังจะเป็นหนานกงยวี่ ?
ไม่ ! เป็นไปไม่ได้ !
เมื่อนึกย้อนทบทวนอีกครา ชายหนุ่มย่อมไม่กล้าจะยอมรับ
เขตแดนมังครคือสถานที่แห่งใดกัน กลุ่มคนที่อยู่เบื้องหน้าเขานี้ล้วนรู้หนึ่งหากทว่าเข้าใจแท้จริงแค่เพียงครึ่ง* หากแต่เขาซึ่งเป็นผู้มีอํานาจดูแลเบื้องลึกภายในตระกูลเฟิง ย่อมกระจ่างแจ้งแก่ใจในทุกสิ่ง
“รู้หนึ่งหากทว่าเข้าใจแท้จริงแค่เพียงครึ่ง หมายถึงไม่รู้ความจริงทั้งหมด
ดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ดํารงอยู่มานานนับพันปี ตระกูลใหญ่ผู้ทรงอิทธิพลทั้งหลายในทวีปหมีหลัวต่างเฝ้ารอการปรากฏของเขตแดนมังกรแห่งอาณาจักรกําบัง ซึ่งจะเผยแค่เพียงครั้งในรอบหลาย ร้อยปีเพียงเพื่อหมายจะเป็นผู้ครอบครองเขตแดนมังกรในอาณาจักรกําบังและเมื่อเป็นเช่นนั้น ผู้ที่มีความสามารถเพียงพอจะ ควบคุมเขตแดนมังกรได้จะต้องมีฝีมือล้ําเลิศเพียงใด ?
หากผู้ครอบครองอาณาจักรกําบังตั้งตนเป็นปรปักษ์กับตระกูลเฟิง เช่นนั้นมีหรือที่ตระกูลเพิ่งจะรับมือคนผู้นั้นได้ ?
ขณะที่เพิ่งอวิ่นจึงกําลังทบทวนความคิดอยู่นั้น เสียงกรีดร้องแสดงความแตกตื่นใจของสตรีผู้หนึ่งพลันดังขึ้น
เพียงพริบตา เพิ่งเหลียนยิ่งกลับลงไปนอนแนบร่างอยู่กับพื้น
ไม่แน่ชัดว่าเนื่องเพราะร่างของนางถูกแสงแดดแรงกล้าในผืนทะเลทรายอันร้อนระอุแผดเผา หรือเนื่องเพราะแรงตะปบข่วนจากสัตว์เวทอสูรทว่าเมื่อนางขยับกายลุกขึ้น อาภรณ์ในร่างพลันขาดร่วงกระจุยเป็นฝุ่นผงอย่างไม่คาดฝัน
เมื่อเพิ่งเหลียนยิ่งไม่เหลืออาภรณ์ชิ้นใดช่วยปกปิดกาย ร่างอันงดงามราวหยกขาวจึงถูกเผย
เดิมที่ทุกผู้คนล้วนกําลังโกรธเกรี้ยว เมื่อต้องสูญเสียอาวุธวิเศษในมือตนต่างคนต่างร่ําร้องไถ่ถามหาสาเหตุที่ตนถูกขับส่งออกจากอาณาจักรกําบังเช่นนั้นจึงหาได้มีผู้ใดใส่ใจเพิ่งเหลียนยิ่งไม่
หากทว่าเสียงแผดร้องของนางกลับกลายเป็นการดึงดูดทุกสายตาให้กลับมารวมลงในตําแหน่งเดียวอย่างพร้อมเพรียง
พวกมันทุกคนล้วนต้องตกตะลึงอ้าปากค้าง
บุรุษผู้ฝึกยุทธขั้นต่ําต่างพากันกวาดสายตามองร่างนวลเนียนสีขาวอมชมพูของเพิ่งเหลียนยิ่งด้วยสายตาตื่นกระหายตื่นเต้น
บ้างกลับอดมิได้ที่จะกระซิบกระซาบ “ไอหย่า ! นั่นเทพธิดาบัวเยือกแข็งมิใช่หรือ ? มิคิดเลยว่านางจะเย้ายวนใจ ทั้งยังใจกล้าเผยเรือนร่างเบื้องหน้าสายตาผู้คนมากมายเช่นนี้ !”
อีกผู้หนึ่งกล่าวพลางเดาะลิ้น “ดูเนื้อหนังนุ่มน่าสัมผัสของนางสิกระทั่งพวกบุตรีของเหล่าขุนนางผู้ทรงอิทธิพลทั้งหลายล้วนมิอาจ เทียบ !”
“นี่หากข้ามีวาสนาได้เชยชมเรือนร่างของนาง ข้ายินดียอมตายเลยที่เดียว !”
เพิ่งเหลียนยิ่งไม่คิดฝันเลยว่าตนจะต้องมาพบกับความอับอายขายหน้าเช่นนี้ หลังจากดิ้นรนหลุดพ้นจากฝูงสัตว์อสูร
ดวงหน้าของนางงดงามขาวสะอาดปานหิมะ สองมือของนางกอดกุมร่างที่สั่นเทาของตนไว้แน่น แม้นหมายจะดึงผืนอาภรณ์ออกมาจากธํามรงค์เวททว่ากลับมิอาจ เนื่องเพราะในยามนี้พลังของ นางถูกขับออกใช้แทบไม่เหลือเช่นนั้นนางจึงไม่อาจคว้าสิ่งใดออกมาจากของวิเศษได้
***จบตอน เผยเรือนร่างอันงดงาม***