อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ - บทที่ 265 เหยียบจมูกใคร
อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ บทที่ 265 เหยียบจมูกใคร?
เพียงแค่เห็นมังกรตาเดียวสวมเสื้อผ้าของคนรับใช้ในจวนอ๋องสาม แบกกระสอบไว้บนบ่า และวิ่งเข้าไปหานางราวกับบิน!
“เกิดอะไรขึ้น?! ”
เมื่อเห็นเขาใกล้เข้ามา หยุนหว่านหนิงก็ถามด้วยความประหลาดใจ
“กูหน่ายนายหญิงผู้นี้หลอกยากเย็นเหลือเกิน!”
มังกรตาเดียวหายใจหอบ โยนกระสอบลงบนพื้น เอามือทั้งสองเท้าสะเอวและกล่าวว่า “มองดูอ่อนแอ แต่ทำไมถึงหนักเหมือนก้อนหินเลย! ”
หยุนหว่านหนิง “……เกิดอะไรขึ้นกันแน่?”
“กูหน่ายนายคงจะไม่รู้”
มังกรตาเดียวนั่งลงบนพื้นและเล่าเรื่องราวทั้งหมด
วันนี้เขาไปที่จวนกั๋วกงตามคำสั่งของหยุนหว่านหนิง
แต่หยุนธิงหลานระมัดระวังตัวมาก
เมื่อเห็นว่าเสื้อผ้าของมังกรตาเดียวแตกต่างจากที่เคยเห็น และไม่เชื่อคำพูดของเขา แถมยังไล่เขาออกมาจากจวนกั๋วกง และโกรธมังกรตาเดียวมากจนอยากทุบกำแพง!
เป็นสิ่งแรกที่กูหน่ายนายบอกให้เขาทำ หากทำไม่ได้ เขาจะยังมีหน้ามาเจอกูหน่ายนายได้อย่างไร?!
“ดังนั้นข้าคิดว่าข้าจะต้องหลอกล่อนางออกมาให้ได้”
มังกรตาเดียวกำหมัดแน่นและตั้งใจแน่วแน่ “ข้าคิดไปคิดมาแล้ว ก็นึกถึงหยิง……อ๋องสาม”
“ดังนั้นข้าจึงสวมเสื้อผ้าของคนรับใช้จวนอ๋องสาม จากนั้นก็ไปที่จวนกั๋วกงเพื่อหลอกล่อหยุนธิงหลานออกมา แต่เมื่อหญิงผู้นี้ออกมาเห็นข้า นางก็ตะโกนเรียกคนในทันที”
“ข้าไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากทำให้นางหมดสติด้วยฝ่ามือข้างเดียว”
ในขณะพูด มังกรตาเดียวก็เกาหัวด้วยท่าทางงุนงง “กูหน่ายนาย ข้าไม่เข้าใจเลย”
“ข้าปลอมตัวดีขนาดนี้แล้ว เหตุใดแค่เห็นแวบแรก หญิงผู้นี้ก็จำได้ว่าเป็นข้า?”
หยุนหว่านหนิงกลอกตา และยากที่จะพูด
นางเหลือบมองรูปร่างอันสูงใหญ่ของมังกรตาเดียวที่สวมชุดรัดรูปของคนรับใช้จวนอ๋องสาม และตาเดียวอันเป็นสัญลักษณ์นั้น……
“อาจเป็นเพราะรูปลักษณ์ท่าทางของเจ้า คนรับใช้ของจวนอ๋องสาม ไม่มีใครมีรูปลักษณ์ท่าทางที่ดีเช่นเจ้า”
นางก้มตัวลง แก้กระสอบ และพูดด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ย “นั่นเป็นเหตุผลที่นางจำเจ้าได้ในทันที”
“จริงหรือขอรับ? ”
มังกรตาเดียวลูบหัวด้วยความดีอกดีใจ และเปี่ยมล้นไปด้วยความมั่นใจในทันที
หยุนหว่านหนิงกวาดสายตามองเขา “หลอก”
มังกรตาเดียวเหมือนมะเขือม่วงที่โดนความเย็นจัดแล้วเหี่ยว
หยุนหว่านหนิงไม่สนใจเขา และปล่อยหยุนธิงหลานออกมาด้วยตนเอง
นางยังคงสลบอยู่ มือและเท้าทั้งสองถูกเชือกมัดไว้
“เอานางออกมา แล้วหาทางปลุกนาง”
หยุนหว่านหนิงยืนขึ้นและพยักหน้าให้มังกรตาเดียว
“ขอรับกูหน่ายนาย”
มังกรตาเดียวเตรียมพร้อม ตั้งท่าที่จะตบหยุนธิงหลาน และคิดว่าหยุนหว่านหนิงต้องการให้พวกเขามีคุณภาพ……จึงคิดที่จะมีมารยาทและปลุกนาง
เขาตบหน้าของหยุนธิงหลานเบาๆ และพูดอย่างอ่อนโยนว่า “คุณหนูรองหยุน รบกวนฟื้นขึ้นมาเถิด”
หยุนหว่านหนิง “……”
นางเตะมังกรตาเดียวออกไป หยิบอ่างน้ำเย็นออกมาจากช่องว่าง แล้วราดลงบนหัวของหยุนธิงหลาน!
เรียบร้อย!
หยุนธิงหลานค่อยๆ ฟื้นขึ้นมาในทันที
มังกรตาเดียวมองดูนางโยนอ่างไม้ทิ้งไปอย่างตกตะลึงจนตาค้าง และใช้เวลาสักพักกว่าจะได้สติกลับมา “กูหน่ายนาย ท่านเป็นเทพธิดาจริงๆ!”
เมื่อครู่เขาไม่เห็นเลยว่ารอบๆ มีอ่าง มีน้ำ!
หยุนหว่านหนิงไม่มีเวลาจะสนใจเขา เพราะหยุนธิงหลานฟื้นแล้ว
“อา……”
นางกรีดร้องและดิ้นรนอย่างบ้าคลั่ง “พวกเจ้าเป็นใคร? ต้องการจะทำอะไรกันแน่? ข้าจะบอกให้นะว่า……”
ยังพูดไม่ทันจบ นางก็เห็นหยุนหว่านหนิงยืนกอดอกอยู่ข้างๆ เหมือนจะยิ้มก็ไม่ยิ้ม “น้องรอง ฟื้นแล้วหรือ?”
“เป็นเจ้า?! ”
หยุนธิงหลานตกตะลึงในทันที!
และอึ้งไปชั่วขณะหนึ่ง
ทันใดนั้นนางก็สีหน้าเปลี่ยน ความเกลียดชังในสายตาและบนใบหน้าพุ่งออกมา ความเกลียดชังที่ลึกล้ำจนน่าตกใจ “หยุน! หว่าน! หนิง!”
นางกัดฟันและถามว่า “เจ้าต้องการจะทำอะไรข้า?! ”
“จะฆ่าจะแกงก็แล้วแต่เจ้า!”
นางกล่าวอย่างชั่วร้าย “หากมีความสามารถก็ฆ่าข้าเลย!”
“เหตุใดข้าต้องฆ่าเจ้าด้วย?”
หยุนหว่านหนิงมองนางอย่างขบขัน “หรือว่าเจ้าทำเรื่องที่ผิดต่อข้า เรื่องที่ทำร้ายข้า? ดังนั้นเจ้าจึงรู้สึกหวาดผวา และไม่กล้าสู้หน้าข้า?”
ทุกคำที่นางพูด ทำให้สีหน้าของหยุนธิงหลานดูหวาดผวามากยิ่งขึ้น
หยุนหว่านหนิงจงใจกล่าวเช่นนี้
“จะ จะเป็นไปได้อย่างไร……”
หยุนธิงหลานกะพริบตา และไม่กล้าสบตาหยุนหว่านหนิง
“เป็นไปไม่ได้? แล้วเจ้าคิดว่าข้ารู้จักเขาได้อย่างไร?”
หยุนหว่านหนิงชี้นิ้ว และเหลือบมองไปที่มังกรตาเดียวอย่างจะยิ้มก็ไม่ยิ้ม
เขานั่งยองๆ เหมือนนกอินทรีตัวหนึ่งที่บินจนเหน็ดเหนื่อยและกำลังพักผ่อน
หยุนธิงหลานสีหน้าเปลี่ยน และกะพริบตาอย่างรวดเร็ว “ข้า ข้าไม่รู้ว่าเจ้าหมายถึงอะไร! และข้าก็ไม่รู้ว่าเจ้ารู้จักเขาได้อย่างไร”
“ข้าไม่รู้จักเขา”
“เช่นนั้นหรือ? ”
หยุนหว่านหนิงยิ้มเล็กน้อย “มังกรตาเดียว เช่นนั้นเจ้าบอกสิว่าเจ้ารู้จักนางได้อย่างไร?”
มังกรตาเดียวยืนขึ้นในทันที “กูหน่ายนาย เป็นหญิงผู้นี้ที่หลอกล่อข้า แถมยังเปิดไหล่เพื่อยั่วยวนข้า! และต้องกาให้ข้าฆ่าท่าน!”
หยุนธิงหลานจ้องมองเขาด้วยความคียดแค้น และใบหน้าแดงก่ำ “เจ้า เจ้าอย่าใส่ร้ายผู้อื่น!”
“ข้าเปิดไหล่เพื่อยั่วยวนเจ้าตั้งแต่เมื่อใด! ”
“ท่านทำ!”
มังกรตาเดียวยืนกรานที่จะโต้เถียงกับนางเหมือนเด็กๆ
หยุนธิงหลานโกรธจัด “ข้าไม่ได้ทำ! ข้าแค่ให้เงินเจ้า และให้เจ้าฆ่านาง!”
ทันทีที่พูดจบ หยุนธิงหลานก็ตกตะลึงอีกครั้งเมื่อต้องเผชิญกับสายตาที่เหมือนจะยิ้มก็ไม่ยิ้มของหยุนหว่านหนิง!
“น้องรอง ข้าเสียใจมากที่เจ้าทำเช่นนี้”
นางถอนหายใจเบาๆ “แม้ว่าเจ้ากับข้าจะไม่ใช่พี่น้องแม่เดียวกัน แต่อย่างน้อยก็มีพ่อคนเดียวกัน แม้ว่าเราจะไม่เคยเป็นพี่น้องกันที่รักใคร่กันเลยก็ตาม แต่อย่างน้อยเราก็โตมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก”
“หากพูดตามตรงพวกเราก็แซ่เดียวกัน!”
หยุนธิงหลานขมวดคิ้ว
ทำไมนางถึงรู้สึกว่าคำพูดของหยุนหว่านหนิงแปลกๆ ?
“แม้ว่าเราจะไม่ผูกพันกัน แต่เจ้าก็ต้องการจะฆ่าข้า……
หลังจากหยุดชะงัก หยุนหว่านหนิงก็เหลือบมองนางเล็กน้อย “เจ้าต้องการให้มังกรตาเดียวฆ่าข้าอย่างไร?”
นึกไม่ถึงเลยว่านางจะเปลี่ยนเรื่องเร็วขนาดนี้
หยุนธิงหลานตกตะลึงไปชั่วขณะหนึ่ง จากนั้นก็ตอบอย่างเฉยเมยว่า “ข้า ข้าให้เขาทรมานเจ้าจนตาย”
ส่วนวิธีการทรมานนั้น มังกรตาเดียวเคยบอกเอาไว้แล้ว
“เจ้าช่างโหดเหี้ยม”
หยุนหว่านหนิงยกนิ้วหัวแม่มือให้นาง “แต่นี่ก็เป็นวิธีที่ข้าต้องการฆ่าเจ้าเช่นกัน ในเมื่อคืนนี้เจ้าตกอยู่ในกำมือของข้าแล้ว มิสู้จัดการเสียเลยจะดีกว่า ข้าจะได้ไม่ต้องคิดหาวิธีว่าจะทรมานเจ้าอย่างไร?”
นางโบกมือเบาๆ “มังกรตาเดียว ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเจ้า”
“แม้ว่าเจ้าจะอยากได้ภรรยาของหัวหน้าโจรสักคน แต่น้องรองของข้าผู้นี้ไม่ดีพอที่จะเป็นภรรยาของหัวหน้าโจร”
หยุนธิงหลาน “……”
นางเป็นคุณหนูรองของจวนยิ่งกั๋วกง นึกไม่ถึงเลยว่าจะไม่คู่ควรเป็นภรรยาของหัวหน้าโจร?!
นี่เป็นการเหยียบจมูกใคร?!
มังกรตาเดียวถูมืออย่างตื่นเต้น
หยุนหว่านหนิงพูดอีกครั้ง “วันนี้เจ้าจะมีความสุขอย่างไรก็ได้! แต่มีเพียงข้อเดียวคืออย่าเล่นกับความรู้สึก……มิเช่นนั้น แม้แต่เจ้า ข้าก็จะฆ่า”
แววตาของนางเยือกเย็น มังกรตาเดียวตัวสั่นด้วยความตกใจ และรีบตอบรับอย่างนอบน้อมว่า “ข้าเข้าใจแล้วขอรับ กูหน่ายนาย”
เมื่อเห็นมังกรตาเดียวถูมือและดึงนาง หยุนธิงหลานก็ตกใจกลัวแทบบ้า
นางร้องตะโกนในทันที “เดี๋ยวก่อน! ข้ามีเรื่องจะพูด!”