อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ - บทที่ 382 ข้าตัดสินใจให้เจ้าเอง
อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ บทที่ 382 ข้าตัดสินใจให้เจ้าเอง
“หนิงเอ๋อร์ ไม่เป็นไรนะ ข้าอยู่นี่แล้ว!”
เต๋อเฟยหันไปมองหยุนหว่านหนิง แล้วตบเบาๆ ที่หลังมือของนางอย่างเจ็บปวดใจ “เจ้าวางใจเถิด เรื่องนี้ข้าจะต้องคืนความยุติธรรมให้กับเจ้าอย่างแน่นอน!”
เห็นเพียงดวงตาทั้งคู่ที่บวมแดงของหยุนหว่านหนิง คนก็ดูซีดเซียวไร้เรี่ยวแรง!
ไหนเลยจะดูกระฉับกระเฉงมีชีวิตชีวา?
“เสด็จแม่เต๋อเฟย……”
หยุนหว่านหนิงซื้ดจมูก สะอึกสะอื้นและฟุบลงบนไหล่ของนาง
ไม่นาน ล่ายซื่อก็ถูกพาเข้ามา
ดูเหมือนว่าวันเวลาที่ผ่านมาในจวนอ๋องหมิงคงจะไม่เลวเลย อย่างน้อยสภาพของล่ายซื่อก็ดูดีกว่าหยุนหว่านหนิงอยู่ไม่น้อย
เมื่อเห็นเช่นนี้เต๋อเฟยก็ยิ่งโมโหเดือดดาล
เพียงแต่ล่ายซื่อผู้นี้ รูปร่างหน้าตาคล้ายกับฉินซื่อเสวียอย่างมาก
แววตาของเต๋อเฟยเป็นประกายเล็กน้อย “เจ้าก็คือล่ายซื่อหรือ?”
ก่อนหน้านี้ล่ายซื่อไม่เคยพบเต๋อเฟย
บัดนี้เห็นว่าหยุนหว่านหนิงนั่งข้างๆ นางอย่างรู้สึกน้อยใจ เต๋อเฟยโอบไหล่ของนางด้วยความเจ็บปวดใจ เมื่อครู่นี้คนรับใช้พานางเข้ามา ก็บอกว่า”เต๋อเฟยเหนียงเหนียงต้องการจะพบนาง”
ชั่วพริบตาล่ายซื่อก็รู้ว่า ท่านนี้ก็คือมารดาของอ๋องหมิง เต๋อเฟยเหนียงเหนียง
นางจึงรีบคารวะต่อเต๋อเฟย
ดูเหมือนว่าจะรู้จักมารยาท……
เต๋อเฟยคิดในใจ
“ล่ายซื่อเจ้ากล้าดี! เที่ยวแอบอ้างหลอกลวงจนมาที่จวนอ๋องหมิงได้! ว่ามาสิ! เบื้องหลังมีใครที่คอยแนะนำเจ้าอยู่ล่ะ!”
นางรู้ว่าเรื่องนี้ฮองเฮาเจ้าจะต้องเป็นคนบงการอย่างแน่นอน แต่ไม่อาจพูดออกมาโดยตรงได้
“เต๋อเฟยเหนียงเหนียง ใส่ร้ายกันแล้ว! ข้าน้อยไม่ได้โกหกหลอกลวง! เมื่อหลายปีก่อนท่านอ๋องกับข้าน้อย…….. เต๋อเฟยเหนียงเหนียง ข้าน้อยไม่ได้โกหกนะเพคะ!”
ล่ายซื่อพูดอึกๆ อักๆ คล้ายกับว่าเช่นนี้จะยิ่งทำให้คนเชื่อถือ
แต่นางไม่รู้ว่า โม่เยว่ได้อธิบายต่อหน้าเต๋อเฟยกับหยุนหว่านหนิงอย่างตรงไปตรงมาแล้ว
เขาไม่ได้รู้จักกับล่ายซื่อแต่อย่างใด!
“เสด็จแม่เต๋อเฟย ในเมื่อเสด็จแม่ส่งคนมา ลูกสะใภ้ก็คงจะไม่อาจส่งกลับไปให้เสด็จแม่ได้……..”
หยุนหว่านหนิงบีบผ้าเช็ดหน้า แล้วกล่าวอย่างสะอื้นไห้เบาๆ
“ทำไมจะส่งกลับไปไม่ได้? ข้าจะส่งกลับไปเอง!”
เต๋อเฟยกล่าวอย่างยกตนข่มท่าน
“ไม่ต้องหรอกเพคะ เสด็จแม่เต๋อเฟย”
หยุนหว่านหนิงสะอื้นไห้ “เรื่องนี้ข้าจะตรวจสอบให้ชัดเจน ถ้าหากว่าล่ายซื่อมีอะไรเกินเลยกับท่านอ๋องจริงๆ แน่นอนว่าลูกสะใภ้ไม่อาจขับไล่คนออกไปได้”
เห็นนางร้องไห้ราวกับดอกสาลี่ต้องหยาดฝน ล่ายซื่อก็ตะลึงตาค้าง!
เมื่อครู่นี้ตอนที่นางเข้ามา ก็รู้สึกว่าท่าทีของหยุนหว่านหนิงค่อนข้างผิดปกติ
แต่ไม่ว่าอย่างไรก็นึกไม่ออก ว่าสรุปแล้วผิดปกติตรงไหน
บัดนี้เพียงแค่เห็นแป๊บเดียว ก็เข้าใจได้ทันที
คาดไม่ถึงว่าพระชายาหมิงกำลังร้องไห้เช่นนั้นหรือ? !
อีกทั้งยังร้องไห้อย่างเจ็บปวดรวดร้าวเช่นนี้ ราวกับกล้ำกลืนต่อความไม่เป็นธรรม ซีดเซียวไร้เรี่ยวแรงอย่างแสนสาหัส
สงสัยพระอาทิตย์จะขึ้นทางทิศตะวันตกเสียแล้วหรือ? !
นับตั้งแต่เมื่อวานที่นางถูกส่งเข้ามาในจวนอ๋องหมิง จึง”หนีจากความตาย”ในมือของหยุนหว่านหนิงกับหลี่หมัวมัว ภายในใจของล่ายซื่อ หยุนหว่านหนิงผู้คนนี้ก็คือผู้ที่เข้มแข็งองอาจ
คาดไม่ถึงว่าบัดนี้นาง…….กำลังร้องไห้เช่นนั้นหรือ? !
หยุนหว่านหนิงร้องไห้เช่นนี้ เต๋อเฟยก็ยิ่งเจ็บปวดใจ
นึกถึงว่าในวันปกติเด็กผู้หญิงคนนี้แข็งแกร่งแค่ไหน?
ครั้งนี้คาดไม่ถึงว่าจะร้องไห้ถึงเพียงนี้ แต่เมื่อเห็นว่าได้รับความไม่เป็นธรรมจริงๆ ภายในใจจึงรู้สึกเป็นทุกข์!
ด้วยเหตุนี้ นางจึงยิ่งเกลียดล่ายซื่อเข้ากระดูกดำ
“หนิงเอ๋อร์ ข้าว่านะ ความจริงอะไรกัน ไม่ต้องสนว่านางและเยว่เอ๋อร์จะมีหรือไม่มีอะไรเกินเลย แค่เอากระบองตีออกไปโดยตรงก็พอ!”
เต๋อเฟยทำเสียงไม่พอใจ
นางมองล่ายซื่ออย่างเฉยชา
เห็นนางตกใจจนหน้าซีด จึงกล่าวอย่างไม่ให้อภัยแม้แต่น้อยว่า “มิหนำซ้ำ เยว่เอ๋อร์ก็เคยบอกแล้วว่าเขาไม่รู้จักกับล่ายซื่อผู้ไร้ยางอายโดยสิ้นเชิง!”
“ถ้าหากไม่อยากถูกตีออกไป ข้าก็ตัดสินใจว่า ให้เอสกระบองตีให้ตายไปโดยตรงเลย!”
คำพูดนี้ทำให้ล่ายซื่อตกใจจนแขนขาไร้เรี่ยวแรง
นี่ก็คืออำนาจของจักรพรรดิ!
นี่ก็คือโอรสแห่งสวรรค์!
พูดไม่สอดคล้องเพียงคำเดียวก็จะทำร้ายคนแล้ว……
“ไม่ต้องหรอกเพคะเสด็จแม่เต๋อเฟย!”
หยุนหว่านหนิงโบกมือ แสดงเจตนาให้คนรับใช้พาล่ายซื่อออกไป แล้วจึงกล่าวกับเต๋อเฟยด้วยเสียงเบาๆ ว่า “เสด็จแม่เต๋อเฟย เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล่นนะเพคะ! บัดนี้ทุกคนในเมืองหลวงต่างรับรู้ถึงความวุ่นวาย และสายตานับไม่ถ้วนกำลังจ้องมองไปที่จวนอ๋องหมิงของพวกเรา”
“ถ้าหากตีคนจนตายไปโดยตรง ก็คงยากที่จะหลีกเลี่ยงการติเตียนของผู้อื่น”
“และนี่ก็ยังไม่ดีต่อชื่อเสียงของท่านอ๋องอีกด้วย……..”
ได้ยินเช่นนี้ เต๋อเฟยจึงพยักหน้า
ทำไมนางถึงไม่คิดถึงจุดนี้กันนะ!
โชคดีที่ในเวลานี้ หยุนหว่านหนิงยังสามารถคิดถึงโม่เยว่ได้
นางทอดถอนใจ แล้วตบเบาๆ ที่มือของหยุนหว่านหนิง “หนิงเอ๋อร์ของข้า โชคดีที่เจ้าละเอียดรอบคอบเช่นนี้”
“ข้าคิดแต่จะแก้แค้นให้เจ้า จึงไม่ได้คาดคิดถึงจุดนี้! เจ้าสามารถกล้ำกลืนความอัปยศและคิดถึงโม่เยว่กับจวนอ๋องหมิงได้ มันไม่ง่ายดายเลยจริงๆ”
“เจ้าวางใจเถิด เรื่องนี้ข้ายืนอยู่ข้างเจ้าแน่นอน!”
หยุนหว่านหนิงเช็ดน้ำตา “เสด็จแม่เต๋อเฟย เรื่องนี้ข้าได้สั่งให้คนไปแอบตรวจสอบแล้วเพคะ ว่าสรุปแล้วใครเป็นคนแอบวางแผนกันแน่”
“ถึงเวลาจะต้องให้คนคนนี้แถลงต่อหน้าผู้คนทั้งหมดอย่างแน่นอน!”
ไม่ต้องตรวจสอบ พวกนางก็รู้ว่าใครเป็นคนก่อนเรื่องอยู่เบื้องหลัง
แต่ทุกสิ่งทุกอย่างจะต้องมีพยานหลักฐาน
ด้วยเหตุนี้หยุนหว่านหนิง จึงแอบส่งคนไปเก็บหลักฐาน…….
เต๋อเฟยพยักหน้าอย่าชื่นชม “เช่นนั้นก็ดี เช่นนั้นก็ดี!”
เดิมทีนางคิดว่า หยุนหว่านหนิงจะต้องอารมณ์ร้อนเหมือนกันกับนางเป็นแน่ ที่เหมือนกับไดโนเสาร์ตัวใหญ่แต่สมองมีน้อยนิด
แต่ไม่คาดคิดว่า นางจะยังละเอียดรอบคอบเช่นนี้ ซึ่งหาได้ยากจริงๆ!
สำหรับนางลูกสะใภ้ผู้นี้ เต๋อเฟยก็ชื่นชอบเป็นอย่างยิ่ง
“เออใช่หนิงเอ๋อร์ บุตรคนนั้นของเจ้า…….”
เต๋อเฟยไตร่ตรองเล็กน้อย ไม่ได้ใช้คำว่า”ลูกนอกสมรส”มาเรียกบุตรที่หยุนหว่านหนิงให้กำเนิดกับ”คนรับใช้”คนนั้น “ตอนนี้อยู่ที่ไหนหรือ? พามาให้ข้าเห็นหน่อยสิ!”
วันนี้นางได้พบหยวนเป่าผู้นั้น ก็รู้สึกชื่นชอบจริงๆ!
ด้วยเหตุนี้กับการพบหน้า”ลูกนอกสมรส”คนนั้นในครั้งนี้ ก็รู้สึกไม่ขัดตามากนัก
หยุนหว่านหนิงนิ่งอึ้งไปเล็กน้อย
ไม่นานก็ตอบสนองกลับมา ที่นางพูดถึงก็คือหยวนเป่า
หากตอนนี้ได้พบแล้ว ตอนวันเกิดจะยังเซอร์ไพรส์อยู่หรือ? !
หยุนหว่านหนิงรีบยิ้มแล้วกล่าวว่า “เสด็จแม่ เด็กออกไปเล่นแล้วเพคะ! ก็ไม่รู้ว่าเมื่อไรจะกลับมา ปกติชอบวิ่งหายไปจนไร้เงา”
“อ้อ ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้เอง!”
คาดไม่ถึงว่าภายในใจของเต๋อเฟยจะรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย
แต่ก็ไม่ได้พูดให้มากความ เพียงแค่กล่าวว่า “เด็กโตเช่นนี้แล้ว ก็น่าจะวิ่งเล่นไปทุกหนทุกแห่ง”
“ไม่สามารถกดดันให้เขาอ่านหนังสือได้หรอก! ตอนที่โม่เยว่อายุเท่านี้ ก็ชอบวิ่งเล่นไปทั่ววังเหมือนกัน…….”
เมื่อเอ่ยถึงโม่เยว่ เต๋อเฟยก็ทอดถอนใจ “เยว่เอ๋อร์ไม่ชอบอ่านหนังสือตั้งแต่เด็ก”
ประโยคนี้ หยุนหว่านหนิงฟังซ้ำไปซ้ำมา
ก่อนหน้านี้หยวนเป่าก็ไม่ชอบอ่านหนังสือจริงๆ
หลังจากที่ตามท่านตามาช่วงระยะเวลาหนึ่ง ก็รู้สึกว่า “ในหนังสือเสมือนขุมทรัพย์ที่นำมาซึ่งชื่อเสียงและชีวิตที่ดี” จึงได้นำหนังสือจำนวนมากออกมาจากในห้องหนังสือของโม่จงหราน
หอบหนังสือออกมาทุกวัน ดูเหมือนกับคนหลงสติลืมตัว!
“ข้าก็ได้ยินเยว่เอ๋อร์พูดว่า เด็กที่ถูกเจ้าใหญ่พบในวันนั้น อันที่จริงก็คือบุตรคนนั้นของเจ้าใช่หรือไม่?”
หยุนหว่านหนิงนิ่งอึ้งไปเล็กน้อย
ที่แท้โม่เยว่ก็เป็นคนบอก……รอให้เขากลับมาก่อนเถิด นางจะต้องคิดบัญชีนี้กับเขาอย่างแน่นอน!
“เพคะ”
นางยอมรับอย่างจนใจ
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ข้าก็วางใจ! ไม่มีล่ายซื่อผู้ไร้ยางอายออกมาก่อกวนอะไร ถึงเวลาก็จะได้สามารถตบหน้าฮองเฮาและคนอื่นๆ ได้!”
พูดจบ เต๋อเฟยก็สูดลมหายใจเข้าลึกๆ
นางมองหยุนหว่านหนิงอย่างลึกซึ้ง “หนิงเอ๋อร์ เจ้ากับเยว่เอ๋อร์อภิเษกสมรสกันมาห้าปีแล้วนะ”
“เรื่องการมีทายาท เจ้าว่าน่าจะถึงเวลาเอ่ยถึงแล้วหรือไม่?”
เต๋อเฟยพูดพลาง เริ่มเร่งปฏิกิริยาให้เร็วขึ้น “จะได้ไม่ถูกคนเข้าใจผิด! ถ้าหากถึงเวลานั้นฮองเฮาหาข้ออ้างอะไรต่างๆ เพื่อจะยัดคนเข้าไปในห้องของเยว่เอ๋อร์…….”
“ข้าก็ยากที่จะประกันเจ้าหรอกนะ!”
ได้ฟังคำพูดนี้ สายตาของหยุนหว่านหนิงก็เศร้าลงเล็กน้อย
ไม่ใช่เพราะว่าเต๋อเฟยเร่งเร้า แต่เป็นเพราะเต๋อเฟยพูดถูกต้องแล้ว!
หากสถานะของหยวนเป่าไม่ถูกเปิดเผยต่อนหน้าสาธารณะ เกรงว่าฮองเฮาจ้าวจะใช้เหตุผลที่ว่า”จวนอ๋องหมิงไม่มีทายาทสืบตระกูล” และยัดคนเข้ามาในห้องของโม่เยว่จริงๆ!