อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ - บทที่ 262 ฮองเฮาจ้าวถูกปลด
อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ บทที่ 262 ฮองเฮาจ้าวถูกปลด
หลังจากเดินทางหามรุ่งหามค่ำ ในตอนบ่ายของวันต่อมา โม่จงหรานก็กลับมาถึงเมืองหลวง
เมื่อเห็นท่าทางที่ตื่นตระหนกของพวกเขา โมเยว่ก็ถามด้วยความสงสัย “เสด็จพ่อ ท่าทางของพวกท่าน เจอโจรภูเขาหรือพ่ะย่ะค่ะ? ”
“โจรภูเขาอะไรกัน?!”
โม่จงหรานจ้องมองเขาอย่างไม่สบอารมณ์ และสั่งให้ซูปิ่งซ่านเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เขา
หลังจากแต่งตัวเรียบร้อยแล้ว เขาก็เป็นฮ่องเต้ที่น่าเกรงขามและสง่าผ่าเผย
โม่จงหรานสวมเสื้อคลุมมังกร ทำให้ผู้คนรู้สึกหวาดกลัวในทันที
“ไปตำหนักคุนหนิง! ”
เขาพาโม่เยว่ไปที่ตำหนักคุนหนิง
ในเวลานี้ฮองเฮาจ้าวกำลังนอนกุมหน้าผากอยู่บนเตียง “ทำไมฝ่าบาทยังไม่เสด็จมา? หรือว่าข่าวที่ว่าข้าป่วยหนักยังไม่ไปถึงหูของฝ่าบาท? ”
“สถานการณ์ที่ห้องทรงพระอักษรเป็นอย่างไรบ้าง? พบฝ่าบาทหรือไม่?”
จางหมัวมัวกำลังจะตอบ ยวนยังก็รีบร้อนวิ่งเข้ามา
“เหนียงเหนียง เหนียงเหนียง ฝ่าบาทเสด็จมาแล้วเพคะ!”
“ฝ่าบาทเสด็จมาแล้วจริงๆ หรือ?!”
ฮองเฮาจ้าวดีใจมาก จากนั้นก็เอามือตบหน้า และทำท่าทางอ่อนแอไร้เรี่ยวแรง
นางชำเลืองมองหมอหลวงหยางเป็นการกล่าวเตือน “หมอหลวงหยางน่าจะรู้ว่าอีกเดี๋ยวควรจะกราบทูลฝ่าบาทอย่างไร? หากท่านกล้าพูดไร้สาระ…… ”
หมอหลวงหยางรีบปิดปาก “กระหม่อมเข้าใจพ่ะย่ะค่ะ”
ฮองเฮาจ้าวจ้องมองเขา “นับว่าเจ้ารู้จักวางตัว”
ทันทีที่พูดจบ ร่างของโม่จงหรานก็เข้ามาในห้องตำหนัก “ฮองเฮาทรงเป็นอะไร? ข้าได้ยินมาพระอาการแย่?”
“สั่งให้ทางด้านกรมพิธีการและสำนักดาราศาสตร์เริ่มเตรียมพิธีศพ?”
ฮองเฮาจ้าว “……”
ภายใต้การพยุงของจางหมัวมัว นางลุกขึ้นมานั่งอย่างอ่อนแรง “ฝ่าบาท พระองค์มาแล้ว……แค่กๆๆ หม่อมฉัน แค่กๆๆ หม่อมฉันคิดว่าจะไม่ได้เห็นฝ่าบาทเสียแล้ว……”
“พบหน้าเป็นครั้งสุดท้ายหรือ?”
โม่จงหรานนั่งลงข้างเตียงและกุมมือของนาง “ฮองเฮา เจ้าไม่ต้องกังวล”
“แม้ว่าข้าจะอยู่ไกลสุดขอบฟ้า ข้าก็จะกลับมาพบหน้าเจ้าเป็นครั้งสุดท้าย! ข้าจะออกคำสั่งให้ลงไป พิธีศพของเจ้าจะต้องได้รับการจัดอย่างสมเกียรติ ทั่วทั้งใต้หล้าร่วมกันไว้อาลัย! ”
สีหน้าของเขาดู “จริงใจ”
ฮองเฮาจ้าว “……หม่อมฉันขอบพระทัยฝ่าบาทเพคะ”
นางยังตายไม่ได้!
ฝ่าบาทกำลังสาปแช่งนางหรือ?!
“หมอหลวงหยาง เกิดอะไรขึ้นกับฮองเฮากันแน่?”
โม่จงหรานใช้สายตาที่เฉียบคมดังมีด หมอหลวงหยางตัวสั่น รีบพิจารณาและตอบ “ทูลฝ่าบาท ฮองเฮาเหนียงเหนียงทรง…… ”
“แค่กๆๆ”
ฮองเฮาจ้าวเริ่มไอขึ้นมาอีกครั้ง ราวกับเป็นการกล่าวเตือนหมอหลวงหยาง
“อา……ฮองเฮาเหนียงเหนียง ความเย็นเข้าสู่พระวรกายพ่ะย่ะค่ะ! ”
หมอหลวงหยางคิดได้ในทันที
“ความเย็นเข้าสู่ร่างกายแล้วจะตายได้อย่างไร? หรือว่าสิ่งที่เข้าสู่ร่างกายคือแท่งน้ำแข็ง?”
โม่จงหรานขมวดคิ้วและมองไปที่หมอหลวงหยางอย่างไม่พอใจ “เจ้ามันหมอไร้ฝีมือ! แม้แต่ฮองเฮาก็ยังรักษาไม่ได้!ใครก็ได้ เอาตัวโบยยี่สิบไม้!”
หมอหลวงหยางร้องขอความเมตตาในทันที
แต่ไม่นานทหารรักษาพระองค์ก็เข้ามา ปิดปากและลากตัวเขาออกไป
“ฮองเฮาเจ้าไม่ต้องกังวล หากหมอไร้ฝีมือผู้นี้ไม่สามารถรักษาเจ้าได้ ข้าจะให้ภรรยาของเจ้าเจ็ดมาตรวจดูอาการให้เจ้า!”
โม่จงหรานมองนางด้วยความ “รักอย่างสุดซึ้ง”
ฮองเฮาจ้าวใจสั่นสะท้าน “ฝ่าบาท ไม่ ไม่เป็นเพคะ”
นางหญิงชั่วผู้นั้นมีแต่จะมาทำให้นางโกรธ!
“เป็นครอบครัวเดียวกัน เจ้าไม่ต้องกังวล ภรรยาของเจ้าเจ็ดจะต้องรักษาเจ้าได้อย่างแน่นอน”
โม่จงหราน “เต็มไปด้วยความรักอันลึกซึ้ง”
ฮองเฮาใจเต้นตุ้มๆ ต่อมๆ กลัวว่าเขาจะสั่งให้คนไปเชิญหยุนหว่านหนิงเข้ามาในวัง แม้ว่าจะไม่รู้ว่านางหญิงชั่วหยุนหว่านหนิงผู้นั้นอยู่ที่ไหน ไม่เคยเห็นเข้ามาในวังเลย……
เกรงว่าจะหยุดยั้งแผนการใหญ่ แล้วทำร้ายนาง!
“ฝ่าบาท จู่ๆ หม่อมฉันก็รู้สึกว่าดีขึ้นมากแล้วเพคะ! คิดๆ ดูแล้ว โรคคงไม่ร้ายแรงมากนัก!”
ฮองเฮาจ้าวกล่าวอย่างรวดเร็ว
“เช่นนั้นหรือ? ”
โม่จงหรานขมวดคิ้ว เหลือบมองนางอย่างล้ำลึก และสีหน้าเปลี่ยนในทันที “ดีเลย! ”
“ฮองเฮากำลังหลอกลวงข้าหรือ?!”
เขาปล่อยมือของฮองเฮาจ้าวในทันที ลุกขึ้นยืนและจ้องมองนาง “บอกว่าอาการแย่ ต้องการพบหน้าข้าเป็นครั้งสุดท้าย ไม่ใช่ว่าจงใจหลอกข้าหรือ?! ”
ไม่คิดเลยว่าเขานึกจะโกรธก็โกรธ ฮองเฮาจ้าวตื่นตระหนก “ไม่ใช่เพคะฝ่าบาท”
“แค่กๆๆ หม่อมฉันป่วยจริงๆ เพคะ!”
หลังจากหยุนหว่านหนิงมาในวันนั้น นางก็รู้สึกไม่สบายเนื้อไม่สบายตัว
เดิมทีนางสงสัยว่าหยุนหว่านหนิงทำอะไรกับนาง แต่เหล่าหมอหลวงต่างตรวจไม่พบอะไร ฮองเฮาจ้าวจึงทำได้เพียงใช้กลอุบาย
ในขณะพูดนางก็ร้องไห้ และบอกว่าหลังจากที่หยุนหว่านหนิงมาในวันนั้น นางก็ป่วยมาจนถึงตอนนี้
“ฝ่าบาท หม่อมฉันไม่ใช่สงสัยภรรยาของเจ้าเจ็ดนะเพคะ”
นางมองไปที่โม่จงหรานด้วยความลำบากใจ “เพียงแต่หลังจากวันนั้น หม่อมฉันก็ไม่สบายจริงๆ เพคะ! ”
“เจ้าหมายความว่าภรรยาของเจ้าเจ็ดวางยาพิษเจ้าอย่างนั้นหรือ?”
โม่จงหรานมองนางด้วยสายตาอึมครึม
“หม่อมฉันมิกล้าเพคะ!”
ฮองเฮาจ้าวยังคงร้องไห้ด้วยความลำบากใจ “หม่อมฉันเพียงแค่สงสัย…… ”
โม่จงหรานเดินเข้ามาทีละก้าว “ข้าจะสั่งให้ภรรยาของเจ้าเจ็ดเข้ามา เจ้าสงสัยนาง ก็เท่ากับสงสัยว่าข้าสั่งให้นางวางยาพิษเจ้า?! ”
“หม่อมฉันไม่ได้หมายความว่าเช่นนั้นเพคะ……”
“ดีมากนางจ้าว! อย่างแรกคือโทษฐานหลอกลวงเบื้องสูง อย่างหลังคือใส่ร้ายและสงสัยข้า เจ้ายังมีอะไรจะพูดอีก! ”
โม่จงหรานตะโกนด้วยความโกรธ
รู้จักกับหยุนหว่านหนิงมานานแล้ว โม่จงหรานก็ได้เรียนรู้กลอุบายเช่น “นึกจะโกรธก็โกรธ” , “ลงมือก่อนได้เปรียบก่อน” , “เอาแต่กวนไม่มีเหตุผล” และอื่น ๆ
กลอุบายเหล่านี้มีประโยชน์มากในการจัดการกับฮองเฮาจ้าว!
ฮองเฮาจ้าวตกตะลึงจนพูดอะไรไม่ออก!
“เจ้ายั่วโมโหข้าได้สำเร็จแล้ว”
โม่จงหรานตะคอกอย่างเย็นชา “เห็นแก่ความเจ็บป่วยของเจ้า ข้าจะไม่เอาความ! ในเมื่อฮองเฮาป่วยก็รักษาอาการป่วยให้หายเถิด! เรื่องของตำหนักทั้งหก เจ้าไม่ต้องกังวล”
“ฝ่าบาท พระองค์หมายความว่าอย่างไรเพคะ!”
ฮองเฮาจ้าวตกตะลึง!
ตามความหมายที่เขากล่าว คือต้องการปลดนางอออก?!
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา นางไม่เป็นที่โปรดปรานของโม่จงหราน และตอนนี้โม่จงหรานก็ไม่ได้ให้ความสำคัญกับบุตรชายของนาง……
นางมีเพียงแค่อำนาจในมือ!
หากโม่จงหรานยึดอำนาจกลับไป นางก็จะกลายเป็นแค่คนที่เหลือแต่เปลือกไม่ใช่หรือ?!
ต่อไปนางผู้เป็นฮองเฮาก็จะถูกผู้คนหัวเราะเยาะ?!
ฮองเฮาจ้าวหมดอาลัยตายอยาก!
นางไม่คำนึงว่าตนเอง “ป่วยหนักจนแทบไม่ไหว” ลุกขึ้นจากพื้นอย่างรวดเร็ว และกอดขาทั้งสองข้างของโม่จงหราน “ฝ่าบาท! ฝ่าบาทเพคะ อย่าทรงโหดร้ายกับหม่อมฉันเช่นนี้เลยเพคะ”
“โหดร้าย? หากข้าโหดร้ายจริง ๆ เจ้าคงไม่มีชีวิตรอด!”
โม่จงหรานยิ้มเยาะ “เจ้าคิดว่าข้าหลอกง่ายจริงๆ หรือ?!”
“ทบทวนเสียใหม่เถิด! รักษาตัวหายเมื่อใด ข้าค่อยคืนอำนาจให้เจ้า!”
พูดจบ เขาก็ไม่ได้เหลือบมองฮองเฮาจ้าวมากนักและเดินจากไป!
เมื่อเห็นร่างสีเหลืองอร่ามนั่นออกไปจากตำหนักคุนหนิงโดยไม่ลังเล
ฮองเฮาจ้าวก็นั่งอยู่บนพื้นอย่างงุ่มง่าม แผ่ลหลังของนางเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ และน้ำตาไหลลงมาไม่หยุดหย่อน
“เหนียงเหนียง……”
จางหมัวมัวเรียกอย่างระมัดระวัง “บนพื้นมันเย็น บ่าวจะช่วยประคองให้ลุกขึ้นเพคะ”
แต่ยังไม่ทันจะเข้าไปใกล้ฮองเฮาจ้าว ก็ได้ยินนางกรีดร้องออกมา “อา……”
ฮองเฮาจ้าวเอามือทั้งสองข้างตบลงบนพื้นอย่างแรง เล็บยาวๆ และแหลมของนางข่วนไปตามพื้น เสียงที่แหลมและโหยหวน ทำให้จางหมัวมัวอดไม่ได้ที่จะตัวสั่น!
“ไปตรวจสอบ! ไปสืบมา! ”
ฮองเฮาจ้าวกัดฟันและสั่งว่า “ฝ่าบาททรงให้อำนาจนางหญิงชั่วคนใดดูแลตำหนักทั้งหก?! ”
จางหมัวมัวตัวสั่นอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็หันหลังวิ่งออกไปในทันที
ไม่นานนัก นางก็เข้ามาบอกว่า “เหนียงเหนียง บ่าวไปสืบมาแล้วเพคะ…… ”
ฮองเฮาจ้าวยังคงนั่งอยู่บนพื้น เมื่อได้ยินคำตอบ ดวงตาทั้งสองข้างของนางก็แดงก่ำ “เป็นใคร?! ”