อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ - บทที่ 244 เต๋อเฟยหึง
อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ บทที่ 244 เต๋อเฟยหึง
“เรื่องอะไรหรือ?”
เต๋อเฟยขมวดคิ้ว”ดีที่สุดจะต้องเป็นเรื่องที่ข้าสามารถทำได้นะ”
“เสด็จแม่ไม่ต้องห่วงเพคะ สะใภ้ไม่ทำให้เจ้าลำบากใจหรอกเพคะ!”
หยุนหว่านหนิงหายใจเข้าลึกๆ และถามด้วยเสียงเบา”สะใภ้แค่อยากจะถามว่า เหตุใดไทเฮาไปรักษาโรคที่ตำหนักสิงกงมานานขนาดนี้แล้วยังไม่กลับมา?”
“ไทเฮา”
ไม่รู้ว่าทำไมอยู่ๆ นางถึงถามคำถามนี้
สายตาของเต๋อเฟยกะพริบเล็กน้อย”ทำไมอยู่ดีๆ เจ้าถึงนึกถึงไทเฮาล่ะ?”
จากความทรงจำของเจ้าของร่างเดิม ไทเฮาดีกับนางมากๆ
นี่ก็เป็นเพราะว่า ไทเฮามาจากตระกูลกู่……แต่ไม่ใช่ตระกูลกู่ในตอนนี้ แต่เป็นตระกูลย่อยของตระกูลกู่
ตระกูลกู้ในตอนนี้เป็นสายหลัก ไทเฮาและกู้ป๋อจ้งถือว่าเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน
ตระกูลย่อยไม่มีผู้สืบทอดมานาน จึงล่มจมไป
ราชสำนักและตระกูลกู่ก็มีความสัมพันธ์บางอย่างด้วย
แม้โม่จงหรานไม่ได้ออกโดยไทเฮา แต่เคารพนางมากๆ
ได้ข่าวว่าเดิมทีปีนั้นไทเฮาคิดจะประทานให้นางกู่แต่งงานกับโม่จงหราน
แต่นางกู่รักหยุนเจิ้นซงมากๆ ไม่อยากแต่งงานกับโม่จงหราน เรื่องนี้ก็เลยต้องจบลง แต่ไทเฮาก็ยังรักหยุนหว่านหนิงอยู่เหมือนเดิม
ไม่อย่างนั้น นิสัยที่หยิ่งผยองอย่างหยุนหว่านหนิง จะอยู่ต่อในเมืองหลวงได้อย่างไร?
ตอนนั้นนางทำสิ่งที่เกินไปหลายๆอย่าง ก็ไม่มีใครทำอะไรนาง เพราะว่ามีไทเฮาปกป้องอยู่!
เป็นเพราะเช่นนี้ เต๋อเฟยที่ถูกไท่เฮาจับผิดมาหลายปี ถึงเกลียดลูกสะใภ้คนนี้มากๆ
ต่อจากนั้นไป หยุนหว่านหนิงถูกกักตัวในเรือนชิงหยิ่งสี่ปี ไท่เฮาก็ตามออกไปรักษาโรคที่ตำหนักสิงกง แต่วันก่อนได้กลับเมืองหลวงเที่ยวหนึ่ง เพื่อไปเจอโม่เยว่
และวันนั้น โม่เยว่ที่โดนไทเฮาตำหนินั้น วิ่งไปคิดบัญชีกับหยุนหว่านหนิงที่เรือนชิงหยิ่งด้วยความโกรธ
ไม่คิดว่าจะเจอหยวนเป่าที่กำลังขุดหลุมอยู่ แต่กลับถูกติดอยู่ปากหลุม
หากวันนั้นได้เจอหยุนหว่านหนิงก่อน ยังไม่รู้การมีอยู่ของหยวนเป่า……
คิดว่าตอนนี้หยุนหว่านหนิงยังถูกกักตัวอยู่ในเรือนชิงหยิ่งเนอะ?
บางทีชะตาชีวิตก็เปลี่ยนแปลงไปเรื่อยแหละ
“บังเอิญคิดขึ้นมาได้เพคะ!”
หยุนหว่านหนิงยกมือไปเช็ดน้ำตา”ไทเฮาดีต่อข้ามาก ตอนนั้นข้าถูกกักตัวทำอะไรไม่ได้ แต่ในเมื่อตอนนี้ข้าปลดออกจากการกักตัว ก็ต้องไปเยี่ยมไทเฮาเพคะ”
“แถมยังไม่รู้ว่าไทเฮาป่วยหนักไหม ข้าต้องไปดูเอง”
เมื่อคืนมังกรตาเดียวทำภารกิจล้มเหลว ไม่สามารถหลอกหยุนธิงหลานออกมาได้ กลับถูกด่าไปเที่ยวหนึ่ง
ดังนั้นหยุนหว่านหนิงเลยคิดจะหายตัวไปช่วงนี้ ให้หยุนธิงหลานวางใจก่อน
ดังนั้นไปเยี่ยมไทเฮาดีกว่า……
เมื่อได้ยินไทเฮา สีหน้าของเต๋อเฟยก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่
หลายปีนี้ เนื่องจากโม่จงหรานโปรดปรานนางคนเดียว และคนอื่นก็ไม่ชอบนิสัยของนาง
ดังนั้นไทเฮาถือว่ารังเกียจนางมาก
เฉินกุ้ยเฟยเป็นคนที่ไทเฮาใช้ในการแบ่งปันอำนาจของฮองเฮาจ้าว
ซูเฟยในตอนหลัง ก็เป็นคนที่ไทเฮาใช้ในการแบ่งปันอำนาจของฮองเฮาจ้าวและเต๋อเฟย
ยิ่งอย่าไปพูดถึงว่านางลอบกัดเต๋อเฟยหลายๆอย่าง ส่อเสียดความสัมพันธ์ของนางและโม่จงหราน ได้ทำเรื่องหลายๆอย่างที่เป็นผลเสียต่อเต๋อเฟย?!
เต๋อเฟยเลยไม่มีความรู้สึกที่ดีต่อไทเฮา……
“แล้วเจ้าก็ไปดูสิ มาถามข้าทำไม”
นางวางแก้วน้ำชาในมือลง สีหน้าแย่มาก น้ำเสียงก็ไม่ค่อยดี
หลี่หมัวมัวส่งสายตาสะกิดหยุนหว่านหนิง : พระชายาอย่าพูดถึงเรื่องไทเฮาอีกเลย!
หยุนหว่านหนิงไม่รู้ว่า เต๋อเฟยและไทเฮายังมีความแค้นกันแบบนี้เลย
เห็นว่าสีหน้าของนางไม่ค่อยดี นางก็ไม่ได้ถือสา เพียงพูดว่า”สะใภ้ไม่ได้เจอไทเฮามานานแล้ว ดังนั้นเลยไม่รู้ความชอบของไทเฮาเพคะ”
“อยากมาถามเสด็จแม่ว่า ไทเฮาชอบกินอะไร?สะใภ้จะเอาจากเมืองหลวงไปให้เพคะ”
หลังจากเป็นเจ้าของร่างกายนี้แล้ว ไม่รู้เป็นเพราะเหตุที่วิญญาณถูกกินกลืนไปหรือเป็นเพราะอย่างอื่น
ความทรงจำของเจ้าของร่างเดิมค่อยๆหายไป
เต๋อเฟย”……เจ้ากตัญญูจริงๆ”
นางพูดอย่างเย็นชา
ทำไมไม่เห็นหยุนหว่านหนิงถามว่านางชอบกินอะไร ทำให้นางกินหน่อยล่ะ?!
แต่กลับเอาใจใส่ไทเฮาขนาดนี้ นี่มันตบหน้านางชัดๆไม่ใช่หรือ?
เต๋อเฟยรู้สึกหึง ไม่ค่อยสบายใจ
“ขอบคุณคำชมของเสด็จแม่เพคะ”
หยุนหว่านหนิงยิ้มแบบเชื่อฟัง
กลัวว่าเต๋อเฟยจะระเบิดทันที หลี่หมัวมัวจึงรีบพูดว่า”พระชายาเพคะ ได้ข่าวว่าไทเฮาชอบกินบัวลอยหมักสุรามากที่สุด!แต่เป็นความชอบของหลายปีก่อนแล้ว บ่าวก็ไม่ได้เจอไทเฮามานานแล้วเพคะ”
“บัวลอยหมักสุรา?งั้นวันนี้ข้าจะกลับไปทำเอง พรุ่งนี้เอาไปให้ไทเฮา”
หยุนหว่านหนิงยิ้มและลุกขึ้นมา”เสด็จแม่ สะใภ้ลาก่อนเพคะ”
“อืม”
เต๋อเฟยเปล่งเสียงออกมาจากจมูก ใช้สายตาส่งนางออกจากประตู แล้วถึงเหลือบตามองไปที่หลี่หมัวมัว”เจ้ารู้สึกว่าข้ายังเสียหน้าไม่พอหรือไง?”
“เจ้าบอกนางทำไม?!”
“เหนียงเหนียงเพคะ บ่าวรู้ว่าความสัมพันธ์ของเหนียงเหนียงและไทเฮาไม่ค่อยดี!”
หลี่หมัวมัวพูดอย่างจนปัญญา”แต่พระชายาหมิงเป็นหลานสะใภ้ของไทเฮา และยังมีความสัมพันธ์ทางสายเลือดด้วย เรื่องระหว่างเหนียงเหนียงกับไทเฮา ไม่ควรที่จะเกี่ยวโยงไปที่รุ่นหลังเพคะ!”
“และบ่าวคิดว่า ถึงแม้ไทเฮาไปรักษาโรคที่ตำหนักสิงกง”
“แต่นี่เป็นแค่คำพูดที่ประกาศต่อภายนอกเท่านั้น!บ่าวไม่ใช่ว่าไม่รู้ เหตุใดไทเฮาถึงไปตำหนักสิงกงหลายปี แล้วไม่กลับวังตลอดเลย”
หลี่หมัวมัวขมวดคิ้ว”ฝ่าบาทกตัญญูอยู่ตลอด ความคิดเห็นของไทเฮา ฝ่าบาทเชื่อฟังตลอด”
“เดิมทีไทเฮาก็รักใคร่พระชายาเป็นพิเศษ ถ้าครั้งนี้พระชายาไปประจบไทเฮา ก็มีผลประโยชน์ต่อท่านอ๋องเพคะ!”
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ความโกรธของเต๋อเฟยถึงหายไปหน่อย
“นางยังต้องประจบไทเฮาอีกหรือ?ไทเฮาโปรดปรานนางอยู่ตลอด”
นางเอ่ยเสียงเย็นชา
หลังจากดิ้นรนสักพักหนึ่งแล้ว ในที่สุดก็กระซิบว่า”ไทเฮายังชอบกินขนมมันม่วงใส่น้ำตาลทรายแดงไม่ใช่หรือ?เจ้าสั่งให้ห้องครัวทำมาประมาณหนึ่งสิ”
“ทำตามรสชาติของไทเฮา ใส่น้ำตาลทรายแดงเยอะหน่อย ไทเฮาชอบกินของหวาน”
“จากนั้นรีบส่งออกจากวัง ให้หนิงเอ๋อร์นำไปที่ตำหนักสิงกง”
นางมองออกไปนอกหน้าต่างด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยเป็นธรรมชาติ
“เหนียงเหนียง เหนียงเหนียงเป็นคนที่ปากร้ายแต่ใจดี!ถึงแม้ฮองเฮา ก็ไม่เคยใส่ใจไทเฮาขนาดนี้เลยนะ ถึงแม้เหนียงเหนียงพูดว่าแค้นต่อไทเฮา แต่ในใจก็ยังกตัญญูอยู่”
“ข้าแค่คิดว่า คนแก่อย่างนางอยู่ในตำหนักสิงกงคนเดียวคงเหงามาก!ไม่มีความหมายอย่างอื่น”
เต๋อเฟยปากร้าย”หลายปีนี้นางทำข้ายังไง เหตุใดข้าถึงต้องกตัญญูต่อนาง”
“เหนียงเหนียง……”
หลี่หมัวมัวยังพูดไม่จบ ก็ถูกเต๋อเฟยขัดจังหวะ”ให้เจ้าไปเจ้าก็ไปสิ ทำไมวันนี้ถึงพูดมากเช่นนี้?”
“เพคะ บ่าวไปเดี๋ยวนี้เพคะ”
หลี่หมัวมัวเดินออกไปด้วยรอยยิ้ม
นางรู้อยู่แก่ใจว่าเหนียงเหนียงเป็นคนนิสัยอย่างไร
หากไม่ใช่ว่ากตัญญูต่อไทเฮาจริงๆ นางจะจำรสชาติของไทเฮาได้อย่างไรล่ะ?
หลายปีนี้ ถึงแม้เต๋อเฟยน้อยมากที่จะกล่าวถึงไทเฮา
แต่หลี่หมัวมัวรู้มากกว่าใครๆทั้งสิ้น ในใจของนางใส่ใจไทเฮาอยู่
ไม่อย่างนั้น เหตุใดหลายปีนี้ถึงมักจะให้คนนำของไปให้ไทเฮาที่ตำหนักสิงกงล่ะ……
แม้กระทั่งฮองเฮา ก็ไม่ได้ใส่ใจขนาดนี้เลยนะ!
เป็นเพราะเหตุนี้ ฝ่าบาทถึงโปรดปรานเหนียงเหนียงคนเดียวมาหลายปีขนาดนี้
นางเป็นคนเหมือนพระชายาหมิง นิสัยร่าเริงแจ่มใส ไม่กลัวอะไรทั้งสิ้น แต่จริงๆแล้วสองคนนี้ล้วนเป็นคนที่ปากร้ายใจดี!
ดวงตาของฝ่าบาท มองแม่นกว่าใครๆทั้งสิ้น!
คืนวันนั้น หยุนหว่านหนิงเพิ่งทำบัวลอยหมักสุราเสร็จ หลี่หมัวมัวก็มาถึง
เห็นว่านางเอาขนมมันม่วงน้ำตาลทรายแดงมา ก็รู้ว่าเป็นของฝากที่เต๋อเฟยจะเอาให้ไทเฮา นางเลยยิ้มและรับมา
โม่เยว่รู้ว่าทางจะพบไทเฮา ก็ไม่ได้ห้าม
เพราะเขารู้ว่า ไทเฮาโปรดปรานหยุนหว่านหนิง ปฏิบัติต่อนางเหมือนหลานสาวแท้ๆ!
เช้าวันรุ่งขึ้น ก่อนที่โม้เยว่จะไปว่าราชกิจ ก็เตือนให้หยุนหว่านหนิงระมัดระวังตัวในระหว่างทาง และสั่งให้หรูอวี้และหรูเยียนปกป้องหยุนหว่านหนิงไปที่ตำหนักสิงกง
หลังจากพาหยวนเป่าไปส่งที่ตระกูลกู่แล้ว หยุนหว่านหนิงก็พาหรูอวี้และหรูเยียนนั่งรถม้าไปที่ตำหนักสิงกง……