องครักษ์เสื้อแพร - ตอนที่ 1120
ทหารม้าโจรวัวโค่วกับคลื่นทัพเหล็กที่ลงจากเขามาปะทะกัน ทำให้ทหารม้าเหล็กกองกำลังหมิงหยุดชะงักเพียงนิดเดียวเท่านั้น จากนั้นก็ดันถอยกลับไป
หอกทวนทหารม้าเสริมน้ำหนักแทงทะลุไปอย่างไร้การต้านทาน ร่างทหารม้าโจรวัวโค่วปะทะม้า ม้าทหารม้าโจรวัวโค่วล้วนถูกชนล้ม โจรวัวโค่วบนหลังม้าเริ่มถูกแทงสังหารไปทีละคน ไม่ก็ร่วงจากม้า ทหารม้าติดตามหวังทงไม่ได้หยุดชะงักแม้แต่น้อย สองฝ่ายปะทะกัน ดาบในมือทหารม้าโจรวัวโค่วฟันโดนแต่เกราะที่หุ้มร่างทหารกองกำลังหมิง แต่ดาบและขวานกองกำลังหมิงตวัดไป ทุกครั้งล้วนติดชีวิตและเลือดเนื้อกลับมา
ที่ยิ่งยุ่งยากก็คือ ทหารม้าถูกชนกระจาย ม้าวิ่งไปทั่ว ด้านหน้าพวกเขาเป็นศัตรู ได้แต่หันหลังกลับ ทหารม้าโจรวัวโค่วองอาจกล้าหาญกลายเป็นความยุ่งยากของตน ถูกไล่ให้หันกลับไป
กองปืนใหญ่กับปืนกระบอกของกองรบคาโต คิโยมาสะล้วนมองตาค้าง เบื้องหน้าล้วนมีแต่ม้าวิ่งแตกตื่น ยังมีทหารม้าที่ตกใจเสียขวัญ ล้วนไม่ใช่ศัตรู ทำอย่างไรดี!
“ยิง ยิง!!”
คนเหล่านี้ลังเลครู่หนึ่ง ทำให้ซามูไรบัญชาการตะโกนดังอย่างบ้าคลั่ง บนสนามรบนี้ ไหนเลยจะมีเวลาให้ลังเลหวาดกลัว ทุกคนล้วนยิง
แต่ปืนส่วนใหญ่ถูกม้ากับทหารม้ารับไปหมด บางทีอาจมีกระสุนประปราบมาโดนร่างทหารม้ากองกำลังหมิงด้านหลัง แต่กระสุนเช่นนี้ไม่มีผลต่อเกราะหู่เวย
หลังปืนใหญ่วัวโค่วยิง เห็นขบวนทัพม้ายังคงบุกเข้ามา พวกเขาไม่กล้าบรรจุกระสุนยิงรอบสองอีกแล้ว หากหนีช้าไปก้าว ล้วนอาจถูกม้าเหยียบตายชนตายเอาก็ได้ ซามูไรพยายามสังหารสุดชีวิต แต่ไม่อาจยับยั้งได้
“ภักดีต่อท่านแม้ตัวตาย!!”
มีซามูไรตะโกนดัง หลังพลปืนใหญ่วัวโค่วกับพลธนูมีซามูไรถือทวนยาวก้าวออกมา เมื่อครู่ปืนที่ยิงไปได้เพียงแต่กำจัดม้ากับทหารม้าตนเองที่วิ่งกันอลหม่านเท่านั้น ตอนนี้จึงเป็นทหารม้าในชุดเกราะกองกำลังหมิงบุกมาแล้ว
ใกล้มาถึงตรงหน้าแล้ว ทวนยาวทหารม้ากองกำลังหมิงล้วนตั้งแนวเอียงชี้ลง ไม่ลังเลที่จะบุกเข้ามา ซามูไรของคาโต คิโยมาสะแต่ละคนสติแตกส่งเสียงตะโกนดังโหวกเหวก คิดจะใช้ความบ้าคลั่งตะโกนสะกดความกลัวและความสั่นไหวในใจตนเอง จากนั้นเสียงตะโกนเหล่านี้ก็โหวกเหวกดังไปทั่ว
มีทวนยาวสามารถแทงใส่ม้า สามารถสอยทหารม้ากองกำลังหมิงร่วง แต่กองกำลังตนส่วนใหญ่ยังคงถูกทหารม้ากองกำลังหมิงบุกปะทะเข้ามาไม่หยุด
ถูกม้าชนล้ม เกราะป้องกันตนไม่อาจมีประโยชน์อันใด กระดูกล้วนถูกชนแตกละเอียด ล้มลงแล้ว ม้ายังเหยียบข้ามไปกลายเป็นกองเลือดทันที จากนั้นก็ถูกเหยียบเละเป็นกองโคลน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงพวกที่ถูกทวนทหารม้าแทง ถึงกับมีทหารราบถูกแทงทะลุแล้ว ยังถอยไปด้านหลัง คนด้านหลังถอยจนไม่อาจถอย ถูกทวนทหารม้าแทงรวมต่อๆ กันไปอีก ถึงกับมีทวนเดียวแทงทะลุโจรวัวโค่วได้หลายคน ไปจนสุดท้ายทหารม้าดึงทวนไม่ออกอีก
โยนทวนทิ้ง ทหารม้ามาถึงกองกำลังกลางของคาโต คิโยมาสะแล้ว พวกเขาถือดาบยาวกับขวานใหญ่ ตวัดฟันซ้ายขวา ทหารม้าที่ม้าตายไปพวกนั้น หยิบอาวุธออกมาสู้บนสนามรบอย่างไร้ความกลัว ทหารติดตามหวังทงเป็นพวกที่คัดเลือกพวกที่เก่งกล้ามาแล้ว ฝีมือและร่างกายพวกเขานับว่าฝึกมามากกว่าซามูไรโจรวัวโค่วมากนัก บวกกับอาวุธชั้นดี สองฝ่ายปะทะกัน ก็ย่อมได้เปรียบอย่างที่สุด
บุกเข้ามากองกลางทัพ ทำให้ ซามูไรโจรวัวโค่วที่ต้องเผชิญกับดาบสังหารอย่างไร้ปราณี ก็ยิ่งแตกกระเจิงอย่างรวดเร็ว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงยังมีธนูยิงมาจากทิศทางอื่นอีก ยังเริ่มสังเกตเห็นพวกชาวเผ่าหนี่ว์เจินอีก
แม่ทัพกองรบสองโจรวัวโค่วคาโต คิโยมาสะชักดาบซามูไรประจำกายตนออกมาสู่สนามรบแล้ว หมวกแสดงสถานะแม่ทัพด้านหลังเขาไม่รู้ล้มลงกับพื้นไปตอนไหน
ในฐานะแม่ทัพกองรบสอง ตระกูลนักรบอย่างคาโตแล้วย่อมมีความเหนือคนทั่วไป เกราะที่เขาสวมจะสะดุดตา ทหารม้า ‘ผู้กล้า’กับทหารม้าเผ่าหนี่ว์เจินล้วนรู้นี่คือแม่ทัพใหญ่ คิดจะเข้ามาตัดหัวสังหารทิ้ง กลับถูกเขาสังหารทิ้งไปหลายคน ซามูไรฮาตาโมโตะข้างกายก็คุ้มกันพลีชีพ
แต่คาโต คิโยมาสะยิ่งสู้ไป คนรอบๆ ก็ยิ่งลดลง ในใจคาโต คิโยมาสะเริ่มไม่อาจรับได้ เขามาถึงเกาหลีก็เพื่อสร้างชื่อเสียงให้ตนเอง ต้องได้ครอบครองพื้นที่แผ่นดินหมิงสักผืน แต่อยู่ ๆ เหตุใดจึงมาพ่ายแพ้เช่นนี้ได้ ในการนำทัพอยู่ดีๆ ก็ถูกทหารม้าเหล่านี้โจมตี พ่ายแพ้ยับเยินเช่นนี้ได้
“ข้าคือคาโต คิโยมาสะ แม่ทัพกองรบสอง แม่ทัพกองกำลังหมิงกล้าออกมาตัวต่อตัวกับข้าไหม!!”
เขาตวัดดาบกวัดแกว่ง ตะโกนไปพลาง แต่ไม่มีผู้ใดสนใจ บุกเข้าสังหารได้สองสามก้าว ทหารม้าเกราะเหล็กผู้หนึ่งก็ทะยานมาตรงหน้า
ม้าแม้วิ่งไม่เร็ว แต่แรงปะทะเพียงพอ คาโต คิโยมาสะคิดจะตวัดดาบต้านไว้ แต่กลับไม่ทันแล้ว ทวนทหารม้าผู้นั้นแทงเข้าใส่หน้าอกไปแล้ว ทำเอาถอยหลังไปสิบกว่าก้าว ศพไหลร่วงออกจากคมทวนยาว ทหารม้า ‘ผู้กล้า’ โดดลงจากหลังม้าเข้ามาตัดหัวไป
หวังทงหยุดเข้าสังหารแล้ว ทหารติดตามคุ้มกันดูสนามรบต่อ คาโต คิโยมาสะตะโกนดัง เขาพอได้ยินแว่วๆ หันไปถามทหารติดตามว่า
“เมื่อครู่ ใช่ว่ามีคนตะโกนดังหรือ พูดว่าอะไรนะ?”
“ข้าน้อยไม่ทราบ ล่ามมีอยู่กองหลัง หรือว่าตามตัวมาตรงนี้”
“เรื่องเล็ก สนามรบเป็นหลัก!”
หวังทงไม่สนใจเท่าไร เอาแต่มองดูสนามรบ ด้านหน้าเป็นทหารราบ แม้คาโต คิโยมาสะสั่งพวกเขาไว้ว่าให้รบเร็วบุกเร็ว แต่ก็ถูกหม่าซานเปียวนำกำลังกองกำลังหู่เวยทัพม้าไล่ตามมาสังหารไปไม่ได้ช้าไปกว่ายามรบเสร็จ
สนามรบตอนนี้ราวกับสนามอสุรา เป็นนรกคาวโลหิต แน่นอนสำหรับโจรวัวโค่วแล้ว ทหารม้ากองกำลังหมิง ทหารม้าเผ่าหนี่ว์เจิน ทหารม้า ‘ผู้กล้า’ล้วนกำลังเก็บหัวพวกเขาอย่างยินดีปรีดา หวังทงก่อนออกศึกมีคำสั่ง ไม่รับเป็นเชลย ล้วนสังหารให้สิ้น
หลังปะทะกันคราแรก หลายกองรบถูกตีกระจาย ซามูไรกับทหารราบหนีกันกระจัดกระจายเต็มพื้นที่ มาถึงตอนนี้ มองไม่เห็นทหารราบวิ่งหนีแล้ว การสังหารของทหารม้าก็จบลงอย่างรวดเร็ว นอกจากขบวนทัพม้ากองกำลังหู่เวย ทหารม้าที่เหลือก็เริ่มลงจากหลังม้าออกค้นหาเงินทองจากศพ
โจรวัวโค่วไม่มีเงินทองอันใดติดตัว เกาหลีเองก็ยากจนไร้เงินทอง ของที่ค้นออกมาได้ก็ไม่มากจริงๆ แต่ทว่าก็ดีกว่าไม่มีเลย หากเป็นขบวนทัพม้ากองกำลังหู่เวยที่เรียงแถวนิ่งอยู่ข้างๆ ตั้งแต่ขุนพลทหารถึงพลทหารล้วนมองด้วยสายตาดูแคลน เพื่อทหารเหล่านี้
“คิดความชอบเป็นเงินให้เหมือนกับพวกทางไห่ซี ธงและหมวกแม่ทัพของหัวหน้ากองทัพโจรวัวโค่วแต่ละหน่วยล้วนถือเอาไว้ แต่อาวุธมอบให้กองหลังเก็บ หัวก็เอามากองกันเป็นกำแพงไว้ ที่เหลือเผาให้หมดซาก!”
หวังทงออกคำสั่งบนหลังม้า เงียบไปครู่หนึ่ง หวังทงกล่าวอีกว่า
“รีบม้าเร็วไปแจ้งข่าวหลี่หู่โถว กองกำลังหลวงเตรียมลงใต้ อย่าได้รอช้า”
******************
เดือนสี่พื้นที่เกาหลีใกล้แผ่นดินหมิงเริ่มดอกไม้บานในฤดูใบไม้ผลิแล้ว พื้นที่ทางใต้เรียกว่าอบอุ่นแล้ว บนท้องทะเล ยิ่งไม่ต้องพูดถึง หากเป็นยามปกติ พวกการค้าหาปลาก็เริ่มมากันแล้ว
ตอนนี้ไม่เหมือนก่อนแล้ว ท้องทะเลรอบคาบสมุทรเกาหลีไม่มีเรือการค้ากับเรือประมงปรากฏ เพราะบนท้องทะเลก็รบดุเดือดไม่แพ้กัน
เทียบกับทหารบกที่อ่อนแอหมดสภาพแล้ว กองทัพเรือเกาหลีรบได้ดุเดือดมาก ขุนพลทัพเรือลีซุนที่จังหวัดซอลลา ตามตำแหน่งแผ่นดินหมิงแล้ว ก็เป็นกองทัพเรือสำรอง ขุนพลชรามีความสามารถ ตอนนั้นโจรวัวโค่วข้ามทะเลมา เรื่องมากะทันหัน กองเรือรบเกาหลีไม่ได้ข่าว ได้แต่แอบหลบชั่วคราว
ขุนพลทัพเรือลีซุนเหมือนว่าเป็นคนนำทัพเรือจังหวัดซอลลาออกมาทั้งหมด โจรวัวโค่วโจมตีเกาหลีได้แค่ยึดเมือง กวาดล้างไปหลายพื้นที่ สำหรับเมืองท่า โดยเฉพาะเมืองท่านอกปูซานไม่สนใจนัก กองเรือรบเกาหลียังมีเมืองท่าตนเอง เสริมกำลังเคลื่อนไหวได้
เทียบกับกองทหารบกเกาหลีที่หักเบี้ยหวัดทหาร อาวุธเก่าคร่ำครึ ทหารไร้ความกล้าหาญเหลือจะเอ่ยแล้ว กองเรือรบเกาหลีเรียกได้ว่าไม่เลว จากอาวุธไปจนความกล้าหาญล้วนไม่เลว เป็นเพราะเกาหลีประสบภัยโจรวัวโค่วมาก่อนแผ่นดินหมิงหลายปี บางครั้งไม่ใช่โจรสลัดวัวโค่วอะไรมารุกราน แต่เป็นไดเมียวจากคิวชูนำกำลังมาปล้นชิง ถูกกวาดปล้นไปหลายครั้งมาก แต่ทางใต้เกาหลีเป็นแหล่งสะสมเสบียงหลัก ไม่อาจเสียไปได้
ดังนั้นราชสำนักเกาหลีเล็กๆ ทุ่มเงินทองและลงแรงสร้างกองทัพเรือ ยุทโปกรณ์รบของกองทัพเรือก็ใช้เรือพานโอกซอนเป็นส่วนใหญ่ และมีเรือคอบุกซอนเป็นกำลังรบหลัก
เรือพานโอกซอนกับเรือคอบุกซอนไม่เหมาะกับการออกทะเลไปรบ แต่ใกล้ชายฝั่งก็มีความร้ายกาจไม่น้อย เรือพานโอกซอนก็เหมือนกับเรือหลายชั้น แบ่งเป็นสามชั้น ชั้นบนถูกหุ้มไว้หมด ตัวเรือมีรูเปิดออกไว้ยิงธนูและปืนออกไป เรือคอบุกซอนก็เช่นกัน เพียงแต่เรือคอบุกซอนป้องกันได้แน่นหนากว่า บนเรือยังมีปืนใหญ่ เกาหลีมีผลิตปืนใหญ่ใช้เอง
เรือพานโอกซอนกับเรือคอบุกซอนดึงเสากระโดงเรือลงได้ ตอนใช้ค่อยยกขึ้น การสร้างเช่นนี้ทำให้เรือเหล่านี้ตอนรีบไม่ต้องห่วงว่าจะถูกศัตรูเผาใบเรือทิ้งเสียการกำลังขับเคลื่อน เพราะระหว่างการต่อสู้ไม่ต้องการชักใบเรือให้ปะทะแรงลม ไม่ได้หมายความว่าเรือพานโอกซอนกับเรือคอบุกซอนไม่อาจขยับได้
ชั้นล่างสุดของเรือ ทุกด้านล้วนมีไม้พายเรือสิบกว่าท่อน ตอนต่อสู้ เรือสามารถเคลื่อนที่ได้ด้วยแรงคนในบริเวณจำกัด แต่กำหนดทิศทางได้ ไม่ต้องคำนึงแรงลม
เพราะมีไม้พาย ดังนั้นเรือจึงไม่ต้องคิดถึงรูปลักษณ์ภายนอกมาคำนวณความเร็ว สามารถสร้างให้ยิ่งใหญ่ได้ และรูปโครงก็เสริมให้แน่นได้ โครงสร้างเช่นนี้การติดใบเรือดูเทอะทะ มีผลเสีย แต่ประโยชน์ก็คือปืนใหญ่ยิงแม่นมากยิ่งขึ้น ทหารบนเรือสามารถรบได้เหมือนอยู่บนบก ตอนเรือปะทะกันก็ยังได้เปรียบมาก
ยิ่งไม่ต้องพูดภายนอกเรือพานโอกซอนกับเรือคอบุกซอนล้วนปกคลุมไปด้วยคมหอกและดาบ ทำให้คนไม่อาจปีนขึ้นมาได้ เรือรบเช่นนี้บนท้องทะเลก็เหมือนกับป้อมเคลื่อนที่ได้ เทียบกันแล้ว เรือโจรวัวโค่วแม้ว่าเป็นเรือที่เรียกว่าเรือรบอาทาเกะก็สู้ไม่ได้ ไม่ใช่คู่ต่อสู้
ตามหลักแล้ว กองเรือรบเกาหลีควรจะมารายงานข่าวเป็นระยะ กองทัพเรือโจรวัวโค่ว ยังมีกองเรือเสิ่นหวั่ง…