อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ - บทที่ 275 คุณลุงกับโลลิ
อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ บทที่ 275 คุณลุงกับโลลิ
“อะไรนะ?”
หยุนธิงธิงตกตะลึง สีหน้าเปลี่ยนไปราวกับได้รับความตกใจ
มือที่กำลังม้วนเส้นผมอยู่ก็ชะงักไปเช่นกัน “พี่ใหญ่ท่านอย่าทำให้ข้ากลัวนะ! อ๋องโจวอายุมากกว่าข้าตั้งหลายปี!”
“อายุมาก ก็ยิ่งดูแลทะนุถนอมคนเป็นนะ”
หยุนหว่านหนิงกล่าวอย่างเอาจริงเอาจัง
หยุนธิงธิงขมวดคิ้ว “แต่ว่า แต่ว่าเขาสุขภาพไม่ดีนี่นา……”
คำพูดประโยคนี้ออกจะน่าอายอยู่สักหน่อย
ถ้าหากโม่เหว่ยได้ยินเข้า ต้องโกรธอย่างแน่นอน ดังนั้นนางจึงจ้องประตูห้องที่ปิดแน่นบานนั้นอย่างไม่ละสายตา ลดเสียงลงมาให้เบามาก “ข้าได้ยินมาว่าอ๋องโจวป่วยมาหลายปีแล้ว แถมยังป่วยหนักอีกด้วย”
“มีข้าอยู่ทั้งคนไม่ใช่หรือ?”
หยุนหว่านหนิงเลิกคิ้ว “เจ้ายังไม่เชื่อในทักษะทางการแพทย์ของข้าอีกหรือ?”
“ไม่ใช่ไม่เชื่อ ข้า ประเด็นหลักคือข้ากลัว……”
นางกลัวอ๋องโจว
ผู้ชายคนนี้เคร่งขรึมเกินไปจริงๆ ถึงขนาดที่ว่าแค่เห็นเขาก็เกิดความหวาดกลัวขึ้นมาแล้ว
ถ้าหากนางแต่งงานกับอ๋องโจวจริงๆ นางสามารถจินตนาการได้เลยว่าชีวิตในวันหน้าจะเป็นอย่างไร
ตัวอย่างเช่น:
หยุนธิงธิงเต็มไปด้วยความคาดหวัง: “ท่านพี่ วันนี้ข้าออกไปข้างนอกได้ไหม?”
โม่เหว่ยสีหน้าจริงจัง: “ไม่ได้”
แล้วก็อีกตัวอย่างหนึ่ง:
ใบหน้าของหยุนธิงธิงเต็มไปด้วยรอยยิ้ม: “ท่านพี่ คืนนี้ข้าดื่มสุราเล็กน้อยได้ไหม?”
โม่เหว่ยสีหน้าเยือกเย็น: “ไม่ได้”
นี่เป็นเพียงยอดภูเขาน้ำแข็ง จินตนาการของการใช้ชีวิตหลังจากที่แต่งงานกับโม่เหว่ยในหัวของหยุนธิงธิงเท่านั้น อย่างไรก็ตามเมื่อนึกถึงนางกับโม่เหว่ย หยุนธิงธิงก็ส่ายหน้าอย่างเดียว “ไม่ได้ ไม่ได้ ข้ากับอ๋องโจวไม่เหมาะสมกัน”
อยู่ในจวนอ๋องโจวของเขา พูดคุยกันเรื่องนี้ดูเหมือนจะไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไหร่
หยุนหว่านหนิงจูงมือหยุนธิงธิงออกไปจากจวนอ๋องโจว
“ธิงธิง ข้าคิดว่าเจ้ากับอ๋องโจวความจริงแล้วก็เหมาะสมกันดี!”
นางกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ถึงแม้ว่าเจ้าจะเด็กกว่าเขาหลายปี แต่อย่างที่ข้าพูดไปเมื่อครู่นี้ อายุมากหน่อยจะยิ่งดูแลทะนุถนอมคนได้ดีมากกว่า เจ้าลองคิดดู ความแตกต่างที่น่ารักของคุณลุงกับโลลิ……”
“ก็เหมือนกับเจ้าและอ๋องโจว คนหนึ่งซุกซน คนหนึ่งเคร่งขรึม เติมเต็มซึ่งกันและกันพอดี!”
ในจินตนาการของหยุนหว่านหนิง ถ้าหากว่าโม่เหว่ยกับหยุนธิงธิงแต่งงานกัน ชีวิตในวันหน้าต้องเป็นเช่นนี้แน่นอน:
หยุนธิงธิงเต็มไปด้วยความคาดหวัง: “ท่านพี่ วันนี้ข้าออกไปข้างนอกได้ไหม?”
โม่เหว่ยสีหน้าจริงจัง: “ไม่ได้”
แต่ว่าวินาทีต่อมา เขาก็กล่าวขึ้นมาอีกว่า: “ข้ากลัวว่าเจ้าจะหลงทาง ออกไปพร้อมกับเจ้า!”
ฉากเช่นนี้ อบอวลไปด้วยความรักขนาดไหน? !
อีกอย่าง ถึงแม้หยุนธิงธิงจะยังเด็ก แต่เพราะการกลั่นแกล้งและลอบทำร้ายของนางเฉินกับหยุนธิงหลาน หยุนเจิ้นซงก็ไม่สนใจไยดีนาง…..หลายปีมานี้ นิสัยของนาง โตเป็นผู้ใหญ่กว่าเด็กสาวในวัยเดียวกันเล็กน้อย
ดูเหมือนนางจะอายุน้อย ความจริงแล้วมีความเป็นผู้ใหญ่และสุขุมมากกว่าหยุนธิงหลานเสียอีก
ถ้าหากว่าสองคนอยู่ด้วยกัน ไม่ใช่คู่ที่สมบูรณ์แบบหรอกหรือ?
หยุนหว่านหนิงรู้ดีว่า ความสัมพันธ์ของแม่สามีกับลูกสะใภ้ประคับประคองได้ยาก
เฉินกุ้ยเฟยเสียชีวิตก่อนวัยอันควร โม่เหว่ยก็ไม่ออกไปไหน ในเวลาปกติหยุนธิงธิงก็ไม่ต้องเข้าเฝ้าฮองเฮาจ้าว
ไม่มีความสัมพันธ์แม่สามีกับลูกสะใภ้รุมเร้า ช่างมีอิสรเสรีขนาดไหน!
หยุนหว่านหนิงเม้มริมฝีปากแล้วยิ้มออกมา “เจ้ากังวลเรื่องอาการป่วยของอ๋องโจว ข้าสามารถบอกเจ้าอย่างรับผิดชอบได้เลย: อ๋องโจวไม่ได้ไร้ทางรักษา! ตอนนี้ถึงขั้นดีขึ้นมาแล้ว”
หากว่าโม่เหว่ยได้เป็นน้องเขยของนาง……
จวนอ๋องโจวกับจวนอ๋องหมิง ก็จะเชื่อมโยงกันอย่างสมบูรณ์!
ตระกูลเฉินที่อยู่เบื้องหลังโม่เหว่ย ก็จะต้องสนับสนุนพวกเขาอย่างเต็มที่แน่นอน
นางช่วยโม่เยว่ดึงผู้ช่วยที่มีอำนาจเช่นนี้มาเป็นพวกได้ ดูสิว่าโม่เยว่ชายปากหมานั่นจะขอบคุณนางอย่างไร!
แต่ว่า นางก็ไม่ได้จะคิดคำนวณ ดึงโม่เหว่ยมาเป็นพวกเพื่อโม่เยว่
เหตุผลหลักคือรู้สึกว่า หยุนธิงธิงกับโม่เหว่ยมีบุคลิกเสริมกันและกัน ไม่มีที่เหมาะสมกว่านี้แล้วจริงๆ!
ในใจของนาง หยุนธิงธิงน้องสามคนนี้ย่อมมีความสำคัญ มากกว่าเจ้าสารเลวโม่เยว่นั่นอยู่แล้ว!
นางหันกลับมามอง หยุนธิงธิงยังคงจิ้มนิ้วมืออยู่ เต็มไปด้วยความลังเล ดูเหมือนว่าเพราะคำพูดเมื่อครู่นี้ของนาง ในใจขัดแย้งดิ้นรนไม่รู้จะตัดสินใจอย่างไร
หยุนหว่านหนิงก็ไม่ได้รบกวนนาง
นานพักใหญ่ หยุนธิงธิงถึงได้เงยหน้าขึ้นมา “พี่ใหญ่ อะไรคือคุณลุงกับโลลิ? อะไรคือความแตกต่างที่น่ารัก?”
หยุนหว่านหนิง: “……”
“ก็คืออ๋องโจวกับเจ้าเช่นนี้แหละ คนหนึ่งเคร่งขรึมคนหนึ่งน่ารัก”
นางอธิบายด้วยรอยยิ้ม “เจ้าไม่คิดว่า คนสองคนเช่นนี้อยู่ด้วยกันแล้ว ภาพมันอบอวลไปด้วยความรักหรือ?”
“อบอวลด้วยความรัก?”
หยุนธิงธิงส่ายหน้า “ข้ารู้สึกแค่ว่ามันกดดันมาก! อ๋องโจวไม่ยิ้มเลยสักนิด อยู่ต่อหน้าเขาแล้วข้าไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแรง ไหนเลยจะอบอวลไปด้วยความรักได้”
“ช่างเถอะ! ข้าก็ไม่บังคับให้เจ้าตัดสินใจหรอก”
เห็นใบหน้าเล็กอมทุกข์ของนาง หยุนหว่านหนิงส่ายหน้าอย่างจนใจ “เรื่องนี้ปล่อยให้มันผ่านไปเถอะ”
“หากเจ้าอยากแต่งงานกับอ๋องโจว ข้าจะช่วยเจ้าเต็มที่ แต่หากเจ้าไม่อยากแต่ง ข้าก็จะช่วยเจ้าสังเกต คนหนุ่มหน้าตาดีมีความสามารถที่ยังไม่ได้แต่งงานในเมืองหลวงต่อไป”
นางจะช่วยให้หยุนธิงธิง หลุดพ้นจากขุมนรกอย่างจวนยิ่งกั๋วกงในเร็ววัน
ความจริง จวนอ๋องโจวคือตัวเลือกที่ดีที่สุด
หยุนธิงธิงแต่งงานเข้าจวนอ๋องโจว หยุนเจิ้นซงไม่กล้ามาวุ่นวาย และไม่กล้าหน้าด้านมาประจบประแจงโม่เหว่ยเช่นกัน
แม้กระทั่งหยุนธิงหลาน ก็จะเกรงกลัวโม่เหว่ย ไม่กล้ารังแกหยุนธิงธิงอีก
นางสามารถใช้ชีวิตที่สงบสุขในอุดมคติของตัวเอง ตัดขาดจากโลกภายนอก และไม่ถูกรบกวน
สามารถพูดได้ว่า จวนอ๋องโจวสามารถกลายเป็นที่หลบภัยของหยุนธิงธิง
แต่เมื่อนางไม่ยินดี หยุนหว่านหนิงก็จะไม่บีบบังคับเช่นกัน
“ขอบคุณท่านมาก พี่ใหญ่!”
หยุนธิงธิงรู้สึกซาบซึ้งใจ กอดแขนของนางเอาไว้แน่น “ข้ารู้อยู่แล้วว่า พี่ใหญ่รักข้าที่สุด! และจะไม่บีบบังคับข้าเหมือนท่านพ่อ!”
“ระหว่างเราสองพี่น้อง จะทำห่างเหินเกรงใจเช่นนี้ทำไมกัน?”
หยุนหว่านหนิงดีดหน้าผากของนางไปหนึ่งที “ใช่แล้ว วันนี้เจ้ามีอะไรจะบอกข้าใช่ไหม?”
“ก็ไม่ได้มีเรื่องอะไรหรอก!”
ทันทีที่ออกจวนอ๋องโจว หยุนธิงธิงก็เหมือนนกน้อยที่ได้รับอิสรภาพกลับคืนมา
นางเอามือไพล่หลังเดินอยู่ข้างกายของหยุนหว่านหนิง สายตากวาดมองแผงขายของริมถนนทีละแผง “เพียงแต่ว่าไม่ได้พบหยวนเป่านานแล้ว ข้าคิดถึงเขามาก”
หยุนธิงธิงรู้ว่า หยวนเป่าคือลูกชายของหยุนหว่านหนิงกับโม่เยว่
และก็รู้ว่า เขามีสถานะที่พิเศษและสำคัญในฐานะที่เป็นพระนัดดาองค์ โต
หยุนหว่านหนิงไม่ให้เขาปรากฏตัวต่อหน้าผู้คน ย่อมมีเหตุผลของนางอยู่แล้ว
ถึงแม้ว่าจะกลับไปยังจวนกั๋วกง หยุนธิงธิงก็ไม่เคยบอกเรื่องนี้กับใครเลย
นางสามารถมองออกในแวบแรก ว่าหยวนเป่าคือลูกชายของโม่เยว่……
แต่คนโง่อย่างหยุนธิงหลาน ยังคิดอย่างแน่วแน่ ว่าหยวนเป่าคือ “ลูกนอกสมรส” ของหยุนหว่านหนิงกับข้ารับใช้
เพียงพอที่จะแสดงให้เห็นว่า สามพี่น้องตระกูลหยุน มีเพียงหยุนธิงหลานเท่านั้นที่เป็นหมูโง่
“ข้าจะซื้อของให้หยวนเป่าเยอะๆ พี่ใหญ่นำกลับไปแล้วกัน! อย่างไรเสียในเวลาปกติ หากข้าสั่งให้คนส่งของเล่นถุงเล็กถุงใหญ่ไปที่จวนอ๋อง จะทำให้คนรู้สึกสงสัยขึ้นมาแน่นอน”
หยุนธิงธิงหยิบถุงเหอเปาที่มีน้ำหนักออกมา “นี่ไง วันนี้ข้านำเงินมาห้าสิบตำลึงเต็มๆเลยนะ!”
นี่ก็คือความมหัศจรรย์ของความสัมพันธ์ทางสายเลือด
ถึงแม้นางจะไม่ใช่ร่างเดิมหยุนหว่านหนิง แต่หยวนเป่าคือแก้วตาดวงใจที่นางคลอดออกมา
คืนหลานชายแท้ๆของหยุนธิงธิง นางที่เป็นน้าหญิงเล็กคนนี้……
ก็เหมือนกับโม่เฟยเฟยที่เป็นอาหญิงเล็กคนนี้ ทั้งสองคนล้วนรักหยวนเป่ามาก
“ตกลง! วันนี้ใช้เงินห้าสิบตำลึงนี้ของเจ้าไม่หมด ข้าจะไม่กลับจวนอ๋อง”
หยุนหว่านหนิงมองดูนางอย่างขบขัน “เจ้าเก็บถุงเหอเปาเอาไว้ก่อนเถอะ คนที่ไม่รู้เกรงว่าจะนึกว่าเจ้ากำลังอวดความมั่งคั่งอยู่! หากมีคนเกิดอิจฉาขึ้นมา มาแย่งเจ้า……”
ยังไม่ทันจะพูดจบ ก็เห็นเพียงเงาร่าง “สีสันฉูดฉาด” แวบผ่านข้างกายของพวกนางไป
ทันทีหลังจากนั้น ถุงเหอเปาที่อยู่ในมือของหยุนธิงธิง ก็อันตรธานหายไปเช่นนี้แลย!
นางชะงักไปหนึ่งวินาที แหกปากตะโกนเสียงดังออกมา “มีโจรขโมย! จับโจรขโมยเร็วเข้า! มีคนแย่งเงินของข้าไป!”