หัตถ์เทวะธิดาพญายม - ตอนที่ 371 หลับให้สบายเถิด
หัตถ์เทวะธิดาพญายม ตอนที่ 371 หลับให้สบายเถิด
ไอ้หนูตื่นตระหนกตกใจ หากทว่ามันยังคงแหกปากโวยวาย
“เจ้า…ที่สุด เจ้าทําอะไรพวกเรา ? ถ้าแน่จริงก็สังหารพวกเราให้หมดเสียเลยสิ นายผู้หนุนหลังพวกเรา ย่อมไม่มีวันยอมละเว้นเจ้าอย่างแน่นอน !”
เกอซีแหงนเงยศีรษะขึ้น เม็ดโอสถพุ่งจากฝ่ามืออย่างรวดเร็ว โอสถเม็ดนั้นถูกดีดเข้าใส่ปากล่วงเลยลงหลอดอาหารของไอ้หนูอย่างรวดเร็ว
“ปากมากเพียงนี้ เห็นทีเจ้าคงรอรับช่วงเวลาแห่งความอิ่มเอมในการลิ้มรสความทรมานไม่ไหวแล้ว คลายใจเถิด ข้าจะส่งเสริมเจ้าเอง”
“เจ้า…เจ้าให้ข้ากินอะไร ?!”
ยังไม่ทันจะพล่ามจบ ไอ้หนูผู้นั้นกลับส่งเสียงร้องโหยหวนทุรนทุรายออกมาเสียก่อน ร่างของมันขดเข้าหากันราวกุ้งถูกน้ําร้อน
เหล่าอารักขาที่เหลือต่างจดจ้องตะลึงค้าง เมื่อยามนี้ใบหน้าของไอ้หนูเริ่มเปลี่ยนเป็นสีม่วงคล้ํา ฟองโลหิตเป็นกระจุกถูกขับออกจากมุมปากของมันมากมาย กระทั่งพวกมันทั้งหมดล้วน เข้าใจว่าเกอซีดีดยาพิษที่ร้ายกาจใส่มันผู้นี้
ขณะที่พวกมันกําลังตื่นกลัวทําสิ่งใดไม่ถูกอยู่นั้น ฉับพลันเสียงกรีดร้องราวหัวใจถูกบีบรัดปอดฉีกขาดของไอ้หนูพลันดังกึกก้อง มันโหยไห้คร่ําครวญอย่างบ้าคลั่งสองมือตะเกียกตะกายกุมหน้าท้อง
เพียงพริบตามันคล้ายพยายามใช้อุ้งมือตะกุยเปิดหน้าท้องของตนควักไส้พุงอวัยวะภายในออ มากองด้านนอก
หากแต่กลับคล้ายมันยังไม่หยุดแค่เพียงเท่านั้น มันสาวดึงลําไส้ของตนออกทั้งที่สีหน้าแสดงความเจ็บปวดทรมานอย่างเหลือแสน มันเริ่มหันมาใช้สองแขนของตนทุบใส่ท่อนขา ทุบกระแทกใส่ข้อต่อกระดูกต่าง ๆ กระทั่งที่สุด มันซักกระเหินเวหาขึ้นนั่นท่อนขาทั้งสองของตน
เสียงมันร่ําร้อง “อย่ากัดข้า ! อย่ากัดข้าาาาาา !”
ทุกคนต่างยืนตะลึงงงงันกับสิ่งที่ปรากฏอยู่เบื้องหน้า เห็นได้ชัดว่าทั้งหมดทั้งมวลที่มันกลืนกิน ก็แค่เพียงหนึ่งเม็ดโอสถเท่านั้น หากทว่ายอดฝีมือผู้บรรลุถึงระดับสูงสุดของขอบเขตพลังปราณขั้นปฐมภูมิโลกันตร์กลับดูคล้ายวิกลจริต มันคว้านท้อง ปั่นท่อนขา เหวี่ยงกระแทกข้อต่อแขนกับผนังห้องกระทั่งเสียงกระดูกลั่นดัง “กร๊อบ กร๊อบ” ทว่ามันกลับยังไม่ยอมหยุดมือ
ภาพฉากเบื้องหน้าสร้างความสยดสยองพองขน ยามนี้ในแววตาของเหล่าอารักขาทั้งหลายไม่หลงเลือวี่แววแห่งการต่อต้านคิดขัดขืน ความมุ่งหมายคิดต่อสู้ของพวกมันกลับกลายเป็นความหดหูสิ้นหวัง
ทว่าเถาวัลย์ม่วงอเวจีนั้นกลับตรงข้าม เมื่อยามนี้มันกําลังสุขสมใจอย่างหาใดเปรียบ เพียงได้รับอนุญาตจากเกอซี มันก็พุ่งตรงเข้าไปหยุดด้านข้าง สูบกลืนเลือดเนื้อของไอ้หนูผู้นั้นอย่างสุขี
พริบตาภาพฉากหฤโหดดังหนึ่งขุมนรกพลันเลือนหายอย่างไร้ร่องรอย ราวเหตุการณ์น่าสยอดสยองพองขนเมื่อครู่หาได้บังเกิดขึ้นในสถานที่แห่งนี้ไม่
หากทว่ากองกระดูกที่กระจัดกระจายอยู่บนพื้น เสียงร้องโหยหวนคร่ําครวญอย่างน่า อนาถยังคงก้องดังอยู่ในโสตประสาทให้พวกมันทุกคนตระหนักว่าทุกสิ่งที่เกิดเมื่อครู่ล้วนมิใช่ฝันร้าย
นับแต่แรกกระทั่งสิ้นสุด สีหน้าของเกอซียังคงเรียบสงบ สงบนิ่งจนเย็นยะเยือกสั่นสะท้าน
กระทั่งเมื่อไอ้หนูผู้นั้นหมดลมหายใจ เกอซีจึงโยนเม็ดโอสถในมือเล่นพลางหันมาส่งยิ้มอ่อนโยน “ขอข้าดูหน่อยสิว่า…ผู้ใดสมควรเป็นเหยื่อรายต่อไปของข้า !”
อารักขาแห่งโรงโอสถจีเชิงล้วนเพิ่งตากว้างพรึ่บพร้อมกันในทันที เสียงซี่ฟันกระทบดัง กึ่ก กึ่ก เนื่องเพราะความสั่นสะท้าน
หนุ่มน้อยเบื้องหน้าพวกเขานี้หาใช่มนุษย์ไม่ !
มันคือปีศาจ ! คือภูตผีโหดอํามหิตที่ปายปีนขึ้นจากขุมนรกโลกันตร์อันโหดร้าย !
ครึ่งชั่วยามผ่านไป ภายในโรงโอสถจีเชิง ก่ายกองไปด้วยซากร่างนับสิบกระจัดกระจายทั่วพื้นอย่างไร้ระเบียบ
*ครึ่งชั่วยาม หมายถึง 1 ชั่วโมง
เถาวัลย์ย์ม่วงอเวจีกินอาหารเบื้องหน้าอย่างอิ่มเอม กระทั่งเถาของมันอวบอิ่มแน่นต้น มันเดินปัดป่ายซวนเซไปมา ยามนี้เส้นสายเถาวัลย์ของมันหนักอึ้งจนแทบไม่อาจเหาะเหินได้แล้ว
ส่วนซากร่างที่เหลืออีกนับสิบ ไม่เหลือแม้เพียงร่างเดียวที่ไม่มีสภาพดั่งมัมมีที่ไร้เลือดเนื้อ ที่คงเหลือล้วนเพียงสองตาที่เบิกกว้าง
นัยน์ตาทุกคู่อัดแน่นไปด้วยความเจ็บปวดทรมานและตื่นผวาประหนึ่งว่ากระทั่งความตายก็ยังไม่สามารถปลดปล่อยพวกมันให้หลุดพ้นจากความหวาดผวาตื่นกลัวได้
หากสตรีจิตอ่อนได้มาเห็นภาพเหตุการณ์ในยามนี้ ย่อมต้องถึงความหวาดผวาตื่นกลัว ไม่อาจข่มตาหลับได้ยาวนานหลายขวบเดือน
ทว่าเกอซีผู้จับจ้องเหตุการณ์ทุกเสี้ยวนาที่หาได้หวั่นไหวแม้เพียงน้อย
เห็นเพียงนางกระพริบตาเบา ๆ สองคราก่อนจะเอ่ยกล่าวอย่างเนิบช้า “แม่นมเฉิน หลับพักให้สบายเถิด เกอซีมาล้างแค้นให้ท่านแล้ว”
***จบตอน หลับให้สบายเถิด***