CatNovel
  • หน้าหลัก
  • แทงหวย24
  • มังงะ
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • แทงหวย24
  • มังงะ
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ - บทที่ 391 เสด็จแม่ของข้าร้ายกาจมากเลยล่ะ

  1. Home
  2. อนงค์ใจพระชายาราชสีห์
  3. บทที่ 391 เสด็จแม่ของข้าร้ายกาจมากเลยล่ะ
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ บทที่ 391 เสด็จแม่ของข้าร้ายกาจมากเลยล่ะ

“ก็ได้! เช่นนั้นก็ตรวจสอบเถอะ!”

นางหันหน้าไปมองโม่จงหราน “เสด็จพ่อ ในเมื่อพระชายาฉู่เอาแต่พูดว่าหม่อมฉันวางยาพิษนาง เช่นนั้นก็ทำตามความต้องการของนางไปเถอะ”

“นางท้องอยู่นางใหญ่ที่สุด! นางอยากให้ตรวจสอบอย่างไร ข้าก็พร้อมให้ความร่วมมือจนถึงที่สุด”

เดิมทีเต๋อเฟยคิดจะหยุดนาง เพราะกลัวว่านางอาจจะตกหลุมพรางของหนานกงเยว่ได้ แต่โม่จงหรานเข้ามาหยุดนางไว้

เขาพูดด้วยเสียงแผ่วต่ำ “ความสามารถของลูกสะใภ้เจ้า เจ้ายังไม่ไว้ใจอีกหรือ?”

ในเมื่อหยุนหว่านหนิงกล้าพูดเช่นนี้ ก็แปลว่านางจะต้องคิดหาวิธีตอบโต้เอาไว้เรียบร้อยแล้วแน่ ๆ

ตอนนี้เอง เต๋อเฟยถึงพยักหน้าตอบรับ “จริงด้วย!”

หยวนเป่าจับมือเต๋อเฟย นั่งนิ่ง ๆ ในอ้อมแขนของนางอย่างเชื่อฟัง “เสด็จย่าวางใจเถอะ เสด็จแม่ของข้าร้ายกาจมากเลยล่ะ!”

“ได้ ๆ ๆ ข้าวางใจแล้ว”

เต๋อเฟยยิ้มแย้มพลางปอกองุ่นลูกหนึ่งให้หยวนเป่า

เมื่อเห็นโม่จงหรานพยักหน้า หยุนหว่านหนิงก็ค่อย ๆ เดินออกมาจากด้านหลังของโม่เยว่ เข้าไปหาหนานกงเยว่ใกล้ ๆ “พระชายาฉู่อยากจะตรวจสอบไม่ใช่หรอกรึ? นางกำนัลคนที่ยกของว่างกับน้ำชามาส่งให้เจ้าอยู่ที่ไหนล่ะ?”

“ไปพาตัวมา ข้ามีคำถามที่อยากจะถามนาง!”

แม้ว่าคำพูดเหล่านี้จะพูดกับซูปิ่งซ่าน แต่ดวงตาของหยุนหว่านหนิงกลับจ้องมองไปที่หนานกงเยว่

นับตั้งแต่ที่นางเดินเข้ามาใกล้ หนานกงเยว่ก็ตกใจจนต้องก้าวถอยหลังไปแล้ว นางแข้งขาอ่อนจนต้องเอนตัวไปพิงโม่หุยเหยียนเอาไว้

นางเอาแต่รู้สึกว่า สายตาที่หยุนหว่านหนิงจ้องมองมาตอนนี้ มันดูแล้วออกจะน่ากลัวอยู่หน่อย ๆ

เห็นว่าใบหน้าของนางดูสงบนิ่ง แต่แววตากลับเย็นชาไม่แยแส…..

หนานกงเยว่ก็ถูกบังคับจนตกอยู่ในสภาพจนตรอกแล้ว

ในเวลาปกติ นางเองก็รู้ดีว่าหยุนหว่านหนิงไม่ใช่คนที่จะรับมือได้ง่าย ๆ ต่อให้คิดจะลากนางลงน้ำไปด้วยกัน ก็ต้องแอบวางแผนให้แยบยล แล้วค่อย ๆ ดำเนินไปทีละขั้นทีละตอน

บางทีอาจเป็นเพราะนางท้องหนึ่งครั้งจึงโง่ไปสามปี* ( คำอธิบายเพิ่มเติม เป็นเหมือนคำพูดเสียดสีในทำนองที่ว่าหลังจากที่ผู้หญิงท้องครั้งหนึ่ง ก็จะสูญเสียความทรงจำ หลงลืมสิ่งต่าง ๆ รวมถึงความสามารถในการรับรู้ด้อยลง)

หรืออาจเป็นเพราะการปรากฏตัวของหยวนเป่าในคืนนี้ ไปกระตุ้นหนานกงเยว่เข้า

นางทนต่อไปอีกไม่ไหวแล้ว!

ทำให้นางรีบร้อนลงมือกับหยุนหว่านหนิงอย่างบุ่มบ่าม แม้แต่หนทางถอยก็ยังคิดแบบลวก ๆ ไม่ได้วางแผนไว้ให้รอบคอบ!

ดังนั้นเมื่อได้เผชิญกับแววตาของหยุนหว่านหนิง นางจึงตื่นตระหนกจนมือไม้อ่อนระทวยไปหมด!

เพียงไม่นาน นางกำนัลก็ถูกพาตัวมา

“เงยหน้าขึ้นมา”

หยุนหว่านหนิงเดินเข้ามาใกล้ มองดูนางกำนัลที่คุกเข่าอยู่บนพื้น น้ำเสียงเย็นชา

แม้ว่านางกำนัลจะนึกกลัวอยู่ในใจ แต่ก็พยายามอย่างเต็มที่ที่จะไม่แสดงออกทางสีหน้า นางคุกเข่าอยู่ตรงหน้าหยุนหว่านหนิง เงยหน้าขึ้นด้วยแววตาที่ดูลุกลี้ลุกลนเล็กน้อย ไม่กล้ามองประสานสายตากับอีกฝ่าย

หยุนหว่านหนิงโน้มตัวเข้าไปหา ยื่นนิ้วออกไปเชยคางของนางขึ้น “เจ้าชื่ออะไร?”

“ข้าน้อย ข้าน้อยชื่อหงเหลียนเจ้าค่ะ”

นางกำนัลสองมือกำแน่น แต่กลับอดลอบมองหนานกงเยว่จากมุมหางตาไม่ได้

สายตาของหนานกงเยว่มองนางกลับไปเป็นเชิงเตือนว่า: อย่ามองข้า!

นี่กลัวว่าหยุนหว่านหนิงจะไม่สงสัยมาถึงนางหรืออย่างไร? !

หงเหลียนจึงรีบเบือนสายตาหนีไปทางอื่นอย่างรวดเร็ว พร้อมกับหลุบตาลง

“หงเหลียน? เจ้าบอกกับพระชายาฉู่ว่า เป็นข้าที่สั่งให้เจ้ายกน้ำชากับของว่างไปให้นางอย่างนั้นรึ?”

เมื่อเห็นว่าหงเหลียนพยักหน้า หยุนหว่านหนิงก็ถามขึ้นอีกครั้งว่า “ข้าพูดกับเจ้าเมื่อไหร่ พูดที่ไหน พูดอะไรกับเจ้าบ้าง ถึงสั่งให้เจ้ายกน้ำชากับของว่างไปให้พระชายาฉู่?”

“แล้วเป็นของว่างอะไร ของว่างเหล่านั้นมีทั้งหมดกี่ชิ้น น้ำชาที่ให้ยกไปส่งเป็นชาอะไร?”

คำถามถูกยิงออกมาเป็นชุด ถามอย่างละเอียดถี่ถ้วนมาก ๆ

หงเหลียนคิดไม่ถึงว่า หยุนหว่านหนิงจะถามคำถามแบบนี้

แม้แต่หนานกงเยว่ก็ยังตกตะลึงไปชั่วขณะ

แต่เพียงไม่นานนางก็เข้าใจว่าหยุนหว่านหนิงคิดจะทำอะไร จึงมองไปที่หงเหลียนอย่างกระวนกระวาย ส่งสายตาเป็นสัญญาณไปให้นางรีบตอบคำถามโดยเร็ว….. เพราะถ้ามัวอึกอักลังเลนานเกินไป จะกลายเป็นการไปกระตุ้นให้คนอื่นเกิดความรู้สึกสงสัยแทน!

หงเหลียนตอบอย่างรวดเร็วว่า “เป็น เป็นยามโหย่วกับอีกสามเค่อเจ้าค่ะ!”

“ที่นอกตำหนักไท่เหอ! พระชายาหมิงกล่าวว่าเพื่อจะรักษาความมั่นคงของตำแหน่งหลานชายคนโตของราชวงศ์ จะต้องกำจัดเด็กในครรภ์ของพระชายาฉู่เจ้าค่ะ”

ดวงตาของนางเป็นประกายหม่นอย่างร้อนตัว “ให้ข้าน้อยส่งขนมซิ่งเหรินซู กับชาข้าวสาลีบัควิทไปให้พระชายาฉู่!”

“พระชายาหมิงยังบอกด้วยว่า พระชายาฉู่ตั้งครรภ์อยู่ไม่สามารถดื่มชากับพวกเหล้าผลไม้อื่น ๆ ได้ ชาข้าวสาลีบัควิทนี้จะไม่สร้างความสงสัยให้กับพระชายาฉู่แน่ จากนั้นจึงสั่งให้ข้าน้อยยกไปส่งให้เป็นพิเศษ!”

พูดจบ หงเหลียนก็เสริมอีกประโยคว่า “อ้อ! จริงด้วย พระชายาหมิงยังกำชับข้าน้อยด้วยว่า”

“ว่าปกติพระชายาฉู่จะระแวดระวังรอบตัวอยู่เสมอ จึงไม่ให้ข้าน้อยมีพิรุธ เพื่อป้องกันไม่ให้พระชายาฉู่จับได้!”

หลังจากฟังคำพูดของนางจบ หยุนหว่านหนิงกลับไม่ปฏิเสธ แค่ถามต่อไปว่า “แล้วมีขนมซิ่งเหรินซูทั้งหมดกี่ชิ้น?”

มีทั้งหมดกี่ชิ้น?

หงเหลียนก้มหน้าลง ครุ่นคิดอย่างรอบคอบ

“พูดมา!”

หยุนหว่านหนิงตวาดสั่งเสียงต่ำ ทำให้นางตกใจจนสั่นสะท้านไปทั้งตัว รีบตอบกลับไปอย่างรวดเร็วแบบไม่มีเวลาคิดแล้วว่า “มีทั้งหมดสี่ชิ้น! พระชายาฉู่กินไปแค่คำเล็ก ๆ เท่านั้น!”

“แล้วถาดที่ใส่ขนมซิ่งเหรินซูไป เป็นถาดแบบไหน?”

หยุนหว่านหนิงถามขึ้นอีกครั้ง

คำถามนี้หงเหลียนคิดคำตอบไม่ออกแล้ว

นางจะไปทันสังเกตดูถาดเสียที่ไหนล่ะ?!

“ตอบไม่ได้แล้วล่ะสิ?”

หยุนหว่านหนิงแค่นเสียงหัวเราะเย็นชาขึ้นมาเสียงหนึ่ง เสียงหัวเราะนั้นทำให้หัวใจของหงเหลียนถึงกับเย็นวาบ

“ข้าน้อย ข้าน้อย…..”

“เจ้าพูดโกหก”

หยุนหว่านหนิงเก็บมือกลับ จ้องมองนางด้วยสีหน้าสงบนิ่ง “ทุกคำที่เจ้าพูดไปเมื่อครู่ ล้วนแล้วแต่เป็นคำพูดโกหก ข้าจะให้โอกาสเจ้าเพียงครั้งเดียวเพื่อยอมรับความผิดของตัวเอง แต่ถ้าเจ้าพลาดโอกาสนี้ไปล่ะก็…..”

“ข้าจะให้เจ้าร้องขอชีวิตก็ไม่ได้ ร้องขอความตายก็ไม่สมหวังแน่!”

หงเหลียนตื่นตระหนกจนขวัญหาย รีบหันไปมองหนานกงเยว่ทันที….

รับเงินของหนานกงเยว่มาแล้ว ก็เท่ากับผิดฐานเก็บรวบรวมทรัพย์สินโดยมิชอบ

แต่ถ้าตอนนี้ นางไม่ปฏิบัติตามสิ่งที่หยุนหว่านหนิงพูด ด้วยการอธิบายรายละเอียดปลีกย่อยของเรื่องนี้อย่างตรงไปตรงมา ก็เท่ากับต้องเอาชีวิตไปทิ้งสถานเดียว!

สีหน้าของหนานกงเยว่เปลี่ยนไปทันที หันไปมองหยุนหว่านหนิงด้วยใจที่กระสับกระส่าย แต่กลับได้เผชิญเข้ากับแววตาที่ดูเหมือนจะยิ้ม แต่ก็เหมือนไม่ยิ้มของนาง

นางกัดฟันหันไปพูดกับโม่จงหรานว่า “เสด็จพ่อท่านดูสิเพคะ! พระชายาหมิงทั้งที่อยู่ต่อหน้าเสด็จพ่อกับเสด็จแม่ ก็ยังกล้าใช้อำนาจข่มขู่คุกคามชีวิตของหงเหลียนได้ถึงขนาดนี้”

“ไม่รู้ว่าถ้าลับหลังไป จะยิ่งบ้าคลั่งกว่านี้สักแค่ไหน!”

“ข้าบ้าคลั่งได้แค่ไหน ไม่ใช่ว่าพระชายาฉู่ก็รู้เรื่องนี้ดีตั้งนานแล้วหรอกรึ? ตอนนี้อยากจะเห็นเองกับตาอีกสักครั้งหรือไม่ล่ะ?”

หยุนหว่านหนิงเลิกคิ้วขึ้น

หนานกงเยว่พูดอะไรไม่ออก ได้แต่กัดริมฝีปากล่างแน่น

โม่จงหรานแสร้งทำเป็นไม่ได้ยิน ยกมือข้างหนึ่งขึ้นท้าวหน้าผากคุยกับเต๋อเฟยอย่างออกรส พลางหยอกล้อหยวนเป่าจนส่งเสียงหัวเราะ “เอิ้ก ๆ ๆ “ดังลั่นไม่หยุด

เมื่อเห็นว่าหนานกงเยว่พูดอะไรไม่ออก หยุนหว่านหนิงก็พลิกฝ่ามือแล้วตบหน้าหงเหลียนเข้าไปฉาดใหญ่ ๆ!

เสียง”เพี๊ยะ” ดังสนั่นคมชัดกลางอากาศ ตบจนถึงกับทำให้หงเหลียนตะลึงอึ้งค้างไปเลย!

ฝ่ามือนี้ของหยุนหว่านตบได้ออกจะไม่ไว้ไมตรีเลยจริง ๆ ฝ่ามือของนางถึงกับแสบร้อนผ่าว ๆ จนชาดิก ที่มุมปากของหงเหลียนก็ถึงกับมีเลือดไหลออกมาเลยทีเดียว

“พระชายาหมิง?”

หงเหลียนร้องอุทานขึ้นมาเสียงหนึ่ง!

มีบางคนที่อยู่ตรงนั้นอดไม่ได้ที่จะหลุดเสียงสูดปากดัง “ซี้ด”ออกมา

พระชายาหมิงผู้นี้บ้าคลั่งอย่างที่คิดจริง ๆ!

นางถึงขั้นกล้าตบหน้านางกำนัลอย่างเปิดเผย ภายในงานเลี้ยงวันเกิดของเต๋อเฟยทั้งที่อยู่ต่อหน้าฮ่องเต้กับเต๋อเฟยเลยทีเดียว!

โม่เฟยเฟยยืนขึ้น “พี่สะใภ้เจ็ดตบได้ดีนัก! ผู้หญิงต่ำช้าเช่นนี้ควรตบให้หนัก ๆ! ถ้านางยังกล้าทำตัวปากสุนัขไม่อาจคายงาช้างออกมาได้*อีกล่ะก็ ข้าว่าเราสมควรจะฉีกปากนางออกแล้วตัดลิ้นทิ้งไปซะเลย!” (*เป็นคำอุปมาว่าคนเลวย่อมไม่สามารถพูดสิ่งที่ดี ๆ ออกมาได้)

ทุกคนต่างก็รู้ว่า คนที่โม่เฟยเฟยด่าก็คือหงเหลียน

แต่คำพูดเหล่านี้ พอมาเข้าหูของหนานกงเยว่แล้ว มันช่าง…..

เห็นอยู่ชัด ๆ ว่าโม่เฟยเฟยตีวัวกระทบคราด แอบใส่ความด่าว่าร้ายนางอยู่ลับหลัง !

ใบหน้าของนางเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ จับมือของโม่หุยเหยียนแน่น

โจวหยิงหยิงก็เริ่มนั่งไม่ติดแล้วเหมือนกัน “หนิงเอ๋อร์ ถ้าให้ข้าออกความเห็นล่ะก็ ข้าว่านังผู้หญิงต่ำช้าคนนี้ สมควรจะลากตัวออกไปทุบตีด้วยไม้กระบองให้ตายไปเลย! ถึงตอนนั้นเดี๋ยวความจริงก็จะถูกเปิดเผยเองนั่นแหล่ะ!”

หนานกงเยว่ฝืนระงับความโกรธของตัวเอง “พระชายาฮั่น นี่ไม่ใช่การบังคับให้ยอมรับผิดเพราะทนถูกทรมานไม่ไหวหรอกรึ?!”

“หา! พี่สะใภ้ใหญ่ช่างเปลี่ยนสีหน้าได้รวดเร็วจริง ๆ ! เมื่อครู่ยังเรียกข้าว่าหยิงหยิงอยู่เลย มาตอนนี้กลับเรียกข้าว่าพระชายาฮั่นเสียแล้ว?”

สีหน้าของโจวหยิงหยิงเปลี่ยนไปทันที จู่ ๆ ก็ร้องคร่ำครวญขึ้นมาว่า “มิตรภาพระหว่างพวกเราพี่น้องสะใภ้ที่มีต่อกันมาตั้งหลายปี พอบทจะขาดกันก็ขาดกันแบบนี้เลยรึ? หรือว่าที่จริงแล้วตลอดหลายปีมานี้ ที่เจ้าทำกับข้ามันก็เป็นแค่การหลอกลวง ไม่ได้มีความจริงใจให้กันเลยอย่างนั้นสินะ?

หนานกงเยว่: “…..”

ต่อหน้าทุกคน นางได้แต่รู้สึกว่าคำพูดของโจวหยิงหยิง เหมือนตบลงบนหน้าของนางเต็ม ๆ ฉาด!

สีหน้าของหนานกงเยว่ประเดี๋ยวเปลี่ยนเป็นสีแดง ประเดี๋ยวเปลี่ยนเป็นสีขาว แต่นางไม่มีเวลาไปใส่ใจโจวหยิงหยิง

เป้าหมายที่นางคิดจะจัดการ ตั้งแต่ต้นจนจบมีเพียงหยุนหว่านหนิงคนเดียวเท่านั้น…..

นางสูดหายใจเข้าลึก ๆ เฮือกหนึ่ง พยายามดึงหัวข้อกลับมา “พระชายาหมิง เมื่อครู่นี้เจ้าบอกว่าหงเหลียนโกหก เช่นนั้นเจ้ามีหลักฐานมายืนยันหรือไม่?!”

“หลักฐาน?”

หยุนหว่านหนิงแค่นยิ้มเย้ยหยันเย็นชา “ถ้าข้าเอามันออกมาได้ พระชายาฉู่จะว่าอย่างไรล่ะ?”

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "บทที่ 391 เสด็จแม่ของข้าร้ายกาจมากเลยล่ะ"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์