หัตถ์เทวะธิดาพญายม - ตอนที่ 378 ความสิ้นหวัง
ตอนที่ 378 ความสิ้นหวัง
“ข้าไม่เข้าใจจริง ๆ จิ้งจอกตัวนี้มีอาคมโดยแท้ ทว่าเหตุใดมันกลับยอม ทุ่มเทชีวิตปกป้องคนไร้ค่าพวกนั้น ? หากมันไม่กระทําเช่นนั้นมีหรือที่มันจะ ถูกจับตัวมาโดยง่ายงี่เง่าสิ้นดีฮ่าฮ่าฮ่า…”
พวกมันทั้งสองพากันระเบิดเสียงหัวเราะลั่น ทว่ายังไม่ทันหัวเราะจนสาแก่ใจพวกมันทั้งคู่กลับยืนค้างเงียบกริบ
ความเจ็บแปลบปรากฏขึ้นเหนือลําคอบางเบาเพียงครู่ก่อนสายเถาวัลย์สี ม่วงจะค่อย ๆ เลื้อยคืบเข้ารัดรอบรอยแผลนั้นอย่างไร้อุ้มเสียงพวกมันทั้งคู่ ผู้ไม่ทันระวังตัวถูกจับรัดตรึงร่างพวกมันทั้งสองถูกยกลอยขึ้นสู่กลางอากาศ
ใบหน้าพวกมันทั้งคู่ตื่นตระหนกประหลาดใจหากทว่ากลับไร้สิ้นความห วาดกลัว พลังวัตรทั่วกายตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าถูกปลดปล่อยออกมาในทันที
บุรุษรูปร่างอ้วนเตี้ยเริ่มส่งเสียงร้องโหวกเหวก “ผู้ใดลอบโจมตีพวกเราลับ หลัง ? โผล่หน้ามาหาบิดาของเจ้านี่ !”
ทว่าเพียงเอ่ยกล่าวออกไปเช่นนั้น พวกมันทั้งคู่กลับพบบางสิ่งไม่สู้ดี
พื้นที่โดยตลอดรอบกาย 3 ผิง”ทั้งสี่ด้าน ล้วนถูกปกคลุมด้วยสายเถาวัลย์ ดกหนาสีม่วง
*3 ผิง ประมาณ 10 เมตร
ภายใต้อาคมของเถาวัลย์ม่วงอเวจี พวกมันกลับพบว่าพลังปราณในกาย ล้วนถูกกักกั้น กระทั่งสุ่มเสียงของมันยังมิอาจเปล่งออกได้
ยามนี้ผู้คุมคุกที่เหลือต่างทําหน้าที่ของตนเอง จึงไม่ปรากฏผู้ใดทันรับรู้ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสถานกักกันส่วนนี้
ที่สุดใบหน้าของพวกมันกลับตื่นผวาหวาดกลัว สองตาเต็มไปด้วยความง งงวยสับสน มันพยายามดิ้นรนกระชากร่างให้หลุด ทั้งพยายามแหกปากร้อง ตะโกนด้วยลําคอที่แหบแห้ง “จะหดหัวลอบทําร้ายผู้อื่นไปไยหากเจ้ามีฝีมือ เช่นนั้นก็ออกมาสู้กับบิดาของเจ้าผู้นี้นี่ !”
เพียงสิ้นเสียงคํากล่าว ร่างของสตรีผู้หนึ่งพลันปรากฏขึ้นท่ามกลางความ มืดมิด
เบื้องหน้าสายตาของพวกมัน คือสาวน้อยน่ารักผู้มีดวงหน้างดงามราว จันทรา ขัดแย้งกับคุกมืดที่คละคลุ้งไปด้วยกลิ่นคาวโลหิตเพียงทว่าสองตาที่ มืดหม่นเย็นชาประดุจแท่งน้ําแข็งคู่นั้นกลับหนุนส่งความรู้สึกที่โหดเหี้ยมหม่นมัวเสียยิ่งกว่าภายในคุกมืดแห่งนี้
“เจ้า นี่มันอย่างไรกัน ?” บุรุษผอมสูงขึ้นเสียงร้องตะโกน “เจ้าเข้ามาที่นี่ได้อย่างไร ?!!!”
หากทว่าเกอซีหาได้ใส่ใจชายทั้งสองผู้กําลังแหกปากร้องลั่นอยู่ไม่กลับ กันฝีเท้าของนางค่อย ๆ ย่างตรงเข้าหามุมมืดที่ก้อนเนื้อน้อยชิ้นนั้นถูกโย นทิ้งไปเมื่อครู่
สายลมโชยกระทบร่างไร้เส้นขนอันชุ่มโชกด้วยหยาดโลหิตที่ไหลพรากส่งให้ทั่วร่างนั้นสั่นระริกด้วยความเจ็บปวดทรมาน
สองแขนแนบข้างกายหญิงสาว พลันถูกกํารวบเข้าหากันแน่นกระทั่งปลายเล็บถูกกดจิกลงในอุ้งมือ หยดโลหิตซึมร่วงลงตามแนวปลายนิ้วหากแต่ นางกลับไม่รับรู้แม้เพียงน้อย
ภาพเหตุการณ์ครั้งชาติภพก่อน พลันปรากฏเบื้องหน้าสายตานางอยู่บน ขยะที่ถูกสุมเป็นกองขนาดใหญ่ คุ้ยเขี่ยค้นหาอยู่เนิ่นนานที่สุดนางจึงพบร่า งของผู้เป็นน้องชาย เพียงยามนี้ร่างนั้นไม่เหลือแม้เพียงชิ้นส่วนกระโหลก ศีรษะที่ครบถ้วนบนรูปกายที่ผ่ายผอมเมื่อสิ่งที่ถูกทิ้งไว้คงเป็นเพียงชิ้นเนื้อที่ถูกปนกระดูกทั่วร่างจนแหลกเหลว
ความเจ็บปวด เศร้าเสียใจ ความสิ้นหวังและเคียดแค้นอย่างหาใดเปรียบ คือสิ่งที่เกอซีจะไม่มีวันลืมเลือนตลอดชั่วกาล
นับแต่นั้นนางละทิ้งอารมณ์ความรู้สึกทั้งปวง ทอดทิ้งความฝันทั้งหมดและเริ่มฝึกฝนตนเองให้แข็งแกร่งอย่างสุดกําลังความสามารถด้วยหวังว่านางจะไม่ต้องพบเจอกับความเจ็บปวดทรมานใจเช่นนี้อีก
เมื่อเกอซีได้ถือกําเนิดในร่างใหม่อีกครา นางเคยคิดว่านางแข็งแกร่งมาก เพียงพอที่จะปกป้องทุกคนที่นางปรารถนา
ทว่าที่สุด กลับไม่อาจ นางต้องสูญเสียแม่นมเฉิน ต้องสูญเสียครอบครัวที่ อบอุ่น
นิยาย เรื่องนี้อัพเดตก่อนที่อื่น เว็ปแรกที่ลง novelza.com
แล้วยามนี้เล่า นางกําลังจะต้องสูญเสียเซี่ยวหลีไปอีกคนใช่หรือไม่ ?
เกอซีค่อย ๆ ลดกายลง ภายในใจมุ่งหมายจะประคองร่างของเซี่ยวหลีขึ้น มาทว่าฝ่ามือที่สั่นเทาทั้งสองกลับไม่กล้าแม้เพียงจะสัมผัส
เนื่องเพราะนางย่อมตระหนักดีว่า เมื่อเซี่ยวหลีไร้แผ่นหนังเส้นขน ชิ้นก ล้ามเนื้อในกายล้วนถูกเปิดเผย ความเจ็บปวดเยี่ยงนี้ ความทรมานเยี่ยงนี้ แค่เพียงสายลมสัมผัสต้องกายยังสามารถสร้างความเจ็บปวด กระทั่งไม่ป รารถนาจะมีชีวิตอีกต่อไปยิ่งมิต้องกล่าวถึงการถูกต้องสัมผัสด้วยฝ่า มือหรือผืนผ้า
ชั่วขณะนั้นเอง ชายร่างผอมสูงผู้ถูกจับลอยเคว้งอยู่กลางอากาศพลันนึก ขึ้นได้มันรีบแหกปากร้องลั่น “เจ้าเจ้าคือแพทย์น้อยยอดอัจฉริยะผู้นั้น ? เจ้าควรถูกรั้งอยู่ที่สวนด้านหน้ามิใช่หรือ ?เหตุใดกลับกลายเป็นที่นี้ ?”
ประกายตาประดุจเปลวเพลิงที่โหมกระหน่ํา พลันอาบย้อมทั่วนัยน์ตาดํา ขลับที่สะท้อนล้อแสงระยิบระยับของเกอซี
***จบตอน ความสิ้นหวัง***