อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ - บทที่ 423 หยวนเป่าผู้น่าสงสาร
อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ บทที่ 423 หยวนเป่าผู้น่าสงสาร
ชายร่างใหญ่หันไปมองเห็นว่าเถ้าแก่คนนั้นไม่อยู่แล้ว เดิมทีก็ยังไม่สนใจ
แต่ได้ยินภายในโรงเตี๊ยมยังมีลูกค้า ก็กำลังวิพากษ์วิจารณ์เรื่องที่พระนัดดาองค์โตเตี้ยนเซี่ยหายตัวไปอยู่เช่นกัน ก็แอบเงี่ยหูฟังอย่างละเอียด
“ได้ยินว่าเพราะพระนัดดาองค์โตเตี้ยนเซี่ยหายตัวไป ทั่วทั้งเมืองหลวงได้พลิกแผ่นดินตามหากันแล้ว! ฮ่องเต้ทรงพิโรธสุดขีด จวนอ๋องทุกแห่งก็ส่งกำลังออกตามหาเช่นกัน ยังมีหน่วยงานต่างๆของเมืองหลวง ต่างก็พากันออกตามหาพระนัดดาองค์โตเตี้ยนเซี่ยด้วยตนเอง”
“นอกจากนี้ยังมีอ๋องหมิง พระชายาหมิงก็ดูเหมือนจะเสียสติไป ออกตามหาด้วยตัวเอง!”
“เหตุการณ์ในครั้งนี้ ใหญ่โตไม่น้อยเลยทีเดียว!”
“ก็นั่นน่ะสิ! คนที่หายตัวไปคือพระนัดดาองค์โตเตี้ยนเซี่ยผู้สูงศักดิ์ไร้ที่เปรียบเชียวนะ! ไม่ใช่คนที่ไม่มีความสำคัญอะไรสักหน่อย”
“ไม่รู้ว่าใครที่มันใจกล้าขนาดนี้ ถึงกับกล้าลักพาตัวพระนัดดาองค์โตเตี้ยนเซี่ย? !”
“หากว่าถูกจับได้ ไม่รู้ว่าจะถูกทรมานจนกลายสภาพเป็นอย่างไรเลย!”
“นั่นก็คือสิ่งที่เขาควรจะได้รับอยู่แล้ว! กล้าแตะต้องพระนัดดาองค์โตเตี้ยนเซี่ย ก็คือเป็นศัตรูกับทั่วทั้งหนานจวิ้น!”
“……”
เพราะการหายตัวไปของพระนัดดาองค์โต เมืองต่างๆของทั่วทั้งหนานจวิ้นก็อยู่ภายใต้กฎอัยการศึก ภายในโรงเตี้ยมแห่งนี้ ก็มีเพียงลูกค้าไม่กี่คน กำลังพูดคุยดื่มสุรากันอยู่
สีหน้าของชายร่างใหญ่ไม่น่าดูอย่างมาก
สีหน้าท่าทางของหยวนเป่าไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงอะไร
เพียงแต่ตอนที่ได้ยินคำว่า “อ๋องหมิง” “พระชายาหมิง” สายตาเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วครู่หนึ่งเท่านั้น
ฮือๆๆเขาคิดถึงท่านแม่ คิดถึงจวนอ๋อง คิดถึงเสด็จปู่และคนอื่นๆแล้ว!
หยวนเป่าถือน่องไก่เอาไว้แล้วก้มหน้าแทะเงียบๆ รู้สึกหดหู่ใจเล็กน้อย
หญิงนางนั้นมองดูเขาด้วยความเอ็นดูสงสารครู่หนึ่ง
“ตกลงเจ้าจะกินไหม? ไม่กินข้าจะเอาไปให้หมากิน!”
เห็นว่าหยวนเป่าไม่ค่อยอยากอาหาร ชายร่างใหญ่ขมวดคิ้วแล้วดุเสียงเบา “ถึงอย่างไรเจ้าก็รังเกียจว่ากลิ่นอาหารเหลือแรงอยู่แล้ว ไม่กินก็ช่าง! สิ้นเปลืองเงินของข้าเปล่าๆ!”
“กินๆๆๆ”
หยวนเป่าเงยหน้าขึ้นมา ฝืนยิ้มออกมา “ไม่กินก็น่าเสียดาย”
คำพูดเพิ่งออกจากปาก น้ำตาหนึ่งหยดก็ไหลออกมาจากมุมตาของเขา เขาถือน่องไก่เอาไว้แล้วเม้มริมฝีปาก ร้องไห้อย่างไม่มีเสียง!
เมื่อหญิงนางนั้นเห็นเข้า ก็ลดเสียงลงแล้วพูดว่า “ช่างน่าสงสาร! เขาคงจะคิดถึงแม่ของเขาแน่ๆ……”
ยังไม่ทันได้พูดจบ ก็ถูกชายร่างใหญ่จ้องมองกลับมา
หญิงนางนั้นนั่งอยู่ด้านข้าง ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแรง
เด็กน้อยที่น่าสงสาร!
ต้องมาประสบกับความทุกข์เช่นนี้ตั้งแต่อายุยังน้อย!
ชายร่างใหญ่แย่งน่องไก่ที่อยู่ในมือของหยวนเป่ามา เรียกเสี่ยวเอ้อมาด้วยท่าทีเลวร้าย ใช้กล่องอาหารห่ออาหารทั้งหมดให้พวกเขา ถือกล่องอาหารเอาไว้แล้วอุ้มหยวนเป่าออกจากโรงเตี๊ยมไป
หญิงนางนั้นรีบตามไป “เราไม่พักสักคืนแล้วค่อยไปหรือ?”
“พักอะไรกัน? ข้ายังไม่อยากถูกจับ”
ชายร่างใหญ่เค้นคำพูดออกมาจากไรฟันประโยคหนึ่ง แล้วออกไปจากโรงเตี๊ยมอย่างรวดเร็ว
เดิมทีเขาวางแผนจะพักคืนหนึ่งแล้วค่อยไปจริงๆ
แต่เมื่อครู่เห็นเถ้าแก่มองดูพวกเขาด้วยความสงสัยเป็นระยะๆ ต่อมาเขาก็จากไปกะทันหันและก็ไม่กลับมาอีก แล้วก็ได้ยินนักดื่มสองสามคนนั้นคุยกันถึงเรื่องการหายตัวไปของหยวนเป่าอีก……
ถึงแม้พวกเขาจะไม่รู้ว่า พระนัดดาองค์โตเตี้ยนเซี่ยที่พวกเขาพูดถึง อยู่ด้านหลังของพวกเขาแล้วก็ตาม
แต่ชายร่างใหญ่กินปูนร้อนท้อง!
ข่าวการหายตัวไปของพระนัดดาองค์โตได้แพร่กระจายไปทั่วทั้งหนานจวิ้นแล้ว แม้แต่บนถนนและตรอกซอกซอยของเมืองอี้ ก็มีประกาศของราชสำนักติดเอาไว้
แตกต่างจากประกาศของศาลาว่าการเมืองอี้ ประกาศพวกนี้ล้วนมาจากเมืองหลวง แจกจ่ายออกมาจากเมืองหลวงทั้งนั้น
ด้านบนไม่เพียงมีภาพเหมือนของหยวนเป่า แต่ยังมีราชโองการของโม่จงหราน ตราประทับด้วยตราหยกของฮ่องเต้อีกด้วย!
ราชโองการของโม่จงหรานระบุว่า รางวัลนำจับคนร้ายที่ลักพาตัวพระนัดดาองค์โต ตามหาพระนัดดาองค์โตกลับมาจะได้รับเงินสิบล้านตำลึง และจะได้รับเลื่อนยศเป็นขุนนาง มอบรางวัลเป็นอัญมณีและไร่นาชั้นดีนับไม่ถ้วน……
สามารถพูดได้ว่า ขอเพียงหาหยวนเป่าเจอ จับตัวชายร่างใหญ่ได้ ก็จะขึ้นสู่ตำแหน่งสูงได้กลายเป็นคนเหนือโดยไม่เปลืองแรง!
ประกาศติดเอาไว้อย่างหนาแน่น
คนเดินเท้าไปมาก็กำลังวิพากษ์วิจารณ์ประกาศนี้อยู่
“ประกาศพวกนี้ล้วนถูกส่งมาจากราชสำนัก ยังมีตราประทับที่ฮ่องเต้ประทับลงไปด้วยพระองค์เองอีกด้วย!”
“นั่นถือเป็นอะไรได้? บอกว่าเป็นประกาศ แต่ความจริงแล้วมันคือราชโองการของฮ่องเต้ต่างหาก!”
“รางวัลนำจับสิบล้านตำลึง ยังสามารถเลื่อนขั้นเป็นขุนนางมอบอัญมณีไร่นาชั้นดีเป็นรางวัล……ฮ่องเต้ทรงรักพระนัดดาองค์โตเตี้ยนเซี่ยมากจริงๆ!”
“อย่างไรเสียก็เป็นพระนัดดาองค์โต ฮ่องเต้ย่อมโปรดปรานเป็นธรรมดา!”
“……”
ฟังคำสนทนาของทุกคน หยวนเป่าหมอบอยู่บนไหล่ของชายร่างใหญ่ มองดูประกาศพวกนั้นอย่างน้ำตาคลอเบ้า
เขาอยากจะกลับบ้านมากจริงๆ!
จนกระทั่งออกจากเมืองอี้อย่างเร่งรีบ มองดูประตูเมืองไกลออกไปเรื่อยๆ หยวนเป่าถึงได้หลับตางีบไปครู่หนึ่ง
พักผ่อนให้เพียงพอ ถึงจะมีโอกาสหลบหนี
ตลอดทางมานี้เขาทิ้งเบาะแสเอาไว้ไม่น้อย หวังว่าท่านพ่อกับท่านแม่จะสามารถตามหามาเร็วๆ!
……
ชายร่างใหญ่ระมัดระวังอย่างมาก เดินทางอย่างเร่งรีบมาก ไม่ได้สังเกตเห็นตรงหน้าศาลาว่าการ เถ้าแก่เมื่อครู่นี้กำลังคุยกับเจ้าหน้าที่ทางการอยู่ “ข้ามองไม่ผิดอย่างแน่นอน!”
“เด็กคนนั้นไม่เหมือนลูกชายของพวกเขา ลักษณะท่าทางแตกต่างไปจากพวกเขาอย่างสิ้นเชิง”
เถ้าแก่นึกย้อนกลับไปอย่างละเอียดถี่ถ้วน “อีกอย่าง เขาพูดว่าท่านแม่ของข้าอยู่ตลอด……นี่มันก็น่าแปลกมากแล้ว! ‘แม่’ ของเขาก็นั่งอยู่ข้างกายของเขาไม่ใช่หรือ?”
“พวกเขาสามคนอยู่ด้วยกันก็แปลกประหลาดมาก อย่างไรก็ตามไม่ว่าตรงไหนก็แปลกประหลาดทั้งนั้น!”
“พวกเจ้ารีบไปจับตัวชายร่างใหญ่คนนั้นมาซักถามดีกว่า ไม่กลัวเรื่องที่แน่นอนกลัวแต่เรื่องที่ไม่คาดฝัน!”
เจ้าหน้าที่ทางการกุมหน้าผาก “จะจับคนไปเรื่อยเพราะคำพูดเพียงไม่กี่ประโยคได้อย่างไร? เจ้ามีหลักฐานหรือ? มันแปลกประหลาดตรงไหน เจ้าพูดให้มันชัดเจนสิ!”
เถ้าแก่ก็ปวดหัวมากเช่นกัน “ข้าพูดไปหลายรอบแล้วนะ!”
“เด็กคนนั้นหน้าตาไม่เหมือนกับพวกเขา ลักษณะท่าทางแตกต่างกัน สำเนียงการพูดก็ไม่เหมือนกัน และอาหารที่กินก็ดีมาก ไม่เหมือนเด็กที่มาจากครอบครัวยากจน!”
“และพวกเขาบอกว่า พวกเขาหนีภัยพิบัติมาจากทางใต้……”
เถ้าแก่กล่าวอย่างร้อนใจ “พวกเจ้ารีบไปสักครั้งดีกว่า ชักช้าไปข้ากลัวว่าจะคลาดกัน!”
“ก็ได้”
เจ้าหน้าที่ทางการกล่าวอย่างจนใจ “ถึงแม้จะไม่มีแบบอย่างการจับกุมคนเพราะคำพูดไม่กี่ประโยคมาก่อน แต่ตอนนี้คือช่วงเวลาพิเศษ พระนัดดาองค์โตเตี้ยนเซี่ยหายตัวไป ทุกคนต่างก็รู้สึกไม่ปลอดภัย”
เจ้าหน้าที่ทางการติดตามเถ้าแก่กลับไปที่โรงเตี๊ยมทันที
แต่มันก็สายไปแล้ว ชายร่างใหญ่พาหยวนเป่าจากไปแล้ว
เสี่ยวเอ้อโรงเตี๊ยมบอกว่า พวกเขาจากไปครึ่งชั่วโมงแล้ว
“ทำไมจู่ๆถึงจากไปล่ะ? พวกเจ้ายังจองห้องชั้นบนเอาไว้ไม่ใช่หรือ? !”
เถ้าแก่ขมวดคิ้ว “นายท่าน ท่านดูสิ นี่มันน่าสงสัยมากไม่ใช่หรือ? ! ใครที่ไหนหนีภัยพิบัติ ยังสามารถเอาเงินหนึ่งแท่งออกมาได้ในคราวเดียว!”
“ไล่ตามทันที!”
มือปราบที่เป็นผู้นำสีหน้าท่าทางเคร่งขรึม
ถ้าหากฟังเพียงคำพูดของเถ้าแก่ เขายังไม่สงสัยกลุ่มของชายร่างใหญ่
แต่ตอนนี้เห็นชายร่างใหญ่พาเด็กจากไปอย่างเร่งรีบ ก็รู้สึกได้ถึงความผิดปกติเช่นกัน รีบส่งคนไล่ตามไปทันที
สิ่งที่น่าเสียดายคือ ไม่พบเบาะแสของชายร่างใหญ่
เพราะหลังจากที่ออกจากเมืองอี้ เขาก็ใช้เท้าเตะไปที่หญิงนางนั้น!
หญิงนางนั้น เดิมทีก็เป็นชาวบ้านบริสุทธิ์คนหนึ่งที่เขาถือโอกาสจับตัวมา ให้เงินนางไปสองสามตำลึงเพื่อให้นางร่วมทางไปด้วยกัน ปลอมตัวเป็นภรรยาของเขา แม่ของหยวนเป่า
หญิงนางนั้นสลบอยู่ข้างทาง หลังจากที่ชายร่างใหญ่ปลอมตัวให้เขากับหยวนเป่าใหม่แล้ว ก็เดินทางต่อไป
ผู้ชายคนนี้ดูเหมือนจะธรรมดา ใครจะรู้ว่าจะชำนาญเทคนิคการปลอมตัว!
เมื่อเป็นเช่นนี้ แรงขัดขวางการตามหาหยวนเป่า ของหยุนหว่านหนิงและคนอื่นๆก็เพิ่มขึ้นมาอีกไม่น้อย!
มือปราบเมืองอี้พาคนไล่ตามออกไปนอกเมือง ภายในสิบลี้ก็พบผู้หญิงที่หมดสติอยู่ข้างทาง……เถ้าแก่มองดู ก็กล่าวขึ้นมาอย่างประหลาดใจ “นี่ก็คือผู้หญิงคนนั้น!”
มือปราบสีหน้ามืดมน “จับตัวกลับไป! สอบปากคำอย่างเข้มงวด!”
สายตาของเขามองไปข้างหน้า สั่งการอย่างแน่วแน่ “ไล่ตามไปทันที!”
“คนที่เหลือตามข้ากลับไปสอบปากคำที่ศาลาว่าการ และรีบรายงานเบาะแสไปยังเมืองหลวงทันที!”
พาหญิงนางนั้นกลับไปที่ศาลาว่าการ สาดน้ำเย็นลงไปหนึ่งอ่าง นางก็กรีดร้องและตื่นขึ้นมา……