อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ - บทที่ 328 ข่มขู่ตน ไม่มีประโยชน์
อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ บทที่ 328 ข่มขู่ตน ไม่มีประโยชน์
แอบฟังแล้วโดนจับได้คาหนังคาเขาเลย!
เธอโง่เองแหละ ให้พวกนางจับได้…
หยุนหว่านหนิงจิกนิ้วเท้าลงพื้นอย่างกระอักกระอ่วน
เผชิญสายตาอึ้งตะลึงของฮองเฮาจ้าวกับเต๋อเฟย เธอโบกมือใส่รูเล็กๆบนหลังคา พลางทักว่า “ไฮ! เสด็จแม่,เสด็จแม่เต๋อเฟย อรุณสวัสดิ์!”
“เสวยของเช้าแล้วหรือยังเพคะ?”
ไม่รอพวกนางตอบกลับ หยุนหว่านหนิงหมุนตัวหนีทันที
ฮองเฮาจ้าวกับเต๋อเฟยตะลึงเกินไป เลยลืมถกเถียงกันต่อ
เต๋อเฟยได้สติก่อร พุ่งออกไปอย่างดุดัน “หยุนหว่านหนิง! เจ้าจะขึ้นสวรรค์รึ? ต้องให้ข้าต่อบันไดให้ไหม?!”
“ดูท่าข้าไม่ลงโทษเจ้าสามวัน เจ้าก็จะขึ้นหลังคาไปแงะกระเบื้องแล้ว!”
กล้ามาปีนเก็บกระเบื้องบนหลังคานาง?!
ช่วงนี้ตนดีกับนางมากเกินไปกระมัง?!
ในใจเต๋อเฟยแล้ว หยุนหว่านหนิงเป็นแบบอย่างของคนลืมตนที่แท้จริง
พอเห็นเต๋อเฟยพุ่งออกไป ฮองเฮาจ้าวก็ตามไปด้วย
จางหมัวมัวรีบคว้าตัวนางไว้ “เหนียงเหนียง อาศัยโอกาสนี้พวกเรากลับตำหนักกันเถอะ?”
“อาศัยโอกาสอะไร?”
ฮองเฮาจ้าวถลึงตาใส่นางอย่างไม่พอใจ “ข้ายังต้องกลัวเต๋อเฟยรึ? วันนี้ไม่พูดกันให้รู้เรื่อง ข้าไม่ยอมเลิกรากลับไปง่ายๆแน่!”
“แต่เหนียงเหนียง เงินหนึ่งแสนตำลึงนั่นท่านยังมิได้ให้…”
จางหมัวมัวยังพูดไม่ทันจบ ก็ถูกฮองเฮาจ้าวถลึงตาดุดันใส่จนกลืนคำพูดลงไป
นางหดคอย่น พลางเปลี่ยนคำพูดว่า “เหนียงเหนียง ถ้ามีแค่เต๋อเฟยคนเดียว ไม่น่ากลัวดอก”
“แต่พระชายาหมิงก็อยู่ด้วยนะ!”
แม่ผัวลูกสะใภ้สองคนร่วมมือกัน คนที่เพลี่ยงพล้ำต้องเป็นฮองเฮาจ้าวแน่!
เพราะแค่เต๋อเฟยคนเดียว ฮองเฮาจ้าวก็สู้ไม่ไหวแล้ว
ยิ่งไปกว่านั้นมีหยุนหว่านหนิงอยู่ด้วยอีก?!
พอพูดถึงสตรีผู้นี้ จางหมัวมัวที่เกือบโดนนางยั่วโมโหอกแตกตายมาแล้วยังหวาดหวั่นไม่หาย
“นางอยู่แล้วเป็นอย่างไร? ข้าต้องกลัวนางรึ?”
ฮองเฮาจ้าวยิ้มเย็น
ถึงจะพูดอย่างนั้น แต่ก็แอบหวั่นใจ เห็นแววตานางสั่นไหวเล็กน้อย…. ฮองเฮาจ้าวทำปากแข็งไปอย่างนั้น ก็แค่ไม่อยากจากไปง่ายๆอย่างนั้น
จางหมัวมัวยังพยายามเกลี้ยกล่อม “เหนียงเหนียง”
“ตอนนี้พระชายาหมิงยังไม่ลงจากหลังคา สู้พวกเราลอบกลับไปทางประตูหลังดีหรือไม่? ไม่เช่นนั้นเกิดช้าไป น่ากลัวจะ…”
ไม่ทันแล้ว!
ยังพูดไม่ทันจบ ได้ยินเสียงตะคอกดังของเต๋อเฟยขึ้นด้านหลัง “เจ้าลงมาเดี๋ยวนี้เลย!”
ที่แท้ตอนหยุนหว่านหนิงตกใจหลบหนีอยู่บนหลังคา ก็เหยียบแผ่นกระเบื้องแตกไปหลายอันอีก
แผ่นกระเบื้องร่วงลงมา เกือบโดนเต๋อเฟย!
“เสด็จแม่เต๋อเฟย ข้าไม่ได้ตั้งใจนะ ท่านอย่าเอ็ดตะโรไปสิ! ถ้าท่านทำข้าตกใจ ไม่ทันระวังร่วงลงมา ท่านรับผิดชอบไหวไหม?”
หยุนหว่านหนิงย่อตัวอยู่บนหลังคา
ถึงเธอจะรู้วิชาแพทย์ แต่ก็ไม่เป็นวรยุทธ์
ก่อนหน้านี้เธอพบว่า ร่างกายนี้ทำได้แค่หมัดมวยไม่กี่กระบวนท่า
การที่เธอสามารถกร่างบ้าคลั่งในเมืองหลวง ล้วนเป็นเพราะพี่ชายช่องว่างให้ท้ายเธอ บวกกับความสามารถในการทำคนโกรธอกแตกตายแต่เธอรอดของเธอด้วย
ถ้าให้เธอกระโดดลงไปจากหลังคาจริงๆ—
หยุนหว่านหนิงยืดคอยาวมองลงไป “แม่เจ้าสูงชะมัดเลย!”
เธอนั่งลงด้วยเนื้อตัวสั่นเทา สองมือค่อยๆจับกระเบื้องข้างเท้าอย่างช้าๆ “เสด็จแม่ หลังคาตำหนักหย่งโซ่วของท่านนี่ทำไมสูงขนาดนี้ล่ะ?”
เต๋อเฟย “…”
นางมองดูหยุนหว่านหนิงย่อตัวลงช้าๆ และมองไปทางหรูอวี้ที่ตามติดอยู่ข้างๆหลังลูกสะใภ้มาติดๆอย่างกลัวจะตกลงไป
“หรูอวี้! เจ้าคนทุเรศ! ถ้าพระชายาเจ้าตกลงมา ข้าจะเด็ดหัวเจ้าคนแรกเลย!”
หรูอวี้เหงื่อแตกซิก “พ่ะย่ะค่ะ เหนียงเหนียง”
“พระชายา ให้ข้าน้อยพาท่านลงไปเถอะ”
เขาถามหยุนหว่านหนิงเสียงต่ำ
“ไม่!”
หยุนหว่านหนิงปฏิเสธทันที “ลงไปตอนนี้ เสด็จแม่เต๋อเฟยต้องอาศัยโอกาสจัดการข้าแน่ เจ้าอย่าส่งเสียง ให้ข้านั่งตรงนี้สักครู่หนึ่ง รอจนโม่เยว่เสร็จจากราชการมาตามหาข้าก่อน”
หรูอวี้สายตาเป็นประกาย “พระชายา ความคิดนี้ของท่านเยี่ยมยอดนัก!”
ขอเพียงมีท่านอ๋องอยู่ ไม่มีใครกล้ารังแกพระชายาแน่!
ฮองเฮาจ้าวตามออกมาในที่สุด
เห็นหยุนหว่านหนิงนั่งนิ่งบนหลังคาไม่ยอมลงมา นางมองเต๋อเฟยอย่างเยาะหยัน “นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าเห็นพระชายาขึ้นหลังคานะเนี่ย”
“เต๋อเฟย สมเป็นลูกสะใภ้เจ้าจริงๆนะ!”
นางจงใจกระทบกระเทียบตน
เมื่อครู่ตอนได้ยินว่าหยุนหว่านหนิงหลอกเอาเงินจากนางไปได้หนึ่งแสนตำลึง เต๋อเฟยพูดแบบนี้ไว้!
“สมเป็นลูกสะใภ้ข้าจริงๆนะ!”
พอคิดถึงคำพูดนี้ของเต๋อเฟย ฮองเฮาจ้าวยิ้มเย็นบอก “กระทำการอุกอาจหยาบคายเยี่ยงนี้ ไหนเลยจะมีราศีสง่าของพระชายาแห่งราชวงศ์? ข้าจะให้คนไปกราบทูลฝ่าบาท!”
“ให้ฝ่าบาทมาดูสิว่า ในบรรดาลูกสะใภ้ ใครกันแน่ว่านอนสอนง่ายที่สุด!”
สะใภ้รองพึ่งไม่ได้ สะใภ้เจ็ดก็เป็นคนกระโดกกระเดก
แบบนี้แล้ว เท่ากับมีแค่สะใภ้ใหญ่และสะใภ้สามที่ว่านอนสอนง่ายที่สุด?
ฮองเฮาจ้าวมองเต๋อเฟยอย่างได้ใจ
หยุนหว่านหนิงที่อยู่บนหลังคาได้ยินคำนี้ รีบร้องบอก “เสด็จแม่ รบกวนท่านไปกราบทูลเสด็จพ่อด้วยว่า!”
“บอกว่าหม่อมฉันติดอยู่บนหลังคาลงไม่ได้แล้ว! ให้เสด็จพ่อมาช่วยเอาหม่อมฉันลงไปด้วย!”
ฮองเฮาจ้าว “….”
การข่มขู่ของตนที่มีต่อนางไม่มีประโยชน์เลยสักนิด?!
“บอกโม่เยว่ด้วย ให้รีบมาช่วยข้าเร็ว!”
หยุนหว่านหนิงสองมือประคองใบหน้า มองดูด้านล่างอย่างสบายอารมณ์
ชอบว่ากันว่า ยืนอยู่ที่สูงมองไปได้ไกล
คนโบราณไม่หลอกจริงๆด้วย!
ต่อให้เธอนั่งลงแบบนี้ ยังมองไปได้ไกลมากเลย
ในตำหนักหลัง ฐานะใครสูง ใครได้รับการโปรดปรานมากสุด ตำหนักใครก็จะหรูหราโอ่โถงที่สุด นอกจากตำหนักคุนหนิงแล้ว ตำหนักหย่งโซ่วดูหรูหราที่สุดละ
ตำหนักของตำหนักหย่งโซ่วดูจะสูงกว่าตำหนักของสนมปกติอยู่หน่อย
และการที่หยุนหว่านหนิงนั่งอยู่บนหลังคา แทบจะมองเห็นทั่วทุกมุมของวังหลังได้หมด
ลมน้อยพัดมาแผ่วเบา แสงแดดสาดส่องมาเอื่อยเฉื่อย
ถ้าไมใช่เพราะมีฮองเฮาจ้าวถลึงตาใส่เธออย่างโกรธมากอยู่ด้านล่าง เธอยังอยากนอนอยู่ที่นี่ อาบแดดให้พอใจไปเลย!
ฮองเฮาจ้าวโดนคำพูดของหยุนหว่านหนิงสกัดจนพูดอะไรไม่ออก
พอดีกับในเวลานี้ ซูเฟยนำถ้วยน้ำแกงเข้ามาอย่างเดือดดาลเป็นอย่างยิ่ง
ถ้าไม่ใช่เพราะน้ำแกงนี้ยังร้อนเดือด…
นางอยากจะสาดใส่หน้าเต๋อเฟยไปเลยจริงๆ!
“น้องซูเฟย มาส่งน้ำแกงให้ข้าอีกแล้วรึ? วันนี้เป็นน้ำแกงอะไรเล่า?”
เต๋อเฟยสั่งให้คนรับถ้วยน้ำแกงมา พลางเปิดฝาเปิดออกดู และยิ้มบอก “อ้อ น้ำแกงไก่ดำนี่! หอมจริง! ฝีมือการทำอาหารของน้องซูเฟยพัฒนาขึ้นแล้วนะ”
น้ำแกงไก่ดำ ช่างตรงกับสถานการณ์นัก!
หยุนหว่านหนิงดีใจนัก
“น่ากลัวน้องซูเฟยยังไม่รู้กระมัง? วันนี้ลูกสะใภ้ข้าก็อยู่ด้วย”
เต๋อเฟยขี้เกียจสนใจหยุนหว่านหนิงที่อยู่บนหลังคาแล้ว
นางสั่งให้คนนำน้ำแกงเข้าไปในตำหนัก ยิ้มบอกอีกว่า “หนิงเอ๋อร์ชอบกินน้ำแกงไก่ดำที่สุด! วันนี้นางมีลาภปากแล้ว”
“จริงสิ หนิงเอ๋อร์ยังชอบกินน้ำแกงปลา น้ำแกงซี่โครงหมู! พรุ่งนี้น้องซูเฟยตุ๋นน้ำแกงสองอย่างนี้มานะ”
นางกำชับซูเฟยอย่างจริงจัง
ฮองเฮาจ้าวขมวดคิ้วมองนางสองคน “ซูเฟย ไม่เจอพักหนึ่ง ทำไมเจ้ากลายเป็นแม่ครัวของเต๋อเฟยไปเสียแล้วเล่า?”
ซูเฟยหน้าแดงก่ำ ตอบเสียงต่ำว่า “เหนียงเหนียง เรื่องนี้ยาวนัก!”
ระหว่างพูด นางยังถลึงตาใส่เต๋อเฟยด้วยใบหน้าแดงก่ำ “เต๋อเฟยเจ้าอย่าทำเกินไปนักนะ! ฮ่องเต้ให้ข้ามาส่งน้ำแกงให้เจ้า ไม่ใช่ส่งน้ำแกงให้พระชายาหมิง!”
ซูเฟยอย่างนางมาเป็นแม่ครัวให้เต๋อเฟยก็ว่าแย่แล้ว ยังต้องมารับใช้แม่ผัวลูกสะใภ้อย่างพวกนางสองคนอีกรึ?!
“หมาแมวอะไรของเจ้าจะมาทานน้ำแกงที่ข้าตุ๋นเองกับมือได้รึ?”
ซูเฟยบอกอย่างอารมณ์เสีย
พอได้ยินคำนี้หยุนหว่านหนิงไม่พอใจละ
แต่ยังไม่ทันที่เธอจะอาละวาด ก็มีคนออกหน้าให้เธอก่อนแล้ว…