อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ - บทที่ 183 เจ้าเจ็ดผู้มาไม่ประสงค์ดี
อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ บทที่ 183 เจ้าเจ็ดผู้มาไม่ประสงค์ดี
ทว่าฮองเฮาจ้าวยังไม่ทันนำตัวหยุนหว่านหนิงไป ‘ลงโทษ’ ที่ตำหนักคุนหนิง ก็ถูกซูปิ่งซ่านดักเอาไว้กลางทาง
“ฮองเฮาเหนียงเหนียง”
ซูปิ่งซ่านเอ่ยขึ้นอย่างเคารพนอบน้อม “ฝ่าบาททรงตรัส พระชายาหมิงรื้อตำหนักซีเยว่ มีโทษสถานหนัก! ให้บ่าวมานำตัวพระชายาหมิงไปสอบถามที่ห้องทรงพระอักษรพ่ะย่ะค่ะ!”
หากโม่จงหรานยื่นมือเข้ามายุ่งเรื่องนี้…
ฮองเฮาจ้าวตระหนัก เกรงว่าวันนี้นางจะทำอะไรนังสารเลวนี่ไม่ได้แล้ว
หากเป็นเช่นนั้น นางจะเคียดแค้นหยุนหว่านหนิงมากกว่าเดิม!
ฮองเฮาจ้าวโกรธจนเนื้อเต้นกับสายตาได้ใจของนาง
“ฝ่าบาททรงกรำงานหนักทุกวัน เรื่องเล็กในวังหลัง เรื่องการอบรมลูกสะใภ้ก็ให้ข้าทำเถอะ!”
นางกัดฟันเอ่ย “เจ้ากลับไปทูลฝ่าบาท ข้ารู้จักหนักเบา วันนี้ชายาเจ้าเจ็ดทำความผิดใหญ่หลวง ข้าจะไม่ปล่อยไปง่ายๆ แต่ก็จะไม่ทำให้นางถึงตายหรอก!”
คำพูดสุดท้ายแทบจะเค้นออกมาจากร่องฟัน!
ซูปิ่งซ่าอึ้ง “เหนียงเหนียง…”
“ไม่ต้องพูดอีก! ข้าตัดสินใจแล้ว!”
ฮองเฮาจ้าวโบกมือ เดินไปทางตำหนักคุนหนิงต่อ
ปกตินางจะคล้อยตามโม่จงหรานทุกอย่าง
แต่วันนี้นางจะขัดสักครั้ง!
จางหมัวมัวถูกยั่วโมโหจนเป็นลม ตำหนักซีเยว่ถูกรื้อ เท่ากับนางที่เป็นฮองเฮาถูกฉีกหน้า
หากวันนี้ไม่สั่งสอนหยุนหว่านหนิง นางก็ไม่ขอแซ่จ้าว!
เมื่อเห็นฮองเฮาจ้าวเดินจากไปด้วยความโมโห ซูปิ่งซ่านมองหยุนหว่านหนิงทีหนึ่งด้วยความลำบากใจ สายตาเห็นใจ พระชายาหมิง ท่านระวังตัวเองดีๆ เถอะ! บ่าวช่วยท่านไม่ได้แล้ว!
หยุนหว่านหนิงพยักพเยิด เจ้าไปพาเสด็จพ่อมาที่ตำหนักคุนหนิง!
ซูปิ่งซ่านพยักหน้าอย่างไม่เป็นที่สังเกต ได้แต่กลับไปที่ห้องทรงพระอักษรแล้ว
เมื่อเข้าตำหนักคุนหนิง ฮองเฮาจ้าวยังมีความโกรธอยู่
แล้วยังเพราะโม่จงหรานต้องการยื่นมือเข้าแทรก เพลิงพิโรธในใจนางจึงยิ่งลุกโชน พอเข้ามาก็สั่งคนในตำหนักขว้างแจกันดอกไม้ให้แตกกระจายทั่วพื้น
“คุกเข่า!”
ฮองเฮาจ้าวชี้พื้นที่มีเศษเครื่องเคลือบเกลื่อนพื้น ตวาดใส่หยุนหว่านหนิงกับโม่เฟยเฟย
ครั้นเห็นเศษเครื่องเคลือบแหลมคม หยุนหว่านหนิงก็เดาะลิ้นในใจ
นังตัวดี!
ฮองเฮาจ้าวโหดจริง!
“เสด็จแม่ ลูกยังไม่ได้อธิบายเลยนะเพคะ”
หยุนหว่านหนิงมองโม่เฟยเฟย “อีกอย่าง เฟยเฟยก็ยังเด็ก นางคือผู้เคราะห์ร้ายของเรื่องนี้ หากเสด็จแม่จะลงโทษเฟยเฟย เช่นนั้นจะไม่ถูกต้องนะเพคะ!”
“ผู้เคราะห์ร้าย?”
ฮองเฮาจ้าวยิ้มเย็น
นางเหลือบมองซุนตายิ่งด้วยหางตาแวบหนึ่ง เห็นนางก้มหน้าก้มตาร้องไห้กระซิก จึงหัวเราะอย่างเย็นชา “เช่นนั้น เจ้าจะรับโทษทางเฟยเฟยอย่างนั้นหรือ”
“เสด็จแม่…”
แต่โม่เฟยเฟยเพิ่งอ้าปาก ก็ถูกสายตาหยุนหว่านหนิงหยุดเอาไว้ “เพคะ”
นางพยักหน้า “หม่อมฉันจะรับโทษแทนเฟยเฟยเองเพคะ”
โม่เฟยเฟยตื้นตัน “พี่สะใภ้…”
“เฟยเฟย ไปนั่ง”
หยุนหว่านหนิงบุ้ยปากกับนาง
โม่เฟยเฟยได้แต่เดินไปอยู่ด้านข้าง แต่ฮองเฮาจ้าวไม่อนุญาตให้นั่ง นางจึงไม่กล้านั่ง ได้แต่ยืนอยู่ข้างซุนตายิ่ง ทั้งสองต่างมองกันไม่รื่นตา
หยุนหว่านหนิงไม่รีบร้อน
อย่างไรเสีย การคุกเข่าในวันนี้ นอกเสียจากจะตีขานางให้หัก ไม่อย่างนั้นผู้ใดก็อย่าหวังให้นางคุกเข่า!
สำหรับการรับผิดแทนโม่เฟยเฟย…
นั่นก็แค่คำพูดประโยคเดียว สามารถดึงโม่เฟยเฟยเข้าร่วมเป็นพวกเดียวกับนางได้โดยสมบูรณ์ได้
ไฉนนางจะไม่ทำล่ะ
“เสด็จแม่ทรงทราบหรือไม่เพคะ เหตุใดวันนี้หม่อมฉันต้องรื้อตำหนักซีเยว่ด้วย”
ฮองเฮาจ้าวขมวดคิ้วมุ่น “ข้าจะฟังการแก้ตัวของเจ้า”
ที่แรกนางจะถาม แต่ถูกหยุนหว่านหนิงตัดหน้าไปก่อน ถูกนางยึดครองสิทธิ์เริ่มต้น ฮองเฮาจ้าวจึงดูเป็นฝ่ายถูกบุกอย่างเห็นได้ชัดทันที ดังนั้นจึงไม่ค่อยสบอารมณ์
“นี่น่าอายยิ่งนัก”
หยุนหว่านหนิงยิ้มแฉ่ง
ฮองเฮาจ้าว “…ข้าให้หน้าเจ้าหรือ!”
หยุนหว่านหนิงจึงกระแอมกระไอทีหนึ่ง เอ่ยด้วยความจริงจัง “เสด็จแม่มิทรงทราบ ซุนตายิ่งผู้นี้ ยามนี้กำลังเป็นที่โปรดปราน จึงอาศัยฐานะสนมโปรดทำตามอำเภอใจอยู่ในวังหลังเพคะ!”
“เฟยเฟยเป็นถึงองค์หญิงเก้า นางกลับเป่าหูเสด็จพ่อ จะให้เฟยเฟยแต่งกับซุนต้าเฉียง พี่ชายคนโตจอมอันธพาลของนาง”
ซุนตายิ่งหน้าตึง มองฮองเฮาจ้าวด้วยความตื่นตระหนก
แน่นอนว่ากิริยาเล็กน้อยนี้ย่อมหนีไม่พ้นดวงตาทั้งสองของหยุนหว่านหนิง
นางรู้อยู่แล้วเชียว ต้องมีคนให้ท้ายอยู่ข้างหลังซุนตายิ่งแน่
ยังนึกว่าจะเป็นใคร วันนี้พอเห็นก็เข้าใจทันที
ฮองเฮาจ้าวนี่เอง!
แต่ดูแล้วฮองเฮาจ้าวไม่รู้เห็นกับเรื่องนี้ ซุนตายิ่งคิดเองทำเอง!
หยุนหว่านหนิงพอเข้าใจแล้ว
พอเห็นสายตาฮองเฮาจ้าวเคร่งเครียด นางจึงเอ่ย “เสด็จแม่ ถึงเฟยเฟยยังไม่เคยพูดเรื่องแต่งงาน แต่นางก็เป็นหน้าตาของราชวงศ์ จะแต่งกับจอมอันธพาลได้อย่างไร”
“นี่มิใช่จะให้คนหัวเราะเยาะหรือ”
“หากข่าวแพร่ออกไป ยังไม่แน่ว่าจะมีคนวิพากษ์วิจารณ์ลับหลัง บอกว่าเสด็จแม่พระทัยคับแคบกับเฟยเฟย ดังนั้นจึงจงใจให้นางแต่งกับซุนต้าเฉียง”
“ข้าหรือจะทำเช่นนั้น!”
ฮองเฮาจ้าวตบโต๊ะ
“ก็นั่นนะสิเพคะ! ที่หม่อมฉันทำในวันนี้ ล้วนเพื่อปกป้องพระนามและพระเกียรติของเสด็จแม่!”
หยุนหว่านหนิงมองซุนตายิ่ง ชิงชังดั่งศัตรู “ฉะนั้นเสด็จแม่ทรงคิดว่า ซุนตายิ่งสมควรถูกลงโทษหรือไม่เพคะ!”
“อีกอย่าง หม่อมฉันก็แค่รื้อตำหนักซีเยว่ของนาง ไม่ได้ทำอะไรนางสักหน่อย ซุนตายิ่งควรรับโทษอย่างไร เสด็จแม่ล้วนเป็นผู้ตัดสิน หม่อมฉันมิกล้าทำเกินหน้าที่เพคะ!”
เมื่อได้ยินดังนั้น ฮองเฮาจ้าวถึงกับพยักหน้าอย่างไม่รู้ตัว!
ซุนตายิ่งหน้าถอดสี
พระชายาหมิงผู้นี้ หาเรื่องไม่ได้จริงๆ!
พูดแค่ไม่กี่คำก็พลิกสถานการณ์ได้แล้ว!
พอเห็นสีหน้าฮองเฮาจ้าว นางก็รู้ว่าวันนี้ตนยากจะพ้นเคราะห์แล้ว…
ซุนตายิ่งคุกเข่าลง ยอมรับผิดอย่างรู้สถานการณ์ “เหนียงเหนียงไว้ชีวิตด้วยเพคะ! หม่อมฉันเห็นว่าพี่ชายอายุมากขึ้นทุกวัน แต่ยังคงอยู่ตัวคนเดียว…”
“ฉะนั้นเจ้าก็เลยกล้าวางแผนกับเฟยเฟย?”
ไม่รอให้ฮองเฮาจ้าวพูด หยุนหว่านหนิงก็ชิงพูดก่อน “หรือว่าเรื่องอย่างนี้ไม่ควรเป็นเสด็จแม่ตัดสินใจหรือ”
“เจ้าเป็นแค่ตาอิ้งเล็กๆ เพิ่งเป็นที่โปรดปรานได้กี่วัน ถึงก็กล้าตัดสินใจแทนเสด็จแม่ ขี่ขึ้นพระเศียรเสด็จแม่เบ่งบุญเบ่งบารมีหรือ ซุนตายิ่ง ความคิดชั่วๆ นี้ของเจ้า ทุกคนต่างรู้หรอกน่า!”
“เจ้าไม่เพียงแต่ลบหลู่เบื้องสูง ยังคิดจะปิดบังวังหลัง ในสายตาของเจ้ายังมีเสด็จแม่ที่เป็นฮองเฮาอีกหรือไม่”
หยุนหว่านหนิงมองนางอย่างเคียดแค้น
ใช้ถ้อยคำที่ซุนตายิ่งยุแยงฮองเฮาจ้าวลงโทษนางเมื่อครู่ กลับคืนให้นางอย่างครบทุกกระบวนความ!
กล่าวจบ หยุนหว่านหนิงก็มองฮองเฮาจ้าว “เสด็จแม่ หม่อมฉันทนไม่ได้เพคะ! ดังนั้นถึงได้ลงโทษซุนตายิ่งโดยพลการ เสด็จแม่โปรดวินิจฉัยด้วย!”
ครั้นถูกนางยุแหย่ เพลิงพิโรธของฮองเฮาจ้าวก็พุ่งทะยานขึ้นฟ้า!
นางไม่ให้โอกาสซุนตายิ่งแก้ต่าง เปล่งเสียงด้วยความโกรธ “ใครก็ได้! ลากตัวซุนตายิ่งออกไป โบยหนักสามสิบไม้!”
ซุนตายิ่งกรีดร้องพลางถูกลากตัวออกไป
เมื่อนั้นอารมณ์ฮองเฮาจ้าวจึงปลอดโปร่งขึ้นมาหน่อย
นางมองหยุนหว่านหนิงด้วยสายตาเย็นชา “สำหรับเจ้า…”
ยังไม่ทันกล่าวจบ ทางปากประตูก็มีเสียงเย็นเยือกดังมาก “นาง ลูกจะนำตัวไปพ่ะย่ะค่ะ”
ไม่ต้องหันหลัง หยุนหว่านหนิงก็รู้ว่าใครมา
เฮอะ โม่จงหรานไม่ทันมาให้ท้ายนาง โม่เยว่มาเสียได้…ตาคนนี้เพิ่งพบมโนธรรมหรือ วันนี้ถึงได้มาปกป้องนาง!
โม่เฟยเฟยทั้งตกใจทั้งดีใจ “พี่เจ็ด!”
ฮองเฮาจ้าวหน้าขรึม
บัดนี้ พอได้เห็นโม่เยว่กับหยุนหว่านหนิงทีไร นางก็ปวดหัวทุกที
พอเห็นโม่เยว่หน้านิ่งเดินเข้ามา หนังตาข้างขวาของฮองเฮาจ้าวก็กระตุก
สัญชาตญาณบอกนาง เจ้าเจ็ดผู้มาไม่ประสงค์ดี!