อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ - บทที่ 385 เซอร์ไพรส์เต๋อเฟย
อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ บทที่ 385 เซอร์ไพรส์เต๋อเฟย
เมื่อคำพูดจบลง ก็เห็นนางกำนัลนับสิบเดินเป็นแถวยาวเข้ามา
พวกนางแต่งตัวเหมือนกันทุกประการ ยืนเป็นสองแถว และมายืนตรงหน้าหยุนหว่านหนิงด้วยความเคารพ
หนางกงเยว่และคนอื่นๆ ก็มองนิ่ง
กระทั่งเต๋อเฟยก็กล่าวถามอย่างประหลาดใจว่า “หนิงเอ๋อร์ นี่เจ้าจะทำอะไรหรือ?”
โจวหยิงหยิงตอบสนองเข้ามาก่อน นางจึงทำท่าทีว่าเข้าใจ “อ่อ! ข้ารู้แล้ว! หนิงเอ๋อร์ นี่คือเจ้าให้พวกมาขอพรให้เสด็จแม่มีโชคลาภใช่ไหม?”
ขอให้มีโชคลาภ ก็คือขอให้ได้อั่งเปา
ความคิดนี้ของโจวหยิงหยิงช่างแตกต่างกับคนอื่นจริงๆ
นอกจากโม่ฮั่นอี่ว์ที่กำลังทานของว่างอยู่ กระทั่งโม่หุยเหยียนก็ขมวดคิ้วมองหยุนหว่านหนิง
เขาคาดเดาไม่ออกจริงๆ ว่าสรุปแล้วหยุนหว่านหนิงต้องการทำอะไรกันแน่
เมื่อผู้หญิงคนนี้ทำอะไรบางอย่าง ก็ไม่มีเหตุผลหลักการเสมอมา
“เสด็จแม่ เชิญนั่งให้ดีเถิด”
หยุนหว่านหนิงยิ้มเล็กน้อย
เต๋อเฟยที่เดิมทีนั่งพิงอยู่บนเก้าอี้ ได้ยินหยุนหว่านหนิงพูดเช่นนี้ นางก็นั่งตัวตรงทันที ความสงสัยบนใบหน้ายังคงไม่หายไป แต่ก็ไม่ได้เอ่ยข้อสงสัยออกมา
หยุนหว่านหนิงลุกขึ้นยืน แล้วปรบมือให้นางกำนัลนับสิบคน
นาทีต่อมา บรรดานางกำนัลก็เต้นรำและร้องเพลงขึ้นมา “จูหนี่เซิงยรื่อไคว่เล่อ จูหนี่เซิงยรื่อไคว่เล่อ………..”
ร้องฉบับภาษาจีนจบ ก็ร้องฉบับภาษาอังกฤษอีก “แฮปปีเบิร์ดเดย์ทูยู! แฮปปีเบิร์ดเดย์ทูยู………..”
เมื่อได้ยินฉบับภาษาอังกฤษ หยุนหว่านหนิงก็กุมหน้าผากอย่างจนใจ
นางสอนนางกำนัลเหล่านี้ไม่รู้กี่รอบแล้ว เมื่อร้องออกมาก็ยังคงยากที่จะอธิบายได้
ช่างเถิดๆ!
ก็พอถูๆ ไถๆ ฟังไปได้!
ถึงอย่างไรหนานกงเยว่และคนอื่นๆ ก็ไม่รู้หรอกว่า”แฮปปีเบิร์ดเดย์ทูยู”คืออะไร ใครจะสามารถฟังออกล่ะว่า สรุปแล้วนี่คือเพลงหรือไม่?
หลังจากร้องเพลงจบ บรรดานางกำนัลก็ทำความเคารพต่อเต๋อเฟย “ขอให้เต๋อเฟยเหนียงเหนียงมีความสุขเพคะ”
“ขอให้เรื่องต่างๆ ผ่านไปโดยอย่างราบรื่น คิดสิ่งใดก็ขอให้สมดังปรารถนา งดงามดั่งดอกไม้ร่ำรวยเงินทอง อายุยืนยาวหมื่นๆ ปี!”
ไม่ต้องคิด คำอวยพรนี้ก็คือหยุนหว่านหนิงเป็นคนสอนเอง
นางกำนัลคนไหนจะกล้าอวยพรเต๋อเฟยเหนียงเหนียงว่า”งดงามดั่งดอกไม้ร่ำรวยเงินทอง”ล่ะ?
วิธีการฉลองวันเกิดที่ดูทันสมัยเช่นนี้ ทำให้เต๋อเฟยมีความสุขจนยิ้มไม่หุบ
นางพยักหน้าไม่หยุด “ดี ดี ดี!”
“หนิงเอ๋อร์ ของขวัญวันเกิดของเจ้าในปีนี้ ข้าชื่นชอบเป็นอย่างยิ่ง!”
เต๋อเฟยกำชับสั่งหลี่หมัวมัวว่า “เอารางวัลมา!”
หลี่หมัวมัวให้นางกำลังนัลนับสิบคน คนละหกตำลึง หกหกหก โชคดีทุกคนนะ!
บรรดานางกำนัลถอยออกไปอย่างเคารพนบนอบ
โจวหยิงหยิงจ้องมองหยุนหว่านหนิงอย่างตกตะลึง “หนิงเอ๋อร์ ในหัวของเจ้านี้บรรจุด้วยอะไรกัน? ทำไมถึงสามารถคิดวิธีที่แปลกประหลาดมากเช่นนี้ออกมาได้?”
แต่ฉินซื่อเสวียแสดงการเหยียดหยาม
อย่างไรก็ตามหยุนหว่านหนิงได้หักหน้าไปแล้ว ยังจะสนใจไมตรีจิตอะไรอีกล่ะ?
นางร้องเชอะออกมา “ข้ายังคิดว่าเป็นของขวัญอะไรที่ทำให้คนตกตะลึง! ก็เพียงแค่มาส่งเสียงร้องโหยหวนเหมือนผีสางเท่านั้น มีอะไรน่าตกตะลึงด้วยหรือ?”
หยุนหว่านหนิงยังไม่ทันเอ่ยปาก โจวหยิงหยิงก็เริ่มพูดปกป้องทันที
“อ้าว สะใภ้เจ้าสามเจ้ารู้สึกว่าไม่ตกตะลึงหรือ? เช่นนั้นเจ้าก็มาลองดูสักหน่อยดีหรือไม่?”
โม่เฟยเฟยก็ยอดเยี่ยมอย่างมาก พูดขึ้นทันทีว่า “พี่สะใภ้สาม เมื่อครู่นี้ข้าเห็นว่าคางของท่านแล้วจะหลุดลงมาเลยนะ!”
แล้วยังจะบอกว่าตนเองไม่รู้สึกตกตะลึงอีกหรือ?
โจวหยิงหยิงก็คนหนึ่งแล้ว บัดนี้นังสารเลวคนนี้ยังจะทำเป็นพวกไก่เห็นตีนงูงูเห็นนมไก่กับหยุนหว่านหนิงอีกคน
แต่โม่เฟยเฟย……
เป็นเวลานานแล้วที่ไม่ได้พบหน้ากับนาง ฉินซื่อเสวียไม่คาดคิดเลยว่า ทำไมบัดนี้โม่เฟยเฟยถึงได้ดีกับหยุนหว่านหนิงมากกว่านาง? !
ก่อนหน้านี้นางเคยบอกไม่ใช่หรือว่า นางเปรียญเสมือนพี่สาวแท้ๆ ของนาง
แต่หยุนหว่านหนิง นางบอกว่าจะไม่ปฏิบัติดีด้วยตลอดกาลไม่ใช่หรือ? !
เห็นฉินซื่อเสวียขมวดคิ้วไม่พูดจา หนานกงเยว่จึงรีบไกล่เกลี่ย
นางหัวเราะเบาๆ “วิธีการฉลองวันเกิดของหนิงเอ๋อร์นี้ แตกต่างกับทุกคนจริงๆ! พวกเจ้าดูสิ เสด็จแม่ดีใจจนยิ้มไม่หุบเลย!”
“สมกับที่เป็นหนิงเอ๋อร์ ไม่ซ้ำแบบใคร”
หนานกงเยว่พูดพลาง สั่งให้คนยกผ้าปกลายสองด้านที่นางเตรียมเต๋อเฟยในปีนี้เข้ามา
“เสด็จแม่ ปีที่แล้วหนิงเอ๋อร์มอบผ้าปักลายสองด้านให้กับท่าน ลูกสะใภ้เห็นว่าท่านชื่นชอบอย่างมาก แถมยังแขวนเอาไว้ในห้องบรรทมอีกด้วย”
หนานกงเยว่ยิ้มแล้วกล่าวว่า “ฉะนั้นในปีนี้ ลูกสะใภ้จึงปักผ้าปักลายสองด้านให้ท่านด้วยตัวเองเพคะ”
“หวังว่าเสด็จแม่จะชื่นชอบเพคะ!”
เต๋อเฟยกวาดสายตามองผ้าปักลายสองด้านอย่างนิ่งๆ
งานเย็บปักถักร้อยนี้ คุณภาพนี้ ล้วนเทียบกับที่หยุนหว่านหนิงให้มาไม่ได้เลย
นางยิ้มเจื่อนๆ เล็กน้อย “เจ้ามีกะจิตกะใจแล้ว”
หลี่หมัวมัวเก็บผ้าปักลายสองด้าน เต๋อเฟยจึงพูดอย่างมีความหมายแฝงว่า “ของทุกสิ่งล้วนมีค่าและหาได้ยากทั้งสิ้น”
“สิ่งที่ข้ามีแล้ว ก็ไม่อยากมีอีก”
ฟังผิวเผิน เหมือนนางกำลังกับพูดถึงผ้าปักลายสองด้านที่หยุนหว่านหนิงและหนานกงเยว่มอบให้
แต่เมื่อฟังอย่างละเอียดแล้ว………
ก็รู้ว่านางกำลังปกป้องลูกสะใภ้อยู่!
หนานกงเยว่มีไหวพริบพิเศษ แน่นอนว่าฟังออกถึงความหมายแฝงของนาง
ใบหน้าจึงแดงขึ้นมาทันที และก้มหน้าลงด้วยความเขินอาย
หลังจากคนสองสามคนพูดคุยเกี่ยวกับชีวิตประจำวัน คนของวังก็เข้ามาบอกว่า ทางด้านฝ่าบาททรงรับสั่งมาว่า อีกสักครู่จะถึงเวลางานเลี้ยงเริ่มแล้ว ให้เต๋อเฟยล่วงหน้าไปก่อนเลย
“ฝ่าบาทกำลังทำอะไรอยู่หรือ?”
เต๋อเฟยขมวดคิ้ว
วันนี้ฮองเฮาจ้าวไม่ได้มาร่วมงานเลี้ยง นางจึงต้องรับหน้าที่สำคัญ
ฝ่าบาทไม่มาเข้าร่วมงานเลี้ยงด้วยกันกับนาง แต่ปล่อยให้นางล่วงหน้าเข้าไปก่อน นี่คือเหตุผลอะไรกัน? !
“ข้าน้อยก็ไม่ทราบขอรับ”
เห็นคนของวังก้มหน้า เต๋อเฟยก็ไม่ทำให้นางลำบากใจ เพียงแค่ให้เขาออกไปก่อน
เต๋อเฟยค่อนข้างเสียใจ
หยุนหว่านหนิงยิ้มแล้วพูดคลายกังวลว่า “เสด็จแม่เพคะ อาจเป็นเพราะเสด็จพ่อมีเรื่องด่วนอะไรที่ทำให้ล่าช้าก็ได้! งานเลี้ยงวังใกล้เริ่มแล้ว พวกข้าจะเข้าไปเป็นเพื่อนท่านเองเพคะ!”
เต๋อเฟยจึงฝืนแสดงรอยยิ้มเล็กน้อย
ภายในใจของฉินซื่อเสวียก็คิดถึงผลประโยชน์ส่วนตัว
เวลานี้ไม่สามารถทำให้หยุนหว่านหนิงขายหน้าได้ อีกสักครู่ในงานเลี้ยง นางจะต้องทำให้หยุนหว่านหนิงขายหน้าจนแทบแทรกแผ่นดินหนีให้จนได้!
ไม่นานก็มาถึงยามเซิน เต๋อเฟยนั่งอยู่ในตำหนักอย่างค่อนข้างหนักใจ คนกลุ่มหนึ่งไปเดินเล่นอย่างเพลิดเพลินในอุทยานหลวง
ในเวลานี้ ดอกบ๊วยในสวนบานสะพรั่ง
เห็นว่าจะใกล้ยามโหย่วแล้ว หยุนหว่านหนิงและโม่เฟยเฟยจึงช่วยประคองเต๋อเฟยทั้งซ้ายทั้งขวา หนานกงเยว่และคนอื่นๆ ก็ตามมาด้านหลัง เดินเป็นขบวนไปยังตำหนักไท่เหอ
เวลานี้ เหล่าขุนนางได้มานั่งกันพร้อมภรรยาและลูกแล้ว
ทุกคนกำลังพูดคุยกันเรื่อยเปื่อย ในตำหนักคึกคักขึ้นทันที
เห็นว่าเต๋อเฟยมาแล้ว ทุกคนก็ใจจดใจจ่อ และลุกขึ้นทำความเคารพตามๆ กัน
เต๋อเฟยนั่งบนที่นั่งสูง แล้วแสดงเจตนาให้ทุกคนนั่งลง
เห็นสีหน้าของนางไม่ค่อยมีความสุขเท่าไร โม่จงหรานก็ไม่เข้ามาเป็นเพื่อนนางที่ตำหนักไท่เหอเหมือนกับปีที่ผ่านมา……..
ทุกคนอดไม่ได้ที่จะคาดคะเน
หรือว่าเต๋อเฟยกับฝ่าบาททะเลาะกัน?
สำหรับนางสนมคนอื่นๆ เรื่องนี้จะไม่เกิดขึ้นโดยเด็ดขาด เพราะไม่มีใครกล้าโต้เถียงกับฝ่าบาท สำหรับเต๋อเฟยแล้ว นี่ก็เป็นเพียงเรื่องธรรมดา
ทุกคนมองหน้ากันไปมา
หรือว่าเต๋อเฟยจะไม่เป็นที่โปรดปรานแล้ว? !
งานเลี้ยงวังเริ่มขึ้นแล้ว โม่จงหรานยังไม่ปรากฏตัวเลย
เต๋อเฟยอดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว จึงสั่งให้คนรับใช้ไปดูที่ห้องทรงพระอักษร ว่าสรุปแล้วกำลังทำอะไรอยู่กันแน่
หลี่หมัวมัวรับคำสั่งและออกไป
ใครจะรู้ว่านางเพิ่งเดินไปถึงหน้าประตู ก็ได้ยินเสียงซูปิ่งซ่านดังมาจากด้านนอกประตู “ฝ่าบาทเสด็จแล้ว!”
เสียงนี้ คล้ายกับจะดังและตื่นเต้นกว่าเดิม และยังสามารถฟังออกถึงความสั่นด้วยความตื่นเต้นเล็กน้อย ทำให้คนเกิดความสงสัย
ทุกคนรีบลุกขึ้นรอ
มีเพียงเต๋อเฟย ที่ขมวดคิ้วมองไปยังหน้าประตูตำหนัก
นาทีต่อมา สีหน้าของเต๋อเฟยเปลี่ยนไปอย่างมาก!