อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ - บทที่ 177 ควักลูกตา เชือดไก่ให้ลิงดู
เมื่อเห็นสีหน้าของนางเปลี่ยนไป มือก็ยกฟาดตบหน้าซุนต้าเฉียงอย่างแรงแล้ว
หยุนหว่านหนิงพูดขึ้นอย่างดุดันว่า “บังอาจ กล้าเสียมารยาทกับข้า ทหาร ลากตัวเขาไป ควักลูกตาคู่นี้เอาไปให้สุนัขกิน”
ฝ่ามือนี้ฟาดตบอย่างแรง ซุนต้าเฉียงถูกตบจนมึน
พระชายาหมิงคนนี้ หมายความว่าอย่างไร?
เมื่อกี้ยังยิ้มหวานให้เขาอยู่เลย?
เพียงพริบตาเดียว ก็ฟาดตบหน้าเขา ยังจะลากเข้าไปควักดวงตาให้สุนัขกิน?
ใบหน้าซุนต้าเฉียงเจ็บปวด รีบเอามือกุมหน้าคุกเข่าลง พร้อมพูดขึ้นว่า “พระชายาหมิงโปรดอภัย ข้าน้อยไม่กล้าเสียมารยาทกับท่าน ขอพระชายาหมิงพิจารณา”
การเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วนี้ ทำให้เหลียงเสี่ยวกงกงก็อึ้ง
“ยังนิ่งอึ้งอยู่ทำไม?”
สายตาเฉียบคมของหยุนหว่านหนิงหันมามอง พร้อมพูดขึ้นว่า “คำพูดของข้า ไม่ฟังหรือ?”
ถึงซุนต้าเฉียงจะเป็นชาวบ้านธรรมดา แต่น้องสาวของเขาซุนตายิ่ง ตอนนี้กำลังเป็นคนโปรดของฮ่องเต้…..
จู่ๆจะควักลูกตาซุนต้าเฉียง แบบนี้ไม่ค่อยดีมั้ง?
“พระชายาหมิง หรือว่า หรือว่าเราเรียนฮ่องเต้ก่อนไหม?”
เหลียงเสี่ยวกงกงลำบากใจมาก สีหน้าราวกับจะร้องไห้แล้ว
และในเวลานี้ ได้ยินเสียงโม่จงหรานพูดดังขึ้นว่า “ทำตามที่หว่านหนิงสั่ง”
ที่แท้ เขารู้ความเคลื่อนไหวด้านนอกทั้งหมด
เหลียงเสี่ยวกงกงค่อยโล่งอก พร้อมรีบโบกมือเรียกทหารรักษาพระองค์ที่อยู่ไม่ไกล พร้อมพูดขึ้นว่า “ลากตัวคนคนนี้ออกไป ควักลูกตาไปให้สุนัขกิน”
ทหารรักษาพระองค์วิ่งมา พร้อมพูดขึ้นว่า “พระชายาหมิง ควักหนึ่งข้างหรือควักสองข้าง”
บอกควักลูกตาก็ควักลูกตา ซุนต้าเฉียงตกใจจนเอ๋อไปแล้ว
เมื่อกี้ยังคิดว่าหยุนหว่านหนิงไว้หน้าเขา ที่แท้นางยิ้มให้เขาเมื่อกี้ เพราะอยากควักลูกตาของเขา
ในพระราชวังต้องห้ามนี้ ไม่ใช่สถานที่ใครก็สามารถอยู่ได้
ซุนต้าเฉียงก็ไม่มีแก่ใจออกไปโอ้อวดแล้ว คิดอยากรีบหนีอย่างเดียว
เขาเข่าอ่อนนั่งลงบนพื้น พูดร้องขอด้วยเสียงสั่นเทาว่า “พระชายาโปรดไว้ชีวิต พระชายาโปรดไว้ชีวิต”
หยุนหว่านหนิงพูดขึ้นด้วยเสียงเยือกเย็นว่า “พวกเจ้าทำอะไรกินกัน? เมื่อกี้เขามองข้าอย่างเสียมารยาท ใช้เพียงลูกตาข้างเดียวหรือ?”
ทหารรักษาพระองค์รีบลากตัวซุนต้าเฉียงออกไป
ไม่ต้องให้หยุนหว่านหนิงสั่ง ก็รู้แล้วว่าควรควักลูกตาทั้งสองข้างแล้ว….
“เจ้าไปยุ่งกับใครไม่ยุ่ง ทำไมต้องไปยุ่งกับพระชายาหมิง? วันนี้ขอให้เจ้ามีบุญกุศลให้มากๆเถิด”
ได้ยินเสียงพูดของหารรักษาพระองค์ ซุนต้าเฉียงก็ยิ่งตกใจจนเข่าอ่อน
สักพัก เขาถูกโยนอยู่ข้างเท้าหยุนหว่านหนิง
ครั้งนี้ ไม่มีลูกตาแล้ว ใบหน้าเต็มไปด้วยเลือด หลังจากไม่มีลูกตา ตาสองข้างดูโล่งๆ ค่อนข้างแปลกๆ
ซุนต้าเฉียงเจ็บปวดจนมึนชา แม้แต่เสียงกรีดร้องก็ร้องไม่ออก
เมื่ออ้าปากพูด เสียงก็ฟังดูแหบ
กรีดร้อง? ร้องขอชีวิต?
ทำไม่ได้แล้ว คอของเขาบวมแล้ว
เมื่อตอนที่ถูกควักลูกตานั้นเป็นการควักสดๆ ซุนต้าเฉียงกรีดร้องอย่างกับหมูถูกเชือด
หยุนหว่านหนิงใช้เท้าแตะเขา พร้อมพูดขึ้นว่า “ยังไม่ตายใช่ไหม?”
เขาส่งเสียงอู้อี้ พร้อมกระตุกร่างกายหนึ่งที
ซุนต้าเฉียงคิดไม่ถึงเลยว่า พระชายาที่ดูเหมือนอย่างเทพธิดา อ้าปากก็ทุบตีฆ่า ควักลูกตาให้สุนัขกิน…..
ความแตกต่างนี้ น่ากลัวมากเลย
เขาไม่เคยเห็นนาง ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าไปมีเรื่องกับนาง
ในเมื่อไม่มีเรื่องอะไรต่อกัน ทำไมจู่ๆนางถึงลงมือทำร้ายเขารุนแรงขนาดนี้?
สูญเสียดวงตาไปแล้ว ซุนต้าเฉียงก็มองไม่เป็นอะไรเลย ในใจยิ่งหวาดกลัว
“เจ้ากลัวมากหรือ?”
เห็นเขาตัวคดสั่นเทา หยุนหว่านหนิงหัวเราะเย้ย พร้อมพูดขึ้นว่า “วันนี้จะโทษข้าไม่ได้ จะโทษ ก็ต้องโทษน้องสาวของเจ้าซุนตายิ่ง”
ซุนต้าเฉียงตัวแข็งทื่อ
น้องสาวไปมีเรื่องกับพระชายาหมิงคนนี้?
วันนี้ เขารับโทษแทนนาง?
“โยนออกจากวังไป”
หยุนหว่านหนิงมองดูซุนต้าเฉียงที่หวาดกลัวจนตัวสั่นเทา นอนกองบนพื้นอยู่อย่างอ่อนแรง พร้อมพูดสั่งทหารรักษาพระองค์
แล้วซุนต้าเฉียงก็ถูกพาตัวออกไป
เขาเข้าวังมาอย่างกะทันหัน ออกไปยิ่งกะทันหัน
ตอนมาเดินเข้ามา ตอนออกไปถูกหามออกไป
ได้เข้าวังมาอย่างได้ใจ แล้วถูกโยนออกจากวังไปอย่างย่ำแย่
เมื่อเรื่องนี้รู้ไปถึงหูซุนตายิ่ง นางเหมือนอย่างคนบ้า รีบมายังห้องทรงพระอักษรอย่างบ้าคลั่ง….
หยุนหว่านหนิง นังคนสารเลว
ทรมานนางได้ ทำไมจะต้องลงมือทำร้ายพี่ชายอย่างโหดเหี้ยม
ในห้องทรงพระอักษรเวลานี้ หยุนหว่านหนิงกับโม่จงหรานนั่งกินชาอยู่ตรงข้ามกัน
สีหน้าของนางเรียบเฉยสบายใจ ไม่มีแววโหดเหี้ยมเหมือนเมื่อกี้
“ชาของเสด็จพ่อไม่เลวจริงๆ ลูกสะใภ้อยากหน้าด้านขอสักหน่อย เก็บไว้ดื่มเองก็ดี เอาไปให้คนอื่นก็เลิศ”
“เจ้าช่างกล้าขอ”
โม่จงหรานหัวเราะเย้ย พร้อมพูดขึ้นว่า “กล้าขอชาของข้า ไปให้คนอื่น?”
ช่างกล้ายิ่งนัก
ถึงจะพูดเช่นนี้ แต่เขาก็ยังสั่งให้ซูปิ่งซ่านเตรียมไว้บ้าง รอให้หยุนหว่านหนิงเอากลับไป
“ชาก็ดื่มแล้ว ตอนนี้บอกข้าได้หรือยัง เกิดอะไรขึ้น?”
โม่จงหรานวางถ้วยน้ำชาลง มองดูนางอย่างลึกซึ้ง พร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้าอย่าคิดว่าข้าแก่จนเลอะเลือน เจ้าจับตัวซุนต้าเฉียง มาลงโทษหน้าห้องทรงพระอักษร”
“ให้ได้ชัดว่าต้องการเชือดไก่ให้ลิงดู เจ้าทำให้ลิงตัวไหนดู?”
ฆ่าทุบตีฆ่าคนหน้าห้องทรงพระอักษร หยุนหว่านหนิงเป็นคนแรก
โม่จงหรานอดไม่ได้ที่จะคิดในใจ เขาให้ท้ายเด็กคนนี้เกินไปหรือเปล่า?
แต่เมื่อคิดอีกที ให้ท้ายมาตั้งนานขนาดนี้แล้ว ยังจะมีวิธีอะไรอีก?
ทำได้เพียงให้ท้ายต่อไป
“ลิงที่กล้าหวังในตัวเฟยเฟย”
หยุนหว่านหนิงก็ไม่ปิดบัง พูดขึ้นมาตรงๆว่า “เสด็จพ่อ เฟยเฟยมาร้องไห้กับลูกสะใภ้ บอกว่าซุนซันฝูไม่มีเหตุผล กล้ามาพูดยั่วยุท่าน ยกเฟยเฟยให้ซุนต้าเฉียงพี่ชายของนาง”
“นี่คือเหตุผลอะไรกัน?”
“เฟยเฟยเป็นองค์หญิงแห่งราชวงศ์ หญิงงามสูงศักดิ์ ถึงซุนต้าเฉียงจะเป็นลูกรองเจ้ากรม แต่ก็เป็นอันธพาล”
หยุนหว่านหนิงพูดด้วยสีหน้าโกรธจัดว่า “ต่อให้ตระกูลซุนอีกสิบชั่วโคตร ก็ไม่คู่ควรเฟยเฟย?”
“ยิ่งไปกว่านั้น ซุนต้าเฉียงคนนี้อายุเยอะกว่าเฟยเฟยเกือบสิบปี ยังเป็นคนชั่วที่ทารุณภรรยาจนตายไปหลายคน ผู้ชายแบบนี้ สมควรถูกสับให้ตายแล้วเอาเนื้อไปให้สุนัข”
โม่จงหรานพูดขึ้นอย่างจนใจว่า “เฟยเฟยไปร้องไห้กับเจ้า?”
“ใช่สิเพคะ นางร้องห่มร้องไห้ ข้าสงสารนางมาก”
หยุนหว่านหนิงเม้นริมฝีปาก พร้อมพูดขึ้นว่า “ใครใช้ให้เสด็จพ่อไม่เข้าข้างเฟยเฟย? ข้าเป็นพี่สะใภ้ ต้องมาเรียกร้องความยุติธรรมให้นางไง”
ได้ยินแบบนี้ โม่จงหรานยิ่งจนใจ พร้อมพูดขึ้นว่า “ข้าไม่เคยคิดที่จะยกนางให้ซุนต้าเฉียง จะเข้าข้างนางยังไง?”
เขาเป็นถึงฮ่องเต้ จะเป็นคนโง่เขลาเบาปัญญาขนาดนั้นหรือ?
เพียงเพราะซุนตายิ่งพูดยั่วยุ แล้วยกองค์หญิงสุดที่รักของตนให้กับอันธพาลคนหนึ่ง?
น่าขำ
เขาไม่มีความน่าเกรงขามเลยหรือ?
นี่เป็นการตั้งใจหักหน้าราชวงศ์ หรือเป็นการตบหน้าตนเอง?
“ข้าดูเป็นคนโง่เขลาเบาปัญญาขนาดนั้นเลยหรือ?”
หยุนหว่านหนิงอึ้ง พร้อมพูดขึ้นว่า “งั้นทำไมท่านไม่ยอมพบเฟยเฟย?”
“นางเอาแต่ร้องไห้ ข้ารำคาญ”
โม่จงหรานพูดขึ้น
หยุนหว่านหนิงพูดขึ้นว่า “…. เสด็จพ่อ ท่านไม่พบเฟยเฟย จนเกิดเรื่องเข้าใจผิดใหญ่แล้ว เดิมนางยังร้องไห้โวยวายจะฆ่าตัวตาย เพื่อห้ามท่าน”
โม่จงหรานไม่มีคำจะพูด
เฟยเฟยคนนี้ เรียนรู้แต่สิ่งไม่ดีจากคนตรงหน้านี้แน่
“ลูกสะใภ้รู้ เสด็จพ่อชาญฉลาด ไม่มีทางยกเฟยเฟยให้กับซุนต้าเฉียงคนนั้นแน่”
หยุนหว่านหนิงยิ้มหัวเราะ พร้อมพูดขึ้นว่า “แต่เฟยเฟยไม่รู้”
เพิ่งพูดเสร็จ ด้านนอกประตูก็มีเสียงกรีดร้องไห้แสบหูดังขึ้น พร้อมพูดขึ้นว่า “ฮ่องเต้ ท่านต้องให้ความเป็นธรรมพี่ชายของหม่อมฉันด้วย…..”