CatNovel
  • หน้าหลัก
  • แทงหวย24
  • มังงะ
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • แทงหวย24
  • มังงะ
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ - บทที่ 183 ได้รับพระบัญชามาจากฝ่าบาท

  1. Home
  2. องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ
  3. บทที่ 183 ได้รับพระบัญชามาจากฝ่าบาท
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

บทที่ 183 ได้รับพระบัญชามาจากฝ่าบาท
“ท่านนอนลงก่อน”

อวิ๋นหลัวฉวนลุกขึ้นไปรินน้ำ และกลับมาฉีกเสื้อผ้า นางหยิบผ้าออกมาแล้วจุ่มลงในน้ำ จากนั้นก็เช็ดให้อ๋องตวน อ๋องตวนหลับตาลงและไม่พูดอะไร

เมื่อฉีเฟยอวิ๋นมาถึง บนพื้นก็สกปรกมาก

จวินฉูฉู่ยืนอยู่อย่างโง่เขลา

“ข้าขอดูหน่อย” เมื่อเดินมาถึงข้างหน้าอ๋องตวน ฉีเฟยอวิ๋นก็จับข้อมือของเขาและเริ่มใช้สมาธิ

“ใครให้เจ้าดื่มน้ำ?” ฉีเฟยอวิ๋นเหลือบมองอ๋องตวนอย่างไม่สบอารมณ์ และไม่ได้อะไรสนใจมากนัก ถึงอย่างไรก็ยังไม่สิ้นหวัง

ฉีเฟยอวิ๋นใส่ยาลูกกลอนเข้าไปในปากของอ๋องตวน และมองไปที่อวิ๋นหลัวฉวน:“เจ้ามาดูแลท่านอ๋องตวน ข้าจะไปเตรียมยา วันนี้ข้าไม่มีเวลามาแล้ว”

“ท่านพี่เสียนเฟยไปเถอะ”

อวิ๋นหลัวฉวนไม่ไว้ใจจวินฉูฉู่ ดูจากสีหน้าของพระมเหสีหวาแล้ว นางคงจะไม่ละเลยอ๋องตวน

หงเถาเก็บของและเช็ดทำความสะอาดก่อนที่จะจากไป

อวิ๋นหลัวฉวนนั่งลงและเหลือบมองจวินฉูฉู่ ร่างกายของนางก็สกปรกเช่นกัน

“ท่านกลับไปก่อนเถอะ เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วค่อยกลับมาที่นี่ ร่างกายของท่านเพิ่งจะดีขึ้น ปล่อยให้เป็นหน้าที่ข้า” อวิ๋นหลัวฉวนพูดด้วยความอึดอัดใจ และรู้สึกเสียใจภายหลังเล็กน้อย

จวินฉูฉู่มักจะได้รับความโปรดปรานเป็นอย่างมาก แต่ในวันนี้กลับรู้สึกหวาดกลัว

อวิ๋นหลัวฉวนดูถูกนาง

จวินฉูฉู่มองไปที่อ๋องตวน และเดินไปข้าง ๆ เขา:“ท่านอ๋อง ทรงหลับแล้วหรือเพคะ?”

อ๋องตวนไม่ตอบสนอง และจวินฉูฉู่ก็ลูบศีรษะของเขา

“ข้าจะกลับก่อน ฝากพระชายารองอวิ๋นดูแลท่านอ๋องด้วย ข้าไปแล้วจะรีบกลับมา”

อวิ๋นหลัวฉวนไม่พูดอะไร และจวินฉูฉู่ก็หันหลังเดินออกไป

หลังจากที่นางออกไปแล้ว อวิ๋นหลัวฉวนก็ลืมถามฉีเฟยอวิ๋นเรื่องตงเอ๋อร์ว่ามีความคืบหน้าอย่างไรบ้างหรือไม่

ฉีเฟยอวิ๋นเขียนรายการ ห้ามทานอาหาร หากกระหายน้ำให้ใช้ผ้าสะอาดจุ่มน้ำแล้วซับลงบนริมฝีปากของอ๋องตวน

อ๋องตวนตื่นขึ้นมาหลายครั้ง อวิ๋นหลัวฉวนจ้องมองไปที่เขาอยู่ตลอดเวลา

แต่หลังจากรอมาทั้งวัน จวินฉูฉู่ก็ไม่มา

อวิ๋นหลัวฉวนไม่ได้สนใจ ไม่มาก็ดี เห็นหญิงที่เสแสร้งผู้นั้นแล้วก็รู้สึกรำคาญ

เมื่ออ๋องตวนฟื้นขึ้นมาแล้ว เขาก็ถามหาจวินฉูฉู่ อวิ๋นหลัวฉวนกลัวว่าเขาจะเสียใจ จึงไม่ได้พูดอะไร

จนกระทั่งมืด คนในจวนอ๋องตวนก็มาบอกว่าจวินฉูฉู่ป่วย ไข้สูงไม่ลดและมาไม่ได้แล้ว

อ๋องตวนมองไปที่ประตู เขาสั่งว่าให้ดูแลพระชายาเป็นอย่างดี และไล่ให้คนผู้นั้นไป

ฉีเฟยอวิ๋นมาตอนดึกและฉีดยาให้อ๋องตวน นางพบว่าจวินฉูฉู่ไม่ได้อยู่ที่นี่

นางหันมองไปรอบ ๆ แต่ก็ไม่พบจวินฉูฉู่ จึงถามว่า:“พระชายาตวนล่ะ?”

“พระองค์ป่วยและพักฟื้นอยู่ที่จวนอ๋องตวน คนรับใช้มาบอกเพคะ” สีหน้าของหงเถาดูไม่พอใจ เห็นได้ชัดว่ากลัวจะสกปรก และไม่อยากปรนนิบัติ จึงรีบหนีไป

ฉีเฟยอวิ๋นเหลือบอ๋องตวนที่อยู่บนเตียง นางอยากจะหัวเราะและถือโอกาสพูดว่าสมน้ำหน้า

แต่เกรงว่าจะส่งผลต่อกระทบต่อการฟื้นตัวของอ๋องตวน นางจึงไม่อยากพูด

“นี่เป็นห้องที่ข้าพักอาศัยอยู่ ท่านอ๋องต้องเปลี่ยนสถานที่เพคะ” ฉีเฟยอวิ๋นไม่เกรงใจ และต้องการไล่ออกไป

อวิ๋นหลัวฉวนลุกขึ้น:“ท่านพี่เสียนเฟย หากเปลี่ยนสถานที่ในตอนนี้ แล้วถ้าเกิดท่านอ๋องตวนทรงได้รับบาดเจ็บล่ะเพคะ ?”

“เขาไม่ตายหรอก อย่างมากก็แค่ได้รับความลำบาก” ฉีเฟยอวิ๋นไม่สนใจ

อวิ๋นหลัวฉวนไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากต้องไปพร้อมกับอ๋องตวน

เมื่อมาถึงจู๋อวิ๋นใจ อวิ๋นหลัวฉวนก็ดูแลอ๋องตวนด้วยตนเอง

ฉีเฟยอวิ๋นเข้าไปที่จู๋อวิ๋นใจสามครั้งต่อวัน หลังจากเห็นว่าไม่เป็นอะไรแล้ว นางก็ออกไปและไม่ได้อยู่นานนัก

ไม่นานจวนอ๋องเย่ก็กลับมาเป็นปกติ

นอกจากฉีเฟยอวิ๋นจะเป็นกังวลเรื่องของจักรพรรดิอวี้ตี้แล้ว นางก็ยังคิดว่าใครเป็นคนทำร้ายอ๋องตวน

หลังจากพักอยู่สองวัน ฉีเฟยอวิ๋นก็ตามหนานกงเย่เข้าไปในวัง หลังจากเข้าใจสถานการณ์ของอ๋องตวนแล้ว หนานกงเย่ก็ไม่อยากจากไป

“กระหม่อมมีเรื่องจะทูลถามฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ” หนานกงเย่ไม่ยอมจากไป

จักรพรรดิอวี้ตี้ยืนขึ้นและครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง:“เรื่องอะไร?”

“พระวรกายของฝ่าบาทเป็นอย่างไรบ้างพ่ะย่ะค่ะ?” หนานกงเย่เงยหน้าขึ้น ไม่มีท่าทีของข้าราชบริพาร แต่ดูเหมือนพี่น้อง

จักรพรรดิอวี้ตี้เดินลงบันไดมายืนอยู่ตรงหน้าหนานกงเย่ด้วยความประหลาดใจ:“สมองของเจ้ามีปัญหาหรือไม่?เกิดเรื่องขึ้นกับอ๋องตวน ข้ายังไม่ได้จัดการความผิดของเจ้าเลย เจ้ายังจะมาถามข้าอีกหรือ?”

“ฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมถามถึงพระวรกายของฝ่าบาท” หนานกงเย่ไม่ประนีประนอม

ฉีเฟยอวิ๋นยืนอยู่ข้าง ๆ และก้มหน้าลง

เรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับนาง

เป็นเรื่องของพวกเขาสองพี่น้อง

จักรพรรดิอวี้ตี้เหลือบมองฉีเฟยอวิ๋นและหนานกงเย่:“ร่างกายของข้าเป็นอะไรหรือ?”

“พระวรกายของฝ่าบาทเป็นอะไร ฝ่าบาทย่อมรู้ดีที่สุดพ่ะย่ะค่ะ” หนานกงเย่ยังคงยืนกราน

จักรพรรดิอวี้ตี้ขบขัน:“มีคนมาถวายฎีกาแล้ว เพราะสงสัยว่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับอ๋องตวนเกี่ยวข้องกับเจ้า วันนี้เจ้าคงไม่บิดเบือนข้อเท็จจริงก่อน และคิดจะระงับเรื่องนี้หรอกนะ?”

“ฝ่าบาทเพียงแค่บอกกระหม่อมว่าพระวรกายของพระองค์เป็นอะไรหรือไม่?” หนานกงเย่ไม่ฟังและยืนกราน

ฉีเฟยอวิ๋นยิ่งรู้สึกมากขึ้นเรื่อย ๆ ว่าจักรพรรดิอวี้ตี้เป็นจักรพรรดิที่ไร้เหตุผล และไม่มีอะไรเลยที่เขาสามารถตัดสินใจเองได้

ตนเองเจ็บป่วยก็ให้หนานกงเย่ไปคอยควบคุมเหล่าขุนนาง

“ข้าต้องบอกอะไรเจ้า ข้าไม่รู้ว่าเจ้าพูดอะไร ดูเหมือนว่าช่วงนี้เจ้าจะว่างเกินไป เลอะเทอะ!……… ทหาร นำตัวอ๋องเย่ไปขังคุก แล้วให้เขาพิจารณาตัวเองอยู่ในนั้น”

“พ่ะย่ะค่ะ”

มีคนจะเข้ามาจับตัวหนานกงเย่ลง ฉีเฟยอวิ๋นจึงรีบขอร้องในทันที:“ฝาบาท ท่านอ๋องเย่ทรง……”

“เจ้าไม่ต้องพูด” ฉีเฟยอวิ่นเงียบในทันที สีหน้าของหนานกงเย่มืดมน

เมื่อคนที่ต้องการจะเข้ามาใกล้ เห็นสายตาของหนานกงเย่ พวกเขาก็ถอยกลับไป

หนานกงเย่หันหลังเดินออกไป

สีหน้าของฉีเฟยอวิ๋นดูงุนงง เขาจะจากไปเช่นนี้เลยหรือ มันเกิดอะไรขึ้น?

เมื่อเขาจากไปแล้ว ฉีเฟยอวิ๋นก็ขอร้อง:“ฝ่าบาทเพคะ เรื่องนี้……”

“ตรวจดูอาการให้ข้าหน่อย เมื่อคืนข้าออกจากห้องบรรทมแล้วไปที่อื่น” จักรพรรดิอวี้ตี้ยื่นมือออกไป ฉีเฟยอวิ๋นตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง

ฉีเฟยอวิ๋นไม่กล้ารอช้าและรีบตรวจชีพจรให้จักรพรรดิอวี้ตี้ในทันที หลังจากใช้สมาธิตรวจดูแล้ว ฉีเฟยอวิ๋นก็รู้สึกว่าพิษของจักรพรรดิอวี้ตี้รุนแรงมากขึ้น

ฉีเฟยอวิ๋นปล่อยข้อมือของจักรพรรดิอวี้ตี้ สีหน้าของนางซีดเซียว

ทำอย่างไรดี?

“เป็นอย่างไรบ้าง?”

จักรพรรดิอวี้ตี้ถามฉีเฟยอวิ๋น และฉีเฟยอวิ๋นก็อ้าปากค้าง:“ฝ่าบาท ยาของหม่อมฉันไม่สามารถระงับได้เพคะ”

“งั้นหรือ?”

จักรพรรดิอวี้ตี้หันหลังและเดินขึ้นบันไดไป เขาเดินขึ้นไปพลางและกุมมือไปพลาง

ฉีเฟยอวิ๋นมองดู:“ฝ่าบาทเพคะ หม่อมฉันหมดหนทางแล้ว”

ฉีเฟยอวิ๋นไม่อยากที่จะเห็นจักรพรรดิอวี้ตี้ตายไปเช่นนี้ นางไม่รู้ว่าจะอธิบายกับหนานกงเย่อย่างไร

จักรพรรดิอวี้ตี้เดินไปที่ด้านบนสุด แล้วนั่งลงบนบัลลังก์ จากนั้นก็มองไปที่ฉีเฟยอวิ๋น:“น่าประหลาดใจจริง ๆ ข้ากินพิษนี้เข้าไปได้อย่างไร?”

ฉีเฟยอวิ๋นตกตะลึง:“ใช่เพคะ!”

“อวิ๋นอวิ๋น ข้าต้องการให้อ๋องเย่ไปตรวจสอบคดีของจงชินอ๋อง เหตุการณ์ของอ๋องตวนทำให้เหล่าราชนิกุลตกใจ พวกเขาล้วนแต่หวาดกลัวเสด็จแม่ ในเวลานี้จุดประสงค์ของพวกเขาคือการลดอำนาจของเสด็จแม่ลง ข้าจึงทำได้เพียงคุมขังอ๋องเย่ไว้ชั่วคราว

ส่วนเจ้า เจ้าอธิบายเรื่องของอ๋องตวนมาให้ชัดเจน แล้วเข้าวังมาเพื่อตรวจสอบเรื่องพิษในทันที”

ฉีเฟยอวิ๋นออกมาจากในวังด้วยความคิดมาก และเมื่อกลับไปถึงจวนอ๋องเย่ พระราชโองการก็มา

ในนามของวังทั้งสองตำหนักเรียกตัวฉีเฟยอวิ๋นเข้าไปในวังเพื่อดูแลครรภ์ ส่วนหนานกงเย่ ฝ่าบาทไม่ได้กล่าวถึงและไม่มีใครรู้

ตอนที่ฉีเฟยอวิ๋นอุ้มจิ้งจอกหางสั้นและกำลังจะเข้าไปในวัง บนท้องถนนก็มีข่าวลือว่าหนานกงเย่กบฏ และถูกจักรพรรดิอวี้ตี้จับไปขังคุก!

หลังจากที่เข้าไปในวังแล้ว ฉีเฟยอวิ๋นก็ไปคารวะพระพันปีก่อน การคารวะครั้งนี้แตกต่างออกไป เมื่อเห็นฉีเฟยอวิ๋น พระพันปีก็ขับไล่นางออกไป ฉีเฟยอวิ๋นถูกไห่กงกงพาตัวออกมาจากตำหนักเฉาเฟิ่ง เมื่อออกมาแล้ว ไห่กงกงก็มองไปรอบ ๆ แล้วกระซิบว่า:“เรื่องการล้มล้างราชนิกุล ทำให้เหล่าราชนิกุลเกิดความไม่พอใจและมีคนมาถวายฎีกา พระพันปีจึงไม่ได้รับแขกมาสองสามวันแล้ว”
ฉีเฟยอวิ๋นพยักหน้า และหยิบขวดเล็ก ๆ ออกมาให้ไห่กงกง:“นี่เป็นยาบำรุงหัวใจที่ข้าเตรียมมาให้เสด็จแม่ ต้องรบกวนไห่กงกงแล้ว
เสด็จแม่ทรงทราบว่าต้องใช้งานอย่างไร”
“พระชายาเย่ช่างใส่ใจจริง ๆ พ่ะย่ะค่ะ เช่นนั้นบ่าวกลับก่อน พระชายาเย่เดินทางปลอดภัยพ่ะย่ะค่ะ”
ไห่กงกงกำลังจะจากไป ฉีเฟยอวิ๋นยังไม่วางใจ นางจึงหันกลับไปเรียกไห่กงกง และก้มลงมองจิ้งจอกหางสั้น:“กงกงพามันไปด้วย มันรู้ภาษาและเชื่อฟัง ให้มันคอยเฝ้าอยู่ข้างกายเสด็จแม่ หากในตอนกลางคืนกงกงง่วง มันจะได้ช่วยดูแลแทน”
ไห่กงกงมองจิ้งจอกหางสั้นที่อยู่ในอ้อมแขนของฉีเฟยอวิ๋น แม้ว่าเขาจะไม่ชอบมัน แต่ถึงอย่างไรก็ต้องอุ้มมันเข้าไปในตำหนักแล้วมันก็คงจะเชื่อฟัง
“ก็ได้พ่ะย่ะค่ะ เช่นนั้นก็ให้มันตามบ่าวไปเถอะพ่ะย่ะค่ะ” ไห่กงกงกำลังจะอุ้มจิ้งจอกหางสั้น และมันก็เงยหน้าขึ้นอย่างไม่แยแส จากนั้นก็เดินไปเดินมา และไม่ยอมให้ไห่กงกงอุ้ม
ไห่กงกงดูหมดหนทาง:“เฮ้ ยังจะหยิ่งผยองอีก”
ไห่กงกงหัวเราะเหอะ ๆ ฉีเฟยอวิ๋นกล่าวว่า:“มันกินปลากินเนื้อ และต้องดิบ ๆ ไม่ต้องสนใจมันมากนัก หากหาไม่เจอก็ไม่ต้องหา แล้วมันจะออกมาเอง
เจ้าจิ้งจอกน้อย เจ้าอยู่ที่นี่นะ มีอะไรก็มาหาข้า”
จิ้งจอกหางสั้นกระดิกหู แสดงว่ามันตกลงแล้ว
จากนั้นฉีเฟยอวิ๋นก็จากไป และจิ้งจอกหางสั้นก็เดินตามไห่กงกงไป
ฉีเฟยอวิ๋นมาคารวะจักรพรรดิอวี้ตี้ที่ตำหนักบำรุงฤทัย และจักรพรรดิอวี้ตี้ขอให้นางไปตรวจชีพจรให้ทั้งสองตำหนัก จากนั้นนางจึงตามไปที่ตำหนักเฟิ่งอี๋ของฮองเฮา และพักอยู่ที่ตำหนักด้านข้างของตำหนักเฟิ่งอี๋
“พระชายาเย่ ข้ารู้ว่าเจ้าไม่ชอบถูกควบคุม ข้าสามารถปล่อยให้เจ้าเดินไปไหนมาไหนในวังได้ แต่เจ้าต้องรู้จักขอบเขต และอย่าเพิ่มปัญหาให้กับข้า เจ้ารู้หรือไม่?” จักรพรรดิอวี้ตี้นั่งข้าง ๆ ฮองเฮาเฉินอวิ๋นชู และกล่าวอย่างราบเรียบ แต่เต็มไปด้วยบรรยากาศของความเหี่ยวเฉา
เฉินอวิ๋นชูดึงมือของจักรพรรดิอวี้ตี้:“ฝ่าบาท เป็นเรื่องยากที่พระชายาเย่จะเข้ามาอยู่เป็นเพื่อนหม่อมฉันในวัง ฝ่าบาทตรัสให้น้อยลงได้หรือไม่เพคะ?”
จักรพรรดิอวี้ตี้จับมือของเฉินอวิ๋นชู:“ข้ารู้แล้ว”
จักรพรรดิอวี้ตี้เหลือบมองไปที่ฉีเฟยอวิ๋นและโบกมือ:“ออกไปเถอะ”
“หม่อมฉันทูลลาเพคะ” ฉีเฟยอวิ๋นถอยออกไปและกลับไปนั่งที่ตำหนักด้านข้าง
ไม่มีใครเฝ้าอยู่ที่หน้าประตู และฉีเฟยอวิ๋นก็นั่งอยู่ด้านในสักพัก นางออกมาจากตำหนักด้านข้างและเดินเตร่อยู่ในวัง
ตำหนักเฟิ่งอี๋ให้เวลาฉีเฟยอวิ๋นไม่ถึงหนึ่งชั่วยามและให้นางไปตรวจดูอีกรอบ นางไม่ได้พูดอะไร คนที่เดินผ่านไปมาต่างโค้งคำนับและช่วยลดปัญหาได้มาก
หลังจากที่ออกจากมาจากตำหนักเฟิ่งอี๋แล้ว ฉีเฟยอวิ๋นก็ไปคารวะพระมเหสีหวาที่ตำหนักหวาหยาง
พระมเหสีหวาอยากจะสอบถามเรื่องของอ๋องตวนอยู่พอดี เมื่อได้ยินว่าฉีเฟยอวิ๋นจะมาที่นี่ นางก็ดีใจมาก และแน่นอนว่าต้องต้อนรับเป็นอย่างดี
“อวิ๋นอวิ๋น รีบเข้ามานั่งสิ หากเจ้าไม่มาข้าก็จะให้คนไปเชิญเจ้า” พระมเหสีหวาเรียกฉีเฟยอวิ๋นเข้าไป และตบลงเก้าอี้ข้าง ๆ นาง เพื่อบอกใบ้ให้ฉีเฟยอวิ๋นนั่งลง
เดิมทีนางไม่ชอบฉีเฟยอวิ๋น แต่ฉีเฟยอวิ๋นช่วยชีวิตบุตรชายของนางไว้ แม้ว่าพระมเหสีหวาจะสับสน แต่นางก็ไม่แสดงสีหน้าให้ฉีเฟยอวิ๋นเห็น
แน่นอนว่าฉีเฟยอวิ๋นรู้ดี แต่นางได้รับพระบัญชามาจากฝ่าบาทและนางไม่สนใจว่ากำลังเผชิญหน้าอยู่กับใคร
ฉีเฟยอวิ๋นถอนสายบัว:“คารวะพระมเหสีหวาเพคะ”
“ช่างเป็นเด็กดีเสียจริง มานั่งตรงนี่สิ” พระมเหสีหวาเชิญให้ฉีเฟยอวิ๋นนั่งลง
“ขอบพระทัยพระมเหสีเพคะ หม่อมฉันยืนดีกว่า วันนี้หม่อมฉันมากราบทูลเรื่องอ๋องตวนเพคะ”
“อ้อ?แล้วอ๋องตวนเป็นอย่างไรบ้าง?” พระมเหสีหวารีบถาม และฉีเฟยอวิ๋นก็รู้สึกเห็นใจมาก
อันที่จริงแล้วคนที่อยู่ในวังล้วนแต่ไม่มีอิสระ ดูเหมือนว่าจะมีอำนาจล้นฟ้า แต่แท้จริงแล้ว พวกเขาเป็นเพียงคนที่น่าสงสาร
เช่นเดียวกับพระมเหสีหวา แม้แต่อยากเจอบุตรชายของตนเองก็ไม่สามารถทำได้
บุตรชายได้รับบาดเจ็บสาหัส และทำได้เพียงอยู่นอกวัง
แต่อยู่นอกวัง ฉีเฟยอวิ๋นก็ไม่วางใจ
หากมีอะไรผิดพลาด ทุกอย่างที่ทำมาก็จะสูญเปล่า
“ท่านอ๋องตวนทรงดีขึ้นแล้วเพคะ ขอเพียงแค่รักษาตามวิธีการของหม่อมฉัน ไม่เกินครึ่งเดือนก็จะพ้นจากอันตรายเพคะ เพียงแต่หม่อมฉันกังวลว่า……” ฉีเฟยอวิ๋นลังเล
พระมเหสีหวาถามในทันที:“อะไรรึ ?”
“ทูลพระมเหสีเพคะ บาดแผลภายนอกอาจเกิดบาดทะยักได้ง่าย หากติดเชื้อก็อาจจะทำให้มีไข้สูงได้ หม่อมฉันไม่อยู่ บรรดาหมอประจำจวนก็ช่วยเหลือไม่ได้เลย หม่อมฉันกังวลว่าอาการบาดเจ็บของท่านอ๋องตวนจะยิ่งสาหัสเพคะ
ยังหาผู้ที่ลอบสังหารท่านอ๋องตวนไม่พบ แม้ว่าจงชินอ๋องจะถูกจับกุม แต่ก็ไม่มีหลักฐาน
หากเป็นเช่นนั้น จับได้แล้วได้ก็จบปัญหา
แต่หากไม่ใช่ก็คงจะยุ่งยากแล้วเพคะ
หากผู้ที่ลอบสังหารไม่ตายใจแล้วกลับมา ลำพังแค่พระชายารองอวิ๋นเพียงคนเดียว คงจะไม่สามารถปกป้องท่านอ่องตวนได้เพคะ
ฉีเฟยอวิ๋นหยุดอีกครั้ง

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "บทที่ 183 ได้รับพระบัญชามาจากฝ่าบาท"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์