CatNovel
  • หน้าหลัก
  • แทงหวย24
  • มังงะ
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • แทงหวย24
  • มังงะ
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ - บทที่ 650 ทายาทของวังหลังเป็นเรื่องของลิขิตสวรรค์

  1. Home
  2. องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ
  3. บทที่ 650 ทายาทของวังหลังเป็นเรื่องของลิขิตสวรรค์
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ บทที่ 648 ทายาทของวังหลังเป็นเรื่องของลิขิตสวรรค์

ฉีเฟยอวิ๋นหลับไปครู่หนึ่ง ก่อนที่อาอวี่จะกลับมาและเคาะประตู นางจึงลุกขึ้น

ท้องฟ้ามืดแล้ว ฉีเฟยอวิ๋นเหลือบมองไปรอบ ๆ แต่ไม่เห็นอวิ๋นจิ่น

นางจึงลุกขึ้นไปเปิดประตู อาอวี่อยู่ที่หน้าประตู:“พระชายา ไปสอบถามมาแล้วพ่ะย่ะค่ะ”

“ว่าอย่างไรบ้าง?”

อาอวี่บอกฉีเฟยอวิ๋นตามที่เขาไปสอบถามมา ฉีเฟยอวิ๋นรู้สึกว่านางควรจะไปที่จวนกั๋วจิ้ว หากไม่ได้ความ นางก็จะไปหาหวังฮวายอัน กองสอดแนมของเขาคงจะไม่ไร้ประโยชน์ เขาจะต้องรู้อย่างแน่นอน

สิ่งที่สำคัญคือไม่สามารถพบมู่เหมียนได้ และนี่คือความยุ่งยาก!

ฉีเฟยอวิ๋นแต่งตัวและเตรียมจะไปที่จวนกั๋วจิ้ว และในเวลานี้ก็เหมาะที่จะไปจวนกั๋วกงเช่นกัน เพียงแปลกใจที่ไม่พบอวิ๋นจิ่น

ฉีเฟยอวิ๋นรออยู่ที่หน้าประตูสักพัก และถามหงเถาว่า:“ทำไมถึงไม่เห็นอวิ๋นจิ่นเลย?”

“แม่นางอวิ๋นจิ่นออกไปแล้วเจ้าค่ะ และไม่รู้ว่านางไปไหน” หงเถาก็ไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้น

“ลองถามดูว่ามีใครเห็นอวิ๋นจิ่นหรือไม่”

“เจ้าค่ะ”

หงเถาไปตามหาอวิ๋นจิ่น และฉีเฟยอวิ๋นก็รออยู่ที่หน้าประตู นางพักอาศัยอยู่ในเรือนเดียวกันกับแม่ทัพฉี ฉีเฟยอวิ๋นจึงรีบออกไป และวางแผนว่าจะไปหาแม่ทัพฉี

เมื่อมาถึงหน้าประตูของแม่ทัพฉี นางก็ได้ยินอวิ๋นจิ่นว่า:“ท่านแม่ทัพ นี่เป็นรองเท้าที่ข้าทำใหม่ ท่านลองดูว่าพอดีหรือไม่”

ฉีเฟยอวิ๋นหยุดชะงัก และมองเข้าไปในห้องของแม่ทัพฉี และได้ยินแม่ทัพฉีพูดผ่านประตูว่า:“อวิ๋นจิ่น ข้าบอกเจ้าแล้วมิใช่หรือว่าเจ้าเป็นสาวเป็นนาง อย่ามาที่นี่ยามดึกดื่น จะได้ไม่เป็นที่ครหา วันหน้าเจ้ายังต้องแต่งงานออกไป”

แม่ทัพฉีจิตใจดี เขาคิดว่าบางครั้งอวิ๋นจิ่นก็ประมาทเกินไป

เขาอายุปูนนี้แล้ว ถึงอย่างไรก็ชายหญิงก็แตกต่างกันอย่างชัดเจน ดังนั้นจึงไม่เหมาะที่จะไปมาหาสู่กัน

อวิ๋นจิ่นกล่าวว่า:“อวิ๋นจิ่นต้องการจะรับใช้นายท่านไปตลอดชีวิต และไม่ต้องการที่จะแต่งงาน ท่านแม่ทัพจึงไม่ต้องกังวล”

“……จะไม่เป็นกังวลได้อย่างไร เจ้าเป็นสามเป็นนาง ไม่ควรที่จะเข้าออกห้องของบุรุษ มันไม่เหมาะสม” แม่ทัพฉียังคงยืนกราน

“อวิ๋นจิ่นไม่ได้คิดว่ามันไม่เหมาะสม ในจวนอ๋องเย่ อวิ๋นจิ่นอยู่ข้างนอก ท่านแม่ทัพอยู่ข้างใน อวิ๋นจิ่นจะดูแลรับใช้ท่านแม่ทัพเช่นนี้ทุกวัน”

“……มันไม่เหมือนกัน” เมื่ออวิ๋นจิ่นกล่าวเช่นนี้ แม่ทัพฉีไม่รู้จะพูดอย่างไร

เดิมทีแม่ทัพฉีหลับไปแล้ว แต่เขาลุกขึ้นมาห่มผ้า และเห็นอวิ๋นจิ่นอยู่ที่หน้าประตู

แม้ว่าจะไม่ได้เข้ามา แต่แม่ทัพฉีก็ยังรู้สึกไม่สบายใจ

“อวิ๋นจิ่น วางรองเท้าลงแล้วกลับไปเถอะ ต่อไปไม่ต้องทำเรื่องเช่นนี้อีก เรื่องเช่นนี้ให้เหล่าคนรับใช้ทำ เจ้าเพียงแค่ดูแลเด็ก ๆ ก็เพียงพอแล้ว”

“เหล่าคนรับใช้ไม่ละเอียดอ่อน ท่านแม่ทัพต้องออกไปข้างนอกและเข้าออกในวัง ดังนั้นจึงต้องใส่ใจกับเสื้อผ้าที่สวมใส่”

“คนแก่ที่หยาบคายเช่นข้า ไม่สนใจว่าคนรับใช้จะไม่ละเอียดอ่อน และอีกอย่างข้าก็ดูไม่ออก”

“ท่านแม่ทัพหมายความว่าฝีมือของอวิ๋นจิ่นเทียบไม่ได้กับคนรับใช้เหล่านั้น?” แววตาของอวิ๋นจิ่นราบเรียบ แต่รู้สึกบีบคั้นอย่างมาก

แม่ทำฉีพูดอะไรไม่ถูกและไม่พูดอยู่นาน อวิ๋นจิ่นกล่าวว่า:“ท่านแม่ทัพลองดูเถอะ หากไม่พอดี อวิ๋นจิ่นจะได้ปรับแก้ นายท่านอยู่พอดี และข้าก็ว่าง”

แม่ทัพฉีรู้สึกอึดอัดใจ:“อวิ๋นจิ่น เจ้ากลับไปก่อนจะดีกว่า ข้าไม่ลองแล้ว หากสวมไม่พอดี พรุ่งนี้ค่อยปรับแก้”

“ท่านแม่ทัพลองดูเถอะ คราวก่อนท่านแม่ทัพสวมแล้วไม่พอดี แล้วยกให้ผู้อื่น อวิ๋นจิ่นรู้สึกละอายใจมาก”

“นี่……อวิ๋นจิ่น……”

“ท่านแม่ทัพพูดมาเถอะเจ้าค่ะ”

“เจ้าอายุพอ ๆ กันกับอวิ๋นอวิ๋น เช่นนั้นข้ารับเจ้าเป็นบุตรสาวดีหรือไม่ และวันหน้าจะหาครอบครัวที่ดีให้แก่เจ้า เจ้าทำเสื้อผ้ารองเท้าให้ข้า มันลำบากเกินไป เราไม่ได้มีความสัมพันธ์ที่สนิทสนมกัน ย่อมต้องรู้สึกละอายใจ” แม่ทัพฉีกล่าวอย่างราบเรียบ แต่หยาบคายและสง่าผ่าเผยมาก

ฉีเฟยอวิ๋นยืนยิ้มอยู่ข้างนอก ท่านพ่อของนาง ช่างเป็นผู้ที่สง่าผ่าเผยเสียจริง

ปกติแล้วดูเหมือนว่าเขาจะเสแสร้ง

อว๋นจิ่นกล่าวว่า:“ท่านแม่ทัพ แม้ว่าท่านกับข้าจะไม่ได้มีความสัมพันธ์ที่สนิทสนมกัน แต่ข้าเป็นคนของนายท่าน นายท่านไม่อยู่ ข้าย่อมต้องดูแลท่านแม่ทัพ

ยิ่งไปกว่านั้น……

สถานะของข้าไม่อาจเทียบได้กับนายท่าน ท่านแม่ทัพได้โปรดอย่าทำเช่นนั้นเลย”

ฉีเฟยอวิ๋นหันหลังกลับไปที่ห้องของนาง และเมื่อกลับมาก็เห็นหงเถาอยู่หน้าประตู หงเถากล่าวว่า:“พระชายา ข้าไปถามมาแล้วเจ้าค่ะ ไม่มีใครรู้เลยว่าแม่นางอวิ๋นจิ่นไปไหน จะเกิดอะไรขึ้นหรือไม่เจ้าคะ?”

“เป็นไปไม่ได้ที่จะเกิดเรื่องขึ้น อวิ๋นจิ่นทำงานหนักมาโดยตลอด มีเรื่องสำคัญอะไรก็ไปทำเถอะ เจ้าเข้าไปดูเด็ก ๆ ก่อน ข้าจะออกไปข้างนอก และไปเรียกลี่ว์หลิ่วมาด้วย”

“เจ้าค่ะ”

หงเถาและลี่ว์หลิ่วเข้าไปดูเด็ก ๆ ฉีเฟยอวิ๋นมองไปที่เจ้าห้า:“แม่รู้ว่าเจ้าเก่ง และรู้ทุกอย่าง เช่นนั้นเจ้าก็ปกป้องพี่ ๆ ด้วย แม่ต้องออกไปข้างนอก รอป้าจิ่นกลับไป แล้วนางจะดูแลพวกเจ้า”

หลังจากที่กำชับแล้ว ฉีเฟยอวิ๋นก็ออกไป เจ้าห้าไม่ได้ลืมตา หงเถาถอนหายใจ:“พระชายาของเราช่างแปลกเสียจริง เห็นได้ชัดว่าซื่อจื่อห้าหลับอยู่ แล้วจะปกป้องบรรดาเสี่ยวซื่อจื่อได้อย่างไร?อีกอย่างเสี่ยวซื่อจื่อก็ยังเด็ก ต้องให้พี่ ๆ ปกป้องสิ จะปกป้องพี่ ๆ ได้อย่างไร?”

ลู่ว์หลิ่วกล่าวว่า:“ไม่ต้องสนใจเรื่องนี้หรอก บางทีพระชายาอาจจะกำลังเกลี้ยกล่อมเสี่ยวซื่อจื่อ ซื่อจื่อห้าของเราเฉลียวฉลาด”

“ใช่ ซื่อจื่อห้าของเราเฉลียวฉลาด”

หงเถาพูดขึ้นมาจากด้านข้าง

แม่ทัพฉีถูกต้อนจนมุมและไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากลองสวมรองเท้าคู่นั้นที่อวิ๋นจิ่นทำ คราวนี้สวมได้พอดี แม่ทัพฉีกล่าวว่า:“คู่นี้ข้าสวมแล้วไม่บีบเท้า ลำบากอวิ๋นจิ่นแล้ว!”

อวิ๋นจิ่นถอนสายบัวแล้วจากไป โดยไม่ได้พูดอะไร

แม่ทัพฉียืนอยู่ที่หน้าประตูครู่หนึ่ง และคิดว่าเขาอาจจะคิดมากเกินไป จากนั้นก็กลับไปพักผ่อน

เมื่ออวิ๋นจิ่นกลับมาที่ห้อง ฉีเฟยอวิ๋นก็เพิ่งออกไปได้ไม่นาน อวิ๋นจิ่นจึงถามให้ชัดเจนและกลับไปพักผ่อน

เมื่อรถม้าของฉีเฟยอวิ๋นมาถึงจวนกั๋วจิ้ว อาอวี่ก็ไปเคาะประตู ฉีเฟยอวิ๋นลงมาจากรถม้า หลังจากรออยู่สักพักก็มีคนมาเปิดประตู

เมื่อคนของจวนกั๋วจิ้วเห็นฉีเฟยอวิ๋น ก็รีบเชิญเขาเข้าไปในทันที

ช่วงนี้ฮูหยินกั๋วจิ้วนอนไม่ค่อยหลับ

เป็นเวลานานมากแล้ว แต่ในท้องบุตรสาวของนางก็ยังไม่ความเคลื่อนไหวใด ๆ หมอหลวงได้ทำการตรวจดูแล้ว นางก็ไม่ได้ป่วยอะไร

เมื่อได้ยินมาว่าฉีเฟยอวิ๋นมาเยี่ยมกลางดึก ฮูหยินกั๋วจิ้วก็รีบลุกขึ้น และหวางฮวายเต๋อที่อยู่ข้าง ๆ ก็รีบลุกขึ้นเช่นกัน

ฉีเฟยอวิ๋นรออยู่ที่ห้องโถงด้านหน้า และไม่นานก็เห็นหวางฮวายเต๋อและภรรยา

ฉีเฟยอวิ๋นไม่ลังเล ถึงอย่างไรก็ดึกมากแล้ว นางไม่มีเวลาที่จะพูดคุยเรื่องสัพเพเหระ

“กั๋วจิ้ว ฮูหยิน ข้าจะกล่าวอย่างรวบรัด วันนี้ข้ามาเพื่อสอบถามเรื่องของมู่เหมียน ข้ากับท่านอ๋องไปออกศึก และไม่ได้อยู่ในเมืองหลวงมานานแล้ว ดังนั้นข้าจึงไม่รู้เรื่องของวังหลังเลย ข้าอยากรู้ว่าหมอหลวงกล่าวว่าอย่างไรบ้าง พวกท่านได้พบมู่เหมียนบ้างหรือไม่?”

ฮูหยินกั๋วจิ้วก็กำลังกังวลเรื่องนี้ หลังจากที่ได้ยินฉีเฟยอวิ๋นพูดแล้ว นางก็ไม่สนใจอะไรอีก ฮูหยินกั๋วจิ้วคิดว่าในตอนนี้มีเพียงฉีเฟยอวิ๋นเท่านั้นที่สามารถช่วยพวกเขาได้

ฮูหยินกั๋วจิ้วจับมือของฉีเฟยอวิ๋นและเกือบจะร้องไห้ออกมา กั๋วจิ้วถอยห่างออกไป ฮูหยินกั๋วจิ้วกล่าวว่า:“มู่เหมียนต้องการมีบุตรให้กับฝ่าบาทมาโดยตลอด นางจริงใจต่อฝ่าบาท ตั้งแต่มู่เหมียนเข้าไปในวังจนถึงตอนนี้ก็เป็นเวลาไม่น้อยแล้ว แต่ยังไม่มีวี่แววใด ๆ ไม่ใช่ว่าพวกเราร้อนใจ แต่เป็นมู่เหมียนที่ร้อนใจ นางหาหมอหลวงในวังมาเกือบทั้งหมดแล้ว หมอหลวงต่างก็บอกว่านางไม่ได้เป็นอะไร แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาของฝ่าบาทด้วยเช่นกัน พระสนมเอกเซียวและฮองเฮาต่างก็มีบุตรกันหมดแล้ว

พวกเราไม่กล้าถามเรื่องนี้มากเกินไป เพื่อไม่ให้ฝ่าบาททรงคิดเล็กคิดน้อย

ทายาทของวังหลัง เป็นเรื่องของลิขิตสวรรค์มาตั้งแต่ไหนแต่ไร

ข้าเคยพูดเรื่องนี้กับพระพันปี พระพันปีก็ทรงให้หมอหลวงหูมาตรวจดูแลตนเองแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้ผล”

ฮูหยินกั๋วจิ้วอดไม่ได้ที่จะร้องไห้ ก่อนหน้านี้นางรู้สึกว่าน่าเกรงขาม แต่ในตอนนี้กลับทำอะไรไม่ถูก

อายุของฝ่าบาท ไม่ช้าก็เร็วต้องเดินมาถึงตรงหน้ามู่เหมียน คำพูดเช่นนี้ไม่สามารถพูดได้ แต่รู้ดีอยู่แก่ใจ เมื่อถึงเวลานั้นแล้วไม่มีบุตรอยู่เคียงข้าง ชีวิตช่างน่าขมขื่น!

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "บทที่ 650 ทายาทของวังหลังเป็นเรื่องของลิขิตสวรรค์"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์