อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ - บทที่ 379 หยวนเป่าช่วยเต๋อเฟยเอาไว้
อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ บทที่ 379 หยวนเป่าช่วยเต๋อเฟยเอาไว้
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกะทันหัน อย่าว่าแต่เต๋อเฟยจะตกใจกลัวเลย แม้แต่ผู้ชมที่มามุงดูก็ยังตกตะลึงไปด้วย
หรูอวี้กำลังจ่ายเงินอยู่ที่ร้านผลไม้เคลือบน้ำตาลเล็กๆที่อยู่ด้านข้าง หันกลับมาก็เห็นคุณชายของตัวเองกระโดดตัวลอยขึ้นไปขี่บนหลังม้าแล้ว และโจวเถียนเถียนก็ถูกเขาผลักออกไป เวลานี้กำลังหน้าสู้ดินนอนหมอบอยู่บนพื้น
เห็นได้ชัดว่าโจวเถียนเถียนตกใจจนวิญญาณออกจากร่างไปแล้ว
ผลไม้เคลือบน้ำตาลที่อยู่ในมือตกลงไปบนพื้นก็ยังเฉยๆ เพียงแค่มองดูเท้านับไม่ถ้วนที่อยู่ตรงหน้านิ่งๆ
ทุกคนรีบช่วยกันผยุงโจวเถียนเถียนขึ้นมา แล้วก็มองดูภาพเหตุการณ์ที่น่าตกตกตะลึงตรงหน้า
เห็นเพียงเด็กผู้ชายที่อายุสี่ห้าขวบคนหนึ่ง กำลังขี่อยู่บนหลังม้า สองมือจับสายบังเหียนเอาไว้แน่น บนใบหน้าเล็กก็เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น
หรูอวี้ตกใจจนขวัญหนีดีฝ่อ!
“โอ้แม่เจ้า!”
เขาทำท่าทางจะพุ่งเข้าไป แต่กลับเห็นคุณชายน้อยของตัวเองส่งสัญญาณให้เขา: อย่าเข้ามา!
ในเวลาเช่นนี้ หรูอวี้จะกล้าเชื่อฟังคำพูดของหยวนเป่าได้อย่างไร? !
คุณชายน้อยของตนเองก็คือสมบัติล้ำค่า!
ไม่เพียงจะเป็นของล้ำค่าที่โม่เยว่กับหยุนหว่านหนิงประคบประหงมเอาไว้ในฝ่ามือ ยิ่งเป็นพระนัดดาเตี้ยนเซี่ยของฮ่องเต้องค์ปัจจุบัน!
ความปลอดภัยของเขา จะทำเป็นเด็กเล่นขายของได้อย่างไร? !
หากวันนี้หยวนเป่าเป็นแผลขีดข่วน เกรงว่าโม่เยว่ก็จะฉีกกระดูกทั้งร่างกายของหรูอวี้มาทำเป็นฟืน!
ดังนั้นหรูอวี้จึงต้องการจะกระโดดตัวลอยขึ้นไปอย่างไม่ลังเล ใครจะรู้ว่าหยวนเป่าตะโกนเสียงดุขึ้นมา “หลบไป!”
คนตัวไม่ใหญ่ ลักษณะอำนาจที่แสดงออกมากลับดูไม่เล็กเลย
เสียงที่เต็มไปด้วยพลังอำนาจ ทำให้ชาวบ้านที่มุงดูอยู่ตกใจจนพากันถอยหลัง นึกว่าหยวนเป่ากำลังบอกให้พวกเขาหลบไป แต่กลับไม่เคยคิดว่า คำพูดนี้คือพูดต่อหรูอวี้
หางตาของหรูอวี้เห็นตราสัญลักษณ์ราชวงศ์ที่อยู่บนรถม้า……
นี่คือรถม้าของในวัง!
ในวังมีคนไม่น้อยที่รู้ว่า เขาคือองครักษ์ประจำกายของโม่เยว่
หากเขาปรากฏตัวปกป้องหยวนเป่าเวลานี้ จะต้องทำให้คนสงสัยแน่นอน มองดูคุณชายน้อยของตัวเองถึงแม้จะดูเกินกำลังเล็กน้อย ท่าทางนั่นก็สามารถปราบม้าที่ได้รับความตกใจตัวนั้นให้ยอมจำนนได้
เขาเชื่อในความสามารถของคุณชายน้อยตัวเอง!
หรูอวี้รีบถอยหลังไปอยู่ในฝูงชนอย่างรวดเร็ว จ้องมองหยวนเป่าอย่างไม่กะพริบตา
หากเขาตกอยู่ในอันตรายแม้แต่นิดเดียว เขายอมสละทุกอย่างก็จะช่วยคุณชายน้อยเอาไว้……
โชคดีที่สุดท้ายหรูอวี้ก็สามารถหมดกังวลได้
ฝึกวรยุทธกับโม่เยว่มานานขนาดนี้ หยวนเป่าคืออัจฉริยะที่แม้แต่ฟ้าก็ยังตามใจชัดๆ
ถึงแม้จะเป็นเด็ก ปราบม้าที่ได้รับความตกใจจะเป็นเรื่องยากเล็กน้อย แต่ว่าหยวนเป่าก็ทำสำเร็จ
ม้าร้องขึ้นมาและค่อยๆหยุดลงช้าๆ คนขับรถม้าถูกสั่นโคลงเคลงจนล้มลงไปบนพื้นนานแล้ว เต๋อเฟยกับหลี่หมัวมัวก็เหมือนกับแอ่งโคลน นอนหมอบอยู่ในรถม้านานพักใหญ่ก็ไม่สามารถลุกขึ้นมาได้
ฝ่ามือที่บอบบางของหยวนเป่าก็ถูกสายบังเหียนบาดจนเป็นแผล
เมื่อเห็นม้าค่อยๆสงบลงมา เขาก็ถอนหายใจโล่งอกเบาๆเช่นกัน
ใจที่เป็นกังวลของหรูอวี้ก็หมดห่วงลง “ชีวิตนี้ถือว่ารักษาเอาไว้ได้แล้ว”
เขาแอบพึมพำประโยคหนึ่ง
รถม้าของเต๋อเฟยเคยไปที่จวนอ๋องหมิงนับครั้งไม่ถ้วน ภายใต้สถานการณ์คับขันเมื่อครู่นี้ไม่ได้มองให้ชัดเจน เวลานี้เห็นแล้วว่ารถม้าคันนี้เป็นของเต๋อเฟย……
หรูอวี้ก็ไม่กล้าก้าวเข้าไปข้างหน้า ได้แต่แฝงตัวอยู่ในกลุ่มฝูงชนจ้องมองหยวนเป่าอย่างไม่ละสายตา
หยวนเป่ากระโดดลงมาจากหลังมา เข้าไปจูงมือโจวเถียนเถียน “โจวอ้วนน้อย เจ้าไม่เอาไหนเกินไปแล้ว!”
“กินเป็นอย่างเดียวเท่านั้น จะถูกรถม้าชนกระเด็นอยู่แล้วยังไม่รู้จักหลบออกไปหรือ?”
โจวเถียนเถียนตกอยู่ในสภาวะ “วิญญาณออกจากร่าง” ตลอด
เวลานี้เห็นหยวนเป่ายืนอยู่ตรงหน้า ปั้นหน้าบึ้งตึงตำหนินาง นางถึงได้ร้องไห้ “แง” ออกมา
ผลไม้เคลือบน้ำตาลที่อยู่ในมือก็ไม่เอาแล้ว โยนทิ้งไปบนพื้นโดยตรง แขนเล็กอ้วนท้วนทั้งสองข้างกอดหยวนเป่าเอาไว้แน่น “ฮือๆๆพี่หยวนเป่า! ข้าตกใจกลัวแทบกลัว!”
“รู้ว่าตกใจกลัวแทบตายยังยืนอยู่กลางถนนอีก วันหน้าจะทำเช่นนี้อีกไม่ได้รู้ไหม?”
หยวนเป่าตำหนินางต่อ
“ข้ารู้แล้วฮือๆๆ……”
โจวเถียนเถียนร้องไห้จนน้ำมูกน้ำตาไหล เปรอะเปื้อนไปบนเสื้อผ้าของหยวนเป่าทั้งหมด
หยวนเป่าทำหน้ารังเกียจ แต่กลับไม่ได้ผลักนางออกไปอย่างหาได้ยาก ยื่นมือไปนวดท้ายทอยของนาง นวดจนผมเปียที่ยุ่งเหยิงอยู่แล้วของโจวเถียนเถียน ยุ่งเหยิงมากขึ้นไปอีก
หยวนเป่ากลัวความสกปรก
ในเวลาปกติมีดินโคลนติดอยู่บนมือ ก็ต้องล้างให้สะอาดทันที
เมื่อเห็นว่าโจวเถียนเถียนน้ำมูกน้ำตาไหลออกมา เขาอดกลั้นต่อความอึดอัดอยากจะผลักนางออกไป
ใครจะรู้ว่าโจวเถียนเถียนมีพละกำลังไม่น้อย กอดเขาเอาไว้แน่นไม่ยอมปล่อยมือ “ฮือๆๆๆพี่หยวนเป่า ข้าเป็นเด็กผู้หญิง พี่อย่าดุข้าสิฮือๆๆ พี่ต้องยอมให้ข้า……”
“เจ้าอ้วนกว่าข้าเสียอีก! ร้องไห้ขึ้นมาเหมือนกับนกฮูกเลย”
หยวนเป่ายิ่งรังเกียจขึ้นไปใหญ่
โจวเถียนเถียนร้องไห้เสียงดังมากขึ้น “ฮือๆๆๆขอบคุณพี่หยวนเป่าที่ช่วยปกป้องข้าเมื่อครู่นี้! ข้าจะเลี้ยงของอร่อยพี่เยอะแยะมากมาย……”
หยวนเป่า: “……”
เขาต้องการให้โจวเถียนเถียนหยุดกินมากจริงๆ ควรลดน้ำหนักได้แล้ว
แต่เมื่อเห็นนางร้องไห้เสียงดังขนาดนี้เสียใจขนาดนี้ เขาไม่ปากร้ายครั้งหนึ่งอย่างหาได้ยาก “ตกลง”
เขาถึงได้ตบแขนอวบอ้วนของโจวเถียนเถียนเบาๆ “หยุดร้องไห้ได้แล้ว”
โจวเถียนเถียนก็เหมือนกับน้ำป่าที่ทะลักประตูกั้นน้ำ ร้องไห้จนไม่สามารถหยุดได้เลย ผู้ชมที่มุงดูอยู่ต่างก็ถูกนางทำให้รู้สึกขำขัน
เวลาผ่านไปประมาณหนึ่งถ้วยชา เต๋อเฟยถึงได้สติกลับมา
หลี่หมัวมัวประคองนางลุกขึ้นมา ทั้งสองคนเปิดม่านรถม้าออกมาและลงมาบนพื้นอย่างวิงเวียนตาลาย
เต๋อเฟยในเวลานี้ ไม่เห็นภาพลักษณ์ที่สง่างามสูงส่งในเวลาปกติแล้ว
เห็นเพียงนางมวยผมยุ่งเหยิง ปิ่นปักผมไข่มุกปักอยู่ในแนวนอน ผมเผ้ายุ่งเหยิงจนเหมือนกับเล้าไก่ เพราะได้รับความตื่นตระหนกตกใจ เวลานี้สีหน้าก็ดูซีดขาวเล็กน้อย ท่าทางนึกกลัวภายหลังหลังจากรอดพ้นจากเคราะห์กรรม
หลี่หมัวมัวก็ไม่ได้ดีไปกว่านางเท่าไหร่
นายบ่าวทั้งสองประคองกันลงมาจากรถม้า เต๋อเฟยพิงอยู่บนรถม้าอย่างเข่าอ่อน “ตกใจกลัวแทบตาย!”
“ใช่แล้วเหนียงเหนียง นี่มันน่ากลัวเกินไปแล้ว!”
หลี่หมัวมัวนั่งลงไปบนพื้นเสียเลย ยังนวดขาให้เต๋อเฟยตามหน้าที่อย่างดีที่สุด “เหนียงเหนียงท่านไม่เป็นไรใช่ไหม? ตกใจกลัวแทบแย่เลยใช่ไหม?”
คนขับรถม้าไล่ตามมา ล้มลุกคลุกคลานเข้ามาคุกเข่าต่อหน้าเต๋อเฟย
“เต๋อเฟยเหนียงเหนียง เมื่อครู่นี้ม้าได้รับความตกใจ เป็นเพราะบ่าวไร้ประโยชน์ บ่าวสมควรตาย!”
เขาคารวะหน้าผากแตะพื้นไม่หยุด “เหนียงเหนียงท่านไม่เป็นไรใช่ไหม?”
หากเต๋อเฟยเป็นอะไรขึ้นมา ฝ่าบาทจะต้องแล่เนื้อเฉือนหนังเขาด้วยมีดพันหมื่นเล่มแน่นอน!
“ลุกขึ้นมาเถอะ”
เต๋อเฟยไม่ได้ถือโทษเอาผิดเขา
เมื่อครู่นี้นางก็ได้ยินเช่นกัน ข้างทางมีเจ้าของร้านตีฆ้องขึ้นมากะทันหัน เสียงที่ดังขึ้นมากะทันหันทำให้เต๋อเฟยก็ยังตกใจจนตัวสั่นขึ้นมา ยิ่งไม่ต้องไปพูดถึงม้า
คนขับรถม้ารีบลุกขึ้นมา สลายฝูงชนที่กำลังมุงดู
ได้ยินว่าคนที่นั่งอยู่ในรถม้าคือเต๋อเฟยเหนียงเหนียง……
ใครบ้างไม่รู้ว่าเต๋อเฟยได้รับความโปรดปรานมาหลายปี?
ตอนนี้เห็นรูปลักษณ์ที่น่าอายของเต๋อเฟยแล้ว ทุกคนกลัวว่าจะสูญเสียลูกตาไป ต่างก็พากันหนีไป
“เหล่าหลี่ ประคองข้าขึ้นมา”
เต๋อเฟยยันรถม้าเอาไว้ ลุกขึ้นมาภายใต้การประคองของหลี่หมัวมัว “เหตุการณ์ในวันนี้ จะให้ฝ่าบาทรู้ไม่ได้เด็ดขาด ฝ่าบาทจะได้ไม่ทรงเป็นห่วง”
“เพคะ เหนียงเหนียง”
หลี่หมัวมัวรีบรับคำ
“เมื่อครู่นี้ใครเป็นคนช่วยข้าไว้?”
เต๋อเฟยขมวดคิ้ว
ฝูงชนที่มูงดูอยู่ถูกคนขับรถม้าสลายไปแล้ว นางก็ไม่ได้เห็นด้วยตาตัวเองว่า “จอมยุทธ์” ท่านไหนเป็นคนให้ความช่วยเหลือ……
จะขอบคุณผู้มีพระคุณอย่างไร?
หลี่หมัวมัวรีบร้อนกล่าวว่า “เหนียงเหนียง จอมยุทธ์ท่านนั้นอายุไม่มาก! เมื่อครู่นี้บ่าวได้ยินคำว่า ‘ถอยไป’ คิดว่าต้องเป็นจอมยุทธ์ท่านนั้นกำลังห้ามชาวบ้านไว้แน่!”
“เสียงของจอมยุทธ์ฟังดูอ่อนเยาว์ไร้เดียงสามาก ดูเหมือนจะเป็นเด็กคนหนึ่ง?”
ตามคำพูดของหลี่หมัวมัว สายตาของเต๋อเฟยก็หยุดอยู่ที่หยวนเป่าแล้ว……