อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ - บทที่ 31 หยุนติงหลานถูกพิษ
อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ บทที่ 31 หยุนติงหลานถูกพิษ
“ท่านอ๋อง ลืมไปแล้วหรือว่าตอนนี้กินอาหารของใครอยู่?”
เห็นโม่เยว่วางตะเกียบอย่างแรง หยุนหว่านหนิงกวาดตามองเขาอย่างไม่พอใจครู่หนึ่ง ตักน้ำแกงให้หยวนเป่าถ้วยหนึ่งอย่างใจเย็น “อะไรที่เรียกว่าข้าลงมือกับนาง?”
“ท่านอ๋องรู้ได้อย่างไรว่าวันนี้ข้ากลับไปที่จวนยิ่งกั๋วกง?”
“ท่านสอดแนมข้าอยู่หรือ?”
“เราตกลงกันแล้ว ข้ามีอิสระในการไปไหนมาไหน หากท่านสอดแนมข้า ข้อตกลงของเราสามารถหยุดลงได้ทุกเมื่อ”
ตอนนี้นางมีช่องว่างอยู่ในมือ มีความมั่นใจอยู่!
นอกจากนี้ สำหรับเรื่องต่างๆของค่ายเสิ่นจี ประโยชน์ของนางโม่เยว่ก็รู้ดีแก่ใจ
ตอนนี้หากไม่มีหยุนหว่านหนิง……
สีหน้าของโม่เยว่ก็อ่อนลงมาเล็กน้อย “ข้าไม่ได้สอดแนม และไม่ได้ซักถามเจ้า”
“เพียงแต่ว่าสัญญาณต่างๆส่อให้เห็นว่า เรื่องที่หยุนติงหลานถูกพิษเกรงว่าจะต้องมีความเกี่ยวข้องกับเจ้า ในเมื่อเจ้ารู้ นิสัยของพี่สาม ความสัมพันธ์ของเขากับหยุนติงหลาน…….ก็น่าจะรู้ว่า หากพี่สามรู้ว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับเจ้า เขาจะทำอย่างไร”
“ดังนั้นแล้ว ท่านกำลังเป็นห่วงข้าอยู่?”
หยุนหว่านหนิงเลิกคิ้ว
โม่เยว่ขมวดคิ้ว นิ่งเงียบไป
ไม่ได้ยอมรับ และก็ไม่ได้ปฏิเสธ
“ท่านอ๋อง ที่แท้ท่านก็รู้ความสัมพันธ์ระหว่างท่านอ๋องหยิงกับหยุนติงหลานนานแล้ว”
นางหัวเราะเยาะออกมา “คนที่อยู่ในใจท่านแต่กลับไม่สามารถอยู่ด้วยกันได้ท่านนั้นแต่งงานไปกับท่านอ๋องหยิง ตอนนี้กลับได้ใช้ชีวิตแบบนี้ หรือว่าท่านไม่รู้สึกเอ็นดูสงสาร? ไม่เป็นห่วง? ไม่ช่วยระบายความโกรธแค้นแทนนางหน่อยหรือ?”
“คนที่อยู่ในใจแต่กลับไม่สามารถอยู่ด้วยกันอะไรกัน?”
โม่เยว่หมดคำพูด
หยุนหว่านหนิงบอกว่าฉินซื่อเสวียคือคนที่อยู่ในใจแต่กลับไม่สามารถอยู่ด้วยกัน ฟ้าดินเป็นพยาน!
เขาไม่รู้เลยว่า อะไรที่เรียกว่าคนที่อยู่ในใจแต่กลับไม่สามารถอยู่ด้วยกัน!
“ท่านอ๋องไม่จำเป็นต้องสอดแทรกมุมตลกกับข้า”
หยุนหว่านหนิงฮึเสียงเบา “ท่านก็ยอมรับมาเถอะ! ฉินซื่อเสวียคือหนึ่งเดียวในใจของท่าน ไม่สามารถถูกแทนที่ได้!”
หยวนเป่ากะพริบตา กัดช้อนแล้วมองดูนางด้วยความสงสัย “ท่านแม่ มะเขือเทศวันนี้ยังไม่สุกใช่ไหม? หรือว่าท่านเติมน้ำส้มสายชูเข้าไปข้างใน?”
ลูกชายสำคัญที่สุด!
ทันทีที่หยวนเป่าเอ่ยปาก หยุนหว่านหนิงก็ไม่สนใจจะโต้แย้งกับโม่เยว่แล้ว
นางรีบก้มหน้ามองดูมะเขือเทศที่อยู่ในถ้วยน้ำแกง “มะเขือเทศนี่สุกแล้วนี่นา! ข้าก็ไม่ได้เติมน้ำส้มสายชูเข้าไปในนั้นด้วย”
“ซุปมะเขือเทศใส่ไข่ ข้าจะเติมน้ำสายชูทำไม?”
“ในเมื่อมะเขือเทศสุกแล้ว และก็ไม่ได้เติมน้ำส้มสายชู ทำไมข้าดื่มน้ำซุปนี่แล้วถึงรู้สึกว่ามันเปรี้ยวหน่อยๆล่ะ?”
หยวนเป่าแก่แดดแก่ลม ขยิบตาให้กับหยุนหว่านหนิง “ท่านแม่ ท่านโมโหแล้วใช่ไหม? หึงคนที่อยู่ในใจของพี่ชายท่านนั้นใช่ไหม?”
หยุนหว่านหนิง: “……”
จนถึงตอนนี้ เขายังเรียกโม่เยว่ว่าพี่ชาย
“แก่แดดแก่ลม! รีบกินให้เสร็จแล้วไปเดินเล่นย่อยอาหาร”
นางเคาะหน้าผากของเขาเบาๆ
หลังจากที่หยวนเป่าดื่มน้ำซุปในถ้วย “อั้กๆ” จนหมดแล้ว ถึงได้เช็ดปากก้าวเท้าแล้วก็เดินออกไป
ก่อนที่จะไป ยังจ้องมองโม่เยว่อย่างดุดันครู่หนึ่ง สายตานั่นกำลังเตือนเขาว่า: ห้ามรังแกแม่ข้า! มิเช่นนั้นข้าไม่จบกับท่านแน่!
เห็นหยวนเป่าจากไปแล้ว หยุนหว่านหนิงถึงได้มองไปทางโม่เยว่
“เมื่อครู่นี้ท่านอ๋องบอกว่า ท่านอ๋องหยิงรู้เรื่องนี้แล้ว จะทำอย่างไรกับข้า”
นางยิ้มออกมา “หรือว่า เขายังจะมาฆ่าข้าได้?”
“ก็ไม่ถึงกับจะฆ่าเจ้า แต่จะไม่ให้เจ้าได้อยู่ดีมีสุขแน่นอน”
โม่เยว่กล่าวอย่างไม่แสดงอารมณ์ใดๆ
“งั้นหรือ?”
หยุนหว่านหนิงไม่เห็นด้วย “ยังไม่พูดถึงว่า หยุนติงหลานถูกวางยาพิษไม่เกี่ยวกับข้า ถึงแม้จะเกี่ยวกับข้า หากท่านอ๋องหยิงจะมาฆ่าข้า หรือว่าท่านอ๋องจะนิ่งดูดาย?”
“ท่านอ๋องลืมพันธสัญญาระหว่างเราไปแล้วหรือ?”
โม่เยว่ต้องปกป้องนางอย่างไม่มีเงื่อนไข!
“เจ้า……”
ใบหน้าหล่อเหลาของเขาเคร่งขรึม วางตะเกียบลงอย่างไม่พอใจ “หยุนหว่านหนิง ระวังท่าทีของเจ้าด้วย!”
“ถึงแม้ข้าจะปกป้องเจ้า แต่วันหน้าเจ้าจะทำอะไร ก็ควรจะหารือกับข้าก่อน! กระทำการบุ่มบ่ามเช่นนี้ ข้าจะปกป้องเจ้าอย่างไร? !”
เห็นว่าเขาโกรธขึ้นมา หยุนหว่านหนิงถึงได้ขมวดคิ้ว “พิษของหยุนติงหลาน ข้าไม่ได้เป็นคนวาง”
“แต่หากว่า นางยืนกรานจะพูดว่าเจ้าเป็นคนวางให้ได้ล่ะ?”
โม่เยว่ซักไซ้อย่างกระชั้นชิดไม่ยอมปล่อย
หยุนหว่านหนิงขมวดคิ้วแน่นมากยิ่งขึ้น “ท่านกำลังกังวลเรื่องอะไรอยู่กันแน่? ตกลงว่ากำลังเป็นห่วงคนที่อยู่ในใจของท่าน หรือว่ากำลังห่วงข้ากัน?”
“ท่านตั้งใจแน่วแน่ที่จะโยนความผิดมาให้ข้า ก็เป็นเพราะฉินซื่อเสวียด้วยใช่ไหม?”
“เจ้า……”
เห็นว่าท่าทีของนางโอหังมากกว่าเขาเสียอีก โม่เยว่โกรธจนลุกขึ้นมา ข้าวก็ไม่กินสะบัดแขนเสื้อแล้วก็จากไปเลย!
ทั้งสอง แยกจากกันด้วยความไม่พอใจ
โม่เยว่ออกไปจากเรือนชิงหยิ่งด้วยความโกรธเคือง และสั่งการหรูโม่ “รีบไปที่จวนยิ่งกั๋วกงรอบหนึ่ง สืบให้ละเอียดว่าหยุนติงหลานถูกวางยาพิษ เกิดอะไรขึ้นกันแน่”
“นายท่านกำลังเป็นห่วงว่า พระชายาจะเป็นคนทำเรื่องนี้จริงๆ?”
“ข้าจะเป็นห่วงนางทำไม?”
ผู้หญิงที่ไม่รับรู้เจตนาดีของคนอื่น!
เขาหน้าเขียวหน้าดำ “ข้ากับพี่สามเกิดความแสลงใจกันแล้ว หากเป็นเพราะเรื่องในครั้งนี้ นางทำเรื่องโง่เขลาลงไปแล้วพัวพันมาถึงข้า ก็จะแตกหักกับพี่สามอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้”
“แต่ว่าตอนนี้ ยังไม่ถึงเวลาแตกหัก”
หรูโม่พยักหน้าอย่างครุ่นคิด “ดังนั้นแล้ว นายท่านเป็นห่วงว่าพระชายา จะถูกท่านอ๋องหยิงล้างแค้น”
“ข้าพูดเช่นนั้นงั้นหรือ? ปากมาก! ตบปากตัวเอง!”
โม่เยว่กวาดตามองเขาอย่างไม่พอใจครู่หนึ่ง
หรูโม่ตบหน้าเบาๆ ก็ถือว่าเป็นการตบปากแล้ว แล้วก็รีบตามขึ้นไปอย่างรวดเร็ว “นายท่าน เมื่อครู่นี้พระชายาบอกแล้วไม่ใช่หรือว่า เรื่องนี้นางไม่ได้เป็นคนทำ?”
“คำพูดของนาง มีคำไหนบ้างที่เป็นความจริง?”
โม่เยว่ฮึเสียงเย็นชา “ความสัมพันธ์ของนางกับจวนยิ่งกั๋วกง และหยุนติงหลานเป็นอย่างไร ข้ารู้ดี”
“ก่อนที่พี่สามจะมาหาถึงที่ ข้าต้องรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง”
เช่นนี้ เขาถึงจะสามารถปกป้องนางเอาไว้ได้
หรูโม่ตอบรับอย่างเคารพนบนอบ เงาร่างหายวับเข้าไปในความมืดมิด
เวลานี้ จวนยิ่งกั๋วกง
โม่หุยเฟิงเข้าไปในจวนกั๋วกงในคืนนั้น เห็นหยุนติงหลานนอนอยู่บนเตียงด้วยใบหน้าซีดขาว เขากล่าวถามขึ้นมาด้วยใบหน้าเคร่งขรึม “ถูกพิษอะไรกันแน่? มีวิธีแก้หรือเปล่า? !”
หมอหลวงเฒ่าที่อายุเกินห้าสิบส่ายหน้า “ท่านอ๋อง พิษที่คุณหนูรองหยุนถูกอันตรายอย่างมาก”
“แต่ว่า กระหม่อมก็ได้แต่ใช้ยาแก้พิษระงับเอาไว้ ไม่ให้พิษแพร่กระจายเท่านั้น ต้องการจะแก้พิษ ยังต้องศึกษาว่าเป็นพิษอะไร ถึงจะสามารถพัฒนาออกมาเป็นยาแก้พิษได้”
“เช่นนั้นเจ้าพูดไร้สาระอะไรอยู่? ยังไม่รีบไปศึกษาอีก? !”
โม่หุยเฟิงใช้เท้าถีบไป
หมอหลวงเฒ่ารีบลุกขึ้นมา “ท่านอ๋อง ยาพิษนี้อันตราย กลัวแต่ว่าคุณหนูรองหยุนจะทนไม่ไหว!”
“ไอ้ขยะ! ไอ้ขยะไร้ประโยชน์!”
โม่หุยเฟิงโกรธสุดขีด
หยุนเจิ้นซงกับเฉินซื่อยืนอยู่ด้านข้าง ต่างก็วิตกกังวลเช่นกัน
“ใครเป็นคนวางยาพิษหลานเอ๋อร์? !”
สายตาของโม่หุยเฟิงกวาดไปทางหยุนเจิ้นซงอย่างโหดเหี้ยม “สืบดูชัดเจนหรือยัง?”
หยุนเจิ้นซงตัวสั่นขึ้นมา รีบร้อนตอบคำถาม “ท่านอ๋อง เรื่องนี้กระหม่อมได้สืบชัดเจนแล้ว วันนี้ มีเพียงพระชายาหมิงเท่านั้นที่มาจวนกั๋วกง และได้พบกับหลานเอ๋อร์”
ดังคำกล่าวที่ว่า คนนั้นก็ลูกคนนี้ก็ลูกจะตัดคนไหนออกก็เจ็บปวดทั้งนั้น
คนหนึ่งคือลูกสาวของภรรยาเอก คนหนึ่งคือลูกสาวของอนุภรรยา
แต่ท่าทางของหยุนเจิ้นซง มองแวบเดียวก็ดูออกแล้วว่าเป็น……คนขี้ขลาดไร้ความสามารถที่ลำเอียงรักลูกสาวคนเล็กมากกว่า!
เฉินซื่อปาดน้ำตา ยืนอยู่ด้านข้างกล่าวขึ้นมาอย่างสะอึกสะอื้น “ท่านอ๋อง หลานเอ๋อร์ของเรามีเมตตากับคนอื่นมาตลอด ไม่เคยสร้างศัตรูมาก่อน!”
“วันนี้เจอภัยพิบัติที่ไม่คาดคิด ขอท่านอ๋องได้โปรดออกหน้าแทนหลานเอ๋อร์ด้วย!”
โม่หุยเฟิงเงยหน้าขึ้นมา ในดวงตาทั้งคู่เต็มไปด้วยไอสังหาร “หยุนหว่านหนิง? !”