อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ - บทที่ 198 ตกรางวัล มอบเป็นมรดกตกทอด
เพราะของที่เต๋อเฟยชอบตกรางวัลให้นางมากที่สุด ก็คือน้ำป่ายฮัว
เต๋อเฟยมีของดีกองเต็มตำหนักหย่งโซ่ว แต่กลับมีนิสัยหวงของ…พอได้ยินเต๋อเฟยบอกว่าจะตกรางวัลแก่นาง ปฏิกิริยาแรกของหยุนหว่านหนิงก็คือ น้ำป่ายฮัว?!
แต่วันนี้กลับมือเติบอย่างยากจะเห็น ถึงกับประทานเครื่องประดับศีรษะทองคำบริสุทธิ์ให้หยุนหว่านหนิงหนึ่งชุด!
เซี่ยอี่วเปิดกล่องผ้าแพร ทองข้างในระยิบระยับ เกือบแยงตาหยุนหว่านหนิงบอดแล้ว!
วันนี้เต๋อเฟยมือเติบจริงๆ!
ทำจากทองคำบริสุทธิ์ เหมาะกับบุคลิกนางจริงๆ…
เมื่อเห็นเครื่องประดับศีรษะทองคำหรูหราชุดนี้แล้ว หยุนหว่านหนิงก็ตกตะลึง ยืนยันอีกครั้ง “เสด็จแม่ จะประทานของสิ่งนี้ให้หม่อมฉันจริงหรือเพคะ”
“อืม ชอบมากใช่หรือไม่ ตื่นเต้นมาก?”
เห็นท่าทางหน้าทึ่งตาค้างของหยุนหว่านหนิง เต๋อเฟยก็ยิ้มพอใจ
นางวางถ้วยน้ำชา “เครื่องประดับศีรษะชุดนี้ คือของขวัญชิ้นแรกที่เสด็จพ่อเจ้ามอบให้ข้า”
หยุนหว่านหนิง “…”
นางดูออกจากตรงไหนว่านางชอบมาก!
ตื่นเต้นมาก?!
“ที่แท้ก็คือของขวัญชิ้นแรกที่เสด็จพ่อทรงประทานให้ท่าน ของขวัญชิ้นนี้ พิเศษมากจริงๆ ดังนั้นปีนั้น เสด็จแม่จึงตกเป็นเชลยของของขวัญชิ้นนี้หรือเพคะ”
หยุนหว่านหนิงหัวเราะเหอะ “เสด็จพ่อลงทุนได้จริงๆ”
“ใช่สิ เจ้าดูทองคำระยิบระยับนี่ งามขนาดไหน! แล้วยังเรียกทรัพย์อีก!”
เต๋อเฟยยิ้มหน้าบาน
หยุนหว่านหนิง “…”
“เครื่องประดับศีรษะชุดนี้ ข้าจะมอบให้เจ้า ต่อไปเจ้ามีสะใภ้แล้ว ก็ให้สืบต่อกันไปเถอะ!”
ใช้เป็นมรดกตกทอด!
หลังจากออกมาจากตำหนักหย่งโซ่ว หยุนหว่านหนิงก็กอดกล่องผ้าแพรไปตระกูลกู้ นางปรึกษากับกู้ป๋อจ้ง ต่อไปหยวนเป่าจะเรียนหนังสือแต่ตอนเช้า ตอนบ่ายเป็นเวลาเสรี
ก็เด็กน่ะนะ ต้องเรียนหนังสือ แต่ก็ต้องออกกำลังกายด้วย
ถึงหยวนเป่ายังเด็ก แต่ก็ฉลาดหลักแหลม แม้แต่กู้ป๋อจ้งยังบอกว่าในบรรดาองค์ชายฮ่องเต้เหล่านั้นที่เขาเคยสอนมา ยังไม่มีใครฉลาดเท่าหยวนเป่าเลย
หยุนหว่านหนิงอยากให้เขามีวัยเยาว์ที่มีความสุข
ในอนาคตเมื่อเขานึกถึงวัยเยาว์ก็จะมีแต่ความสุข ไม่ใช่การถูกขังให้เรียนหนังสืออยู่ในจวนทุกวัน ซ้ำซากจำเจ ไร้รสชาติ
เมื่อเห็นนางกอดกล่องผ้าแพร กู้ป๋อจ้งก็ถาม “นั่นคืออะไร”
“เสด็จแม่ประทานให้”
หยุนหว่านหนิงตอบตามความจริง “เป็นเครื่องประดับศีรษะที่ทำจากทองคำบริสุทธิ์ชุดหนึ่ง”
“โอ! เที่ยวนี้เต๋อเฟยช่างมือเติบยิ่งนัก! ดูท่าจะเปลี่ยนท่าที เปลี่ยนทัศนคติกับเจ้าที่เป็นลูกสะใภ้คนนี้แล้ว”
กู้ป๋อจ้งก็ตะลึงเหมือนกัน
ดูท่าคนที่เห็นว่าเต๋อเฟยขี้เหนียว คงไม่ได้มีนางคนเดียวแล้ว!
หยุนหว่านหนิงเดาะลิ้น พาหยวนเป่ากลับจวนอ๋องหมิง
“เจ้าลูกชาย วันนี้อากาศแจ่มใสมาก ข้าพาเจ้าไปตกปลาก็แล้วกัน!”
“ดี!”
หยวนเป่าโบกมือดีใจลิงโลด!
เจ้าตัวเล็กไปมาอยู่แต่ตระกูลกู้และจวนอ๋องหมิง ใช้ชีวิตอยู่แค่สองที่ทำให้เขาเบื่อหน่ายบ้างแล้ว วันนี้พอได้ยินท่านแม่บอกว่าจะพาเขาไปตกปลา หยวนเป่าก็สุขสันต์ถึงที่สุด!
ไหนเลยจะรู้ พอสองแม่ลูกเพิ่งออกจากเรือนชิงหยิ่ง ก็พบกับซ่งจื่ออวี๋
“พวกท่านจะไปตกปลาหรือ”
“เจ้ารู้ได้อย่างไร”
พอกล่าวจบ หยุนหว่านหนิงก็รู้สึกว่าตัวเองเหมือนคนโง่งม
คนคนนี้คือซ่งจื่ออวี๋เชียวนะ!
ซ่งจื่ออวี๋ผู้รู้อนาคตกาลโดยมิต้องทำนาย!
ที่นางถามนี่ไม่ใช่คำถามโง่ๆ หรือ
ซ่งจื่ออวี๋ยิ้มน้อยๆ “วันนี้แม้ท้องฟ้าแจ่มใส แต่ข้าไม่แนะนำให้พวกท่านไปตกปลาหรอกนะ”
ได้ยินดังนั้น หยุนหว่านหนิงก็ขมวดคิ้วมุ่น “เพราะเหตุใด”
นางหามเบ็ดตกปลายาวๆ ไว้ที่บ่า มือหนึ่งถือกล่องอาหาร ข้างในมีขนมและผลไม้ อีกมือหนึ่งวางอยู่บนไหล่ของหยวนเป่า
หยวนเป่ากำลังถือถังใบเล็กอยู่ ข้างในมีเหยื่อล่อปลา
สองแม่ลูกใส่หมวกปีกกว้าง จ้องขนมในมือของซ่งจื่ออวี๋อย่างใจตรงกันที่สุด
เขามองตามเส้นสายตาของสองแม่ลูก จากนั้นก็หัวเราะเบาๆ
“นี่คือขนมที่ข้าเพิ่งซื้อมา เดิมทีคิดจะนำไปให้ท่านอาจารย์ที่ภูเขาหยุนอู้”
ซ่งจื่ออวี๋ยื่นขนมไปให้พวกเขา “พวกท่านเอาไปกินก่อนเถอะ ข้าจะไปต่อแถวซื้อให้ท่านอาจารย์ใหม่”
“เช่นนั้นจะได้อย่างไร”
หยุนหว่านหนิงยิ้มเกรงใจ จิ้มๆ ศีรษะด้านหลังของหยวนเป่าทีหนึ่งเบาๆ
หยวนเป่ารับขนมมาทันที เอ่ยอย่างน่ารักน่าชัง “ขอบคุณอาซ่ง!”
เสียงทั้งดังทั้งกังวาน
ซ่งจื่ออวี๋ส่ายหน้า “ไม่เป็นไร”
หยุนหว่านหนิงถาม “วันนี้ไม่เหมาะกับการออกบ้านหรือ พวกเราไปตกปลาไม่ได้หรือ”
ซ่งจื่ออวี๋ไม่ได้ตอบโดยตรง เอ่ยเพียง “ตัวของหยวนเป่ายังไม่เป็นที่เปิดเผย ท่านพาเขาออกไปอย่างนี้ ง่ายต่อการนำภัยมาสู่ตัว”
“ก็จริง”
หยุนหว่านหนิงพยักหน้าอย่างมีความคิด
เมื่อนั้นก็ล้วงหน้ากากจากช่องว่างใส่ให้หยวนเป่าต่อหน้าซ่งจื่ออวี๋
ภาพบนหน้ากาก คือลิงน้อยน่ารักตัวหนึ่ง
“คราวนี้ก็ไม่เห็นหน้าของเขาแล้วกระมัง!”
หยุนหว่านหนิงตบมือ ยิ้มเจ้าเล่ห์
เมื่อครู่ที่นางล้วงหน้ากากออกมาจากช่องว่างต่อหน้าซ่งจื่ออวี๋โดยตรง ไม่มีความกังวลอะไร เพราะซ่งจื่ออวี๋รู้แต่แรกแล้วว่านางไม่ใช่คนธรรมดา
และยังเคยถามแบบไม่ได้ตั้งใจ แต่ถูกหยุนหว่านหนิงกลบเกลื่อนไปเสีย
ซ่งจื่ออวี๋มีความสามารถเหนือธรรมชาติ จะไม่รู้ความลับของนางได้อย่างไร
หยุนหว่านหนิงมองเขาหัวเราะคิกคัก ไม่คิดปกปิด หยิบเนื้อแห้งออกมายื่นให้เขาถุงหนึ่ง “เอาไปให้เสวียนซันเซียนเซิงด้วย บอกว่าข้าให้เขา”
ซ่งจื่ออวี๋เพ่งพิจกำไลหยกตรงข้อมือนาง “ได้”
เขารับเนื้อแห้งมา เก็บไว้ในแขนเสื้อ
“พวกท่านอยากไปตกปลาก็ได้ แต่อยู่ให้ห่างน้ำหน่อย”
กล่าวจบ ซ่งจื่ออวี๋ก็จากไปอย่างหัวก็ไม่หัน
หยวนเป่าแหงนหน้า “ท่านแม่ ทำไมอาซ่งถึงบอกให้เราห่างจากน้ำหน่อย ตกปลามิต้องอยู่ริมน้ำหรือ อยู่ห่างๆ แล้วจะตกปลาได้อย่างไร”
นี่ก็คือข้อสงสัยในใจหยุนหว่านหนิงเช่นกัน
เพียงแต่เห็นท่าทางที่หยวนเป่าใส่หน้ากากน่ารักแล้ว ในใจเกิดความชอบ ดีดหน้าผากเขาเบาๆ “ไม่เป็นไร”
“วันนี้ไม่เหมาะแก่การตกปลา ข้าจะพาเจ้าไปเล่นอย่างอื่น!”
นางเก็บเบ็ดตกปลาและของอย่างอื่นเข้าช่องว่าง “พวกเราไปเดินเล่นกันเถอะ”
ในเมื่อซ่งจื่ออวี๋เตือนแล้ว ไม่เหมาะตกปลา…
เช่นนั้นก็หมายถึง พวกเขาอาจพบกับอันตรายอะไร
และยังเกี่ยวกับน้ำอีกด้วย!
หยวนเป่างอนเล็กน้อย
แต่ก็ยังพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง “อย่างนั้นก็ได้”
เขายื่นถังใบเล็กให้หยุนหว่านหนิง มือน้อยๆ จับหน้ากาก “ท่านแม่ ข้าใส่หน้ากากนี้ตลอดเลยได้หรือไม่ ข้าชอบยิ่งนัก!”
หยุนหว่านหนิงปวดใจ ราวกับถูกอะไรทิ่มตำ เจ็บจี๊ดๆ
จากนั้น ความเจ็บปวดนี้ก็แผ่ขยาย ระทมใจ
“ได้”
นางย่อตัวลง ประคองใบหน้าหยวนเป่า “หยวนเป่า ถ้าชอบ ต่อไปข้าจะซื้อลายอื่นให้เจ้าอีกหลายๆ อันนะ”
“ดีหรือไม่”
“ดี!”
หยวนเป่าดีใจจนโบกไม้โบกมือ
ปกติเจ้าตัวน้อยมักสุขุมราวกับเด็กแก่ ตอนนี้คือหยวนเป่ามีท่าทางเหมือนเด็กอย่างที่หยุนหว่านหนิงยากจะได้เห็น
นางพรูลม “ไปกันเถอะ! พวกเราไปเดินเล่น!”
ไหนเลยจะรู้ พอสองแม่ลูกเพิ่งหมุนตัว ก็ชนเข้ากับอ้อมอกกว้างล่ำบึกหนึ่ง “ไปไหน”
สองแม่ลูกนวดหน้าผากแบบใจตรงกัน พูดขึ้นอย่างพร้อมเพรียง “เดินไม่ลืมตาหรือ!”
โม่เยว่ “…”
เมื่อครู่ไม่ใช่พวกเขาสองแม่ลูกชนกับอกเขาเองหรือ!
ไฉนจึงโทษว่าเขาเดินไม่ลืมตาเล่า!
ช่างเถอะ ผู้หญิงของเขา บุตรชายของเขา ทน!
โม่เยว่สูดลมหายใจเข้าลึก น้ำเสียงพกพาความไม่พอใจบางส่วน “พวกเจ้าจะไปไหน ไม่รู้หรือว่าวันนี้วันอะไร”