อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ - บทที่ 191 ชื่อเสียงเหม็นโฉ่ทั่วตลาด
อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ บทที่ 191 ชื่อเสียงเหม็นโฉ่ทั่วตลาด
ชื่อเสียง ‘ดาวหายนะ’ ของโม่หุยเฟิงแพร่สะพัดในเมืองหลวงแล้ว
หยุนธิงหลานยังไม่ทันคิดวิธีช่วยเหลือโม่หุยเฟิง ไหนเลยจะรู้ว่าตัวเองก็ประสบกับปัญหาเช่นกัน ชื่อเสียงเหม็นโฉ่ทั่วตลาดแล้ว
ตั้งแต่หัวตลาดยันท้ายซอยล้วนกำลังวิพากษ์วิจารณ์เรื่อง ‘คุณหนูรองหยุนท้องก่อนแต่ง’
“อะไรนะ! ท้องก่อนแต่ง!”
หยุนธิงหลานฟังการรายงานของคนรับใช้ โมโหจนใบหน้าและลำคอแดงก่ำ “อยู่ดีๆ ทำไมถือลือว่าข้าท้องก่อนแต่งได้! ข้าท้องก่อนแต่งที่ไหนกัน!”
หากบอกว่านางมีอะไรกับโม่หุยเฟิงยังแล้วไป
แต่กลับลือว่านางท้องก่อนแต่ง!
ถ้าข่าวลือนี้แพร่ออกไป ต่อไปนางต้องมองหน้าคนไม่ติดแน่!
หยุนธิงหลานโมโหขว้างปาแจกันทั่วพื้นก็ยังไม่คลายโมโห!
แต่นางยังไม่ทันระบายอารมณ์เสร็จ สาวใช้อีกคนหนึ่งก็กระหืดกระหอบวิ่งกลับมารายงาน “คุณหนู คุณหนู เกิดเรื่องใหญ่แล้วเจ้าค่ะ!”
“ตอนนี้ในเมืองหลวงไม่เพียงแต่มีข่าวลือว่าท่านท้องก่อนแต่ง ยังบอกว่าท่านทำแท้งด้วยเจ้าค่ะ!”
“อะไรนะ!”
หยุนธิงหลานปากอ้าตาค้าง “เจ้าพูดอีกทีสิ!”
“ทำแท้ง?!”
อะไรก็พูดออกมาได้จริงๆ!
สมัยนี้กล่าวหาคนไม่มีความผิดจริงๆ ดังนั้นคนพวกนี้คิดจะพูดอะไรก็พูด?
“ข้ายังไม่เคยท้องเลย จะเอาเด็กมาจากที่ไหน!”
หยุนธิงหลานเดือดดาลจนตัวสั่น
เนื่องจากเรื่องของหยุนธิงธิง นางเฉินถูกหยุนเจิ้นซงลดตำแหน่งไปเป็นเหมือนเดิมแล้ว กลายเป็นอี๋เหนียงของจวน ไม่ใช่ฮูหยินหยุนผู้สูงส่งในปกติอีก
นางถูกกักบริเวณอยู่ในเรือนนอน จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ถูกปล่อยออกมา
ต่อให้หยุนธิงหลานอยากหาคนปรึกษาเรื่องนี้ก็ไม่มี
นางเคยคิดจะไปปรึกษากับหยุนเจิ้นซง
แต่เพราะเรื่องของโม่หุยเฟิง ตอนนี้หยุนเจิ้นซงจึงกำลังร้อนใจอยู่ ถ้านางไปตอนนี้อีก…แถมยังเอาเรื่องวุ่นวายใจพวกนี้ไปรบกวนเขา ไม่แน่ว่าวันนี้นางอาจถูกสั่งสอนด้วยก็เป็นได้
ตอนนี้ คิดว่าควรคลี่คลายวิกฤตนี้อย่างไรก่อนจะดีกว่า!
หยุนธิงหลานกัดฟันแน่น แก้มเกร็งหนัก “สืบ! ไปสืบให้ชัดเดี๋ยวนี้ ข่าวลือเรื่องนี้มาจากไหนกันแน่!”
“หาตัวมันให้พบ ข้าจะฉีกมันเป็นชิ้นๆ!”
นางทำหน้าดุดัน
แต่น่าเสียดาย หยุนธิงหลานยังไม่ทันสืบตัวการที่อยู่เบื้องหลัง ข่าวนี้ก็เป็นดั่งสายลมพัดโบก แพร่ไปทั่วเมืองหลวงแล้ว
แม้แต่ฮองเฮาจ้าวก็ได้ข่าวแล้วเช่นกัน
“ท้องก่อนแต่ง? ทำแท้ง?!”
นางขมวดคิ้วมุ่น “นี่เป็นคำพูดของไอ้บัดซบที่ไหน!”
ถ้าหยุนธิงหลานท้องลูกของโม่หุยเฟิง ก็คือเรื่องดีเทียมฟ้า ทำไมถึงทำแท้งเล่า!
จางหมัวมัวมองนางด้วยความระมัดระวัง “เหนียงเหนียง ข่าวลือบอกว่า คุณ คุณหนูรองหยุนทำแท้ง แต่มิได้บอกว่าเป็นของอ๋องหยิงนี่เพคะ!”
“ไม่ใช่ของเฟิงเอ๋อร์? แล้วเป็นของใคร!”
ฮองเฮาจ้าวมองจางหมัวมัวด้วยความดูแคลน “หรือว่า ยังจะมีคนอื่นอีกหรือ!”
นางรู้ว่าหยุนธิงหลานมีใจกับโม่หุยเฟิง
ให้นางกล้าอย่างไร ก็คงไม่กล้าหักหลังโม่หุยเฟิงกระมัง
“เหนียงเหนียง มิใช่บ่าวพูดมาก”
จางหมัวมัวก้มหน้า เอ่ยอย่างมีระเบียบ “บ่าวได้ยินมาว่า ระยะก่อนอ๋องหยิงไปชายแดน คุณหนูรองหยุนเจ็บใจที่ถูกทิ้งให้ว้าเหว่ จึง…กับบ่าวไพร่…”
อย่างไรจางหมัวมัวก็พูดคำว่า ‘ลักเล่น’ สองคำนี้ไม่ออก
นางยังไม่ทันกล่าวจบ ฮองเฮาจ้าวก็เข้าใจความหมายของนางทันที
“อ้อ? ยังมีเรื่องเช่นนี้ด้วยหรือ!”
“เพคะ เหนียงเหนียง”
จางหมัวมัวรีบพูด “เห็นว่าช่วงที่คุณหนูรองหยุนทำแท้ง ก็คือหนึ่งเดือนก่อนที่ท่านอ๋องจะกลับเมืองหลวง! บ่าวบังอาจเดา ต้องเป็นเพราะกลัวท่านอ๋องจะทราบแน่เพคะ”
“ฉะนั้น คุณหนูรองหยุนถึงได้…”
ทำแท้ง
“เป็นไปได้อย่างมาก”
ครั้นฟังนางกล่าวเช่นนี้ ฮองเฮาจ้าวก็รู้สึกว่าเป็นไปได้มาก ดังนั้นจึงพยักหน้าพลางเอ่ยอย่างมีความคิด “ถ้าเป็นอย่างนี้จริง ผู้หญิงมักง่ายเช่นนี้ ไม่เอาก็ช่างเถอะ! ”
“แต่ตอนนี้ทางฝ่าบาท”
ชะงักครู่หนึ่ง ฮองเฮาจ้าวก็ย่ำเท้าอยู่กับที่ด้วยความกังวล
นางเดินไปเดินมาหลายครั้งแล้ว ครั้งนี้โกรธจนกัดฟัน “ดาวหายนะนั่นมิใช่โม่เยว่หรือ! ทำไมจู่ๆ ก็กลายมาเป็นเฟิงเอ๋อร์ได้!”
“เห็นว่า ซ่งจื่ออวี๋คือคนที่หยุนหว่านหนิงกับโม่เยว่เสนอกับฝ่าบาทเพคะ”
ฮองเฮาจ้าวตบโต๊ะ “ถ้าอย่างนั้นชื่อดาวหายนะของเฟิงเอ๋อร์ ก็คงเป็นฝีมือของพวกมันเหมือนกันสินะ!”
จางหมัวมัวไม่กล้าต่อความไปเรื่อย ได้แต่ยืนอย่างกล้าๆ กลัวๆ อยู่ด้านข้าง
ครั้งนี้โม่จงหรานพิโรธหนักใน ฮองเฮาจ้าวไปพบเขาหลายต่อหลายครั้ง แต่กลับถูกกันให้อยู่ข้างนอก
โม่จงหรานถึงกับประกาศกร้าว หากฮองเฮาจ้าวกล้าพูดมาก จะขังนางด้วยอีกคน!
ด้วยเช่นนี้ ฮองเฮาจ้าวจึงไม่กล้าทำการพลการอีก
หากนางล้ม ก็จะยิ่งไม่มีคนช่วยเฟิงเอ๋อร์!
ฉินซื่อเสวียรีบไปหาฉินตงหลินเหมือนกัน ให้เขาคิดหาวิธีให้ได้ แต่เพราะเรื่องแอบขโมยป้ายคำสั่งเมื่อก่อนหน้านี้ ดังนั้นฉินตงหลินจึงถูกโม่จงหรานลงโทษหนัก
ตอนนี้ เขาไม่มีปากไม่มีเสียงในราชสำนักแล้ว
ฮองเฮาจ้าวประหนึ่งมดบนหม้อร้อน ร้อนรนวิ่งเต้นเป็นพัลวัน
…
จวนอ๋องหมิง
หรูอวี้กำลังรายงานหยุนหว่านหนิง “พระชายา ข้าน้อยทำงาน ท่านวางใจได้เลย! ข้าน้อยทำตามที่ท่านสั่ง ปล่อยข่าวนี้แพร่ไปทั้งเมืองหลวงแล้วขอรับ!”
“ตอนนี้ น่ากลัวว่าหยุนธิงหลานคงไม่กล้าโผล่หน้าแล้วกระมัง”
“อืม เจ้าทำได้ดีมาก”
หยุนหว่านหนิงพยักหน้าด้วยความพอใจ “เงินที่ข้ารับปากเจ้า ต้องให้เจ้าแน่นอน”
“ขอรับ ข้าน้อยร่วมมือกับพระชายาหลายครั้งขนาดนี้แล้ว หรือจะยังไม่รู้พระชายาอีกหรือ พระชายาทำตามคำพูดเสมอ ข้าน้อยเชื่อทั้งร้อยเลย”
ประจบประแจงเกินงาม
“เจ้าไสหัวไปเถอะ!”
หยุนหว่านหนิงถีบออกไป “ยังมีหน้ามาพูดอีก! เรื่องที่ข้าให้เจ้าไปทำ เจ้ายังต่อรองราคาค่าตอบแทนกับข้าอีกแน่ะ!”
ยังมีหน้ามาพูดว่า ‘ร่วมมือหลายครั้งขนาดนี้’ อีก
ใครร่วมมือกับเจ้าหลายครั้งขนาดนี้!
แค่เห็นแก่ที่เขาเป็นคนของโม่เยว่ นาง…ใช้ไม่ได้ ก็เลยต้องใช้เงินทุ่ม ใช้เงินซื้อตัวเท่านั้น!
หรูอวี้หัวเราะฮี่ๆ เข้ามาใกล้ “พระชายา ท่านว่าตอนนี้จวนยิ่งกั๋วกงจะร้อนใจจนอยู่ไม่สุขแล้วหรือไม่ขอรับ”
“ก็ต้องอยู่ไม่สุขอยู่แล้ว”
หยุนหว่านหนิงหัวเราะอย่างเย็นชา
นางกำลังนึกย้อนเมื่อสี่ปีก่อน เรื่องเหล่านั้นที่หยุนธิงหลานทำกับนางอย่างลับๆ…
ทีแรกกะว่าจัดการฉินซื่อเสวียแล้ว ค่อยจัดการหยุนธิงหลานดีๆ
แต่ครั้งนี้ นางกลับอดใจไม่ไหวแส่มาหาเรื่องเอง ถึงกลับกล้ายื่นมือไปทางหยวนเป่า บุตรชายคือขีดสุดของหยุนหว่านหนิง ดังนั้นนางย่อมไม่ปล่อยหยุนธิงหลานไปง่ายๆ อยู่แล้ว!
นึกย้อนเมื่อสี่ปีก่อน กล่าวหาว่านางลักลอบคบหากับบ่าวไพร่ในบ้าน…
หยุนหว่านหนิงสืบความชัดเจนแล้ว เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับหยุนธิงหลาน
เป็นนางนั่นแหละที่บอกฉินซื่อเสวียเป็นนัย ซื้อตัวบ่าวในจวนอ๋องหมิง ทำให้โม่เยว่เข้าใจผิด
พูดง่ายๆ ก็คือ ต้นตอมาจากหยุนธิงหลาน
ครั้งนี้นางก็ใช้วิธีการที่หยุนธิงหลานเคยใช้กับนาง คืนให้หยุนธิงหลานเป็นสองเท่า
นางจะดูสิว่าต่อไปหยุนธิงหลานจะก้มหน้าก้มตา หรือว่า…จะกล้ามากำแหงต่อหน้านางอีกหรือไม่!
หยุนหว่านหนิงยกยิ้มขึ้นช้าๆ ใบหน้าฉายรอยยิ้มเหี้ยมโหดเย็นชา “ตอนนี้ หยุนธิงหลานต้องเป็นเหมือนแมลงวันหลงทิศ ร้อนรนวิ่งพล่านอยู่กระมัง”