อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ - บทที่ 375 ระบายความโกรธแทนลูกสะใภ้
อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ บทที่ 375 ระบายความโกรธแทนลูกสะใภ้
โม่เยว่จนใจ
เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าล่ายซื่อเป็นใครมาจากไหน จะจัดการอย่างไร? !
แต่เห็นเสด็จแม่ของตัวเองกำลังโกรธอยู่ เขารีบร้อนกล่าวว่า “ในเมื่อเป็นคนที่ไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ ทุบตีให้หนักแล้วจับโยนออกไปก็พอ! จะไม่ทำให้เสด็จแม่เป็นกังวล ให้หนิงเอ๋อร์ต้องเสียใจเด็ดขาด”
“เรื่องนี้กระหม่อมจะอธิบายกับหนิงเอ๋อร์อย่างละเอียดเอง”
“เช่นนี้ก็ค่อยยังชั่วหน่อย!”
เต๋อเฟยถึงได้พยักหน้าอย่างพึงพอใจ
ทันทีที่พูดจบนางก็ฮึเสียงเย็นชาออกมา “ตอนนี้ฮองเฮาเป็นใบ้ไปแล้ว ยังจะออกนอกลู่นอกทางอีก!”
“เรื่องของลูกชายสองคนตัวเองไม่ไปกังวล ถึงกับยื่นมือไปที่จวนอ๋องหมิงแล้ว……หากไม่ตอบแทนนางให้ดีหน่อย คงจะดูว่าข้าข่มเหงรักแกได้ง่าย!”
“นึกว่าลูกสะใภ้ของข้าข่มเหงรังแกได้ง่าย!”
โม่เฟยเฟยกับโม่เยว่มองหน้ากันครู่หนึ่ง
ข่มเหงรังแกได้ง่าย?
ใครบ้างไม่รู้ว่า เต๋อเฟยไม่มีเหตุผลและเอาแต่ใจที่สุด?
ในวังแห่งนี้ใครกล้าข่มเหงรังแกนางกัน? !
“หลี่หมัวมัว”
เต๋อเฟยครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง สั่งการต่อหลี่หมัวมัว “เจ้ารีบออกจากวังไปรอบหนึ่ง ไปค้นหาผู้หญิงมาห้าหกคนแล้วส่งไปที่จวนอ๋องฉู่กับจวนอ๋องสาม”
“บอกไปว่าข้าเห็นใจที่ภรรยาเจ้าใหญ่กำลังตั้งครรภ์ ไม่สามารถปรนนิบัติเจ้าใหญ่ได้ ก็เลยเลือกหญิงสาวที่มีภูมิหลังขาวสะอาดสองสามคนเพื่อแบ่งเบาภาระของนาง”
หลี่หมัวมัวลังเล “แต่ว่าเหนียงเหนียง……”
“ตอนนี้จวนอ๋องสามไม่ได้อยู่ในเมืองหลวงแล้ว!”
“ไม่อยู่ในเมืองหลวงก็ส่งไปที่จวนอ๋องสาม ภรรยาเจ้าสามบาดเจ็บที่ขาไม่ใช่หรือ? จื่อซูสาวใช้ของนางก็อยู่ที่เซินซิงซีอีก”
เต๋อเฟยฮึเสียงเย็นชา “บอกไปว่าหญิงสาวสองสามคนนี้ คือคนที่ข้าตั้งใจเลือกมาปรนนิบัตินางโดยเฉพาะ รอให้เจ้าสามกลับมา ก็สามารถรับเอาไว้เป็นคนในจวนได้”
แผนนี้ฉลาดมาก!
โม่เฟยเฟยยกนิ้วโป้งให้กับนาง “เสด็จแม่ท่านช่างยอดเยี่ยมจริงๆ!”
เต๋อเฟยมองดูนางอย่างได้ใจครู่หนึ่ง แล้วก็สั่งการหลี่หมัวมัว “จำเอาไว้ว่า ต้องเลือกอย่างละเอียดถี่ถ้วน”
“เช็ดตาให้สว่างและเลือกอย่างจริงจัง! เอาแบบที่ภูมิหลังขาวสะอาด หน้าตางดงามอย่างมาก”
สายตาของนางมีความหมายลึกซึ้ง น้ำเสียงก็ลึกซึ้งขึ้นมาเล็กน้อยเช่นกัน
หลี่หมัวมัวปรนนิบัตินางมานานหลายปี จะไม่เข้าใจความหมายของนางได้อย่างไร?”
“บ่าวทราบแล้ว เหนียงเหนียงโปรดวางใจ!”
หลี่หมัวมัวหันหลังก็ออกไปเลย
เต๋อเฟยถึงได้ยกถ้วยชาขึ้นมา “ฮองเฮาสามารถหาผู้หญิงที่หน้าตาคล้ายกับฉินซื่อเสวียมาได้ ข้าก็สามารถหาคนเช่นนี้มาได้หลายคนเช่นกัน!”
“แต่ว่าเสด็จแม่ เมื่อก่อนท่านรักฉินซื่อเสวียที่สุดไม่ใช่หรือ?”
ทุกครั้งที่นางพูดเรื่องไม่ดีของฉินซื่อเสวีย เต๋อเฟยก็ไม่เชื่อเลยนี่นา!
โดยเฉพาะหลังจากที่ได้รู้ว่าที่นางถูกทำร้ายในตอนนั้น ความจริงแล้วผู้ที่บงการอยู่เบื้องหลังคือฉินซื่อเสวีย……โม่เฟยเฟยก็เกลียดนางอย่างมาก!
“ในอดีตข้าตาบอดไปเอง!”
เต๋อเฟยกล่าวอย่างไม่ลังเล “ลูกสะใภ้ของตัวเองสำคัญ หรือว่าลูกสะใภ้ของคนอื่นสำคัญ? ตอนนั้นที่ข้าป่วย หนิงเอ๋อร์ยุ่งอยู่กันการเข้าวังมาดูแลอาการป่วยทุกวัน”
“โรงหมอหลวงกระทำผิดอย่างเหิมเกริม หนิงเอ๋อร์ก็เป็นคนคอยหนุนหลังระบายความโกรธแทนข้า”
“ฮองเฮาก่อปัญหาโดยไม่มีเหตุผล ก็เป็นพี่สะใภ้เจ็ดของเจ้าที่อยู่ข้างเดียวกับข้า……”
ลูกสะใภ้เช่นนี้ ถึงแม้ปากนางจะบอกว่ารังเกียจ ในใจกลับชอบมาก!
จนถึงกับฝืนใจยอมรับ “ลูก” ที่หยุนหว่านหนิงให้กำเนิดกับข้ารับใช้คนนั้นแล้ว
“ที่แท้เสด็จแม่ก็รู้ความดีของพี่สะใภ้เจ็ดนี่นา!”
โม่เฟยเฟยก็ยิ้มอย่างมีความหมายลึกซึ้งเช่นกัน
ในใจของโม่เยว่รู้สึกพอใจ บนใบหน้ายังคงไม่แสดงสีหน้าท่าทางใดๆ “มีเสด็จแม่คอยหนุนหลังระบายความโกรธแทนหนิงเอ๋อร์ กระหม่อมรู้สึกซาบซึ้งใจยิ่งนัก จากนี้ไปกระหม่อมสามารถวางใจได้แล้ว!”
“เจ้ามีอะไรให้เป็นห่วงกัน? ข้าสามารถกินเมียเจ้าได้หรือ?”
เต๋อเฟยจ้องมองเขาอย่างไม่พอใจครู่หนึ่ง “เรื่องนี้เจ้าก็มีส่วนรับผิดชอบเช่นกัน!”
“ไม่ว่าจะมีคนข้างนอกหรือไม่ ถูกคนจับจุดอ่อนมาสร้างความวุ่นวายก็คือความผิดของเจ้า!”
เต๋อเฟยผู้ซึ่งในเวลาปกติเรื่อยเฉื่อยไม่สนใจไยดี ก็มีช่วงเวลาที่รอบคอบเข้าอกเข้าใจเช่นนี้เหมือนกัน!
“เสด็จแม่สั่งสอนถูกแล้ว”
โม่เยว่ไม่ได้โต้เถียง พยักหน้าอย่างเชื่อฟัง
“เจ้าออกจากวังแล้วต้องไปขอโทษหนิงเอ๋อร์ให้ดี เอาใจนางให้มากๆ! เรื่องเช่นนี้สำหรับผู้หญิงแล้ว คือสิ่งที่เลวร้ายที่สุด!”
เต๋อเฟยสอนเขา “เก็บนิสัยแย่ๆของเจ้าซะ”
“และอย่าทำให้หนิงเอ๋อร์เสียใจ! หากมิเช่นนั้น ข้าจะถลกหนังของเจ้า!”
“พ่ะย่ะค่ะ เสด็จแม่”
ถูกนางตำหนิเป็นชุด โม่เยว่กลับยิ้มออกมา ยิ้มจนโม่เฟยเฟยรู้สึกสับสนมึนงง
หลายวันมานี้นางอารมณ์ไม่ค่อยดีเท่าไหร่
วันนี้ก็มาพบเต๋อเฟยอย่างหงอยเหงาซึมเซา ใครจะรู้ว่าในอุทยานหลวง ได้ยินคนในวังสองสามคนกำลังวิพากษ์วิจารณ์ข่าวลือของจวนอ๋องหมิง……
ถึงได้รีบมาฟ้องต่อเต๋อเฟย
แม่ลูกเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน จะร้องขอความเป็นธรรมให้กับหยุนหว่านหนิง!
ถึงได้มีภาพที่โม่เยว่เข้าประตูมาก็ถูกตีนั่น
……
ตำหนักคุนหนิง
เห็นจางหมัวมัวไม่กลับมาเสียที ในใจของฮองเฮาจ้าวรู้สึกว้าวุ่นไม่เป็นอันทำอะไร
จางหมัวมัวพอจะเข้าใจภาษามือง่ายๆของนางเล็กน้อย แต่นางไม่อยู่……คนในวังที่เหลือไม่เพียงไม่เข้าใจภาษามือ ทั้งยังรู้หนังสือแค่ไม่กี่ตัวอีก
ฮองเฮาจ้าวอยากจะสื่อสารกับคนในวัง มันช่างยากยิ่งกว่าทะยานขึ้นฟ้าเสียอีก!
เรียกตัวนางกำนัลอาวุโสยวนยังเข้ามา นางต้องการจะถามว่าทำไมจางหมัวมัวยังไม่กลับวัง
ยวนยังสับสนไม่เข้าใจ กล่าวถามอย่างหยั่งเชิง “เหนียงเหนียงอยากจะออกไปเดินข้างนอกหรือ?”
ฮองเฮาจ้าวไม่ยอมแพ้ ทำท่าทางอีกครั้งหนึ่ง
ยวนยังเกาหัว “เหนียงเหนียงต้องการจะปิดประตู?”
ฮองเฮาจ้าวส่ายหน้า ทำท่าทางต่อไป
ยวนยังขมวดคิ้วแน่น “เหนียงเหนียงอยากจะปีนกำแพง?”
ฮองเฮาจ้าววางมือลงอย่างท้อใจจ้องมองนางอย่างไม่สบอารมณ์ครู่หนึ่ง: เจ้าคนไม่ได้เรื่อง! ท่าทางของนางเดายากขนาดเลยหรือ? !
เรื่องนี้จะโทษยวนยังไม่ได้ ใครใช้ให้นางชี้ไปที่ประตูกับกำแพงอย่างเดียวล่ะ? !
นางเริ่มเขียนหนังสือ สอบถามว่าทำไมจางหมัวมัวยังไม่กลับมาอีก
ทำอย่างไรได้ยวนยังอ่านไม่รู้เรื่อง ได้แต่รีบออกไปตามหาคนมาช่วยเหลือ
เพิ่งจะเดินออกจากตำหนักคุนหนิง ก็เห็นโม่โยวโยวที่มาน้อมทักทายฮองเฮาจ้าว
มีโม่โยวโยวแล้ว การสื่อสารระหว่างฮองเฮาจ้าวและยวนยังราบรื่นขึ้นมาก
ยวนยังรีบร้อนไปสอบถามข่าวของจางหมัวมัว
โม่โยวโยวเพิ่งจะนั่งไปครู่เดียว โม่เฟยเฟยก็เข้ามาด้วยเช่นกัน
ฮองเฮาจ้าวเห็นทายาทฝั่งของเต๋อเฟยก็โมโหขึ้นมา เห็นโม่เฟยเฟยก็เพียงแค่ยกเปลือกตาขึ้นมาอย่างเกียจคร้าน เจตนาไม่ต้อนรับชัดเจนมากแล้ว
โม่เฟยเฟยดันเรียนรู้วิธีหน้าด้านไร้ยางอายมาจากหยุนหว่านหนิง
นางนั่งลงไปอย่างสนใจแค่ตัวเอง “เสด็จแม่ระยะนี้อาการดีขึ้นหรือยัง? สามารถส่งเสียงได้หรือยัง?”
ฮองเฮาจ้าวอ้าปากออก เห็นได้ชัดว่าไม่ได้
“ที่แท้ก็ยังไม่ได้นี่เอง? เสียงของเสด็จแม่คงจะไม่เป็นใบ้ไปโดยตรงใช่ไหม?”
สีหน้านางเต็มไปด้วยความเป็นห่วง
ฮองเฮาจ้าว: “……”
“เสด็จแม่ หม่อมฉันได้ยินมาว่าวังหลังปราณหยินหนักมาก ไม่แน่ว่าเสียงของเสด็จแม่จะถูกทำร้ายจากปราณหยิน ถ้าอย่างไรลองเชิญไต้ซือมาประกอบพิธีกรรมหน่อยดีหรือไม่?”
สีหน้าของฮองเฮาจ้าวแปลกประหลาดเล็กน้อย
หลายปีมานี้คนที่ตายในน้ำมือของนางมีไม่น้อย เสียงของนาง……
หลังจากการข่มขู่ของโม่เฟยเฟย ก็คิดถึงเรื่องนี้ขึ้นมาในทันใด
หยุนหว่านหนิงยังรักษาไม่หาย ไม่แน่ว่าอาจจะมีสิ่งเหล่านั้นก่อกวนอยู่จริงๆ!
เห็นสีหน้าท่าทางของนางแปลกประหลาด โม่เฟยเฟยแอบเสียบมีดเข้าไปบนหัวใจของนางอีกครั้ง: “เสด็จแม่ เมื่อครู่นี้เสด็จแม่เต๋อเฟยยังเป็นห่วงท่านอยู่เลย! บอกว่าเสียงของเสด็จแม่ไม่หายสักที เสด็จพ่อก็บอกว่าเป็นถึงฮองเฮาหนานจวิ้นจะเป็นใบ้ได้อย่างไร”
“เสด็จแม่เต๋อเฟยยังพูดแทนเสด็จแม่อยู่เลย!”
สีหน้าของฮองเฮาจ้าวตึงเครียดขึ้นมาทันที
ถึงแม้นางจะไม่เชื่อว่าเต๋อเฟยจะพูดแทนนาง แต่โม่จงหรานต้องเคยพูดเช่นนี้แน่นอน!
เดิมทีเขาก็เกลียดนางอยู่แล้ว
แล้วนางก็เป็นถึงฮองเฮาหนานจวิ้น นับแต่โบราณจนถึงปัจจุบันไหนเลยจะมีคนใบ้เป็นฮองเฮา? !
หากนางเป็นใบ้เช่นนี้ต่อไปอีก กลัวแต่ว่าฝ่าบาทคงจะฉวยโอกาสนี้ดันนังแพศยาเต๋อเฟยนั่นขึ้นสู่อำนาจแล้วใช่ไหม? !
เป็นใบ้มานานขนาดนี้ ตัวนางกลับไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้เลย? !
เวลานี้ฮองเฮาจ้าวเริ่มร้อนใจแล้ว
หลังคารั่วแต่ฝนดันตกทั้งคืน เคราะห์ร้ายมักเกิดขึ้นซ้ำซ้อน
แต่ในเวลานี้ ยวนยังวิ่งเข้ามาด้วยสีหน้าท่าทางตื่นตระหนก “เหนียงเหนียง เกิดเรื่องใหญ่แล้ว!”